ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

ลำดับตอนที่ #44 : เคล็ดลับการออกกำลังกาย

                                   หมายเหตุ เขียนวันที่ 9 พ.ค. 48                   หนัก 77.7 กิโลกรัม







                                  วันนี้ตัวเลขน้ำหนักดูจะสวยเป็นพิเศษนะครับ เพราะผมจะค่อยๆประคับประคองไว้ อยากให้วันพุธที่ 11 นี้ซึ่งเป็นวันที่ผมเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักของตัวเองมาได้ครบ 100 วันพอดีเป็นวันที่ผมหนัก 77.0 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นการลดน้ำหนักไปทั้งสิ้น 30 กิโลกรัมพอดีเป๊ะ คาดว่าน่าจะถึงนะครับ



                                  วันนี้อยากจะมาพูดเกี่ยวกับเคล็ดลับการออกกำลังกายโดยเฉพาะครับ เพราะผมคิดว่าที่ผมลดน้ำหนักมาได้ตลอด 98 วันอย่างมีความสุขพอประมาณนั้น การออกกำลังกายที่ผมทำมาตลอดมีส่วนช่วยอย่างมากทีเดียวที่ทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี สิ่งที่ผมทำมาตลอดเกือบ 100 วันมี 3 อย่างครับที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนใช้กันมาตลอดคือ เดินประมาณวันละ 2 ชั่วโมง (60%) หรือเดินขึ้น-ลงบันไดประมาณวันละ 40 นาที (30%) หรือเต้นแอโรบิคประมาณวันละ 1 ชั่วโมง (10%) การออกกำลังกายทั้ง 3 อย่างนี้ถือเป็นการออกกำลังกายที่ผมถนัดที่สุดแล้วล่ะครับ จะให้ผมไปวิ่งหรือเล่นกีฬาอย่างอื่นคงไม่ไหวแน่เพราะไม่เคยชินครับ ผมมีประวัติเป็นโรคหอบหืดอย่างรุนแรงตั้งแต่จำความได้จนถึงอายุ 16 ปี เลยแทบจะไม่มีทักษะทางกีฬาเลย และก็แทบจะไม่ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเลย



                                  ถ้าดูการออกกำลังกายด้วยวิธีการเดิน นับว่าเส้นทางที่ผมเลือกนั้นถือว่าใช้ได้ทีเดียว มันทำให้ผมไม่เบื่อและไม่เหนื่อยจนเกินไป และยังเอื้อให้ผมเดินแบบสลับได้ด้วย ส่วนใหญ่ผมจะเริ่มเดินเวลา 19.00-20.00น. ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่ค่อยจะมีรถมากแล้วและแดดไม่ร้อนด้วย ตอนที่เริ่มเดินจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่นั้น ตอนแรกผมก็เดินเร็วได้ตามใจปรารถนา พอผ่านโค้งนาซ่าก็อาจจะเริ่มรู้สึกเบื่อนิดนึง แต่พอเริ่มเข้าตรงถนนหน้ารามที่มีคนมาขายของกันเยอะๆ ผมก็รู้สึกมีสีสันมากขึ้น เดินไปดูของไปด้วย ช่วงนี้ผมจะเดินช้าลงหน่อย มีหลายครั้งที่แวะเข้าห้องน้ำที่โรงหนังเมเจอร์รามฯ แล้วก็ออกมาเดินดูของต่อ พอพ้นช่วงนี้ไปก็จะเดินเร็วได้อีกจนถึงแยกลำสาลี พอถึงตลาดบางกะปิประมาณ 21.00-22.00น. ผมก็จะรู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้งกับการเดินชมตลาดเล่นๆก่อนขึ้นรถเมล์กลับบ้าน



                                  ส่วนการเดินขึ้น-ลงบันไดนั้น นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีตั้งแต่แรกที่ผมใช้วิธีเดินประกอบเพลงไปด้วย เพราะมันทำให้คึกคักยิ่งขึ้น แล้วซีดีที่ได้มาตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักสักเท่าไหร่คือซีดีชุด sleepless society ตอนที่ได้ซีดีนี้มา เพลงต่างๆในซีดีแผ่นนี้ยังไม่มีใครรู้จักเลยแต่ตอนนี้เพลง \"เรื่องบนเตียง\"ก็ได้เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายๆคนแล้ว ที่ผมชอบที่สุดตอนนี้ก็คือเพลง \"เรื่องบนเตียง\"  \"หมอนสองใบกับใจเหงาๆ\" และ \"ใต้แสงเทียน\" ซีดีชุดนี้นับว่าเหมาะมากเพราะเป็นเพลงที่ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป เหมาะแก่การเอามาประกอบการเดินขึ้น-ลงบันไดเป็นอย่างยิ่ง ส่วนการเต้นแอโรบิคนั้น ช่วงหลังๆผมจะตัดออกไปเลย เพราะไม่ค่อยสนุกแล้ว ผมไม่ค่อยได้ใช้สักเท่าไหร่



                                 ที่อยากจะบอกคือการออกกำลังกายนั้นสำคัญอย่างยิ่งต่อการลดน้ำหนักแบบที่ผมทำ ผู้ที่จะลดควรเลือกการออกกำลังกายที่ตัวเองชอบสัก 2-3 อย่างเอาไว้หมุนเวียนไม่ให้เบื่อ แล้วพยายามเติมสีสันอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้เราทำมันได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจนมันกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา แล้วพอเราอายุมากขึ้นมันจะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้เราอย่างง่ายดาย สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็คงพอจะรู้ครับว่าเวลาเหงื่อออกแล้วมันโล่งขนาดไหน สามารถใช้เป็นที่ระบายความเครียดก็ได้และยังทำให้จิตใจแจ่มใสอีกต่างหาก เคล็ดลับสำคัญอีกอย่างคือต้องไม่หักโหมเกินไปจนมีผลเสียต่อร่างกายของตัวเอง



                                  ผมรู้สึกว่าการลดน้ำหนักแบบที่ผมกำลังทำอยู่นี้ทำให้ไม่เพลีย แต่ทำให้เกิดพลังบางอย่างจากภายใน ทำให้เราเป็นคนที่ active ขึ้นและสามารถที่จะรับมือกับปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆที่มีเข้ามาในแต่ละวันได้ดีขึ้น นั่นแหละครับคือกำไรที่ได้นอกจากการที่น้ำหนักตัวลดไปแล้ว มันสุดยอดจริงๆเลยครับผม