ตอนที่ 1 : 01 | Helvetia
01 | Helvetia
แรงลมนำพา วิหคน้อยไร้ปีก
สู่อ้อมกอดแห่งขุนเขา
Secrets of Garden
แนวเขาสูงของเทือกเขาแอลป์ ทอดตัวยาวอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ – ที่ซึ่งมีเมืองเล็กๆ กลางหุบเขานาม ‘เฮลเวเทีย’ ซ่อนตัวอยู่
โรลส์-รอยซ์สีดำเงาเคลื่อนผ่านช่องเขาด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด สองข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งกว้างเขียวขจีแซมด้วยดอกหญ้าสีเหลืองอ่อน สายลมเย็นๆ ตามแบบฉบับเมืองหนาวพัดผ่านเข้ามาทางกระจกรถที่ถูกเลื่อนเปิด ทว่าความงดงามของธรรมชาติกลับไม่ได้ทำให้ความขุ่นมัวภายในใจของแบคฮยอนลดน้อยลงไปได้เลย
เรียวตารีสวยของเจ้าของเรือนกายบางที่นั่งอยู่บนเบาะหลังฉายแววแข็งกร้าวยามที่นึกถึงห้วงแห่งความทรงจำ สองมือน้อยที่วางอยู่บนตักกำแน่นแม้ใบหน้าจะประดับไว้เพียงความเรียบนิ่ง คล้ายกับผืนน้ำที่ไม่ไหวติงก่อนจะก่อเกิดพายุลูกใหญ่
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เผชิญมายังคงฝังลึกอยู่ในทุกห้วงความคิด ราวกับคมมีดที่กรีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่านับร้อยบาดแผล ก่อนจะถูกปลิดลมหายใจเฮือกสุดท้ายด้วยสิ่งที่เป็นเพียงแค่ลมปากของคน
‘ลูกไม่แต่ง!! คุณพ่อไม่เคยนึกถึงใจลูก ไม่คิดสักนิดเดียวเลยหรือว่าลูกจะรู้สึกแย่แค่ไหนกับเรื่องนี้ ใครเขาคงเอาไปนินทาว่าบ้านเราตกต่ำจนต้องขายลูกกิน!!’
‘แบคฮยอน!!!’
แบคฮยอนยังจำสีหน้าโกรธจัดของผู้เป็นพ่อได้ขึ้นใจ และมันก็เป็นครั้งแรกตั้งแต่เด็กจนโตที่เขาได้เห็นเช่นนั้น ทว่าในตอนนั้นเขากลับไม่ได้รู้สึกผิดเลยสักนิดที่ทำให้พ่อโกรธ เพราะตัวเขาเองในเวลานั้นก็โกรธจนร้อนเป็นไฟไม่ต่างกัน
‘พ่อจะไม่พูดซ้ำกับเด็กนิสัยดื้อรั้นอย่างลูก เพราะสิ่งที่ลูกต้องทำคือบินไปสวิสในอีกสามวันข้างหน้า และการตัดสินใจของพ่อคือที่สิ้นสุด!!’
ฝ่ามือเล็กบางของเขากำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนด้วยความคับแค้นใจ เฉกเช่นเดียวกันกับฟันซี่คมที่กัดริมฝีปากบางจนได้เลือดเพื่อพยายามกลืนก้อนสะอื้นไม่ให้ไหลออกมาประจานความอ่อนแอของตัวเอง
ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหนกับการถูกบังคับจากบุคคลผู้เป็นที่รัก .. มีเพียงเขาเท่านั้นที่รับรู้ความเจ็บปวดจากการแตกหักของหัวใจดวงนี้
“ใกล้จะถึงแล้วครับคุณหนู”
เสียงของคนขับรถที่มารอรับที่สนามบินดึงแบคฮยอนให้หลุดจากห้วงความคิด เรียวตารีสวยทำเพียงปรายตามองคนขับรถที่นั่งอยู่ด้านหน้าโดยไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ก่อนจะเบนสายตากลับไปทอดมองยังพื้นที่ด้านนอกตัวรถตามเดิม
รถยุโรปคันหรูค่อยๆ เคลื่อนตัวช้าลงยามที่ล้อทั้งสี่เคลื่อนมาถึงหน้าปางไม้ขนาดใหญ่ที่มองเห็นไกลออกไปจนสุดลูกหูลูกตา ป้ายหินอ่อนสลักตัวอักษรอันเป็นชื่อของปางเอาไว้ด้วยลวดลายบรรจงสวยงาม ซึ่งทุกสิ่งนั้นตกอยู่ในสายตาของแบคฮยอนเป็นอย่างดี
ปางไม้เติมฝัน
เพียงแค่ได้เห็นตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวที่สลักอยู่บนป้ายหิน หัวใจดวงเล็กๆ ที่เต้นรัวอยู่ในอกก็สั่นไหวไปด้วยความกรุ่นโกรธ แบคฮยอนเกลียดชังสถานที่แห่งนี้จับใจแม้ว่าเขาจะไม่เคยมาเหยียบที่นี่เลยสักครั้งก็ตาม ทว่าเพราะการถูกบังคับทำให้แบคฮยอนเกลียดมันได้โดยไม่ต้องมีแม้สักเหตุผลใด
เมื่อเดือนก่อนเขายังเป็นเพียงบัณฑิตจบใหม่ที่พร้อมจะก้าวเข้าสู่ช่วงชีวิตในวัยทำงาน ได้ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาอย่างเต็มที่กับงานที่ทำ ทว่าความฝันที่ได้วางแผนเอาไว้กลับพังทลายลงไม่เหลือชิ้นดีเพียงเพราะคำสั่งของผู้เป็นบิดา
จากนกน้อยที่พร้อมจะบินด้วยปีกของตัวเอง .. กลับต้องกลายเป็นนกพิการที่ถูกหักปีกทั้งสองข้างและถูกลิดรอนซึ่งอิสระที่เคยมี
เป็นเพียงนกน้อยไร้ปีกที่ทำได้แค่ส่งเสียงร้องอยู่ในกรงทอง
เสียงเครื่องยนต์ราคาแพงดับลงที่หน้าเรือนไม้หลังใหญ่ซึ่งถูกสร้างให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ เถาไม้เลื้อยรูปร่างแปลกตาไต่วนไปตามรั้วสีเปลือกไม้ที่สูงเพียงเอว ด้านบนประดับด้วยดอกกุหลาบอังกฤษสีชมพูอ่อนสลับขาว และส่วนฐานด้านล่างมีดอกกุหลาบสีขาวกำลังชูช่อสวยงาม
แบคฮยอนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกชื่นชมเพราะสิ่งปลูกสร้างตรงหน้างดงามมากสมกับเป็นเรือนไม้กลางหุบเขา ทว่าเขาคงจะรู้สึกยินดีมากกว่านี้ถ้าหากว่ามาที่นี่เพื่อเที่ยวพักผ่อน แต่เพราะความเป็นจริงจึงทำให้เขามองข้ามความสวยงามเหล่านี้อย่างคนจิตใจเย็นชา
และมันก็คงจะด้านชามากขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่เขายังอยู่ที่นี่
“มากันแล้วเหรอคะ”
เสียงนุ่มฟังดูใจดีช่วยปลุกให้แบคฮยอนตื่นจากภวังค์และหันไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะพบว่าเจ้าของเสียงนุ่มนั้นคือหญิงร่างท้วมท่าทางใจดีซึ่งกำลังส่งยิ้มมาให้และเป็นคนเปิดประตูรถให้กับตน
“สวัสดีค่ะคุณแบคฮยอน ป้าชื่อแมรี่นะคะ เป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่”
“สวัสดีครับ” แบคฮยอนได้แต่ยิ้มรับคำทักทายของคนตรงหน้าอย่างฝืนๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ก่อนจะก้าวลงจากรถและได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบายที่รายล้อมอยู่รอบกาย
“เดี๋ยวป้าจะพาคุณไปพักผ่อนที่ห้องนะคะ เดินทางมาไกลคงเหนื่อยแย่ใช่ไหมคะ”
“ครับ”
แบคฮยอนตอบรับเสียงเรียบก่อนจะเดินตามแม่บ้านร่างท้วมเข้าไปในตัวเรือนไม้หลังใหญ่ และนั่นก็ทำให้แบคฮยอนค้นพบว่าความงดงามของเรือนไม้หลังนี้ที่มองเห็นจากภายนอกยังเทียบไม่ได้เลยเมื่อได้เห็นการตกแต่งภายใน
เฟอร์นิเจอร์ทั้งที่ทำจากไม้และเนื้อกำมะหยี่ร่วมสมัยเฉดสีครีมและน้ำตาลเข้มเข้ากันได้ดีกับสีเมเปิล แกลซของไม้วอลนัทที่ใช้ทำผนังและพื้นบ้าน พรมผืนนิ่มสีเอิร์ธโทนที่ปูรองอยู่บนพื้นยิ่งขับให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลาย เป็นการตกแต่งที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสไตล์คันทรี่แบบบ้านกลางหุบเขา และสไตล์คอนเทมโพรารี่ร่วมสมัย
โถงกว้างที่ยกตัวสูงจากพื้นไปหลายเมตรทำให้อากาศถ่ายเทสะดวกเหมาะกับเป็นสถานที่รับรองแขก เชื่อมกับหน้าต่างบานใหญ่ซึ่งทำจากกระจกอวดทิวทัศน์ของปางในมุมกว้างแบบพาโนรามา
แบคฮยอนชอบทุกการตกแต่งของเรือนไม้หลังนี้เพราะทุกอย่างมันเข้ากันได้ดีอย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบ ซึ่งนั่นก็ทำให้คนที่เรียนจบสถาปนิกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชม
“บ้านหลังนี้สวยมากเลยนะครับ”
แมรี่แย้มยิ้มอย่างภูมิใจทันทีที่ได้รับคำชมจากคนตัวบางที่เดินอยู่ข้างๆ ไม่ว่าใครที่ได้เข้ามาที่เรือนหลังนี้ หรือแม้แต่ปางไม้แห่งนี้ล้วนแล้วแต่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของมันด้วยกันทั้งนั้น เพราะปางไม้เติมฝันคือสถานที่ที่แต่งเติมความฝันของใครหลายๆ คนให้กลายเป็นความจริง
ซึ่งนั่นอาจจะรวมถึงความฝันของนกน้อยไร้ปีกอย่างแบคฮยอน
“พ่อเลี้ยงเป็นคนออกแบบและตกแต่งเองทั้งหมดเลยค่ะ”
คำว่า ‘พ่อเลี้ยง’ ทำให้แบคฮยอนชะงักความรู้สึกที่กำลังชื่นชมบ้านหลังนี้ทันที ก่อนที่เรียวตารีสวยจะแปรเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวจนแมรี่นึกแปลกใจ
“ใกล้ถึงห้องพักของผมหรือยังครับ”
“เอ่อ.. ถึงแล้วค่ะๆ ห้องนี้ค่ะ”
แบคฮยอนละสายตาไปจากแม่บ้านร่างท้วมเพื่อมองบานประตูไม้สีน้ำตาลอ่อนที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ก่อนที่ฝ่ามือเรียวสวยจะผลักบานประตูเข้าไปด้านในเพราะอยากจะพักผ่อนเต็มทน
“มีอะไรเรียกใช้ป้าหรือเด็กรับใช้คนอื่นได้เลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ” แมรี่แย้มยิ้มอย่างใจดีให้กับเจ้าของร่างบาง ก่อนจะปิดประตูบานใหญ่ลงแผ่วเบาเพื่อให้แขกคนสำคัญของผู้เป็นนายได้พักผ่อน
บ่ายคล้อยยามที่เข็มของนาฬิกาเหยียบย่างเข้าใกล้ยามเย็นเข้าไปทุกทีช่วยปลุกให้คนที่หลับพริ้มอยู่บนเตียงค่อยๆ ลืมตาตื่น แพขนตาเรียงสวยกะพริบปริบๆ ยามที่แสงสีอ่อนลอดผ่านเข้ามาโลมเลีย และนั่นถือเป็นนาฬิกาปลุกชั้นยอดที่ปลุกแบคฮยอนให้ตื่นจากห้วงนิทรา
แสงอาทิตย์ยามใกล้อัสดงแวะเข้ามาทักทายทางบานกระจกใสที่เปิดกว้างอวดทิวทัศน์ในยามเย็นของเมืองท่ามกลางหุบเขา ลมหนาวที่หอบกลิ่นชื้นของหิมะจากเทือกเขาแอลป์มาแตะปลายจมูกส่งผลให้จมูกรั้นเชิดขึ้นอย่างไม่ชอบใจ
แบคฮยอนไม่ชอบอากาศหนาว และที่นี่ – ที่เฮลเวเทียแห่งนี้เป็นเมืองหนาวกลางหุบเขาอย่างแท้จริง
อาการงัวเงียหลังจากตื่นนอนถูกสลัดทิ้งด้วยความเยือกเย็นของอากาศที่ดูจะลดต่ำลงเมื่อเข้าสู่ยามเย็น ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศไหลผ่านผิวกายที่โผล่พ้นจากความหนานุ่มของเสื้อผ้าจนขนอ่อนลุกชัน ซึ่งนั่นก็ทำให้แบคฮยอนตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำทั้งที่เพิ่งจะห้าโมงเย็น
สายน้ำเย็นไหลผ่านเรือนกายบางหยดแล้วหยดเล่า ตกกระทบกับพื้นกระเบื้องสีเทาด้านซึ่งตัดกับสีน้ำตาลอ่อนของผนัง แบคฮยอนยืนอาบน้ำใต้ฝักบัวโดยไม่แม้แต่จะปรายตามองอ่างอาบน้ำซึ่งทำจากอะคริลิคเนื้อดี ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ .. เพียงแต่แบคฮยอนขี้เกียจเกินกว่าจะลงไปนอนแช่ตัวในอ่างนั่น ณ ช่วงเวลานี้
แบคฮยอนจมอยู่กับตัวเองภายในห้องน้ำกว้างซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนั่นทำให้เจ้าของเรือนกายบางไม่ได้รับรู้ถึงการมาของใครบางคน ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงตะโกนร้องอย่างดีใจของป้าแมรี่ที่ดังลั่นไปทั่วปาง
BMW สีขาวปลอดคันหรูดับเครื่องยนต์ลงภายในลานจอดรถของเรือนไม้หลังใหญ่ทันทีที่ถึงที่หมาย เสียงเปิดประตูรถดังขึ้นในเวลาถัดมาและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ร่างท้วมของแมรี่เดินมาหยุดอยู่ข้างตัวรถ ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนเต็มตื้นไปด้วยความรู้สึกยินดีซึ่งฉายชัดผ่านรอยยิ้มกว้างจนเต็มแก้ม
“คุณเล็กของป้า”
เจ้าของสรรพนามที่ถูกเอ่ยเรียกหันขวับไปมองยังต้นเสียงทันทีที่ก้าวลงจากรถ จากนั้นเรือนกายสูงโปร่งก็กระโดดเข้าไปสวมกอดร่างอวบท้วมของแมรี่เข้าเต็มรัก ก่อนจะผละออกมายิ้มหวานจนตาหยีเมื่อถูกหอมแก้มสองฟอดใหญ่
“คิดถึงแมรี่ที่สุดในโลกเลยครับ~”
“อย่ามาปากหวานกับคนแก่หน่อยเลยค่ะ คิดถึงอะไรกันไม่เคยโทรมาหาเลย”
“ก็เล็กเรียนหนักนี่นา”
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยค่ะเด็กดื้อ”
แมรี่เอ่ยดุคุณเล็กของเธออย่างไม่จริงจังนัก เพราะตั้งแต่เด็กจนโตก็เลี้ยงอย่างตามใจมาโดยตลอด “แล้วนี่ปิดเทอมแล้วใช่ไหมคะ”
“อื้ม, ต่อจากนี้เล็กจะก่อกวนแมรี่ทั้งวันเลยคอยดู!”
แมรี่ได้แต่ส่ายหัวพร้อมยิ้มบางกับท่าทางซุกซนของคุณเล็กของเธอ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินโอบเอวกันเข้าไปในเรือนเพราะเจ้าของร่างโปร่งบ่นอุบว่าหิวจนไส้จะขาดแล้ว ซึ่งนั่นก็เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนที่ฟูมฟักมาตั้งแต่อ้อนแต่ออดได้เป็นอย่างดี
สองนายบ่าวเดินหายเข้าไปในครัวพร้อมกัน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เรือนกายบางของคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินลงบันไดมาถึงชั้นล่างพอดี แบคฮยอนกวาดสายตามองหาคุณป้าร่างท้วมเพราะหน้าท้องบางเริ่มส่งเสียงประท้วงถึงอาหาร ทว่าหูกลับได้ยินเสียงคนคุยกันแว่วออกมาจากห้องครัวแทน
ช่วงขาเรียวภายใต้กางเกงผ้าสีครีมอ่อนจึงเคลื่อนไปยังห้องครัวเมื่อคิดได้ว่าคนที่ตามหาต้องอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน และมันก็จริงเพราะแบคฮยอนเห็นแผ่นหลังอวบของคุณป้าแม่บ้านยืนอยู่หน้าเตาและกำลังคนหม้ออะไรสักอย่างอยู่ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่ามีใครอีกคนนั่งขัดสมาธิอยู่บนเคาน์เตอร์ข้างๆ กัน
แบคฮยอนจึงตัดสินใจจะหมุนตัวเดินกลับออกไปเพราะไม่อยากรบกวนคนทั้งสอง ทว่าเรียวตาคู่สวยกลับบังเอิญสบตากับคนที่นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์พอดี พวกเขาสบตากันนิ่งอยู่ราวๆ สองนาที ก่อนจะเป็นเจ้าของร่างโปร่งที่กระโดดลงมายืนบนพื้นและเดินเร็วเข้ามาหาจนแบคฮยอนผงะถอยหลัง
“ใครอ่ะแมรี่?” ใบหน้าคมที่ติดจะหวานอยู่ไม่น้อยเอียงคอมองคนแปลกหน้าตาแป๋ว พร้อมกับเอ่ยถามป้าแมรี่ของตนโดยที่ไม่ละสายตาไปมองคนถูกถามเลยแม้แต่นิดเดียว
“ว่าไงนะคะ”
เป็นแมรี่ที่ได้ยินคำถามของเด็กขี้สงสัยที่ผละจากหม้อซุปเพื่อหันมามองคุณเล็กของเธอ ก่อนที่รอยยิ้มใจดีจะแย้มยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อเห็นว่ามีใครอีกคนยืนอยู่ในห้องครัวนี้ด้วย
“คุณแบคฮยอนค่ะคุณเล็ก”
“ว้าว~ หน้าตาน่ารักกว่าที่คิดเอาไว้นะเนี่ย”
คุณเล็กหรือปาร์ค เซฮุนเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้นพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของแบคฮยอนจนปลายจมูกแทบจะชนกัน เป็นแบคฮยอนที่ผงะเล็กน้อยกับระยะห่างที่ใกล้จนเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก ซึ่งท่าทางเหล่านั้นก็เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเซฮุนได้เป็นอย่างดี
“พี่ใหญ่ต้องหลงแบคฮยอนมากแน่ๆ เลยหน้าตาน่ารักขนาดนี้”
“ตายแล้วคุณเล็ก! ไปเรียกคุณแบคฮยอนด้วยชื่อเฉยๆ แบบนั้นได้ยังไงกันคะ”
“ทำไมอ่าแมรี่”
“ก็คุณเขาอายุมากกว่าคุณเล็กตั้งหลายปีนี่คะ, ต้องเรียกว่าพี่สิคะ”
เซฮุนมุ่ยหน้าอย่างเง้างอนใส่แมรี่ทันทีที่ถูกขัดใจ เด็กหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้เพียงหนึ่งเทอมฟึดฟัดออกมาอย่างลูกคนเล็กแสนเอาแต่ใจ เพราะติดนิสัยถูกตามใจจากคนรอบข้างมาตั้งแต่เด็ก
“ไม่เป็นไรครับคุณป้า ถ้าคุณเล็กจะเรียกผมด้วยชื่อเฉยๆ ก็ได้ครับ” แบคฮยอนที่อดเอ็นดูเด็กน้อยตรงหน้าไม่ได้เอ่ยออกมาอย่างใจดี ซึ่งนั่นก็ทำให้คนถูกตามใจตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
“จริงนะ!”
“ครับ”
“เย้~”
เซฮุนฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีก่อนจะเอนหัวซบไหล่คนตัวเล็กกว่าที่ยอมตามใจตน ในขณะที่แมรี่ได้แต่ทอดถอนหายใจอย่างปลงตกเพราะอดคิดไม่ได้ว่าคงไม่มีใครบนโลกใบนี้กล้าขัดใจคุณเล็กของเธอได้อีกแล้วล่ะ
“ไปดูแมรี่ทำซุปข้าวโพดกันเถอะแบคฮยอน~”
“โธ่คุณเล็ก ทำไมถึงได้ดื้อนักนะ”
น้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจของแมรี่ไม่ได้รับความสนใจจากคุณเล็กจอมเอาแต่ใจของเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะหลังจากนั้นกลับกลายเป็นว่าเธอต้องคอยห้ามเด็กดื้อที่พาแขกของพ่อเลี้ยงวิ่งซนไปทั่วห้องครัวแทน
เฮลเวเทียเป็นเมืองหนาวที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเกร็ดหิมะบนเทือกเขาแอลป์ ภูมิอากาศของที่นี่จึงมีหมอกหนาในยามเช้าสลับกับสายลมเย็นจากทิวไม้สูงที่ทอดตัวยาวอยู่ในผืนป่าใหญ่ เป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบและเหมาะแก่การดื่มด่ำไปกับความงดงามของธรรมชาติ
หยาดละอองของน้ำค้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในอากาศ สะท้อนเป็นประกายระยิบระยับยามที่แสงสีทองของดาวฤกษ์ดวงใหญ่ส่องกระทบลงมา ก่อนที่มันจะแตกกระจายเป็นลำแสงสีรุ้งขนาดเล็กคล้ายส่องผ่านปริซึมรูปทรงห้าเหลี่ยม
มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมไปทั่วปางไม้เติมฝันปลุกให้คนที่เกลียดชังอากาศหนาวสะดุ้งตื่นจากห้วงนิทรา ปลายจมูกเชิดรั้นแดงเรื่อเพราะถูกความเย็นของอากาศด้านนอกหน้าต่างรังแก ก่อนที่มันจะขยับฟึดฟัดตามประสาคนที่ไม่ชอบอากาศเย็น
แพขนตาที่เรียงตัวสวยแม้ในยามตื่นค่อยๆ กะพริบเปิดเมื่ออากาศเย็นด้านนอกเริ่มบาดผิวเนื้อ นัยน์ตาเรียวสวยที่ซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาสีอ่อนขยับไหวไปมาก่อนจะหยุดลงที่บานกระจกใสซึ่งกินพื้นที่ด้านหนึ่งของผนังห้อง อวดทิวทัศน์และบรรยากาศคันทรี่ของเมืองในหุบเขาแห่งนี้ได้อย่างลงตัว
ปลายเท้าเล็กที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงเท้าสีหวานแตะลงบนพื้นไม้วอลนัทหลังจากที่ร่างกายเริ่มตื่นเต็มร้อย ขาเรียวก้าวไปหยุดยืนอยู่หน้าบานกระจกกว้างที่เปิดให้เห็นทิวทัศน์ในยามเช้าของปางได้แบบ 180 องศา ก่อนที่ฝ่ามือบางจะเลื่อนเปิดเพื่อออกไปสัมผัสกับอากาศด้านนอกที่เต็มไปด้วยสายหมอกจางๆ
สายลมเย็นของเมืองหนาวคือสิ่งแรกที่พัดมาสะกิดผิวกาย ตามด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกล้วยไม้สีสวยที่แขวนอยู่บนระแนงไม้นอกชายคาบ้าน เสียงจอแจของคนงานในปางดังแว่วมาให้ได้ยินจากที่ไกลๆ ก่อนจะถูกกลบด้วยเสียงสกุณาตัวจ้อยที่บินมาเกาะลงบนราวระเบียงและส่งเสียงขับขานต้อนรับรุ่งอรุณ
ครืด.. ครืด..
ทว่าความงดงามที่สมบูรณ์แบบของธรรมชาติก็ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงสั่นครืดของเครื่องมือสื่อสารซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง และมันก็ส่งผลให้เรียวตารีสวยผละสายตาจากเจ้านกตัวน้อยและเดินกลับเข้ามาในห้องเพื่อกดรับสาย
“ครับคุณแม่”
‘(เป็นยังไงบ้างลูก อยู่ได้ไหมคะ)’
น้ำเสียงห่วงใยของคนปลายสายทำให้แบคฮยอนกลืนก้อนสะอื้นกลับลงไปในลำคอเพราะไม่อยากให้ผู้เป็นแม่เป็นห่วง แต่ถึงอย่างนั้นความน้อยใจที่กัดกินอยู่ในอกเล็กๆ ก็ทำให้แบคฮยอนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยตัดพ้อออกไป
“สบายดีครับ แต่ถ้าถามว่าอยู่ได้ไหมลูกคงโกหกว่าอยู่ได้ เพราะยังไงซะคุณพ่อก็ต้องการให้ลูกอยู่ที่นี่อยู่ดี”
‘(โธ่ แบคฮยอนอา..)’
กลีบปากรูปกระจับเม้มแน่นยามที่ได้ยินน้ำเสียงอ่อนใจของผู้เป็นแม่ ทว่าไม่มีผู้ใดหรอกที่จะเข้าใจความเจ็บปวดในอกนี้ได้เท่ากับเขา
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ของลูก”
น้ำเสียงแผ่วเบาทว่าเจือไปด้วยความหมองเศร้าทำให้หัวอกของคนเป็นแม่อดไม่ได้ที่จะน้ำตาซึม แต่ไหนแต่ไรมาแล้วที่ลูกคนนี้มักยึดมั่นในความคิดของตัวเองมาตลอด ทว่าในเวลานี้เจ้าตัวคงรู้สึกเหมือนถูกลิดรอนอิสระและกักขังเอาไว้ในกรงทองที่ไร้ซึ่งหนทางหนี
‘(ฟังแม่นะคะแบคฮยอน, สิ่งที่คุณพ่อทำลงไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับลูกทั้งนั้น ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกตัวเองลำบากหรอกนะลูก)’
“…”
‘(ที่สำคัญพ่อเลี้ยงท่านเป็นคนใจดี ท่านจะต้องเอ็นดูลูกชายที่น่ารักของแม่อย่างแน่นอน)’
แบคฮยอนส่งเสียงเหอะในลำคอทันทีที่ได้ยินคำพูดของคนเป็นแม่ที่เอ่ยถึงเจ้าของปางไม้เติมฝัน หัวใจดวงน้อยรู้สึกเกลียดชังเขาคนนั้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ถึงแม้ว่าตนกับอีกฝ่ายจะไม่เคยพบหน้ากันเลยสักครั้งก็ตาม
“คนใจดีของคุณแม่คงจะงานยุ่งมากเลยนะครับ เพราะตั้งแต่มาเหยียบที่นี่ลูกยังไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของเขาเลย”
แบคฮยอนเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ใช่, เขามาอยู่ที่นี่ได้สองวันแล้ว ทว่ายังไม่เคยได้พบหน้าพ่อเลี้ยงของปางไม้แห่งนี้เลย ครั้นจะเอ่ยถามคุณเล็กที่มักมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ก็คิดว่าไม่ใช่กงการอะไรของตัวเอง ที่สำคัญมันกลับทำให้แบคฮยอนคิดว่าถ้าไม่อยากเจอหน้ากันขนาดนั้นแล้วจะบังคับให้เขามาอยู่ที่นี่ทำไมตั้งแต่แรก
‘(ท่านคงวุ่นวายกับงานในปางอยู่น่ะลูก ก็ปางไม้เติมฝันออกจะกว้างใหญ่ไพศาลขนาดนั้นนี่นา)’
แบคฮยอนไม่คิดจะเถียงที่ว่าปางไม้แห่งนี้กว้างใหญ่อย่างที่ผู้เป็นแม่เอ่ยจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันจะไม่มีโอกาสเดินสวนกันเลยหรือยังไง
“ช่างเถอะครับ ลูกไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว”
‘(พูดแบบนั้นได้ยังไงกันลูก อีกหน่อยลูกต้องช่วยงานพ่อเลี้ยงนะคะ)’
“แต่ลูกไม่ได้มีความรู้ด้านนี้นะครับคุณแม่” แบคฮยอนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยค้าน – เขาจบสถาปนิกนะไม่ใช่เทคโนโลยีการเกษตร
‘(ลูกก็ต้องเรียนรู้จากท่านสิคะ ที่สำคัญหน้าที่ของลูกต่อจากนี้คือคอยช่วยแบ่งเบาภาระของท่านในฐานะแม่นางของปาง)’
แบคฮยอนกำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจเมื่อได้ยินคำๆ นั้นจากปากของผู้เป็นแม่ ทำไมทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องยัดเยียดสถานะที่เขาไม่เคยต้องการให้กันด้วย ทำไมทุกคนต้องบีบบังคับเขาถึงเพียงนี้
“แค่นี้ก่อนนะครับคุณแม่ ลูกอยากอาบน้ำแล้ว”
‘(แบค—)’
ปลายสายถูกตัดไปทันทีเพราะแบคฮยอนไม่อยากจะฟังอะไรจากผู้เป็นแม่อีกแล้ว ฝ่ามือเรียวสวยกำเครื่องมือสื่อสารแน่นจนน่ากลัวว่ามันจะละเอียดเป็นผุยผง ถ้าหากว่ามันเปราะบางเหมือนกับหัวใจดวงน้อยที่ค่อยๆ เต้นแผ่วเบาลงทุกที
กลิ่นหอมกรุ่นของแป้งเค้กทำให้แบคฮยอนที่เดินลงมาถึงชั้นล่างของเรือนเดาได้ว่ามื้อเช้าของวันนี้คงเป็นแพนเค้กอย่างแน่นอน อาจจะด้วยเข้าครัวบ่อยเพราะมักถูกเรียกใช้ให้เป็นลูกมือของผู้เป็นแม่ทำให้แบคฮยอนพอมีความรู้เรื่องอาหารอยู่บ้าง และที่ถนัดที่สุดก็คือของหวานจำพวกเบเกอรี
เรียวขาเล็กก้าวเข้ามาในห้องครัวก่อนจะพบว่าคุณเล็กของป้าแมรี่กำลังนั่งยิ้มแฉ่งอยู่หน้าจานแพนเค้กราดด้วยเมเปิลไซรัป ทันทีที่เจ้าของใบหน้าน่ารักเงยหน้าขึ้นมาสบตากันเจ้าตัวก็ร้องเสียงดังลั่นพร้อมกับกวักมือเรียกได้อย่างน่าตี แน่นอนว่ากิริยาเช่นนั้นทำให้แมรี่ที่เข้มงวดเรื่องมารยาทเอ่ยตักเตือนเสียงเข้มอย่างอ่อนใจ
“ไปกวักมือเรียกคุณแบคฮยอนแบบนั้นได้ยังไงกันคะ! ไม่สุภาพเลยค่ะคุณเล็ก”
แบคฮยอนยิ้มบางอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นว่าใบหน้าน่ารักที่เคยฉีกยิ้มกว้างกลับงองุ้มทันทีเมื่อถูกดุ คุณเล็กของป้าแมรี่เหมือนกับเด็กน้อยในวัยสี่ห้าขวบไม่ผิดในความคิดของแบคฮยอน และความซุกซนนั้นก็ทำให้แบคฮยอนยิ้มได้ทุกครั้งที่เจ้าตัวมาป่วนอยู่ใกล้ๆ
“แมรี่ขี้บ่นเป็นคนแก่”
“เดี๋ยวเถอะค่ะ, ถ้าดื้อนักป้าจะไม่ให้ไปเล่นที่ฟาร์มแล้วนะคะ”
“ไม่นะแมรี่!!”
คนที่ชอบไปวิ่งเล่นที่ฟาร์มโคนมเป็นชีวิตจิตใจร้องค้านเสียงดังลั่นพร้อมกับกระทืบเท้าลงกับพื้นอย่างไม่ยอมสุดๆ เรื่องอะไรของแมรี่กันเล่าที่จะมาห้ามไม่ให้ไปเล่นที่ฟาร์มน่ะ นั่นมันที่โปรดของปาร์ค เซฮุนเลยนะ!
“ถ้าไม่อยากโดนกักบริเวณก็อย่าดื้อค่ะ แล้วกิริยามารยาทก็ให้มันเรียบร้อยสมกับที่ป้าพร่ำสอนด้วยนะคะคุณเล็ก”
คุณป้าแม่บ้านร่างท้วมเอ่ยออกมายาวเหยียดซึ่งนั่นก็ทำให้ใบหน้าของเซฮุนงองุ้มมากกว่าเดิม ก่อนที่ตัวแสบประจำปางไม้เติมฝันจะหันมาสนใจเพื่อนเล่นคนใหม่ที่ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม โดยที่มือเรียวยื่นจานแพนเค้กไปให้อีกฝ่ายพร้อมด้วยรอยยิ้มตาหยีตามแบบฉบับของเจ้าตัว
“แพนเค้กของแมรี่อร่อยที่สุดในสวิสเลยนะ แบคฮยอนชิมสิๆ”
“ขอบคุณครับคุณเล็ก” แบคฮยอนยิ้มรับเด็กร่าเริงที่ยื่นจากแพนเค้กมาให้ก่อนจะตักชิม ซึ่งคำคุยโวของเด็กน้อยตรงหน้าก็ไม่ได้ไกลเกินความจริงเลยแม้แต่น้อย
มื้อเช้าที่แสนเรียบง่ายดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงใสที่เอ่ยเล่าเรื่องราวมากมายที่เจ้าตัวพบเจอมา เซฮุนเป็นเด็กที่คุยเก่งมากๆ อีกทั้งยังกินเก่งจนแบคฮยอนตกใจ ดูได้จากแพนเค้กชิ้นที่สิบห้าที่เจ้าตัวเพิ่งกลืนลงท้องไปหมาดๆ
“เล็กชอบฟาร์มโคนมมากๆ เลยล่ะ คิดดูสิขนาดอ่างอาบน้ำในห้องยังเป็นลายแม่วัวเลยนะ”
น้ำเสียงที่เอ่ยเล่าอย่างตื่นเต้นเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากแบคฮยอนได้เป็นอย่างดี และคนตัวบางก็เป็นผู้ฟังที่ดีด้วยการเงียบฟังในสิ่งที่คนเด็กกว่าเล่าอย่างตั้งใจ
“แล้วก็นะ ที่จริงแล้วอ่ะพรมที่พื้นห้องก็จะเป็นลายแม่วัวแหละ แต่พี่ใหญ่น่ะสิบอกว่าแมรี่จะทำความสะอาดยากเพราะว่ามันมีสีขาวด้วย”
“คุณเล็กดูจะเกรงใจคนที่เอ่ยถึงมากเลยนะครับ”
“พี่ใหญ่น่ะเหรอ?”
“ครับ”
“อย่าเรียกว่าเกรงใจเลย เรียกว่ากลัวดีกว่าเพราะพี่ใหญ่น่ะดุมาก”
แบคฮยอนขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากที่ได้ฟังคำกล่าวถึงของใครคนนั้นจากปากของน้องชายเจ้าตัว ไหนคุณแม่บอกว่าพ่อเลี้ยงของที่นี่ใจดีไงล่ะ ไม่เห็นเหมือนที่น้องชายของเขาพูดถึงเลย
“พูดถึงพี่ใหญ่เล็กก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้”
เสียงงึมงำคล้ายพูดกับตัวเองของเซฮุนเรียกสายตาของแบคฮยอนให้ผละจากจานแพนเค้กตรงหน้า ก่อนที่คิ้วเรียวสวยจะขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อได้ยินคำพูดของปาร์คคนเล็ก
“พี่ใหญ่ไปไหนเหรอแมรี่ เล็กกลับมาตั้งสองวันแล้วยังไม่เห็นพี่ใหญ่เลย”
ร่างท้วมของแมรี่ที่กำลังง่วนอยู่กับการเทนมสดใส่แก้วหันกลับมามองพรางเอ่ยตอบคำถามของคุณเล็กของเธอ ซึ่งมันเป็นคำถามเดียวกันกับที่แบคฮยอนอยากจะรู้เหมือนกัน
“ท่านพาคุณลู่หานไปตรวจสุขภาพที่เจนีวาค่ะ”
“เห? ทำไมไม่ให้คุณลุงคนขับรถพาไปล่ะ”
“คุณเล็กนี่ก็ถามอะไรแปลกๆ นะคะ ปกติท่านก็เป็นคนพาคุณเขาไปตรวจสุขภาพด้วยตัวเองทุกครั้งอยู่แล้วนี่คะ แต่จะว่าไปครั้งนี้ไปนานกว่าทุกทีเลยนะเนี่ย”
เซฮุนพยักหน้ารับอย่างขอไปทีเพราะไม่อยากจะยุ่งเรื่องของผู้เป็นพี่ชายนัก ก่อนที่ตัวแสบประจำบ้านจะหันกลับมาจัดการกับของโปรดตรงหน้าตามเดิม ผิดกับใครอีกคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารในเช้าวันนี้ด้วยที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงลำพัง
คุณลู่หาน
เขาคนนั้นคือใครกัน?
tbc.
เรารีไรท์ฟิคใหม่ค่ะ
ถ้าแจ้งเตือนทำให้รำคาญก็ขอโทษด้วยนะคะ แต่อย่าด่าเราเลยเด้อ
#ซคกด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุณเล็กน่ารักสดใสจังเลยค้าาาาา เป็นเพื่อนกับพี่แบคหน่อยนะคะ
พ่อเลี้ยงใช้ไม่ได้เลย ปล่อยน้องให้รอแบบนี้ได้ไง
ปมเต็มไปหมด อยากรู้แล้ว