ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

ลำดับตอนที่ #130 : 10 วันหลังจากปีใหม่

                      10 ม.ค. 49                                                                         หนัก 84 กก.





                      จนแล้วจนรอดปัญหาเดิมๆก็ยังมีอยู่ครับ จนทำให้ผมประจักษ์กับตัวเองแล้วว่า วิถีการดำเนินชีวิตมีผลต่อการลดน้ำหนัก การที่น้ำหนักขึ้น และต่อสุขภาพจิตของเราด้วย เพราะช่วงนี้งานมากครับ จนทำให้เวลาที่จะออกกำลังกายก็แทบจะไม่มี และตอนที่ต้องนอนดึกและทำงานหนัก ผมก็อดกินไม่ได้ซะด้วยสิ คือเมื่อเดือน ก.พ. 48 มันไม่ค่อยมีงานเยอะเหมือนตอนนี้ จริงๆแล้วงานอาจารย์อย่างเดียวอาจจะไม่เยอะมาก แต่ผมมีงานวิจัยและงานเขียนด้วยครับ มันเลยออกจะมากไปหน่อย เพราะฉะนั้นการปรับระบบการทำงาน การปรับวิถีชีวิตก็ยังเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดในความคิดของผมในขณะนี้ คือถ้าเราไม่ปรับเราก็ต้องอ้วนขึ้นเรื่อยๆ



                      เมื่อ 2 วันก่อน ผมได้ไปเจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนปริญญาโท ทั้งคู่อ้วนกว่าเดิมมากจนน่าตกใจ เขาทักผมว่า \"ดีจังเลย ศุภสิทธิ์ไม่เปลี่ยนเลยนะ\" ผมเลยต้องชี้แจงไปว่าจริงๆแล้วผมเคยอ้วนถึง 107 กก. และตอนนี้เหลือ 83 กก. เพื่อนผมงงมากเลยว่าผมทำได้ไง ผมเลยบอกว่าให้ไปหาหนังสือมาอ่านดู ตอนแรกเขาไม่เชื่อกัน ผมก็เลยต้องเอารูปให้เขาดู ก็รูปใบเก่งนั่นแหละ มีอยู่ใบเดียวแหละครับ พอเขาเห็นรูปเขาตกใจกันใหญ่ แล้วก็บอกว่าจะไปหาหนังสือมาอ่าน พอพูดถึงหนังสือ ผมเลยนึกขึ้นได้ว่าที่ผมเอาฤกษ์วาเลนไทน์นั้น จริงๆต้องเรียกว่าฟลุ๊คมากกว่า เพราะถ้าไม่ทำในช่วงนั้น ผมอาจลดน้ำหนักไม่สำเร็จเลยก็เป็นได้ แสดงว่าช่วงที่ลดก็สำคัญมากเหมือนกัน



                     พอนึกถึงตอนนี้แล้ว เลยคิดถึงครั้งที่ผมลดน้ำหนักได้ดีแล้วมีน้องๆที่เป็นนักเรียนอยู่มาบอกว่า ทำไงดี หนูเรียนหนัก ผมเองก็บอกไปว่าให้หาเวลาโดยลืมนึกไปว่า ถ้าช่วงที่เรียนหนัก การหาเวลาแทบเป็นไปไม่ได้เลย แค่คุมให้น้ำหนักคงที่ก็พอแล้ว เรื่องแบบนี้ห้ามไปเปรียบเทียบกับเพื่อนคนอื่นประเภทเรียนหนักแล้วยิ่งผอมนะครับ เพราะมันคนละคนกัน เพื่อนผมสมัยก่อนก็มี เรียนหนักแล้วยิ่งผอม เพราะเวลาที่อดนอนหรืออ่านหนังสือมากๆ เขาจะไม่ค่อยอยากกินอะไร ผิดกับผมและคนอ้วนคนอื่นๆ ที่อยากกินโน่นกินนี่เต็มไปหมด จนตัวเองก็ยังงงว่ากินไปได้ยังไงวะ แต่ก็กินเข้าไปเยอะมากแทบจะพอๆกับปริมาณของหน้าหนังสือที่อ่านเลยล่ะ นึกแล้วสยองเนอะ



                     ลืมบอกไปครับว่า ขอบคุณที่ยังสนใจกันอยู่เพราะผมหายไปเกือบ 10 วัน นึกว่าบทความหล่นหายไปตามกาลเวลาซะแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังอยู่หน้าแรก อันนี้ต้องขอบคุณทุกท่านมากๆเลยครับ ผมขอบอกก่อนนะครับว่าที่ผมเคยบอกว่ากินขนมด้วยนั้น มันไม่เกี่ยวกับการที่ทำให้น้ำหนักขึ้นนะครับ แต่มันเกี่ยวกับการไม่มีเวลาออกกำลังกายกับการที่กินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและไขมันมากไปหน่อย แต่ก็ไม่รุ้จะทำไงเหมือนกันครับ เพราะตอนงานเยอะ พวกสลัดเอาไม่อยู่จริงๆ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเป็นเรื่องเชิงจิตวิทยาก็ไม่ทราบได้ พอเมื่อเช้าชั่งน้ำหนักได้ก็เลยคิดว่าเหลืออีกประมาณ 20 กว่าวันจะถึงดือน ก.พ. อีกแล้ว ขอแค่ประคับประคองน้ำหนักให้อยู่ประมาณ 84 กก.ก็แล้วกันครับ แล้วเดือน ก.พ.49 ค่อยว่ากันใหม่



                     หลังจากพยายามที่จะลดน้ำหนักอยู่หลายเดือนหลังจากเดือน มิ.ย. 48 มาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลดีเหมือนตอนเดือน ก.พ. 48-พ.ค. 48 ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมพอดี ตอนนี้ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ผมก็คงยึด 4 เดือนนี้แหละครับ สำหรับความพยายามครั้งใหม่ในการลดน้ำหนัก อย่างน้อยปีที่แล้วผมก็ลดลงได้ 33 กก. ปีนี้หนัก 84 กก. อยู่ต้องลองมาลุ้นดูครับว่าผมจะทำได้อีกรึเปล่า ผมเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นะ เอาเป็นว่า เดี๋ยวลองดูก็แล้วกันครับผม



                     ขอบคุณมากครับที่ยังติดตามและเป็นกำลังใจกันอยู่เสมอ