ลำดับตอนที่ #58
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #58 : ชีวิตในอุดมคติ
                                          หมายเหตุ เขียนวันที่ 13 มิ.ย. 48                หนัก 74.0 กิโลกรัม
                                        ต้องขอบอกก่อนว่าตอนนี้ผมชอบชีวิตช่วงนี้มากๆเลยครับ เริ่มจากอย่างแรกตรงที่ผมกลับมากิน 3 มื้อเหมือนเดิมแล้ว การกลับมากินในครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นอุบัติเหตุมากกว่าคือ เมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมาผมกำลังนั่งเล่นเนตอยู่ที่ห้างแห่งหนึ่ง ผมมานั่งเล่นหลังจากที่เดินออกกำลังกายมาประมาณชั่วโมงกว่าๆ กระหายน้ำมากเลยครับ เลยดื่มน้ำเปล่าไปประมาณ 2 ขวดครับ พอออกจากร้านเนต ผมก็ลองไปกินมื้อเย็นดูแล้วดื่มน้ำเปล่าอีก 1 ขวด ปรากฏว่าไม่มีอาการปวดท้องแต่ประการใดครับ ทุกอย่างโอเคไปหมด
                                        ส่วนอาหารการกินตอนนี้ต้องนับว่าอยู่ตัวมากทีเดียว เพราะไม่ค่อยเข้มงวดเหมือนเมื่อก่อน อย่างเมื่อวานผมก็กินข้าวทั้ง 3 มื้อครับ แต่มื้อเย็นจะทานไม่มาก ตอนนี้อยากทานอะไรก็ทานครับ เพราะถือว่าเป็นช่วงพัก ส่วนการออกกำลังกายก็ยังออกเหมือนเดิมครับ เวลาทานอาหารในแต่ละมื้อก็พยายามคุมให้อยู่ระหว่างมื้อละ 300-400 แคลอรี่ ยังไงก็จะไม่ให้มากไปกว่านี้ ส่วนการออกกำลังกายก็มีเดินเหมือนเดิมเกือบทุกวัน ยกดัมเบลบ้าง เมื่อวานก็เพิ่งไปซื้อจานทวิสมาลองเล่นดูครับ แต่ก็ยังไม่ซีเรียสมากนัก
                                        ช่วงนี้ทั้งการกินและการออกกำลังกายค่อนข้างอยู่ตัวครับ ไม่ได้ไปบังคับตัวเองมากว่าต้องทำนะเหมือนเดือนแรกๆ ถึงเวลาผมก็ทำเลย แสดงว่าการฝึกตัวเองตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาค่อนข้างได้ผลดีทีเดียว ถึงวันนี้ผมรู้สึกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดโยโย่และบูลิเมียหายไปเกือบจะ 100%เลยก็ว่าได้ครับ ช่วงเดือนนี้เป็นเดือนที่น้ำหนักอยู่ตัวที่ 74 กก. และผมก็รู้สึกผ่อนคลายมากทีเดียวครับ เพิ่งมารู้สึกเมื่อไม่นานมานี้เองว่า การมีช่วงเบรคที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้มากขนาดนี้น่าจะเป็นผลดีเหมือนกันนะครับ
                                        อย่างช่วงแรกที่ผมเริ่มลดใหม่ๆผมคิดว่าผมจะลดต่อเนื่องไปเลยจนกว่าตัวเองจะพอใจจะกี่เดือนก็ช่าง ลดให้มันรวดเดียวไปเลย แต่พอลดได้ 33 โลภายใน 4 เดือน ก็มีความรู้สึกว่าช่วงที่ลดนั้นมันเต็มอิ่มแบบแปลกๆ เลยต้องปรับเปลี่ยนแผนโดยการเบรคซะบ้าง เพราะผมรู้ตัวว่าถ้าขืนลดต่ออีกเดือนแบบยาวไปเลยมันไม่น่าจะเป็นผลดี จนถึงวันนี้ผมค่อนข้างแน่ใจครับว่าผมน่าจะคิดถูก เพราะ 2-3 วันมานี้ผมรู้สึกว่าอยากมีชีวิตแบบนี้มานานแล้ว คือกินแบบสบายๆมีการออกกำลังกายที่พอเหมาะ ทำทุกอย่างในลักษณะที่เป็นนิสัยเป็นธรรมชาติของตัวเรา ไม่ต้องไปบังคับตัวเองให้มากเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ต้องไม่ปล่อยตัวมากจนเกินไป พอทำแบบนี้หรือทำให้ตนเองอยู่ในสภาวะแบบนี้ได้ ความสุขที่เอิบอิ่มมันก็จะเข้ามาอย่างเต็มที่ครับ
                                          ผมก็เลยรู้สึกว่าคนที่จะลดน้ำหนักให้ได้ดีหรือคุมน้ำหนักตัวเองให้อยู่ต้องรู้จักการผ่อนหนักผ่อนเบาให้กับตัวเอง อย่าทำให้ตัวเองเคร่งเครียดมากจนเกินไป ต้องรู้จักตัวเองและใจเย็น ถ้าลดน้ำหนักมาได้ระยะหนึ่งต้องรู้จักผ่อนและปล่อยวางซะบ้าง มันเหมือนเป็นการที่เราพักเพื่อชาตแบตเพื่อที่จะเริ่มทำอะไรบางอย่างให้กับตัวเองต่อไป อย่างผมเองผมรู้สึกว่าตัวเองควรจะต้องลดน้ำหนักลงมาอีก และจะต้องเล่นเวทกระชับกล้ามเนื้อด้วย แต่อาจจะไม่ต้องเข้มงวดมากในตอนนี้
                                          ผมรู้สึกว่า 4 เดือนที่ผ่านมาตัวผมเองถึงจะไม่เครียดมาก แต่ก็มีการใช้พลังงานไปเยอะ ทั้งต้องวางแผน ต้องหักห้ามหรือผ่อนตามความต้องการบางอย่าง พอผมทำเต็มที่จนได้ผลบางอย่างกลับมาเช่นน้ำหนักหายไป 33 โล ผมก็คงต้องพักบ้าง สิ่งที่น่าสงสัยคือทำไมต้อง 4 เดือน ผมมีความรู้สึกว่าอาจจะต้องเบรคสักเดือนหนึ่ง แต่พอนึกขึ้นมาได้ก็ร้องอ๋อเลยครับ เกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นอาจารย์อยู่ และวิถีชีวิตที่เป็นอยู่คือช่วงเปิดเทอมผมก็ทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ ไม่ขาดตกบกพร่อง พอครบ 4 เดือนก็มีการเบรคปิดเทอม พอเปิดเทอมผมก็มาทุ่มเทใหม่ แล้วผมก็มีความรู้สึกอิ่มและผ่อนคลาย มันทำให้ผมมีพลังในการที่จะปฏิบัติงานในเทอมต่อไป  ผมก็เลยคิดว่า ตลอดเดือน มิ.ย. 48 นี้ผมคงถือเป็นช่วงพักผ่อนในการลดน้ำหนักของผม และผมจะเริ่มโปรแกรมใหม่ในเดือน ก.ค. 48
                                          แต่ช่วงนี้ใช่ว่าผมจะพักและปล่อยตัวปล่อยใจจนเกินเลย ยังไงผมก็ต้องคุมน้ำหนักให้อยู่ประมาณ 74 ไปก่อน
ยังไงก็ขอเก็บเกี่ยวความรู้สึกอิ่มและเต็มอย่างมีความสุขตลอดเดือน มิ.ย. 48 ไปก่อนนะครับ เพราะนี่คือรูปแบบชีวิตในอุดมคติแบบหนึ่งที่ผมแสวงหามานานแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น