ถ่ายความคิด

ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 คนสองเผ่าพันธุ์

ลองจินตนการภาพ เมื่อครั้ง ตอนที่โลกเรากำลังมีการก่อสร้างครั้งใหญ่

ประมาณ 3500 ปีก่อนคริสตกาล การสร้าง มหาปิรามิดแห่งอียิปต์

 

หากเรามองการก่อสร้างครั้งนั้น คนที่เกี่ยวข้องมีมากมาย

มีตั้งแต่ราชา เจ้าของ โครงการ

สถาปนิกผู้ออกแบบ

วิศวกร ผู้ทำให้แบบนั้นสามารถสร้างได้จริง

และแรงงานทาส ผู้ไม่รู้ว่า สิ่งที่ตนทำนั้นจะกลายเป็นอะไร

 

คนทำไมถึงต่างกัน?

ในโลกที่เป็นอดีต เช่นนั้น เรามองไม่ยาก ถึงความต่างกันของคน

คนคิด กับ คนไม่คิด ชีวิตต่างกันมากมาย

 

คำพูดที่กล่าวว่าคนเราต่างก็คิดได้เหมือนกัน หากมองจากมุมมองความคิด คำพูดนี้ก็จริง

คนเราคิดได้เหมือนกัน แต่ความคิดที่คิดได้ไม่เหมือนกัน

 

หากเราพิจารณาจากแค่งานสร้างปิรามิด คนที่คิดว่ากำลังสร้างปิรามิด กับ คนที่ไม่รู้ว่าตนสร้างสิ่งใด

คนสองกลุ่มนี้ สิ่งที่คิดได้ต่างกันเหลือเกิน ความคิดกำหนดชะตาชีวิตของทั้งเผ่าพันธุ์

 

เผ่าพันธุ์ที่คิดได้ กับ เผ่าพันธุ์ที่คิดได้น้อยกว่า

 

เราอยากเป็นคนกลุ่มไหน ในโลกอดีต

เผ่าพันธุ์ ที่เป็นผู้สร้างปิรามิด หรือ เผ่าพันธุ์ที่เป็นทาส ที่ไม่รู้ว่าตนกำลังสร้างสิ่งใด

 

ในอดีตเรามองความต่าง ของผลของการคิดและไม่คิด เห็นได้ชัด

 

หากเราไม่ยอมรับความต่างนี้

เราจะรู้ไหม ว่าเราเป็น ทาสผู้ไม่รู้ว่าชีวิตเรากำลังออกแรงเพื่อสร้างอะไร

หรือ เป็น ผู้รู้ในสิ่งที่ต้องทำ

 

ในยุคอดีตความแตกต่างทำให้เรามองเห็นได้ง่ายว่าชีวิตนั้นต่างกัน

อารยธรรมที่สูงกว่าจากอาณาจักรที่แข็งแรงกว่า เป็นผู้กำหนด

ให้ คนที่อ่อนแอกว่า ต้องเป็นทาส

 

ลองนึกภาพหมู่บ้านชนเผ่า ในชนบท ที่ต้องการใช้ชีวิต อย่างสงบ

วันหนึ่งที่อารยธรรม ของผู้ปกครองขยายออกมา ความต้องการแรงงานในการสร้างปิรามิดเกิดขึ้น

 

คนที่อ่อนแอกว่าโดนกวาดต้อนไปเป็นแรงงาน

 

อารยธรรมจากอาณาจักรที่เข็งแรงกว่า ทำลายชีวิต ดังเดิม

และมอบชีวิตใหม่ให้คนเหล่านั้น ทาสผู้ไม่รู้ว่าตนกำลังทำสิ่งใด

 

มาในปัจจุบัน เรามองเห็นความต่างของความคิดไหม

อารยธรรมของอาณาจักรที่เข็งแรงกว่า

 

อารยธรรม ที่จะพาเราไปเป็นทาสผู้ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำนั้นมีความหมายเช่นไร

 

อารยธรรม จากอาณาจักรที่แข็งแรงกว่า

ลุงเรียกว่า อาณาจักรของโลกทุนนิยม

 

โลกทุนนิยม แผ่กว้างไปทั่วทุกพื้นที่ในโลก

 

ในอดีต ยุคสมัย อียิป ยังมีที่ให้หนีได้ หากเราไม่อยากเป็นแรงงานทาส

หนีให้ไกลเกินกว่า อาณาจักรอียิปต์จะนำเราไปเป็นทาส

 

ในปัจจุบัน เราจะหนีไปหนใด

 

บ้านของเรา เราปิดประตูกันอารยธรรมของอาณาจักรของโลกทุนนิยมไม่ได้

 

ทาสที่ถูกจับไปสร้างปิรามิด ถึงแม้รู้ว่าตนกำลังสร้างปิรามิด

แล้วปิรามิดที่สร้างนั้นจะมีความหมายใดกับชีวิต

 

หากชีวิตมีให้เลือก แค่สองแบบ

ชีวิตแบบแรก สิ่งที่กำลังทำมีความหมายใดต่อชีวิต

กับ ชีวิตแบบที่สอง ชีวิตที่ไม่รู้แม้แต่ว่าสิ่งที่ตนกำลังทำมีความหมายใด

 

คนกลุ่มที่มาจาก อาณาจักรที่สร้างปิรามิด ลุงเรียกว่า “คนกำหนดกระแส”

คนกลุ่มที่มาจาก เผ่าพันธุ์ที่ต้องเป็นทาสผู้สร้างปิรามิด “ลุงเรียกว่า ผู้อยู่ใต้กระแส”

 

เราอยากเป็น คนกลุ่มไหน ในเมื่อเราหนีไม่ได้อีกแล้ว

สิ่งใดที่จะทำให้เรา สามารถอิสระได้จริง

 

ในเมื่อความคิดนั้นทำให้คนสองกลุ่มนั้นแตกต่าง

การเข้าใจความคิด ตนเท่านั้น ที่จะทำให้เราอิสระอย่างแท้จริง

 

ทำให้อิสระพอที่เราจะเลือกได้ว่าเราจะเป็นคนจากกลุ่มไหน

หรือ บางทีวันที่เราเข้าใจความคิดเราจริงๆ

เราอาจมีทางเลือกมากกว่าแค่ทางที่เขามีให้เราเลือก

 

ไม่ต้องเป็นทาสของอาณาจักรของโลกทุนนิยม

 

ถ่ายความคิดชีวิตนี้ไม่โง่ !

จึงเป็นเรื่องที่ลุงต้องเขียน

 

ลุงเขียนเพราะลุงรู้ว่า สิ่งที่ลุงทำมีความหมายต่อชีวิตลุงเช่นไร

 

ลุงหวังและเชื่อว่า เมื่อเราอ่านเล่มนี้จบ

ความหมายของชีวิตเราจะมีเหมือนๆ กัน

 

ลุงอยากให้เป็นเช่นนั้น

อยากให้เราเป็นคนจากเผ่าพันธุ์ ที่รู้ว่าตนกำลังทำสิ่งใด

 

สิ่งที่เราทำนั้น เราทำทำไม มีคุณค่าความหมายใดกับชีวิตเรา

 

เพราะเราเองเป็นคนเผ่าพันธุ์ เดียวกัน

เผ่าพันธุ์ คน มีหัวใจ

ลุงมัย ใจดี