ตอนที่ 2 : ตัวอย่าง 2
2
แก่นจันทน์เดินจ๋องตามเขาเข้าห้องเรียนอย่างไม่มีทางเลี่ยงและอันที่จริงถ้าหล่อนจะไม่เข้าห้องเรียนตามคำเชิญของเขาก็ได้ เพราะไม่ได้ลงเรียนวิชานี้อยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ทระนงตัวว่ากำลังจะก้าวพ้นรั้วมหาวิทยาลัยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและกำลังจะออกไปใช้ชีวิตที่เรียกว่าปัญญาชน เป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว กับความผิดที่เพิ่งก่อขึ้นในระยะเผาขนเมื่อสักครู่ คำเชิญนั่นกำลังท้าทายวุฒิภาวะของหล่อนอย่างเปิดเผย
อมาวดีกวักมือเรียกพร้อมกับยิ้มหน้าระรื่น พรางหลิ่วตาเมื่อหันไปทาง ชายหนุ่ม ผู้เป็นอาจารย์
แก่นจันทร์รู้สึกเข่าอ่อนลงไปเฉยๆเมื่อเห็นที่นั่งของเพื่อนและที่นั่งที่ฝ่ายนั้นจองเอาไว้ให้…แถวหน้าสุด…ยายออมสินปลื้มออกนอกหน้ามากไปแล้ว
หญิงสาวมองที่นั่งอย่างลังเล หล่อนมองหาที่นั่งใหม่ ทางด้านหลัง…หลังสุดๆ แต่ดูเหมือนวันนี้หล่อนจะก้าวเท้าออกจากบ้านผิดข้างเพราะเมื่อความซวยมาเยือนแล้วมันก็มักจะซวยได้ซ้ำๆในวันเดียวกัน อย่างแค่หาที่ว่างในคลาสเรียนที่ไม่คิดว่าจะมีคนลงเรียนจำนวนมาก แต่วันนี้มีนักศึกษาเข้าฟังการบรรยายซะเต็มห้อง หล่อนใช้ความพยายามมองหาที่นั่งอย่างละเอียดถึงสองรอบแล้วได้แต่ท้อใจ
อมาวดีทำปากพะงาบๆเรียกหล่อนอีกครั้ง พลางชี้มือลงไปที่เก้าอี้ที่จองไว้ให้แต่หล่อนก็ฝ่อเกินกว่าจะไปนั่งเป็นเป้าสายตาด้วยรู้ตัวว่ามีชนักอันเบิ้อเริ่มและใหม่หมาดๆติดหลัง หากถึงอย่างไรหล่อนก็ได้แต่มองที่นั่งแถวหน้าสุดอย่างหมดอาลัย เพราะสายตากำกับแฝงไปด้วยรอยท้าทายของคนบางคน..แน่นอนย่อมไม่ใช่สายตาของอมาวดีเพราะฝ่ายนั้นมีแต่แววตื่นเต้นริกๆอยู่เต็มหน่วยตา
หล่อนจำต้องไปนั่งเก้าอี้ที่ออมสินจองไว้ให้ด้วยสภาพจ๋อยสนิท แน่ล่ะ ทั้งสถานภาพนักศึกษา และความผิดที่ก่อให้อย่างไรหล่อนก็ไม่กล้าหือ ซึ่งนั่นยังไม่รวมกับบุคลิกอันข่มขวัญของเขา
แก่นจันทน์หลบตาวูบทันทีเมื่อเขาเริ่มบรรยายและหันมาทางหล่อนแวบหนึ่งซึ่งไม่อยากคิดว่าเขาตั้งใจหันมามองหล่อน แต่ริมฝีปากหยักสวยที่กดลงนิดๆราวกับเยาะนั่นก็ทำให้หล่อนใจเสียไปได้เหมือนกัน…ใช่ล่ะด้วยรูปลักษณ์ของเขาหล่อนไม่สามารถกลับไปหัวเราะเยาะ อมาวดีจนฟันหักอย่างที่ตั้งใจได้ ไม่รู้หรอกว่าจะวัดเขาด้วยมาตรฐานอะไร แต่ที่รู้ เขาไม่ใช่พวกมือสมัครเล่นแน่ๆ
ตลอดสองชั่วโมง หล่อนพบว่าบรรยากาศภายในชั้นเรียนไม่ได้คร่ำเคร่งวิชาการ แต่จะเรียกบรรยากาศแห่งการถกประเด็นและแสดงความคิดเห็นระหว่างเขากับนักศึกษาอย่างกว้างขวางที่เกิดขึ้นตลอดชั่วโมงเรียนนั้นว่าไร้สาระไม่ได้เลย
พวกเขาถกปัญหา ตั้งประเด็นและแสดงความคิดเห็นอย่างกระตือรือร้นแต่ละคนแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ แม้แต่อมาวดีที่ร้อยวันพันปีไม่เคยมีข้อสงสัย หรือถ้าสงสัยก็จะไปหาคำตอบเองด้วยวิธีอื่น แต่ไม่เคยยกมือถามอาจารย์ในชั้นเรียน วันนี้เพื่อนของหล่อนทั้งถาม ทั้งแสดงความคิดเห็นแทบจะทุกประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกกัน บางครั้งเกือบจะเกิดวิวาทะกันย่อมๆเมื่อมีความคิดที่แปลกแยกอย่างรุนแรง เขาก็คอยควบคุมไม่ให้ลุกลาม
แก่นจันทร์แอบมองเจ้าของเสียงทุ้มชวนฟังอย่างระมัดระวัง(ไม่กระด้างอย่างตอนที่เล่นงานหล่อนสักนิด) บุคลิกมาดมั่นจับตาของเขาทำให้หล่อนได้แต่ถอนใจและสรุปกับตัวเองว่า….หล่อนนั้นรนหาที่เข้าให้แล้ว…
“คราวหน้า เราจะมาดูกันว่าโพลทางการเมืองที่เขาทำกันขึ้นมามีผลต่ออะไร ใคร และอย่างไรบ้าง สำหรับวันนี้ใครมีข้อสงสัย มีคำถามไหมครับ”
“ถามที่นอกเหนือจากวิชาเรียนได้ไหมคะ อาจารย์” มีนักศึกษาสาวคนหนึ่งถามขึ้น หล่อนเป็นสาวร่างอวบที่มีดวงตาเล็กยิบหยีและรอยยิ้มเปิดเผยน่ารัก
คิ้วเข้มของเขาเลิกขึ้นอย่างแปลก“ถ้าผมพอจะตอบได้นะ...เชิญครับ”
“หนูรู้มาว่า อาจารย์เป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของ คเชนทร์ กรุ๊ป จริงหรือเปล่าค่ะ”
มีเสียงฮือฮาขึ้นหลังจากนั้น แม้แต่แก่นจันทน์กับอมาวดีก็มองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อหู คเชนทร์กรุ๊ปเป็นยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสิ่งพิมพ์แทบจะครบวงจร ทั้งธุรกิจสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ และจัดจำหน่าย นิตยสารหลายๆหัวที่สองสาวเล็งไว้ว่าหลังจากจบแล้วอยากจะสมัครและทำงานด้วยก็อยู่ในเครือของ คเชนทร์กรุ๊ปเช่นกัน
อมาวดีแทบจะร้องว้าวออกมาด้วยความตื่นเต้น ส่วนแก่นจันทร์นั้นเหมือนถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ถ้าร้องออกมาได้หล่อนอยากคราง อ๋อย! พลางนึกชื่อนิตยสารที่เล็งไว้ว่าจะสมัครอย่างหมดหวัง เมื่อเขาพยักหน้ารับ
“ครับ”
“งานบริหารกับงานสอนสำหรับอาจารย์ต่างกันมากไหมครับ”มีนักศึกษาชายอีกคนหนึ่งถามขึ้น
เจตน์พยักหน้า เขาไม่ได้ขยายความหากแต่ย้อนถามด้วยท่าทีเป็นกันเอง”อย่างน้อยผมก็ไม่มีอำนาจสั่งการพวกคุณจริงไหม”
และด้วยท่าทีนั้นเองที่ทำให้มีนักศึกษาคนหนึ่งขยับถามถึงทัศนะคติของเขาต่อการมาเป็นอาจารย์ ซึ่งเมื่อถามออกไปอย่างกล้าหาญ
“คำถามของคุณทำให้ผมชักสงสัยคุณสมบัติของตัวเองเสียแล้วซิ”เขาบอกราวกับครุ่นคิด แต่ถ้ามองจริงๆแล้วไม่มีความลังเลแต่อย่างใด ดวงตาคมเฉียบมองอย่างประเมินลูกศิษย์ของเขามากกว่า
แต่คำบอกกล่าวของเขาก็ทำให้แก่นจันทน์สะดุ้งเฮือก แม้น้ำเสียงของเขาจะไม่ได้แฝงแววประชด แต่สำหรับคนที่มีชนักแล้ว ให้อย่างไรหล่อนก็รู้สึกร้อนๆหนาวๆอยู่ดี
นักศึกษาสาวเจ้าของคำถามอุทานออกมา เจ้าหล่อนยิ้มเขินรีบปฏิเสธ
“โธ่ หนูไม่เคยสงสัยคุณสมบัติของอาจารย์เลยนะคะ พวกเรายินดีมากต่างหากที่อาจารย์มาสอน”
เขาพยักหน้า ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“บอกตามตรงว่า ผมก็แปลกใจตัวเองในตอนแรกเหมือนกัน แต่ผมก็พบในเวลาต่อมาว่า….”
ห้องทั้งห้องนั้นเงียบราวกับรอฟังทำตอบของเขาอย่างจดจ่อ เจตน์โคลงหัวเล็กน้อย
“ความรับผิดชอบต่อพวกคุณ ที่เป็นมันสมองของชาติ นับเป็นเกียรติสำหรับผมนะ…และหวังว่าพวกคุณคงไม่ทำให้ผิดหวัง”
คำตอบของเขาไม่เพียงแต่นักศึกษาเจ้าของคำถามเท่านั้นที่นิ่งอึ้งไป ห้องทั้งห้องเหมือนตกอยู่ในความเงียบหากแต่ความรู้สึกอึงอวลในหัวใจใครหลายคนเท่าๆกัน เขาตอบคำถามได้ไม่เลวเลยล่ะต่อทัศนคติการเป็นอาจารย์และประโยคทิ้งท้ายก็ทำให้พวกหล่อนรู้สึกเหมือนกำลังรับมอบภารกิจอันยิ่งใหญ่…แน่นอนเขาไม่ได้พูดตรงๆ แต่พวกหล่อนก็รู้ว่า ความรับผิดชอบที่ว่าน่ะ หมายถึงทั้งต่อ ตัวเอง สังคม รวมถึงต่อประเทศชาติ
เจตน์ก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนจะถามอีก
“ใครมีคำถามอีกไหม”
เขารออยู่อย่างใจเย็น เมื่อไม่มีใครถามอีกเขาก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยหากแฝงแววจริงจังในเวลาต่อมา
“ในขณะที่ผมมีหน้าที่ประเมินพวกคุณด้วยการสอบวัดผล เคยมีใครคิดที่จะประเมินผมบ้างไหม”มีเสียงอื้ออึง ทั้งยิ้มอย่างทึ่งจัดไปทั้งห้อง ยกเว้นแก่นจันทน์ที่รู้สึกเหมือนเก้าอี้ร้อนราวกับไฟรน หล่อนสังหรณ์และมันก็เกิดขึ้นจริงในวินาทีถัดมาว่า กำลังจะถูกเอาคืนอย่างสาสม
“ขอบอกว่าพวกคุณมีสิทธิ์ทำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” เขาเว้นช่วงไปนิด ก่อนจะยิ้มที่เต็มไปด้วยแววขัน ซึ่งแก่นจันทน์ก็รู้ว่ายิ้มนั้นไม่ใช่สำหรับหล่อนเลย ที่เขาจงใจส่งให้หล่อนอย่างแท้จริงคือแววเอาเรื่องตอนที่เขามองมาทางหล่อนในแวบต่อมาต่างหาก
“และหวังว่าพวกคุณคงไม่กดคะแนนผมจนเกินไป”
แก่นจันทน์ก้มหน้ายอมรับผิดด้วยความอ่อนใจ..หล่อนอ่อนใจที่ได้ไปกระตุกหนวดเสือ(อ.เจตน์) ให้ขุ่นเคืองและถูกเอาคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โล่งใจนิดหน่อยที่อย่างน้อยหล่อนก็ไม่ได้ลงเรียนวิชานี้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ วิชาเลือกเสรี คงได้กลายเป็นวิชา(ถูก)เชือดเสรีไปทั้งเทอมแน่ๆ อึ๋ย…แค่ที่ถูกเขาปรายตาคมดุมาแต่ละครั้งก็หนาวเข้าไปถึงทรวง ต่อไปนี้หล่อนสาบานว่าจะไม่เหยียบย่างเข้ามาที่ชั้นเรียนวิชาพับลิคโอพิเนียนของ เสือ..เอ้อ…อ.เจตน์ของยายออมสินอีกเป็นอันขาด(ถ้าไม่มีเรื่องถึงขนาดคอขาดบาดตายน่ะนะ)
***************
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
