ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #92 : คำวิจารณ์สูตรลดน้ำหนัก 10 สูตรของนักโภชนาการชาวอิตาเลี่ยน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.6K
      2
      29 ต.ค. 48







                        เมื่อเช้าผมนำหนังสือผู้ชายพร่องมันเนยของว่าและน้องธีรพงษ์ไปส่งให้ไปรษณีย์แล้วนะครับ ขอโทษด้วยที่ส่งให้ช้ามากๆ แต่ก็อย่างที่เคยบอกครับว่าเพราะมันมีงานเข้ามาเยอะพอดี



                        จำไม่ได้ว่าเคยบอกไปรึยัง แต่อยากบอกว่าตอนนี้กำลังจะทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องลดน้ำหนักอยู่ครับ ก็รวบรวมนักวิชาการได้กลุ่มหนึ่ง ตอนนี้ที่ทำไปแล้วก็คือการช่วยกันเขียน \"ข้อเสนอเพื่อขอทุน\" เขียนไปทั้งหมด 120 หน้า A4 ครับ กว่าจะรู้ว่าได้ทุนมาทำรึเปล่าก็อีกนานครับ ประมาณต้นปีหน้า แต่จากการที่ไปค้นคว้าข้อมูลต่างๆมาก็ได้ความรู้มาเพิ่มขึ้นอีกเพียบ และที่สำคัญคือสอดรับกับวิธีที่ผมใช้ด้วย ถ้าจะสรุปง่ายๆก็คือ วิธีที่ผมใช้นั้นค่อนข้างโอเคและปลอดภัยที่สุดแล้ว



                        แต่จากการที่ไปค้นคว้ามาก็พบว่ามีนักคิดและนักโภชนาการชาวอิตาเลี่ยนได้ทำการวิเคราะห์ไว้ว่าสูตรลดน้ำหนักที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลกประมาณ 10 สูตรนั้น ล้วนมีปัญหาตามมาภายหลังหมดทั้งสิ้นเลยครับ ผมจะสรุปให้ฟังดังนี้ครับ



    1.  สูตร The Beverly Hills Diet



    แนวคิดหลักของสูตรคือ  ให้กินผลไม้อย่างเดียว 10 วัน แล้วค่อยเพิ่มอาหารอื่นเข้าไป



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ การได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุลย์ และยังมีผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น ท้องร่วง การขาดสารอาหารฯลฯ



    2. สูตร The Cambridge Diet



    แนวคิดหลักของสูตรคือ ให้ดื่มแต่น้ำที่มีสารอาหารประมาณ 330 แคลอรี่ต่อวัน



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ ได้รับแคลอรี่ต่อวันต่ำมาก จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ



    3. สูตร Dr.Atkin\'s Diet



    แนวคิดหลักของสูตรคือ ให้กินคาร์โบไฮเดรตแต่น้อย และกินโปรตีนให้มากๆ



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ การได้รับสารอาหารไม่สมดุลและจะมีผลทำให้ในท้ายที่สุดจะมีไขมันและคอเลสเตอรอลเพิ่มมากขึ้น



    4. สูตร Fasting



    แนวคิดหลักของสูตรคือ ให้ดื่มแต่น้ำผลไม้ ชา หรือน้ำเท่านั้น



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว และได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุล และถือว่าเป็นการลดน้ำหนักเพียงชั่วคราวเท่านั้น



    5. สูตร Diet with HCG (Human Chorionic Gonadotropin)



    แนวคิดหลักของสูตรคือ ให้กินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำมากๆ พร้อมกับฉีดฮอร์โมน HCG เข้าไปด้วย วิธีนี้จะแพงมากๆเลย



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ การฉีดฮอร์โมนนั้น ถึงปัจจุบันก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างไร และการที่น้ำหนักลดก็อาจเป็นไปได้ว่า กินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำซะขนาดนั้น



    6. สูตร Diet based on liquid protein



    แนวคิดหลักของสูตรคือ ให้กินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำโดยจัดให้เป็นชุดๆ



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ การได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุลย์ อาจทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารได้ โปรตีนที่ได้มักเป็นโปรตีนคุณภาพต่ำ



    7. สูตร Mayo Diet



    แนวคิดหลักของสูตรคือ ให้กินผลไม้จำพวกส้มโอก่อนกินอาหาร โดยเชื่อว่าถ้ากินส้มโอก่อนกินอาหารจะมีส่วนช่วยในการเร่งเผาผลาญไขมัน



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ น้ำหนักอาจลด แต่ไม่ใช่เหตุผลตามที่อ้าง ถ้าเป็นประโยชน์ก็อาจจะตรงที่ให้กินผลไม้ก่อนกินมื้อหลักซึ่งอาจทำให้อิ่มเร็วขึ้น



    8. สูตร Scarsedale Diet



    แนวคิดหลักของสูตรคือ แนะนำให้กินแต่อาหารที่มีโปรตีนสูงเท่านั้น



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ การที่ได้รับสารอาหารที่ไม่สมดุล



    9. สูตร Dissociated Diet \"Specially balanced diet\"



    แนวคิดหลักของสูตรคือ แบ่งอาหารออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นกรดคือ เนื้อ ปลา ไข่ ชีสต์ฯ และกลุ่มที่เป็นเบสคือ ขนมปัง พาสต้า ข้าว มันฝรั่งฯ และแนะนำว่าไม่ควรกินอาหารทั้ง 2 กลุ่มในมื้อเดียวกัน ส่วนพวกไขมัน ผัก และพริก เป็นอาหารที่เป็นกลาง อาจนำมาเสริมในแต่ละมื้อได้



    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ การได้รับอาหารที่ไม่สมดุล และอาจทำให้การดูดซึมเหล็กและแคลเซียมน้อยลง



    10. สูตร Single-food Diet





    แนวคิดหลักของสูตรคือ ให้กินอาหารเป็นคู่เช่น กินชีสต์กับกล้วยหรือ กินไข่กับส้มโอ หรือทางเลือกที่ 3 คือกินแต่ผลไม้อย่างเดียว





    ข้อบกพร่องของสูตรนี้คือ การที่ได้รับอาหารที่ไม่สมดุลและอาจทำให้เป็นโรคขาดสารอาหาร



                        ถ้าผมจะมองภาพรวมของทั้ง 10 สูตรนั้นก็จะพบว่า มันลดได้จริง แต่มันจะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาอีกมากมาย เพราะทุกสูตรเน้นการลดโดยใช้เทคนิค \"เฉพาะจุด\" แต่ละเลยการมองปัยหาแบบ \"ภาพรวม\"  และถ้าบางสูตรต้องจ่ายเงินแพงมากๆแล้ว อันนี้จะน่ากลัวมากเลยครับ ขอยกตัวอย่างผมเอง ผมใช้หลักปรับภาพรวม ลดน้ำหนัก จาก 107 เป็น 74 ภายใน 4 เดือน พอผ่านไป 5 เดือน ภาพรวมของการใช้ชีวิตของผมเสียไปบ้างมีผลให้น้ำหนักขึ้นประมาณ 5 โล เป็น 79 (อันนี้กล่าวโดยสรุป แต่จริงๆแล้วมันจะขึ้นๆลงๆถ้าท่านอ่านมาทุกตอนท่านจะเห็น) ซึ่งยิ่งเป็นการยืนยันถึงคำว่าภาพรวมให้ชัดขึ้น ผมก็เลยจะเริ่มลดใหม่ในวันที่ 1 พ.ย. 48 นี้แล้วเลื่อนการเข้ายิมออกไปก่อน ผมก็วางแผนใหม่ได้เลยทันที



                       แต่ถ้าในทางกลับกัน ถ้าตอนต้นปีผมลด 33 กก.โดยเสียเงินให้สถานบริการประมาณ 5 แสนบาท พอเวลาผ่านไปอีก 5 เดือนน้ำหนักผมอาจขึ้นไปเป็น 85 แล้วผมจะต้องเข้าไปใช้บริการอีก 3 แสนบาท คำถามคือ เงิน 8 แสนนั้นเราจะเสียไปทำไม และเพื่ออะไร ความรู้ก็ไม่ได้ การแก้ปัญหาบางอย่างก็ไม่ตรงจุด และที่สำคัญต้องใช้คำว่าอดทนมากๆๆๆ และตัดขาดจากคำว่าภาพรวมโดยสิ้นเชิง และจะทำให้ปัญหาต่างๆตามมาอีกมากมาย เพราะฉะนั้น ฝึกให้ตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญการลดน้ำหนักที่สามารถลดได้ด้วยตัวเองน่าจะประหยัดกว่า ปลอดภัยกว่า และรับประกันว่าจะไม่อ้วนเหมือนเดิมอีกได้แน่ใจกว่าครับผม



                    
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×