ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #8 : ทฤษฎี The Whole and The Part

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.29K
      3
      26 มี.ค. 48





                                               หมายเหตุ   เขียนวันที่ 26 มี.ค. 48      หนัก 87.0 กิโลกรัม





                                               วันนี้ก็ถือเป็นวันที่ดีอีกหนึ่งวันของผมเพราะว่าเดือนมีนาคม 48 นี้ผมลดน้ำหนักลงไปอีก 10 กิโลอย่างที่ผมตั้งใจไว้แล้วคือจาก 97 เป็น 87 กิโลกรัม ถ้านับตั้งแต่ 1 ก.พ. 48 ผมก็ลดจาก 107 จนมาถึง 87 คือลดมาได้ 20 กิโลแล้วซึ่งก็เรียกได้ว่ามาถึงครึ่งทางแล้ว เพื่อนบางคนที่รู้ข่าวก็บอกว่าไม่น่าเชื่อที่นักกินอย่างผมจะทำได้ บางคนต้องขอนัดเพื่อดูตัวกันเลยทีเดียว เรื่องแบบนี้จริงๆแล้วถ้ามันถึงเวลาที่เหมาะมันก็ทำได้เองครับ คือ\"ของมันเปลี่ยนกันได้\"อยู่แล้ว



                                               เหลือเวลาอีก 2 เดือนที่ผมจะอยู่ในโปรแกรมลดน้ำหนักนี้ แต่ไม่ใช่ว่าหลังจาก 2 เดือนนี้แล้ว ผมจะกลับมามีพฤติกรรมการกินเหมือนเดิม เพียงแต่จะโยกย้ายจากโปรแกรมลดน้ำหนักไปยังโปรแกรมควบคุมน้ำหนักแทน แต่ก่อนจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เรามาย้อนดูประสบการณ์ของผมในวันที่ 21 ก.พ. 48 กันก่อนดีกว่า



                                               ก็อย่างที่ผมเคยบอกล่ะครับว่า ตอนนั้น วันที่ 21 ก.พ. 48 ผมหนัก 97 กิโลกรัม และเป็นวันที่ผมอยากกินข้าวเป็นอย่างมาก และมันก็ดันเป็นมื้อเย็นซะด้วย แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ แต่ความคิดของผมแตกต่างไปจากตอนที่อยากกินเบเกอรี่นะครับ เพราะเจ้าเบเกอรี่นั้นมันเหมือนกับเป็นส่วนเกินเพราะตอนนั้นมันเป็นของว่างที่อยู่ระหว่างมื้อ และผมอาจจะรู้ตัวดีว่าถ้ากินไปแล้ว ผมคงจะเพิ่มปริมาณการกินเบเกอรี่อย่างไม่หยุดง่ายๆแน่นอน แต่สำหรับข้าวแล้ว ยังไงก็ยังถือว่าเป็นอาหารที่อยู่ในมื้อเย็น และตอนนั้นที่ผมอยากกินมันก็เพิ่งจะ 4 โมงเอง เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ได้ยับยั้งชั่งใจเหมือนตอนที่หักห้ามใจไม่ให้ตัวเองกินเบเกอรี่ สรุปว่าวันนั้นก็กินข้าวมันไก่ไป 3/4 ของจาน



                                               ข้ามันไก่นั้นก็ถือว่าเป็นอาหารโปรดของผมเหมือนกัน คืออาหารโปรดของผมมีมากมายกว่า 40 อย่างอะครับ ตอนกินเสร็จแล้วก็ยังกังวลอยู่เหมือนกันว่ามันจะมีผลมากน้อยแค่ไหน แต่พอผมกินเสร็จแล้วตอนเย็นผมก็ไปออกกำลังกายเหมือนเดิม พอกลับมาชั่งน้ำหนักที่บ้าน ปรากฏว่าเท่าที่จำได้นะครับ ผมจะหนักประมาณ 96.7 กิโลกรัม ผมก็เลยนึกแปลกใจว่า ทำไมข้าวมันไก่จานนั้นจึงแทบจะไม่ค่อยมีผลเลยต่อการลดน้ำหนักของผม เช้าวันรุ่งขึ้นก็ยังหนักประมาณ 96.7 อยู่ครับ แสดงว่าช่วงที่อยู่ในโปรแกรมนั้น เราก็สามารถกินอาหารพวกนี้ได้นี่นา แต่การกินอาหารพวกนี้นั้นคงจะต้องมีระบบระเบียบกันนิดนึง เพราะถ้าไม่ควบคุมแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้



                                               แต่ก่อนที่จะหามาตรการควบคุม ผมก็มานั่งนึกถึงว่าทำไมข้าวมันไก่จานนั้นมันถึงไม่ค่อยมีผลล่ะ นึกอยู่ไม่นานก็พบว่าที่มันไม่ค่อยมีผลก็เพราะว่ามันเป็นเพียง \"ส่วนหนึ่ง\" ของระบบเท่านั้นเอง การที่ผมเรียกว่ามันเป็นเพียง\"ส่วนหนึ่ง\"ของระบบก็เพราะว่ามื้อเช้าและมื้อเที่ยงของวันนั้นผมยังกินเกาเหลาโฟอยู่ ตอนเย็นก็ไปออกกำลังกายตามปกติ มีเพียงมื้อเย็นเท่านั้นที่กินข้าวมันไก่ไป 3/4 ของจาน แสดงว่าหลักการของการกินแบบนี้น่าจะคล้ายๆทฤษฎี The Whole and The Part แน่ๆเลย ผมก็เลยใช้ทฤษฎีนี้ในการกินตลอดเดือนที่สองคือเดือน มี.ค. 48 แต่ผมงดมื้อเย็นด้วย (ยกเว้นวันที่มีงานเลี้ยง) เพื่อไม่ให้มันเสี่ยงเกินไป



                                               ผมก็เลยใช้ทฤษฎี The Whole and The Part ของผมตลอดเดือนมีนาคมที่ผ่านมาให้มาอยู่ในโปรแกรมลดน้ำหนักด้วย ขอย้อนกลับไปนิดนึงว่าในเดือนแรก มื้อเช้าและมื้อเที่ยงของผมเป็นเกาเหลาโฟกับน้ำเปล่า 1 ขวด ส่วนมื้อเย็นจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น ส้มตำมะละกอ ส้มตำแครอท ผัดผักรวมมิตร ผัดเต้าหู้กับถั่วงอก ยำปลาทู ยำปลาทูน่า สุกี้น้ำไก่ สลัดปลา ลาบเต้าหู้ (เมนูนี้มีที่เอ็มโพเรียม อร่อยมากครับ) แกงจืดผักกาดขาว น้ำพริกปลาทูและผักต้ม ปลาทับทิมทอด ปลาเก๋าราดพริกฯ ที่พูดมาทั้งหมดนี้คือมื้อละจานเท่านั้นนะครับ เพราะผมเองต้องการมื้อเย็นที่มีสีสันมากหน่อย แต่ยังคงอยู่ในโปรแกรมลดน้ำหนักของผม ชื่อที่เป็นคล้ายๆกับข้าว ผมก็กินอย่างเดียวนะครับ ไม่ได้กินกับข้าว เช่น มื้อเย็นที่ผมเลือกปลาทับทิมทอด ผมก็กินไปเลย 1 ตัวกับน้ำเปล่า 1 ขวด



                                               แต่พอถึงเดือน มี.ค. 48 ผมก็มีอาหารเหล่านี้แทรกอยู่ด้วยคือ ไอติมกะทิสดกับข้าวเหนียว ข้าวมันไก่ บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง  ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวขาหมู เป็ดย่าง ไก่อบ ขนมจีนน้ำยา ไก่ทอด kfc  เบเกอรี่ ลูกชิ้นทอดฯแต่ผมกินตามทฤษฎี The Whole and The Part ที่ผมประยุกต์มาใช้  และที่สำคัญเดือนนี้ผมก็ลดได้แล้ว 10 กิโล    ทฤษฎี The Whole and The Part ยังสามารถอธิบายได้ด้วยว่า ทำไมคนที่งดมื้อเย็นบางคนถึงยังมีน้ำหนักตัวเพิ่มอยู่ ผมขอไปพูดถึงทฤษฎี The Whole and The Part อย่างละเอียดในตอนหน้านะครับ



    หมายเหตุ ส่วนเรื่องรูปนั้น ผมปรึกษากับเพื่อนแล้วคิดว่า พอผมออกจากโปรแกรมในวันที่ 31 พฤษภาคม 48 ค่อยถ่ายรูปทีเดียวจะได้เปรียบเทียบถึงความแตกต่างภายใน 4 เดือนนี้ได้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×