ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

ลำดับตอนที่ #97 : สาระน่ารู้เกี่ยวกับท้องผูกครับผม

                    บทความชุดนี้ก็เกิดขึ้นมาด้วยความห่วงใยน้องๆบางคนที่งดแป้งแต่ดันท้องผูก แถมกินพวกอาหารที่มีกากก็ยังไม่หายอีก ผมเลยรวบรวมเกร็ดดีๆเรื่องนี้จากเว็บไซด์ต่างๆมาฝากครับ น่าแปลกที่ผมไม่เคยประสบปัญหาท้องผูกมาก่อนเลยตั้งแต่มีการลดน้ำหนัก น่าแปลกจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม เราไปดูเกร็ดสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องท้องผูกกันเลยครับผม





                                                                                  ท้องผูก

                                                                                                                              โดย... สุธีรา







อาการท้องผูกเป็นปากประตูร้ายของโรคต่างๆ ตั้งแต่ลำไส้ระคายเคือง ท้องอืดเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว กลิ่นตัวแรง สิวฝ้า ปากเหม็น มะเร็งลำไส้ ฯลฯ



วิธีการป้องกันการเกิดอาการท้องผูกด้วยวิธีธรรมชาติ มีดังนี้

กินอาหารที่มีเส้นใยให้มาก

คนเราต้องการเส้นใยอาหารวันละ 25 กรัม อาหารที่พึ่งพิงได้มากที่สุดคือ ข้าวกล้อง เพราะข้าวกล้องมีเส้นใยอาหารสูง 1 ทัพพี มี 3.4 กรัม

กินผักพื้นบ้าน

เช่น มะเขือพวง สะเดา ขนุนอ่อน ใบบัวบก ผักพื้นบ้านมีใยอาหารมากกว่าผักสวน (คะน้า กวางตุ้ง)

หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีเส้นใย

เช่น ช็อกโกแลต เนยแข็ง เนื้อสัตว์ แป้ง และลูกกวาด

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การนั่งกินนอนกินทั้งวันจะทำให้ท้องผูก จึงควรออกกำลังกายประมาณ 30 นาที/ครั้ง/วัน เช่น เดิน วิ่ง กายบริหาร ปั่นจักรยาน ฯลฯ เพื่อช่วยให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว คลายท้องผูกได้

ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว

เพื่อให้เส้นใยอาหารพองตัว

ฝึกนิสัยการขับถ่ายให้เป็นเวลา



ตารางแสดงปริมาณเส้นใยอาหาร

ชนิดของอาหาร เส้นใย (กรัม/100 กรัม)

มะละกอ 0.5



แตงโม 0.2



ชมพู่ 0.2



กล้วยหอม 1.0



กล้วยน้ำว้า 0.6



ส้มเขียวหวาน 0.2



แอปเปิ้ล 0.7



องุ่น 0.9



ละมุด 1.4



ฝรั่ง 6.0



มะขาม 1.9



มะขามป้อม 2.4



ทุเรียน 1.4



มะเขือพวง 13.6



สะเดา 11.6



ใบเหมียง 8.8



ใบขี้เหล็ก 8.2





ดอกแค 7.2



ใบชะพลู 6.9





ขนุนอ่อน 6.7



ใบบัวบก 5.6





คะน้า 1.2



ข้าวขาว 1 ทัพพี = 0.4 กรัม

ข้าวกล้อง 1 ทัพพี = 3.4 กรัม

ผลไม้ 1 จาน มีกากใย ~ 2-3 กรัม

ผัก 1 จาน มีกากใย ~ 2.5 กรัม





หมายเหตุ   คัดมาจาก  http://advisor.anamai.moph.go.th/healthteen/health08.html





                                                                                  ท้องผูก



ท้องผูก หมายถึง อาการถ่ายอุจจาระลำบาก ซึ่งมักร่วมด้วยการมีอุจจาระแข็ง

กากอาหารที่เคลื่อนมาถึงลำไส้ใหญ่ใหม่ๆ จะยังค่อนข้างเหลวและมีน้ำอยู่มาก สำไส้ใหญ่จะดูดน้ำและสารบางอย่างกลับเข้าสู่ร่างกาย ทำให้อุจจาระแห้งขึ้นและเป็นรูปร่างหรือเป็นก้อนมากขึ้น ถ้าอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้นานๆ หรือร่างกายมีภาวะขาดน้ำ น้ำในลำไส้ใหญ่จะถูกดูดกลับมากขึ้น ทำให้อุจจาระแข็งยิ่งขึ้น

อาการท้องผูกอาจเกิดได้จากสาเหตุหลายประการ เช่น อุปนิสัยในการถ่ายอุจจาระ การขาดการ เคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย (เช่น ผู้ที่นั่งทำงานอยู่กับที่ทั้งวัน ผู้ป่วยที่นอนอยู่กับเตียงเป็นเวลานานๆ) รับประทานอาหารหรือยาบางอย่างที่ลดการเคลื่อนไหวของลำไส้ ขาดฮอร์โมนบางอย่าง (เช่น ฮอร์โมนของต่อมธัยรอยด์) ภาวะขาดน้ำ เป็นต้น



การรักษา อาการท้องผูกให้หายขาด คงต้องพิจารณาหาสาเหตุและแก้ไขให้ตรงจุดเป็นกรณีๆ ไป

การรักษาเฉพาะหน้าอาจทำได้โดย เพิ่มอาหารที่มีกากหรือเส้นใยมากขึ้น หรือ รับประทานยาระบาย หรือ สวนอุจจาระหรือเหน็บยาระบายทางทวารหนัก ไม่ควรรับประทานยาระบายบ่อยๆ เพราะจะทำให้ลำไส้เคยชินต่อยากระตุ้นได้ง่าย ทำให้ต้องรับประทานเป็นประจำและอาจต้องเพิ่มขนาดของยา ถ้าจำเป็นควรใช้การสวนหรือยาเหน็บทางทวารหนักจะดีกว่า



การป้องกัน

ฝึกถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา จะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายได้

รับประทานอาหารที่มีกากหรือเส้นใย เช่น ผัก ผลไม้ มากขึ้น

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อบริเวณท้อง

การไม่ถ่ายอุจจาระเพราะไม่มีกากอาหาร เนื่องจากรับประทานอาหารไม่ได้ หรือ รับประทานอาหารที่ไม่มีกาก ไม่เรียกว่าท้องผูก



หมายเหตุ    คัดมาจาก  http://www.kmitl.ac.th/health/art38-01.html





หวังว่าคงจะได้รับประโยชน์กันบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ