คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ณรงค์เดช5
แต่เรื่องที่ต้องการให้จบ มันก็กลับไม่จบดังหวัง เที่ยงจวนจะครึ่ง น่าตลกที่นักเรียนหญิงยังคงทยอยเข้ามาในโรงอาหารเรื่อยๆ เหมือนจะไม่รู้หมด ถ้าเป็นเช่นนี้ แล้วคำว่า ’ทีหลัง’ มันจะมาถึงเมื่อใดกัน? ความรู้สึกหิวเริ่มเบาบางลงเรื่อยๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเนื้อตัวของณรงค์เดชเริ่มเย็นชืด มือของเด็กชายเริ่มสั่น เรี่ยวแรงเริ่มถดถอย
“รู้งี้กินข้าวเช้ามาก็ดี” เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อยามเช้า เมื่อจารินทร์ผู้เป็นน้าบอกให้เขากินอาหารก่อนไปโรงเรียน แต่เด็กหนุ่มปฏิเสธ โชคยังดีที่ทุกการรอคอยย่อมมีการสิ้นสุด เมื่อเทวดาฟ้าดินยังปราณี
“อ้าวพ่อหนูคนนั้น เห็นมาตั้งนานแล้ว ยังไม่กินอีกเหรอ” เสียงแม่ครัวตะโกนแหวกอากาศถาม แต่ก็ไม่ได้ต้องการคำตอบ เธอตะโกนถามไปอย่างนั้นแล้วกวักมือเรียก “มานี่ มานี่ มาเอาข้าวไป”
ณรงค์เดชลุกขึ้นแล้วเดินไปตามเสียงเรียก เมื่อแน่ใจว่าพ่อหนูที่ป้าคนนั้นหมายถึงคือเขา แต่ทว่าเพียงแค่อีกไม่กี่ก้าวก็จวนจะได้ถาดอาหาร เด็กชายก็รู้สึกเหมือนแสงสว่างรอบตัวดับวูบ ก่อนที่หัวสมองจะขาวโพลน ณรงค์เดชสิ้นสติล้มลงไปกองอยู่กับพื้น เมื่อพลังงานเฮือกสุดท้ายถูกเผาผลาญจนสิ้นซาก
“อย่าเพิ่งลุก” เสียงร้องห้ามดูเหมือนจะไร้ความหมาย เมื่อณรงค์เดชดีดตัวขึ้นนั่งอยู่ฉับพลัน หลังจากที่ตกใจตื่น อันเนื่องมาจากกลิ้นฉุนกึกของแอมโมเนียที่ถูกจ่ออยู่ที่ปลายจมูก แต่ว่าไม่นานนักเขาก็รู้สึกถึงความวูบที่มาเยือนอีกครั้ง เด็กหนุ่มเอามือทั้งสองข้างกุมศีรษะด้วยความมึนที่แล่นขึ้นสมอง
“หิวจนเป็นลม เฮ้อ....” เสียงบ่นตามมาด้วยถอนใจยาว ราวกับจะบอกว่าอีกแล้ว ณรงค์เดชหันไปมองตามเสียงนั้น แม่ชีวัยกลางคนสวมแว่นตาหนาเตอะใบหน้าเฉยชาไร้อารมณ์นั่งอยู่ข้างๆ เด็กชายตกใจอีกครั้ง เมื่อรู้ตัวว่าตนเองตื่นขึ้นมาในที่ๆ ไม่คุ้นตา เขามองไปรอบๆ เพื่อค้นหาคำตอบ ที่นี่ไม่ใช่ห้องเรียน ไม่ใช่โรงอาหาร และไม่ใช่ห้องในบ้านพักครู ความทรงจำสุดท้าย....
“ที่นี่ห้องพยาบาล” คุณแม่ชีแว่นหนาหน้าตายตอบออกมาเสียเอง โดยไม่ต้องรอให้ใครคิดจบ ด้วยความรู้สึกสมเพชในเด็กหนุ่ม “จริงๆ เลยเด็กพวกนี้ ไม่ชอบกินข้าวเช้า แล้วพากันมาเป็นลมที่โรงเรียน เดือดร้อนคนไปทั่ว” เธอบ่นขึ้นมาอีกระลอก มาแมร์วัยกลางคนนึกถึงเหล่าบรรดาภารโรงชายช่วยกันหามณรงค์เดชมาส่งห้องพยาบาลอย่างโกลาหนและลำบากากเย็น อันเนื่องมาจากร่างกายอันสูงยาวผิดมาตราฐานชายไทยในปีพ.ศ. 2529 เป็นเหตุ แน่นอน มันก็ย่อมหนักกว่าเด็กผู้หญิงผอมบาง และเกินมาตราฐานเช่นเดียวกับส่วนสูงหลายเท่านัก
“มาแมร์คะ ได้แล้วค่ะ” หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ที่ดูท่าทางและการแต่งกายแล้วเธอน่าจะเป็นภารโรง เดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหาร
“ขอบใจจ้ะพี่ศรี” มาแมร์รับถาดอาหารมาแล้วยื่นให้ณรงค์เดซ เด็กชายมองมันอย่างงง “เอ้า เอาไปกินซะ กินเสร็จจะได้กลับไปเรียน” เธอกล่าวเร่งเร้า เมื่อเห็นหนุ่มน้อยเอาแต่นั่งอึ้ง
ความคิดเห็น