ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลงนี้.......ไม่เกี่ยวกับความรัก[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : บทเพลงที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 52


    "....แปลกสุดๆเลยนะเนี่ย พวกมึงจะไปวัดเนี่ยนะ" ฝุ่นพูดขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย เมื่อพวกวงรุ่นพี่สามคนมาบอกว่าอยากไปวัด

    "อย่ามาทำหน้างงหน่อยเลยไอ้ฝุ่น กูรู้สึกแย่จริงๆนะเว้ย" คิมทำหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด "มึงรู้จักวัดที่สะเดาะเคราะห์หรือไล่ผีใช่มั๊ยล่ะ บอกกูหน่อยเหอะ ถ้าให้ดีพากูไปหน่อยก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยว่ะ"

    "อืม... งั้นไปวัดที่กูเคยอยู่ไม๊ล่ะ หลวงพ่อที่กูรู้จักเขารับสะเดาะเคราะห์ไล่ผีอย่างที่มึงต้องการเลย แต่ไม่รู้ว่าสึกไปรึยังนะ"

    "เออไม่เป็นไรหรอก ไปวันไหนล่ะ พรุ่งนี้เลยได้ไม๊วะ"

    "ก็ได้ พรุ่งนี้กูหยุดงานที่ภัตตาคารพอดี ไปพรุ่งนี้ก็แล้วกัน" ฝุ่นสรุป "ถึงวัดซักบ่ายๆ เจอที่ไหนล่ะ"

    "เอางี้... คืนนี้พวกมึงค้างที่คอนโดกู" เฟริสแทรกขึ้น "กูจะได้ขับรถไปส่งทีเดียว ไม่ต้องนัดเจอให้มันวุ่นวาย"

    "จะยังไงก็ช่างเหอะ ไอ้ฝุ่น ตามึงแล้วแน่ะ" เอ๊กซ์ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆตั้งแต่แรกแทรกขึ้นอีกคน เมื่อคู่ดูโอหนุ่มสาวบนเวทีร้องเพลงสุดท้ายจบแล้ว

    ฝุ่นหิ้วกีตาร์คู่ใจเดินขึ้นไปบนเวทีพลางโปรยยิ้มให้กับเหล่าแฟนๆที่นั่งแถวหน้า เอ๊กซ์สังเกตว่าจำนวนแฟนคลับของฝุ่นรู้สึกจะเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อวานนิดหน่อย ชายหนุ่มผมชี้เสียบกีตาร์เข้ากับแอมป์แล้วเทสต์เสียงดูสักสองสามนาทีก่อนเกลากีตาร์เริ่มเพลง "คุณรู้ไหมครับ" ของเบิร์ด-เสก มันเป็นแนวในการเล่นเพลงของฝุ่นที่จะเริ่มจากเพลงเก่าก่อนแล้วค่อยๆเลื่อนเป็นเพลงใหม่ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงที่เพิ่งเปิดซิงเกิลล่าสุดเท่าที่ฝุ่นจะฝึกคอร์ดกีตาร์ทัน

    "นับวันมันยิ่งพัฒนานะไอ้นี่" เอ็กซ์พูดเบาๆในลำคอ เขาอดชื่นชมเจ้ารุ่นน้องคนนี้ไม่ได้ ทั้งๆที่ฝุ่นไม่ได้ลงเรียนดนตรีอย่างเป็นงานเป็นการเหมือนเขาแต่กลับสามารถแสดงสดบนเวทีได้ แสดงว่านอกจากมีพรสวรรค์แล้วยังขยันซ้อมอยู่ทุกวันไม่ได้ขาด "ทำไมมึงไม่ชวนไอ้ฝุ่นมาเข้าวงเราวะเฟริส"

    "ใครบอกไม่ชวน กูชวนแล้วชวนอีกตั้งหลายรอบแมร่งตอบว่าไม่อยากให้วงกูล่มเพราะมัน" เฟริสยกเหล้าขึ้นดื่มก่อนพูดต่อ "ถ้ามันตอบตกลงนะ กูจะส่งเสียให้มันเรียนดนตรีจริงๆจังๆซะ แล้วเอามันมาเข้าวงแบบถาวรไปนานแล้ว"

    "โอ้โห นี่มึงคิดจะเลี้ยงต้อยมันจริงๆงั้นสิ" คิมหัวเราะในคอ

    "ไม่ได้เลี้ยงต้อยเว้ยไอ้สัด"

    "แต่มึงชอบมันไม่ใช่รึไง ง่ายจะตาย แค่จับมันปล้ำซะขี้คร้านรึจะหลุดมือ บ้านมึงก็รวยจะตายห่า ขนาดพวกกูยังเลี้ยงได้เพิ่มไอ้ฝุ่นอีกคนจะเป็นไรไป" เอ๊กซ์พูดกับเฟริสด้วยสีหน้าจริงจังขัดกับน้ำเสียงทะเล้น "ที่มึงบอกจะให้ค้างที่คอนโดมึงเพราะอยากนอนกับไอ้ฝุ่นไม่ใช่เหรอ มึงก็ใช้โอกาสนี้เผด็จศึกซะสิ"

    "กูไม่เคยเลี้ยงพวกมึง ขืนให้ไอ้ตัวกินไก่อย่างพวกมึงมาเกาะกูป่านนี้กูล่มจมแล้วล่มจมอีกสิวะ"

    เฟริสพูดกับเอ็กซ์แต่สายตาของเขาจับจ้องคนที่อยู่บนเวทีไม่วางตา ห้องพักนักดนตรีอยู่เยื้องกับเวทีทำให้เฟริสมองเห็นฝุ่นจากด้านข้างชัดเจน เด็กหนุ่มที่ร้องเพลงอยู่เหมือนกับหลุดไปในห้วงอะไรสักอย่างตามบทเพลงที่เขาขับขาน มันดึงอารมณคนในผับให้คล้อยตามอย่างง่ายดาย พรสวรรค์จุดนี้ของฝุ่นช่างน่าเสียดายถ้าจะปล่อยมันไปเฉยๆโดยไม่ขัดเกลา แต่เมื่อเจ้าตัวปฏิเสธแบบนั้นเฟริสก็ไม่มีปัญญาจะฉุดกระชากฝุ่นมาร่วมทางกับเขาได้

    "ดูสิ... ยังด่าไอ้เอ็กซ์ไม่ทันจบเลยหันไปเพ้อถึงไอ้ฝุ่นซะแล้ว" คิมหัวเราะในคอ แต่เอ็กซ์หัวเราะก๊ากด้วยความสะใจ

    "เออ มึงไม่โดนมั่งให้มันรู้ไป" เฟริสหันมาด่าคิม

    "โดนไรวะ กูไม่ได้หลงสเน่ห์ไอ้ฝุ่นเหมือนมึงนี่"

    "....เปล่า กูพูดเล่น" คุณหัวหน้าวงเกือบหลุดปากเรื่องพี่ชายของเขาไปซะแล้ว ถ้าขืนให้คิมรู้ความรู้สึกของพี่ชายเขา จะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่อยากคิดแต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ "เดี๋ยวกูไปโทรหาพี่กูก่อนว่าจะพาพวกมึงเข้าบ้าน แป๊บ"

    "หยั่งกับเด็กที่ต้องขอพ่อแม่พาเพื่อนไปบ้านงั้นแหละ" คิมกัดไล่เฟริสหลังไป
    ...........................................................................................

    หลังจากการแสดงของฝุ่นจบ ทั้งสี่คนก็มุ่งหน้ามาที่คอนโดของเฟริสที่มีพี่กฤตคอยต้อนรับอยู่ สำหรับฝุ่นแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มายังคอนโดสุดหรูแบบนี้ แต่ที่เกร็งกว่าคือพี่ชายของรุ่นพี่ที่ได้ข่าวว่าเป็นถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ตั้งแต่ยังหนุ่มมากๆ

    "พี่มึงเป็นคนยังไงวะไอ้เฟริส" ฝุ่นถามขึ้นขณะทั้งสี่อยู่ในรถคันหรู

    "มึงอย่ากังวลมาก พี่กูเป็นคนไม่ใช่หมา เขาไม่กัดมึงหรอก" เฟริสหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของฝุ่น

    "ก็กูกลัวนี่หว่า คนระดับนั้นขืนกูไปทำอะไรขายหน้าเค้าก็โกรธเอาดิวะ"

    "เหย... พี่ไอ้เฟริสน่ะไม่น่ากลัวหรอกกูรับประกัน ใจดีโคตรๆด้วยนะมึง ขนาดพวกกูไปเมาซะเละเทะที่คอนโดพี่แกยังไม่ว่าซักแอะ" เอ็กซ์พูดขึ้น

    "มึงน่ะตัวดีเลย ก็มึงเล่นเมาแล้วหลับเป็นศพอยู่คนเดียวน่ะสิ ร้อนถึงกูกับไอ้เฟริสต้องหามมึงไปนอนแถมช่วยพี่กฤตเก็บกวาดอ้วกมึงอีกไอ้ควาย" คิมทักท้วงแล้วด่าเอ็กซ์

    "มึงก็เหมือนกัน พอเก็บขวดเหล้าเสร็จมึงก็ล้มคว่ำอ้วกแตกไปอีกคน ร้อนถึงกูกับพี่กูต้องแบกมึงไปนอน ไอ้เหี้ย" เฟริสด่าคิมกลับ

    "แต่คราวนี้กูขอเหอะนะ พวกมึงห้ามเมา พรุ่งนี้เช้าพวกมึงต้องไปซื้อสังฆทานนะโว๊ย ทำตัวแย่ๆเดี๋ยวหลวงพ่อไม่สะเดาะเคราะห์ให้กูไม่รู้นะ" ฝุ่นพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าไม่ดี

    "รู้แล้วๆ จะให้ทำอะไรกูก็ยอมทั้งนั้นแหละไอ้เชี่ยฝุ่น ขอให้กูได้หลุดพ้นผีๆสางๆนี่กูยอมถวายให้หมดเลย" คิมพูด เขาไม่เคยลองดีกับเรื่องที่มองไม่เห็นด้วยตาและไม่เคยอับอายที่จะประกาศว่าตัวเองกลัวเรื่องแบบนี้ที่สุด

    "พวกมึงนี่พูดมากจริง ดูซิ ถึงแล้วเห็นไม๊เนี่ย" เฟริสได้ด่าเป็นคนสุดท้ายก่อนจอดรถในที่ๆกันไว้เฉพาะคันนี้ของเขาเท่านั้น
    ....................................................................................

    ทั้งสี่หนุ่มขึ้นลิฟต์แก้วไปสู่ชั้น 28 โดยที่ฝุ่นทำท่าตื่นเต้นจนรุ่นพี่ทั้งสามอดขำไม่ได้ และยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีกเมื่อได้พบตัวจริงของชายหนุ่มที่ชื่อกฤต ซึ่งตอนนี้ใส่แว่นอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาแล้วยิ้มอย่างใจดีมาที่สี่หนุ่ม

    "ไง กลับดึกเหมือนเคยเลยนะ รู้สึกมีคนไม่คุ้นหน้าคนนึงนี่นา"

    "หวัดดีพี่ หมอนี่ชื่อฝุ่นไง ที่เล่าให้ฟังว่าเป็นรุ่นน้องที่ทำงานที่เดียวกัน ฝีมือเล่นกีตาร์งี้ใช้ได้เลยนะ" เฟริสพูดขึ้นแล้วเดินมานั่งข้างๆพี่ชาย "พวกมึงยืนเอ๋อทำไมวะ เอาของวางไว้นี่แล้วไปนั่ง" หัวหน้าวงสั่งการลูกทีมที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกอย่างวิสาสะ ผิดกับฝุ่นที่แทบจะไม่ยืดหลังตรงด้วยเกรงบารมีของประธานบริษัทหนุ่มแน่นที่นั่งอยู่บนโซฟา

    "เอ่อ... สวัสดีครับ ผมชื่อฝุ่นครับ"

    "ฮะฮะฮะ ไม่ต้องทำท่าเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ครับ พี่ไม่กัดหรอก" รอยยิ้มอบอุ่นผสมความรู้สึกขันในตัวคนอายุน้อยกว่าที่ทำกับเขาเหมือนอยู่กับญาติผู้ใหญ่จอมเข้มงวด

    เด็กหนุ่มหัวชี้ถึงกับอึ้งในรอยยิ้มนั่น รอยยิ้มที่ดูเป็นกันเองแต่อบอุ่นเหมือนพี่ชายใจดี ทั้งสายตาที่มองลอดแว่นออกมานั้นเหมือนช่วยให้ฝุ่นรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

    "เอ่อ... ครับ" ฝุ่นก้มหน้าพูดตอบอย่างอายๆ แก้มของเขาแดงขึ้นกว่าเดิมจนเฟริสสังเกตได้

    "แล้วพวกแกซื้ออะไรกันมาเยอะแยะ จะกินเหล้าอีกรึไง" กฤตหันไปถามน้องชาย 

    "ไม่ๆ วันนี้พวกผมอดวันนึง พรุ่งนี้จะไปวัดน่ะ เห็นไอ้คิมมันบอกว่ามันโดนผีอำ" น้องชายตอบ "ไอ้ของที่ซื้อเยอะๆนี่มันสเบียงพรุ่งนี้เช้าน่ะ พรุ่งนี้พี่ไม่ได้ไปทำงานใช่ป่ะ งั้นล้างคอเตรียมไว้ได้เลย"

    "จะทำอะไรวะ"

    "ขอแนะนำอีกรอบ... ไอ้หมอนี่ชื่อฝุ่น เป็นรุ่นน้องที่ทำงานที่เดียวกับผมคือร้องเพลงเล่นกีตาร์ในผับ แต่ตอนกลางวันมันเป็นผู้ช่วยเชฟที่ภัตตาคารอาหารอิตาลีในโรงแรมแถวๆสีลม" เฟริสยิ้มให้กับพี่ชายที่ทำตาโตด้วยความทึ่ง "เพราะฉะนั้น อาหารเช้าพรุ่งนี้มันจะแสดงฝีมือทำกับข้าวให้พวกเราแบบฟรีๆ ใช่ไม๊วะพวกมึง"

    "ช่ายยย!!!!!" เอ็กซ์กับคิมประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง

    "โอ้โห จริงเหรอครับเนี่ย ดูไม่ออกเลยนะว่าน้องทำอาหารเก่งขนาดนั้น" กฤตหันมายิ้มชื่นชมฝุ่นที่เกาแก้มแบบเขินๆจนหน้าแดงขึ้นอีก

    "ก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอกครับ... ยังเป็นแค่ลูกมือเขาอยู่เลย"

    "เก่งไม่เก่งเดี๋ยวพี่กินก็จะรู้เอง" เฟริสดูท่าทางจะภูมิใจในตัวฝุ่นมาก "วันนี้ไปหลับไปนอนกันได้แล้วเจ้าพวกงี่เง่าทั้งหลาย เหมือนเดิม คิมมึงไปนอนกับพี่กู ไอ้เอ็กซ์โซฟา ส่วนฝุ่นมึงมานอนกับกู"

    "ไอ้เหรี้ย!!!! ให้กูนอนโซฟาอีกแล้ว รังเกียจอะไรกูวะ" เอ็กซ์โวยวายกับคำสั่งเผด็จการของหัวหน้าวง

    "มึงน่ะกรนดังสนั่นเวลานอนทุกทีรู้ตัวรึเปล่าวะ นอนกับมึงทีไรตากูเป็นหมีทุกที ถ้าไม่อยากโดนตีนก็ทำตามซะเหอะ"

    เอ็กซ์เดินเข้ามาใกล้เฟริสแล้วจงใจพูดเบาๆ "มึงไล่กูมานอนโซฟาเพราะอยากนอนกับไอ้ฝุ่นสองคนสินะ ไอ้เหี้ย ฉวยโอกาสนะมึงเนี่ย"

    "เออ รู้แล้วก็อย่าโวยวายให้มากนัก หรือมึงจะนอนกับพี่กูล่ะ" เฟริสกระซิบตอบ แต่เขารู้ดีว่าเอ็กซ์ต้องปฏิเสธ

    "ไม่เอาว่ะ กูเกรงใจพี่มึง...." เป็นดังที่เฟริสคาด เอ็กซ์ไม่กล้ารบกวนพี่กฤตเพราะเขาชอบทำความเดือดร้อนให้อีกฝ่ายตอนเมาอยู่เรื่อย เอ็กซ์เองก็รู้ตัวดีว่าขืนกรนสนั่นในห้องคุณพี่ล่ะก็ขันติของกฤตอาจกลายเป็นขันแตกได้

    "งั้นตกลงกันได้แล้วใช่ป่ะ พี่กฤตครับผมขออาบน้ำก่อนนะครับ" คิมพูดด้วยรอยยิ้มให้พี่ชายของหัวหน้าวงที่พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ แล้วก็หันมายักคิ้วให้น้องชายแทนคำว่า ขอบใจมาก ซึ่งเฟริสก็ยักคิ้วให้เช่นกันอย่างรู้ใจ
    ......................................................................................................................

    ในห้องของเฟริส หลังจากทุกคนอาบน้ำเตรียมเข้านอน นาฬิกาบนผนังห้องบอกเวลาเกือบจะตีสามเข้าไปแล้ว แต่ไฟในห้องยังไม่ปิด ฝุ่นนั่งอยู่บนเตียงกว้างขนาด 6 x 6 ฟุตที่ดูหรูหราทำจากไม้ชั้นดีและที่นอนนุ่มท่าทางจะราคาแพง เขามองไปมองมาในห้องรกๆของเฟริสที่มีหนังสือเพลงกระจัดกระจาย ตู้เสื้อผ้าที่แขวนผ้าขนหนูไว้ลวกๆ และกองอะไรเยอะแยะที่ไม่สามารถบรรยายได้ถ้าไม่เข้าไปรื้อออกมาดู

    "ห้องมึงนี่... กว้างกว่าห้องกูสี่ห้องรวมกันอีก...." ฝุ่นพูดด้วยความทึ่ง

    "เออน่า กว้างแค่ไหนกูก็ทำให้เหลือไม่ถึงครึ่งห้องมึงได้ละกัน ข้าวของกูเยอะ" เฟริสที่เช็ดผมตัวเองอยู่หน้ากระจกตอบ

    "ว่าแต่ ปกติพวกคิมกับเอ็กซ์มาค้างที่นี่บ่อยรึไง"

    "ประจำแหละ"

    "แล้วคิมนอนที่ห้องพี่มึงประจำรึไง"

    "..... เปล่า ถามไมวะ" เฟริสหันมามองหน้าฝุ่นด้วยความสงสัย

    "ก็เห็นพี่กฤตทำเหมือนเป็นเรื่องปกตินี่ แปลกดี เค้าสนิทกันขนาดไหนวะ"

    "ทำไม มึงอยากไปนอนกับพี่กูเหรอ" 

    "แค่สงสัย"

    "....." เฟริสครุ่นคิดว่าจะตอบเจ้าหนุ่มตรงหน้าว่าอย่างไรดี เพราะความเป็นจริงแล้วเวลาที่ลูกทีมทั้งสองมานอนค้างที่นี่ มักจะเมากันหัวราน้ำจนต้องให้กฤตกับเฟริสแบกหามไปนอน เอ็กซ์ได้นอนตรงโซฟาเพราะกรน แต่คิมได้นอนในห้องพี่กฤตเพราะ..... จะตอบว่าเพราะห้องเขารกมันก็ไม่ได้ซะด้วย ในเมื่อฝุ่นยังมานอนได้กะอีแค่คิมทำไมจะนอนไม่ได้ 

    "เพราะมันแพ้ฝุ่นในห้องกูไง พี่กูเลยยอมให้มันนอนในห้องตัวเอง...." เฟริสโกหกหน้าตาย สงสัยคราวหน้าต้องไปเตี๊ยมกับพี่ซะแล้ว "แต่มึงไม่แพ้ไม่ใช่เหรอ หรือมึงจะไปนอนฟังไอ้เอ็กซ์มันกล่อม เสียงงี้ดังลั่นเลยนะโว๊ย"

    "ไม่ล่ะขอบใจ ...ฮ้าววว..... กูง่วงแล้วว่ะ ที่นอนมึงนี่ทำให้กูง่วงสุดๆ ขอนอนก่อนล่ะ" ฝุ่นไม่รอให้เฟริสตอบตกลง เขาจุ่มหน้าลงกับหมอนแล้วหลับตาปี๋ "มึงง่ะมานอนเร็วๆ พรุ่งนี้เช้ากูต้องตื่นไปทำกับข้าวให้พวกมึงอีก ข้าวของบ้านมึงอยู่ไหนมั่งกูก็ไม่รู้ มึงต้องตื่นไปช่วยกูนะ"

    เฟริสยิ้มหน้าบานเมื่อไม่อยู่ในสายตาของฝุ่น จริงๆเขาพยายามกลั้นยิ้มไว้แทบตายตั้งแต่ที่ชวนฝุ่นมานอนค้างสำเร็จเพราะไม่อยากให้เพื่อนร่วมวงทั้งสองแซวจนเขาหลุด แล้วยิ่งเสียงตอนง่วงๆของอีกฝ่ายกับคำพูดที่ว่า "มานอนเร็วๆ" โดยที่อีกฝ่ายอยู่บนเตียงเหมือนกับจะเชิญชวนเขาให้ลงไปขยำขยี้ได้ตามใจชอบ

    ........อย่าพูดแบบนี้สิวะ เดี๋ยวกูอดใจไม่ไหวนะเว้ย...... 

    มือหยาบกร้านของเฟริสเอื้อมปิดไฟที่อยู่ข้างเตียง แล้วซุกตัวลงนอนในผ้าห่มผืนเดียวกับฝุ่น ใจจริงเฟริสอยากคว้าตัวคนข้างๆมากอดไว้เหลือเกิน แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงขยี้ผมฟูๆของฝุ่นและแอบสัมผัสใบหูเล็กๆนั่นเท่านั้น ผู้เป็นเจ้าบ้านยื่นหน้าเข้าไปใกล้ซอกคออีกฝ่ายที่นอนตะแคงหันหลังให้เขาแล้วสูดกลิ่นแชมพูจางๆจนเต็มปอดโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว 

    "ฝันดีนะ ไอ้ฝุ่น ...(กูรักมึง)"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×