ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #56 : ภาคสอง : ริเริ่มโปรแกรม The One

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.05K
      1
      8 มิ.ย. 48







                                  หมายเหตุ   เขียนวันที่ 8 มิ.ย. 48                     หนัก 74 กิโลกรัม





                                  ก่อนอื่นขอรายงานสถานการณ์ต่างๆให้ทราบก่อนนะครับ เอาเรื่องทานมื้อเย็นก่อนเลยก็แล้วกัน อย่างที่ผมเคยบอกเมื่อตอนที่แล้วครับว่า ตอนที่อยู่ที่องครักษ์ผมทานมื้อเย็นได้ แต่พอ 2-3 วันที่ผ่านมาก็ลองทานดูแต่มันปวดท้องมากๆเลยครับ ปวดคล้ายๆกับตอนที่เรากินอาหารผิดเวลา เมื่อวานผมเลยตัดสินใจทาน 2 มื้อ ตอนเย็นก็เดินออกกำลังกาย หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำเปล่าแก้กระหาย พอกลับถึงบ้านก็ทานส้มกับชมพู่เล็กน้อย ก็ไม่มีอาการปวดท้องแต่ประการใดครับ สงสัยผมคงต้องงดมื้อเย็นตลอดกาลซะแล้ว ท่านที่ตามอ่านมาตลอดคงงงเหมือนกันนะครับ เพราะผมพยายามที่จะกลับมากินมื้อเย็นอีกหลายครั้ง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จซะที คงต้องปล่อยเลยตามเลยแล้วล่ะครับ



                                 และเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาเหมือนกัน ผมลองกินพวกข้าวขาหมู กับข้าวมันไก่ดู ผลปรากฏว่าผมรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเหมือนแต่ก่อน และค่อนข้างผอืดผะอมเล็กน้อย เป็นไปได้ที่อาจเนื่องมาจากว่า ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาผมเน้นอาหารพวกเกาเหลา สลัด ส้มตำ ลาบเต้าหู้ แกงจืด ผัดผักฯ แล้วทำให้ผมเริ่มชินกับมันแล้ว พอหันกลับมากินพวกขาหมูอีกจึงรู้สึกไม่ค่อยดี จริงๆแล้วปรากฏการณ์แบบนี้ก็นับว่าน่าจะดี เพราะอาจรับประกันได้ว่าโยโย่ เอฟเฟ็กต์ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับผม แต่ยังไงผมก็ยังคงไม่ประมาทอยู่ดี



                                 แต่สิ่งที่น่าห่วงที่สุดในตอนนี้คือ ผมอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคบูเลเมียหรือโรคล้วงคอให้อาเจียนมากกว่า จริงๆอาจไม่ต้องล้วงคอหรอกครับ อีก 2 เดือนข้างหน้าอาจเป็นได้ที่พอผมกินข้าวขาหมูแล้วผมจะอาเจียนออกมา อาการแบบนี้ซีเรียสสำหรับผมมากและผมจะต้องป้องกันไว้ก่อน ผมก็เลยคิดว่า 2 เดือนต่อจากนี้ผมจะต้องกิน 2 มื้อในลักษณะที่ว่า มื้อเช้าต้องกินพวกอาหารแคลอรี่สูงหน่อย เช่น ข้าวขาหมู ผัดซีอิ๊ว ข้าวมันไก่ กระเพราไก่ไข่ดาวราดข้าว ข้าวผัดแฮม ฯเพื่อเรียกความสุขจากการกินของเหล่านี้กลับคืนมา ส่วนมื้อเที่ยงก็คงต้องยึดเมนูประเภทแคลอรี่ไม่เกิน 200 แคลอรี่ และก็ควรกินอย่างนี้สักประมาณ 2 เดือนเพื่อปรับให้เรามีความสุขกับการกินอาหารทั้ง 2 แบบ



                                ผมเลยสรุปว่าตอนนี้ผมมีความเสี่ยงต่อโยโย่ประมาณ 10 % แต่มีความเสี่ยงต่อบูเลเมียประมาณ 30% ทั้งสองอย่างยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่ในอัตราที่ต่ำ แต่ยังไงก็ประมาทไม่ได้ครับผม



                                หลังจากผ่านประสบการณ์ลดน้ำหนักมา 4 เดือน ผมมีความรู้สึกว่าถ้าคนที่เคยอ้วนอย่างผมจะปรับปรุงบุคลิกภาพทั้งหมดโดยรวมแล้วน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีครับ โดยแบ่งเป็น 3 ช่วงๆละ 4 เดือน ได้แก่



    1. ช่วงแรกของผมก็ผ่านมาแล้วครับตั้งแต่ 1 ก.พ. 48 - 31 พ.ค. 48 ซึ่งถือเป็นช่วงลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ทำร้ายตัวเอง โดยควบคุมการกินและการออกกำลังกาย ตอนปลายของช่วงนี้มีการยกดัมเบลเสริมด้วย



    2. ช่วงที่ 2 นี้สำหรับผมก็คงประมาณเดือน มิ.ย. 48 - ก.ย. 48 ซึ่งเป็นช่วงปรับสมดุลในการกิน เฝ้าระวังความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโยโย่ เอฟเฟ็กต์ และบูเลเมีย และเป็นช่วงที่ออกกำลังกายเหมือนเดิม แต่ต้องเพิ่มการยกดัมเบลและเล่นเวทอย่างต่อเนื่อง จากการที่ผมยกดัมเบลมาเกือบ 10 วันแล้ว ตรงต้นแขนเริ่มรู้สึกว่าจะมีกล้ามขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว ผมค่อนข้างโชคดีที่ทำอะไรพวกนี้แล้วจะเห็นผลค่อนข้างไว แต่ถ้าจะให้มันสมบูรณ์ก็คงต้องใช้เวลาอีกนาน



    3. ช่วงที่ 3 ประมาณเดือน ต.ค. 48 - ม.ค. 49 เป็นช่วงที่ต้องเล่นเวทเพื่อกระชับสัดส่วน และประเมินความเสี่ยงของการเกิดโยโย่และบูเลเมียเป็นครั้งสุดท้าย



                                เนื่องจากโปรแกรมใหม่ที่เพิ่งคิดได้นี้เป็นการเปลี่ยนบุคลิกภาพของผู้ชายที่อ้วนประมาณ 107 กก. ให้กลายเป็นคนใหม่ที่รูปร่างได้สัดส่วนและมีจิตใจที่แจ่มใส มองโลกในแง่ดีและเต็มใจที่จะรับใช้สังคม ผมเลยตั้งชื่อโปรแกรมนี้ว่า The One โดยคำว่า One นั้นย่อมาจากคำว่า One-year New Elite ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนบุคลิกให้กลายเป็นคนใหม่ภายใน 1 ปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นเวลาที่ไม่นานเลย สำหรับผมเองนั้น มีอะไรที่จะต้องจัดการอีก 8 เดือน การที่ผมทำแบบนี้อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้ผู้ชายที่หนักประมาณ 105-110 กก. ถ้าเขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นมา 1 ปีเป็นเวลาที่น่าจะพอสำหรับพวกเขาครับ รวมทั้งคนกลุ่มอื่นก็น่าที่จะนำวิธีนี้ไปประยุกต์ใช้ได้ด้วย ก็โปรดติดตามกันต่อไปครับว่า ผมจะทำสำเร็จหรือไม่ ตลอด 8 เดือนนี้จะมีอุปสรรคอะไรมาขวางทางอีกหรือไม่ ถ้ามีผมจะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร โปรดติดตามในตอนต่อไปครับผม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×