ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #123 : การลดน้ำหนักครั้งใหม่กับน้ำหนักตัว 86 กก.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.47K
      2
      1 ธ.ค. 48





                          วันที่ 1 ธ.ค. 48                                                                   หนัก 86 กก.







                          หลังจากไม่ได้ชั่งน้ำหนักมานาน พอชั่งเมื่อเช้านี้ก็ต้องพบกับตัวเลขประมาณ 86 กก. น่าแปลกที่ผมไม่ค่อยตกใจสักเท่าไหร่ จริงๆแล้วควรจะหงุดหงิดหรือเครียดกว่านี้ ที่สำคัญจากที่เคยบอกไว้ว่าจะพยายามคุมไม่ให้เกิน 80 แต่ในที่สุดก็คุมไม่อยู่ซะแล้ว หลังจากผ่านงานยุ่งๆและอุปสรรคบางอย่าง คิดว่าตอนนี้ก็พร้อมแล้วที่จะหันกลับมาลดน้ำหนักอีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต



                          แต่สำหรับการลดครั้งนี้นับว่าแตกต่างจากครั้งที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ที่ผ่านมาประมาณ 10 เดือนนั้น 4 เดือนแรกคือ ก.พ. - พ.ค.48 นับได้อย่างเป็นทางการว่าเป็นการลดน้ำหนักประมาณ 33 กก. ภายใน 4 เดือน หลังจากนั้นอีก 6 เดือน คือตั้งแต่ มิ.ย. - พ.ย. 48 ก็ไม่ได้เป็นการลดน้ำหนักแต่อย่างใด เพราะภาพรวมเสียด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ซึ่งจริงๆจะวิเคราะห์ให้ฟังอย่างละเอียดก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าควรจะวิเคราะห์ดีหรือไม่ เพราะบางคนอาจคิดว่าเป็นคำแก้ตัว



                         หลังจากเขียนไปได้ 2 ย่อหน้าก็ต้องบอกกันตามจริงล่ะว่า เครียดเหมือนกันนะ พอมาเห็นน้ำหนักของตัวเองเป็นแบบนี้ เอาวะ เครียดครับ แต่ยังไม่ถึงกับมาก ที่ผ่านมางานการทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยทุกประการ แต่หลังจากผ่านช่วงหน้าฝนไป น้ำหนักตัวก็ค่อยๆขึ้นมาตามภาพรวมที่เสีย ถึงวันนี้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น แต่อย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่าสิ่งที่เขียนในหนังสือผู้ชายพร่องมันเนยนั้นเป็นความจริงทุกประการ เมื่อไหร่ที่เราควบคุมภาพรวมได้ ทุกอย่างก็จะราบรื่น แต่เมื่อไหร่ภาพรวมเสีย ปัญหาก็จะตามมา



                        แต่พอถึงวันนี้ผมก็ประจักษ์กับตัวเองแล้วว่า ผมเป็นคนที่อ้วนง่ายมาก ถ้าไม่ระมัดระวัง และยิ่งมาอยู่ในสถานะตรงนี้แล้ว ความกดดันก็ยิ่งมีมากขึ้น เราลองมาทบทวนกันดีกว่า เอาตั้งแต่เริ่มแรกเลยว่าคนอย่างผมต้องรับความกดดันอะไรบ้าง เอาตั้งแต่ตอนที่น้ำหนักถีบตัวอย่างรวดเร็วจาก 95 ถึง 107 กก. สมัยก่อนนี้ คำแซวถึงรูปร่างของตัวเองต่างๆนานาก็มีเข้ามาไม่ขาดสาย พอมาค่อยๆลดลงจนเหลือ 74 ข้อสงสัยเกี่ยวกับว่าเป็นโรครึเปล่า เป็นเอดส์รึเปล่าก็เข้ามาไม่ขาดสายเช่นเดียวกัน





                       แล้วพอมาถึงตอนนี้ก็จะเข้าสู่การกดดันครั้งใหม่เมื่อมีการติติงกันเกิดขึ้นอีก และก็มีความคิดที่หลากหลายเข้ามากระทบเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการที่บอกว่า



    \"ทำไมไม่ระวังตัวเลย ประสบการณ์เก่าๆมันไม่ได้สอนอะไรเลยเหรอ\"

    \"ทำไมถึงปล่อยตัวแบบนี้นะ ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีเลย\"

    \"เริ่มป่องอีกแล้วนะคะ\"

    \"ท้องอีกแล้ว\"

    \"โยโย่ถามหา\"

    \"ป่านนี้คนที่รู้ข่าวและมีหนังสือผู้ชายพร่องมันเนยคงเขวี้ยงหนังสือทิ้งไปหมดแล้ว\"

    \"อีกไม่นานคงจะ 107 เท่าเดิม\"

    \"ทำไมถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีกนะ\"

    \"ไปคลิกตรงช่อง \"ลบทั้งเรื่องทิ้ง\"ในเว็บเด็กดีได้แล้ว\"

    \"เหตุการณ์ 4 เดือนนั้นคงเป็นเพียงเหตุบังเอิญทางประวัติศาสตร์ที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้นอีก\"

    \"แล้วอย่างนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน\"

    \"สมน้ำหน้าอยากซ่านัก\"

    \"อย่ามัวแต่ห่วงคนอื่นอยู่เลย ห่วงตัวเองเถอะ\"

    \"คงไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้วสำหรับคำว่า \"ผู้ชายพร่องมันเนย\"จบกันที\"



                      อืม ... จริงๆต้องบอกว่าพอเจอผลกระทบแบบนี้ก็ต้องเครียดล่ะครับ ถ้าบอกว่าไม่เครียดก็คงเป็นการโกหกกันมากเกินไป แต่ทำไงได้ครับ เมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้วก็ต้องเป็นไป ผมเคยบอกว่าสาเหตุสำคัญประการหนึ่งเพราะเป็นหน้าฝนที่ปัจจัยภายนอกโดนกระทบ ตอนนี้หน้าหนาวแล้ว และงานต่างๆก็ซาลง เพราะฉะนั้นการลดน้ำหนักครั้งใหม่ก็ควรเกิดขึ้น หลายคนพอรู้ข่าวนี้ก็มีความคิดว่า



    \"ยังอยากจะลดน้ำหนักอีกเหรอ ไม่เข็ดหรือยังไง\"

    \"จะทำยังไงต่อไปอีกล่ะ\"



                     หลายคนถึงกับบอกกับผมก่อนที่จะมาเขียนว่า \"ไม่ต้องบอกความจริงหรอก บอกไปเลยว่ายัง 79 กก.อยู่ ไม่มีใครเขามาเห็นหรอก บอกในสิ่งที่คนอยากได้ยินดีกว่า ถ้าบอกความจริงระวังหนังสือจะขายไม่ออกนะ\"



                    อืม ... ช่วยกันกดดันดีจัง คือไม่รู้สิครับว่าวันนี้ความรู้สึกของผมเองเป็นยังไง แต่ก็ไม่เป็นไร อีก 2 วันผมก็จะครบ 34 แล้ว ก็ไม่เป็นไร เฮ่อ ... ทำไมวันนี้เขียนวกวนไปมาน่ารำคาญจังเลยเนอะ



                    บอกตามตรงว่า วันนี้ว่างเป็นวันแรกหลังจากยุ่งมาหลายวัน ตอนแรกเลยกะว่าจะเข้ามาตอบคำถามให้จุใจไปเลย แต่พอรู้พิกัดน้ำหนักของตัวเองเมื่อเช้าก็คิดว่ายังไงก็ต้องมา \"เพิ่มตอนใหม่\" ซะก่อน ยอมรับครับว่าความมั่นใจหายไปเยอะทีเดียว ถ้าจะให้ไปตอบปัญหาที่ค้างอยู่ในวันนี้ มันจะยังไงอยู่เพราะตัวผมเองก็กำลังประสบปัญหาเหมือนกัน



                   แต่ยังไงก็คิดว่าวันที่ 3 ธ.ค. 48 นี้ก็จะมาตอบปัญหาตามปกติ ปีนี้ผมเลือกฉลองวันเกิดโดยการจะเข้ามาอัพเดทบทความทั้ง 4 บทความอย่างจุใจ คิดว่าน่าจะทำได้อย่างไม่มีปัญหา อืม ... ขนาดเขียนมาถึงบรรทัดนี้ต้องบอกว่ายังมีความรู้สึกแปลกๆอยู่เลย จริงๆแล้วก็หงุดหงิดชะมัด เหงา และสับสนไปหมด มันงงๆเหมือนกันนะ เวลาที่ห่างหายจากการชั่งน้ำหนักไปนาน พอกลับมาชั่งใหม่แล้วเห็นว่าตัวเองหนัก 86 กก.



                  ใครที่ยังอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้โปรดลืมบรรทัดแรกที่ผมเขียนว่า \"น่าแปลกที่ผมไม่ค่อยตกใจสักเท่าไหร่ จริงๆแล้วควรจะหงุดหงิดหรือเครียดกว่านี้ \"  เมื่อตะกี้นี้ที่เขียนอย่างนั้นไปก็เพราะว่ายังอยากจะรักษาหน้าตัวเองอยู่ครับ หรือคำว่า \"ผู้ชายพร่องมันเนย\" มันค้ำคออยู่ก็ไม่ทราบ ถึงเวลาที่จะต้องบอกกันตรงๆแล้วว่า \"เครียดมากครับ เครียดมากๆเลย\" และไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์ช่นนี้ขึ้น ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะเนี่ย หุ หุ คราวนี้เลย หุ ไม่ค่อยออกสักเท่าไหร่  



                  เฮ้อ ... ขอระบายไปเรื่อยๆนะถึงความสับสนบางอย่าง มีบางคนยุถึงขั้นให้คลิกคำว่า \"ลบทั้งเรื่องทิ้ง\" ได้แล้ว แต่คงไม่ต้องมั้ง มันไม่น่าจะซีเรียสถึงขนาดนั้น การทำอย่างนั้นผมว่ายังไงก็ไม่ดีเป็นแน่ คือยังไงก็ต้องอยู่ต่อมากกว่า อยู่เผชิญความจริงไงล่ะ และที่สำคัญผมว่าไม่ควรไปฟังคำพูดของคนบางคนมากจนเกินไป จริงไหมครับ มันจะอะไรนักหนา ก็แค่ผู้ชายวัยกลางคนๆหนึ่งที่เคยลดน้ำหนักได้ 33 กก. แต่พอ 6 เดือนให้หลังน้ำหนักขึ้นมาถึง 12 กก. มันก้แค่นั้น มันจะอะไรกันเชียว



                 คนไทยหลายคนยังเครียดกว่าเราตั้งเยอะ ไอ้เราเองมันเรื่องแค่นี้เอง ก็ไม่เห็นจะต้องไปเครียดอะไรเลย ทำเฉยๆซะก็หมดเรื่อง แต่ผมจะทำเฉยๆได้เหรอ หรือผมควรรับผิดชอบอะไรสักอย่าง หรือผมจะต้องทำยังไงดีนะ อืม ... หรือ ... อืม ตกลงวันนี้จะเขียนรู้เรื่องไหมเนี่ย เหอ เหอ  อืม ... ขนาดจะเหอยังเหอไม่ค่อยจะออกเลย อืม ... แล้ววันนี้จะจบบทความของตัวเองยังไงดีล่ะเนี่ย หรือจะเขียนอะไรต่อดี



                จริงๆแล้วผมก็ไม่ควรจะต้องมาคิดอะไรมากหรอกนะ ก็ควรทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปให้ดีที่สุด มรสุมต่างๆผ่านพ้นไปแล้ว และตอนนี้ก็ควรเริ่มลดน้ำหนักได้แล้ว ลดน้ำหนักคราวนี้ผมดูปอดๆกว่าคร้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วผมลดไปแล้วตั้ง 18 กก. ผมถึงเข้ามาเขียนบทความแบบย้อนหลัง แต่ครั้งนี้ผมต้องเขียนเล่าเหตุการณ์สดๆเลยเหรอ นึกๆแล้วก็น่าตื่นเต้นเหมือนกันนะ เริ่มต้นอะไรสดๆแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ผมไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย



                ทางที่ดีผมก็ทำหน้าท่เหมือนเดิมดีกว่า อะไรจะเกิดก็ให้ประชาชนคนอ่านเขาตัดสินเองก็แล้วกัน



                สรุปง่ายๆแค่ว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะลดน้ำหนักอีกครั้ง แต่ทำไมถึงมีความรู้สึกเหมือนกับว่าผมไม่เคยลดน้ำหนักมาก่อนเลยล่ะ มันกล้าๆกลัวๆยังไงบอกไม่ถูก และก็ยังสับสนไม่หายเลยนะ



                ทิ้งท้ายกันแบบไม่ต้องรักษาหน้ากันอีกต่อไปว่า วันนี้ผมเครียดมากเลยครับ...



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×