ตอนที่ 25 : 25 | Blood and Tears
25 | Blood and Tears
กุหลาบขาวแสนบริสุทธิ์
แปดเปื้อนด้วยรอยเลือดและตราบาป
Secrets of Garden
ภายในห้องสอบสวนที่ชวนให้รู้สึกอึดอัดและหม่นหมอง มีร่างของชายสองคนในชุดสีส้มซึ่งเป็นเครื่องแบบของนักโทษ คนนึงมีใบหน้าหวาดหวั่นและกวาดตามองไปรอบๆ ด้วยท่าทางหวาดกลัว ส่วนอีกคนมีใบหน้าราบเรียบทว่าเหงื่อกาฬไหลซึมสองข้างขมับ
ผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายทั้งสองคนยังไม่ยอมปริปากพูดว่าใครคือผู้ว่าจ้างหรือลงมือทำด้วยตนเอง หลักฐานที่มีคือคำให้การของผู้เสียหายอย่างแบคฮยอนและภาพสเก็ตช์คนร้าย ทว่านั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับพ่อเลี้ยงปาร์คที่ต้องการเอาผิดพวกมันให้สาสมที่สุด
“นายต้องใจเย็นๆ นะพ่อเลี้ยง” สารวัตรหนุ่มตบบ่ากว้างของเพื่อนตัวสูงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำหมัดแน่น ใบหน้าคมเข้มเต็มไปด้วยความคลั่งแค้นจนน่ากลัว
“ถ้าพวกมันยังไม่ยอมพูด ฉันก็ไม่รับปากว่าจะยังใจเย็นได้เหมือนตอนนี้”
“นายทำแบบนั้นไม่ได้เว้ยเพื่อน”
“หึ..”
รอยยิ้มมุมปากของปาร์ค ชานยอลทำให้สารวัตรหนุ่มหวั่นใจ เมสันกลัวเหลือเกินว่าเพื่อนของเขาจะพุ่งเข้าไปหักคอผู้ต้องหาถึงในห้องถ้าการสอบสวนยังไม่คืบหน้าเสียที
“ถ้าพวกนายยอมพูด โทษหนักอาจจะกลายเป็นเบาได้” นายตำรวจที่ทำหน้าที่สอบสวนเอ่ยกับผู้ต้องหาทั้งสองอย่างใจเย็น ผิดกับคนด้านนอกที่ได้ยินทุกอย่างที่แทบจะทุบกระจกเพราะเริ่มไม่พอใจ
“คดีทำร้ายร่างกายคุณปาร์ค แบคฮยอนมีหลักฐานมัดตัวพวกนายแน่นหนา ยังไงพวกนายก็ไม่มีทางรอดแต่ถ้า—”
“อ๊ากกก!!!! ออกไป! กลัวแล้ว!!”
เสียงหวีดร้องที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นทำให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นตกใจ สายตาทุกคู่จ้องมองไปที่ใบหน้าหวาดกลัวของหนึ่งในนักโทษที่ยกมือขึ้นกุมหัวตัวเอง ลำตัวคู้ต่ำไปกับเก้าอี้ราวกับจะหลบซ่อนจากบางสิ่ง
“อย่าเข้ามา!! ออกไป!!!”
“มึงเป็นบ้าอะไรวะ!!”
นักโทษอีกคนที่เหมือนจะอายุมากกว่าสบถดังลั่นเมื่อเห็นอาการของเพื่อน ใบหน้าที่รกไปด้วยหนวดเครากวาดมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง ก่อนที่นัยน์ตาดำคล้ำจะเบิกกว้างและจ้องเขม็งไปที่มุมห้อง
“ยะ.. อย่า”
“อ๊ากกกก!!”
“กู กูไม่ได้ตั้งใจ พวก.. พวกนั้นมันสั่ง กูไม่ได้ทำ!!”
“ใครสั่งนาย” ตำรวจที่เห็นว่าคนร้ายกำลังสารภาพรีบเค้นถาม แน่นอนว่าจิตใจที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยทำให้เจ้าตัวพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ผู้หญิง.. ในปาง”
“ชื่ออะไร”
“กลัวแล้วๆๆ อ๊ากกกก”
อาการผิดปกติของสองนักโทษทำให้ชานยอลขมวดคิ้วอีกทั้งยังขนลุก หน่วยตาคมกริบหันไปสบตากับเพื่อนตำรวจที่ยืนอยู่ข้างกาย ซึ่งเมสันเองก็มีท่าทีไม่ต่างกัน
“แม็กซ์, นายคิดว่ามีเรื่องเหลือเชื่อแบบนั้นจริงๆ หรือ”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ฉันเชื่อในผลของการกระทำ”
ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความรู้สึกดำดิ่งที่วิ่งวนอยู่ในหัว มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นโดยหาเหตุผลอธิบายไม่ได้ ล้านพันทฤษฎีที่เรียงร้อยไม่อาจคลอบคลุมถึงความลับของจักรวาล
หากแต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นจริงเสมอและมีให้เห็นอยู่ทุกวัน นั่นคือ..
กรรมหรือผลของการกระทำใดที่ก่อ ย่อมย้อนคืนเมื่อถึงเวลา
ชานยอลกลับมาถึงปางในเวลาบ่ายคล้อยด้วยหัวใจที่หนักอึ้งไปด้วยหลากหลายความรู้สึก ชายหนุ่มทั้งโกรธแค้นและผิดหวังกับสิ่งที่ได้รับรู้ หัวใจราวกับถูกทำลายให้แตกร้าวอีกครั้งด้วยน้ำมือของคนที่เคยไว้ใจ
คำสารภาพด้วยเสียงแหบพร่าของสองคนร้ายที่ยังสะท้อนอยู่ในหัวทำให้ฝ่ามือหนากำพวงมาลัยรถแน่น เรียวคิ้วเข้มขมวดเป็นปมบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกยุ่งเหยิง หน่วยตาคมมีหยาดน้ำคลอเพราะความอัดอั้นที่ล้นทะลักอยู่ในใจ
ก๊อก ก๊อก
ทว่าหมอกควันแห่งความคลั่งแค้นที่ฉายอยู่ในแววตาก็ค่อยๆ เลือนหายเมื่อชานยอลหันไปเห็นใบหน้าของบางคนที่ยืนอยู่นอกตัวรถ รอยยิ้มหวานราวกับน้ำทิพย์ช่วยชโลมจิตใจที่ร้อนรุ่มให้กลายเป็นฉ่ำเย็น ราวกับแสงแดดอุ่นๆ ในยามเช้าที่สาดส่องลงมาในวันที่แสนหนาวเหน็บ
ใบหน้าหวานยามต้องแสงสีส้มอ่อนของบ่ายคล้อยทำให้ชานยอลรีบเปิดประตูลงจากรถ ท่อนแขนแกร่งคว้าร่างเล็กบางเข้ามากอดทันทีที่ระยะห่างแนบชิด ก่อนจะกดปลายจมูกลงบนขมับบางด้วยความรู้สึกรักใคร่และหวงแหน
“มายืนตากลมทำไมหืม ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง”
คำถามที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงทำให้แบคฮยอนเผยยิ้มบาง ฝ่ามือบางวางแนบลงบนท่อนแขนแกร่งที่โอบกอดกันอยู่ก่อนจะลูบแผ่วเบา
“ผมเห็นพี่ชานยอลจอดรถอยู่นานแล้วเลยออกมาดูน่ะครับ”
“พี่คิดอะไรเพลินไปหน่อย”
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ บอกผมได้นะ”
ใบหน้าหวานที่สะท้อนความเป็นห่วงเรียกรอยยิ้มจากชานยอล ชายหนุ่มแนบหน้าผากของตนกับหน้าผากมนของผู้เป็นภรรยาก่อนจะกดจูบแผ่วเบาลงบนปลายจมูกรั้น
“ไม่มีอะไรหรอกครับคนดี”
“จริงนะครับ”
“จริงสิ, พี่ว่าเราเข้าบ้านกันดีกว่า ตัวเล็กของแดดดี้หนาวแล้วมั้งเนี่ย”
ฝ่ามือหนาที่ลูบลงบนหน้าท้องที่นูนขึ้นเล็กน้อยทำให้แบคฮยอนหัวเราะเบาๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินโอบกันเข้าไปด้านในตัวเรือนที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความรักและความอบอุ่น
ในค่ำวันเดียวกันนั้น – เกิดเสียงซุบซิบดังขึ้นในครัวจากเหล่าเด็กรับใช้ภายในเรือน ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความตกใจและไม่คาดคิด บทสนทนาดังแว่วอยู่หลายสิบนาทีและดูเหมือนว่าจะยังไม่จบลงง่ายๆ
ท่ามกลางสายลมหวีดหวิวที่แสนหนาวเหน็บของเหมันต์ ภาพหิมะสีขาวโพลนที่ร่วงหล่นพรมผืนป่า ไม่นานกลับถูกย้อมด้วยสีแดงฉานจากหยาดโลหิต
“ฉันบังเอิญไปได้ยินคุณท่านคุยกับคุณจงอินที่สวนหลังเรือน”
“แกแน่ใจนะว่าไม่ได้หูฝาด”
“ไม่มีทาง ฉันได้ยินชัดๆ เต็มสองหู” สาวใช้ร่างเล็กเอ่ยอย่างออกรส ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของสาวใช้อีกสองคนที่ยืนอยู่ในครัว
“แต่จะเชื่อคำพูดของคนเลวๆ แบบนั้นได้แน่หรือ”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ที่ได้ยินมาคือพวกมันสารภาพว่าผู้หญิงที่ทำงานอยู่ที่นี่จ้างให้มาทำร้ายแม่นาง”
“ใคร? แกได้ยินชื่อไหม”
คำถามของเพื่อนร่วมอาชีพทำให้สาวใช้ร่างเล็กกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง ก่อนที่เสียงเล็กจะเอ่ยออกมาแผ่วเบา
“ก็อเดลไง, คนสนิทของคุณลู่หาน”
แม้ประโยคนั้นจะเอ่ยออกมาไม่ดังมากเพราะกลัวว่าจะมีคนได้ยิน ทว่าคนที่ยืนแอบอยู่หลังเสาต้นใหญ่กลับได้ยินมันชัดเจน ใบหน้าขาวอวบที่เคยมีเลือดฝาดซีดเผือดราวกับคนป่วย เหงื่อเม็ดใหญ่ซึมบนขมับและไรผม ฟันซี่คมกัดลงบนริมฝีปากจนได้กลิ่นคาวเลือด
อเดลที่มาเรือนใหญ่เพื่อเอาของให้เจ้านายถึงกับตัวสั่นเมื่อได้ยินในสิ่งที่ไม่คาดคิด ตราบาปที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจกำลังถูกกระตุ้น และนั่นคือสิ่งที่สร้างภาพหลอนซึ่งตามหลอกหลอนเธอมาตลอดหลายคืน
เสียงร่ำไห้และรอยเลือดไหลนองพื้นทำให้หญิงสาวร่างอวบรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้น ขาทั้งสองข้างก้าวไปข้างหน้าอย่างสะเปะสะปะไร้ทิศทาง ก่อนที่ร่างอวบจะล้มลงและกลิ้งไถลไปกับพื้น
“ฮึก! กลัว.. กลัวแล้ว”
เสียงสะอื้นที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวดังแผ่วและมันก็ถูกกลบด้วยเสียงหวีดหวิวของสายลม ท้องฟ้ามืดมิดด้านบนกำลังปั่นป่วนเพราะพายุลูกใหญ่ และมันไม่ใช่เพียงหยาดฝนที่จะพร่างพรมลงมา
แต่เป็นพายุหิมะที่แสนหนาวเหน็บและเย็นเยียบจนถึงขั้วหัวใจ
“อึก..”
ร่างอวบล้มลุกคลุกคลานมาจนถึงเรือนไม้หลังเล็กได้สำเร็จ บริเวณท้ายปางในเวลานี้เงียบสนิทจนแว่วได้ยินเสียงหวีดร้องของสรรพสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน บรรยากาศในคืนที่เมฆก่อตัวเป็นเงาทะมึนชวนให้รู้สึกเงียบเหงาและวังเวง
อเดลรีบวิ่งเข้ามาด้านในตัวเรือนพร้อมกับปิดประตูหน้าต่างจนมิดชิด ดวงตาสั่นไหวกวาดมองไปรอบกายตลอดเวลาด้วยท่าทางหวาดกลัว ก่อนที่ร่างอวบจะสะดุ้งจนตัวโยนเมื่อกรอบสายตาเห็นบางอย่างตรงมุมบันได
“เป็นอะไร”
ทว่าเสียงนุ่มหวานที่แว่วมาก็ทำให้สาวใช้ร่างอวบคลี่ยิ้มกว้างและถลาเข้าไปหาผู้เป็นนาย ท่อนแขนอวบกอดขาของคนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์พร้อมกับซบหน้าลงบนตัก เสียงสะอื้นดังขึ้นคลอไปกับประโยคบอกเล่าในสิ่งที่ได้ยินมา
“พะ พวกนั้นมันสารภาพกับตำรวจ ฮึก! เดลได้ยินคนในเรือนใหญ่คุยกัน คุณ.. คุณท่านรู้แล้วว่าเป็นเดล”
“…”
“เดลกลัว ฮึก.. ช่วยเดลด้วยนะคะคุณลู่หาน”
เสียงร่ำไห้อย่างคนหวาดกลัวสุดหัวใจดังก้องไปทั่วเรือนไม้หลังเล็ก ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะหยาดน้ำตาซบอยู่กับตักของเจ้านายเพราะเป็นที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียว หากแต่ดวงตากลมสวยที่ทอดมองลงมากลับว่างเปล่า
ฝ่ามือบางที่ลูบลงบนกลุ่มผมทำให้อเดลคลี่ยิ้มเพราะรู้สึกอุ่นใจ ทว่าวินาทีต่อมาใบหน้าอวบขาวกลับกลายเป็นบิดเบี้ยวเพราะเล็บคมที่จิกลงบนผิวเนื้อ แรงขย้ำค่อยๆ ทวีขึ้นจนเสียงแหบพร่าครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
“คุณ อึก.. คุณลู่หาน”
“เจ็บหรือไงหืม”
“เจ็บ.. ฮึก ค่ะ เดลเจ็บ”
รอยยิ้มหวานของเจ้านายในยามนี้ไม่ได้น่ามองเหมือนเช่นที่ผ่านมา เพราะสำหรับอเดลมันเย็นเยียบเสียยิ่งกว่ายืนอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ ดวงตากลมสวยไร้แววความปรานี คนตรงหน้าเธอตอนนี้ราวกับมัจจุราชที่พร้อมปลิดชีพมนุษย์ตัวเล็กจ้อย
“คุณลู่— อึก!”
ลำคอขาวอวบถูกฝ่ามือบอบบางของผู้เป็นนายที่เธอเคารพรักบีบแน่นจนเต็มแรง กลีบปากห้อเลือดอ้าออกเพื่อโกยอากาศเข้าปอด หยาดน้ำตารินไหลจากหางตาที่บวมช้ำ ความหวาดกลัวสะท้อนอยู่ในแววตาที่ค่อยๆ ปรือปิด
“ดึกแล้วอเดล ได้เวลาเข้านอนแล้ว”
“อึก!”
“ฝันดีนะเด็กดี”
ร่างไร้วิญญาณค่อยๆ ร่วงหล่นสู่พื้นราวกับใบไม้แห้งที่ปลิดปลิวไปตามแรงลม ลำคอแดงช้ำถูกรัดรึงด้วยผ้าพันคอผืนหนาซึ่งผูกติดกับล้อข้างหนึ่งของวีลแชร์ไฟฟ้า ก่อนที่รถเข็นเหล็กจะเคลื่อนตัวออกไปจากตรงนั้น และปลายทางคือบึงน้ำลึกที่ซ่อนตัวอยู่หลังตัวเรือน
ทิ้งไว้เพียงความเศร้าโศกและเสียงสะอื้นของสายลม
สกุณาตัวจ้อยบินมาเกาะราวระเบียงยามที่แสงแรกของวันอาบย้อมผืนป่า เสียงเจื้อยแจ้วดังเป็นทำนองรับกันกับเสียงใบไม้ขยับไหว จุมพิตของน้ำค้างยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้บนกลีบบุปผาที่ผลิบานอยู่ริมรั้ว
สัมผัสแผ่วเบาของสายลมที่แวะผ่านมาทักทายปลุกร่างบางให้ตื่นจากนิทรา เรียวตารีสวยค่อยๆ ปรือเปิดรับแสงแดดอ่อนๆ ของดวงตะวัน ก่อนที่ฝ่ามือเรียวบางจะวางแนบลงบนหน้าท้องนูนและลูบแผ่วเบา
“อรุณสวัสดิ์ครับตัวเล็ก”
เสียงนุ่มหวานเอ่ยบอกเจ้าตัวน้อยที่คงยังหลับพริ้มอยู่ในท้อง ฝ่ามือบางลูบหน้าท้องไปมาโดยที่ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มตื้นไปด้วยความสุขและความรู้สึกรักจนหมดหัวใจ
“รักหนูนะครับ”
แล้วก็คิดถึง..
แบคฮยอนเอ่ยคำนั้นในใจถึงเจ้าตัวเล็กอีกคนที่อยู่ไกลแสนไกล คนตัวบางได้แต่หวังว่าเจ้าหญิงของเขาจะวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งแดนดิไลออนนั้นอย่างมีความสุข ได้แต่ภาวนาให้สายรุ้งและปุยเมฆคอยอยู่เป็นเพื่อนในยามเหงา และภาวนาให้สายลมคอยกล่อมเจ้าตัวเล็กให้หลับฝันดี
เหตุการณ์ที่ผ่านพ้นมากลายเป็นเพียงอดีตที่จะสลักลึกอยู่ในลิ้นชักแห่งความทรงจำ ยามนึกถึงบางครั้งก็เจ็บปวดจนหยาดน้ำตารินไหล หากแต่บางครั้งก็งดงามจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“คิดอะไรอยู่หืม ยิ้มหวานเชียว” เสียงทุ้มที่กระซิบแผ่วข้างหูเรียกให้ใบหน้าหวานหันไปมอง แบคฮยอนหลุดจากภวังค์หากแต่รอยยิ้มหวานยังคงประดับอยู่บนใบหน้า
“คิดถึงลูกครับ”
“พี่..”
แบคฮยอนใช้ปลายนิ้วแตะลงบนกลีบปากหยักทันทีเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าจะโทษตัวเองอีกแล้ว ดวงหน้าหวานส่ายเบาๆ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าคมเข้มและกดจูบลงบนปลายคาง
“อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะครับ ผมแค่คิดถึงลูก และมันไม่ได้เจ็บปวดแล้ว”
รอยยิ้มของคนในอ้อมกอดทำให้ชานยอลค่อยๆ เผยยิ้มตาม พวกเขาสบตากันและสิ่งที่สะท้อนอยู่ในนั้นมีเพียงความสุข ร่องรอยของความเจ็บปวดและหยดน้ำตาค่อยๆ เลือนหาย แทนที่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและเชื่อใจซึ่งกันและกัน
“เช้านี้คุณแม่อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” แบคฮยอนหัวเราะเบาๆ กับคำถามของสามี วันนี้อากาศหนาวส่งผลให้คนตัวบางอยากทานอะไรร้อนๆ
“อยากทานซุปหัวหอมครับ”
“อ่า.. พี่จะทำได้ไหมเนี่ย”
เสียงพึมพําของว่าที่คุณพ่อเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากว่าที่คุณแม่ได้เป็นอย่างดี แบคฮยอนนึกมันเขี้ยวสามีตัวสูงของตนจนอดไม่ได้ที่จะบีบปลายจมูกโด่งเบาๆ
“เดี๋ยวผมเข้าครัวเอง พี่ชานยอลอยากทานอะไรครับ”
“ไม่ได้สิ พี่ถามแบคฮยอนเพราะว่าจะทำให้เราทานต่างหาก”
“จะเหนื่อยหรือเปล่าครับ”
“ไม่ครับ, พี่อยากดูแลเราบ้าง”
แบคฮยอนพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงยอมแพ้ให้คนที่เอาใจกันเก่งเหลือเกิน แน่นอนว่ามันทำให้ชานยอลแย้มยิ้มกว้างก่อนจะกดจูบลงบนกลีบปากบางแทนคำขอบคุณ
“งั้นเราอาบน้ำเลยนะ เดี๋ยวพี่จะลงไปที่ครัวก่อน”
“ครับ”
ชานยอลประคองร่างที่เริ่มอวบของภรรยามาส่งถึงห้องน้ำ โดยไม่ลืมเอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง
“อาบน้ำอุ่นนะครับที่รัก”
“เข้าใจแล้วครับแดดดี้”
คำเรียกนั้นทำให้หัวใจของคนตัวโตถึงกับแกว่ง หน่วยตาคมมองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทด้วยแววตาเป็นประกายลึกล้ำ ในใจก็ได้แต่พร่ำเพ้อขอให้ลูกน้อยออกมาเผชิญโลกกว้างในเร็ววัน ก่อนที่คนเป็นพ่อจะอดใจไม่ไหวรังแกแม่ของเจ้าตัวเล็กเสียก่อน
หลังจากที่ยืนสงบอารมณ์อยู่หน้าห้องน้ำร่วมห้านาที ร่างสูงใหญ่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ก้าวออกจากห้องนอนและลงมาที่ครัว กลิ่นหอมของกาแฟที่เพิ่งชงใหม่ทำให้มุมปากหยักกดยิ้ม ก่อนที่ช่วงขายาวจะเดินเข้าไปหาเครื่องชงกาแฟเป็นอันดับแรกเมื่อก้าวเข้ามาในครัว
“ต้องการอะไรหรือคะพ่อเลี้ยง”
ประโยคคำถามของป้าแมรี่ที่เตรียมมื้อเช้าอยู่ไม่ไกลเรียกใบหน้าคมให้หันไปมอง ชานยอลส่ายหัวแทนคำตอบก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“ป้าครับ ในครัวมีหัวหอมไหม”
“เล็กหรือใหญ่คะ”
“อ่า.. ที่ใช้ทำซุปน่ะครับ”
“อ๋อ หอมหัวใหญ่นะคะ, มีค่ะ”
เอ่ยจบคุณป้าแม่บ้านก็หันไปที่ตู้เย็นก่อนจะหยิบหอมหัวใหญ่ออกมา จากนั้นร่างท้วมก็เดินเข้ามาหาผู้เป็นนายซึ่งกำลังจ้องเขม็งมาที่ของในมือของเธอ ท่าทางเช่นนั้นทำให้คนแก่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ
“อยากทานซุปหัวหอมหรือคะ”
“เปล่าครับ แต่ผมจะทำให้แบคฮยอนทาน”
คำพูดนั้นทำให้คนที่เอ็นดูคนตรงหน้าเหมือนลูกคลี่ยิ้มบาง เมล็ดพันธุ์ของความรักกำลังเติบโตที่ผืนป่าแห่งนี้ และเธอเชื่อว่ามันจะผลิบานอย่างงดงามอย่างแน่นอน
“ถ้าต้องการอะไรเพิ่มบอกป้าได้นะคะ”
“ขอบคุณครับ”
แมรี่ถอยออกมาเพื่อให้เจ้านายตัวสูงของเธอได้ทำมื้อเช้าให้ภรรยาของเขา ท่ามกลางอุณหภูมิในอากาศที่เย็นลงกว่าเมื่อวาน มวลความอบอุ่นกลับอบอวลไปทั่วห้องครัวเล็กๆ จนไม่ว่าใครก็สัมผัสได้
ผ่านไปสิบนาที คนที่มุ่งมั่นจะทำอาหารเป็นครั้งแรกให้ภรรยาก็ต้องชะงักเพราะความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หน่วยตาคมคลอไปด้วยหยดน้ำที่ใกล้จะไหลอยู่รอมร่อ อาการเคืองหัวตาอีกทั้งยังแสบจมูกทำให้เจ้าของร่างสูงจามออกมาเสียงดัง
“ไม่สบายหรือเปล่าคะพ่อเลี้ยง”
“เปล่านะครับ แต่ผมแสบตาแสบจมูกแปลกๆ ครับป้า”
อาการของพ่อเลี้ยงหนุ่มทำให้แมรี่เข้าใจทันทีว่ามาจากสาเหตุอะไร ก็คุณเขาเอาแต่จ้องหัวหอมเสียจนใกล้ขนาดนั้นไม่แสบตาจนน้ำตาไหลก็คงแปลกแล้ว
“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ”
หากแต่แมรี่ยังไม่ทันได้บอกเจ้านายของเธอ ร่างเล็กบางของใครบางคนก็เดินเข้ามาในครัวเสียก่อน และทันทีที่ชานยอลได้ยินน้ำเสียงคุ้นหู ร่างสูงก็หันไปหาคนตัวเล็กกว่าทันที
“พี่เป็นอะไรไม่รู้แบคฮยอน แสบตาจนเหมือนจะร้องไห้อยู่แล้ว”
ใบหน้าคมที่หันมามองกันโดยที่น้ำตาเม็ดโตกำลังไหลทำให้แบคฮยอนหัวเราะเบาๆ ช่วงขาเรียวก้าวไปหาร่างสูงพร้อมกับใช้ปลายนิ้วปาดน้ำตาบนแก้มสาก รอยยิ้มเอ็นดูประดับอยู่บนดวงหน้าหวานยามที่ทอดมองคนตรงหน้า
“ไอหัวหอมคงเข้าตาน่ะครับ อีกสักพักก็หายครับ”
“อ่า แย่จริงๆ” ชานยอลบ่นพึมพํากับอุปสรรคที่เกิดขึ้น แค่จะทำมื้อเช้าให้เมียกินทำไมมันถึงยุ่งยากขนาดนี้
“เอาแบบนี้ดีไหมครับ มื้อเช้าวันนี้เราสองคนช่วยกันทำดีไหม”
“แต่พี่อยากทำให้เราทาน”
“ช่วยกันทำสนุกกว่าครับ นะครับ”
น้ำเสียงนุ่มหวานกับใบหน้าออดอ้อนของคนตัวเล็กมีหรือที่ชานยอลจะไม่ใจอ่อน ในเมื่อรักหมดทั้งใจไปแล้วทำไมเรื่องแค่นี้จะตามใจอีกฝ่ายไม่ได้ มื้อเช้าในวันที่อากาศหนาวเหน็บจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของคู่สามีภรรยา
ที่ในอีกไม่ช้าจะกลายเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่
ณ ไร่ชาซึ่งมีอาณาเขตเชื่อมกับปางไม้เติมฝัน บนระเบียงบ้านชั้นสองมีร่างค่อนเจ้าเนื้อของเจ้าของไร่ยืนมองภาพพระอาทิตย์ตกดิน แสงสีทองของทินกรฉาบทาใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล ก่อนที่น้ำตาหยดหนึ่งจะร่วงหล่นจากแววตาหมองเศร้า
มอร์แกน เบย์ทอดมองรูปถ่ายในกรอบไม้ที่เขาหยิบติดมือมาจากในห้อง รอยยิ้มของหลานสาวที่เขารักเหมือนลูกที่สะท้อนอยู่ในรูปยิ่งทำให้ชายวัยกลางคนโศกเศร้า หัวใจที่เต้นอยู่ใต้แผ่นอกราวกับถูกแทงซ้ำๆ จากมีดที่มองไม่เห็น
ไอรีน เบย์หายตัวไปจากไร่ได้อาทิตย์กว่าแล้ว คนเป็นลุงอย่างมอร์แกนทั้งออกตามหาด้วยตัวเอง จ้างนักสืบ แม้กระทั่งแจ้งตำรวจทว่าก็ยังไม่มีใครพบ เหมือนกับว่าเธอจางหายไปกับสายหมอก
..หายไปตลอดกาล
“นายครับ, มีตำรวจมาขอพบครับ”
คำพูดของลูกน้องคนสนิททำให้ร่างท้วมแทบจะวิ่งออกไปจากห้องของหลานสาว ช่วงขายาวรีบก้าวเข้าไปในห้องรับแขกซึ่งมีตำรวจสองนายนั่งรออยู่ หนึ่งในนั้นคือสารวัตรหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี
“ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับคุณลุง”
“แม็กซ์”
แม้จะรู้สึกยินดีที่ได้พบหน้าลูกชายของเพื่อนสนิท หากแต่อีกใจกลับหวาดกลัวการมาเยือนของอีกฝ่าย มอร์แกนมองใบหน้าของชายหนุ่มที่เปรียบเสมือนหลานชาย ซึ่งแววตาที่มองตอบกลับมาก็ทำให้ฝ่ามือหนาสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม
“คุณลุงนั่งก่อนดีไหมครับ” เมสันเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มบางเบา ซึ่งมอร์แกนก็พยักหน้ารับก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม
“คุณลุงสบายดีนะครับ”
“ลุงสบายดี, เราล่ะ”
“ก็เรื่อยๆ ครับ งานตำรวจบางครั้งก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว”
เมสันเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ ก่อนที่ใบหน้าคมจะแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง แววตาที่เคยขี้เล่นตามนิสัยของเจ้าตัวบัดนี้ฉายแววแข็งกร้าวทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความเศร้าหมอง และนั่นไม่อาจรอดพ้นสายตาของคนที่มองอยู่ตลอดเวลา
มอร์แกนเหมือนจะรู้แล้วว่าเหตุผลที่หลานชายซึ่งไม่ได้พบกันนานมาหาตนที่ไร่ทำไม หากแต่หัวใจที่เคยคิดว่าคงเข้มแข็งพอกลับสั่นรัวจนเจ็บหน้าอก หยดน้ำตาคลอที่หน่วยตาคู่คมและมันกำลังจะร่วงหล่นราวกับหยาดฝน
“คุณลุงใจเย็นๆ นะครับ”
“พูดออกมาเถอะ”
ใบหน้าที่เหมือนคนเตรียมใจเอาไว้อยู่ก่อนแล้วทำให้เมสันผ่อนลมหายใจ สารวัตรหนุ่มรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่หนักอึ้งและเจ็บปวด เพราะแม้แต่เขาเองยังรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ผมบังเอิญได้อ่านบันทึกข้อความของคุณลุงที่แจ้งความไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน”
“…”
“ตอนแรกผมก็ตกใจและตั้งใจว่าจะตามเรื่องให้ แต่พอดีว่าคดีที่ผมรับผิดชอบมีเรื่องเข้ามาพอดี” เมสันถอนหายใจแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยต่อ “คุณลุงน่าจะพอทราบเรื่องที่ภรรยาของพ่อเลี้ยงปาร์คถูกทำร้าย”
“หมายความว่ายังไง”
“ตอนนี้ผมจับคนร้ายในคดีของพ่อเลี้ยงปาร์คได้แล้วครับ พวกมันยอมรับสารภาพทำให้คดีใกล้จะปิดแล้ว เพียงแต่ว่า..”
“…”
“มีคนนึงสารภาพว่าพลั้งมือฆ่าผู้หญิงและฝังศพของเธอไว้ในป่า”
“ไม่.. ไม่จริง”
เมสันมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของคนอายุมากกว่าอย่างเห็นใจ ไม่ว่าใครก็ไม่พร้อมทั้งนั้นกับการรับรู้ถึงความสูญเสีย
“ผมพาลูกน้องไปที่ป่าตามที่คนร้ายบอก”
“ได้โปรด.. อึก”
“คุณลุงครับ”
“…”
“ไอรีน.. น้องไม่ได้อยู่กับเราแล้วนะครับ”
“อึก!”
“ผมเสียใจด้วย เสียใจด้วยจริงๆ ครับ”
หยาดฝนที่พร่างพรมลงมาบนผืนป่าที่แห้งแล้งคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เมล็ดพันธุ์เล็กๆ ได้งอกเงย ทว่าหยาดฝนที่พร่างพรมลงบนหัวใจที่บอบช้ำเปรียบเสมือนหยดน้ำตาที่รินไหลจนแทบจะกลายเป็นสายเลือด
ก้อนเนื้อขนาดเท่ากำปั้นคล้ายถูกทำลายจนกลายเป็นชิ้นเนื้อไร้รูปร่าง ความแตกร้าวที่ค่อยๆ แหลกสลายจากข้างในจนกระทั่งกัดกินทั้งจิตวิญญาณ
ก่อนที่มันจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นความอาฆาตและคลั่งแค้น
tbc.
กรรมใดใครก่อ ย่อมได้รับผลกรรมนั้นกลับคืน
คอมเมนต์บอกกันสักนิดน้าว่าชอบไหม กดหัวใจให้กันก็ยังดีจ้ะ
คิดถึงเสมอ :)
#ซคกด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นังลู่! นังคนเลว! ฆ่าคนได้เลือดเย็นขนาดนี้แกมันไม่ใช่คนแล้ว!
แล้วไอรีนไปโผล่อยุ่ตรงนั้นได้ยังไง บังเอิญเหรอ? คนร้ายบอกพลั้งมือ แสดงว่าไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ?
สงสารไอรีนที่โดนฆ่า เหมือนนางจะเห็นเหตุการณ์รึเปล่าถึงโดนฆ่าปิดปาก แล้วที่คนร้ายเห็นน่าจะเป็นไอรีน
นั่นไง เดาแล้วว่าต้องเป็นไอรีน แหะๆ แต่ไม่กล้าฟันธงเพราะอาจจะเป็นจอยก็ได้ แบบนี้น่าสงสารคุณลุงมากๆเลยค่ะ เลี้ยงมากับมือ จริงๆมันเป็นอาชญากรรมที่โหดร้ายนะคะ ลู่หานก็คือกู่ไปไม่กลับแล้ว จะโป๊ะแล้วไปให้สุด แบคกับชานสู้เพื่อน้องนะ เราเชื่อว่าน้องอีกคนจะกลับมาในเวลาที่เหมาะสม
ปล.ติดตามไรท์มาตั้งแต่ C's airlineแล้วค่า ชอบภาษาการบรรยายการผูกเรื่องต่างๆ รอKing cbด้วยนะคะ เราอยากซื้อเก็บไว้ทั้งKing ทั้งSecret garden เลย แต่ว่าควอีกนานเลยแงงง ไรท์มาอัพบ่อยๆนะคะนะๆๆๆๆ อาทิตย์ละ50%ก็ได้ พลีสสสสสส อยากอ่านมากๆ
ชอบมากๆๆๆๆ ทั้งการดำเนินเรื่องทั้งการบรรยายต่างๆ เราเห็นภาพหมดเลย ทั้งหวานทั้งอบอุ่นทั้งอยากให้ลู่หานโป๊ะซักที ถถถถ ติดตามนะคะ สู้ๆค้าบ ชอบมากๆ
ทำไมไอรีนถึงโดนฆ่า อะไรยังไง ลู่สั่งหรือพวกโจรทำเอง พลั้งมือนี่น่าจะทำเอง แต่ไอรีนทำไมถึงถูกฆ่า โอ๊ยยย อยากรู้แล้ว