คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : -F o u r t h S h o t-
Fourth Shot
สาวหน้าหวานเหลือบไปมองดูอีกฝ่ายที่ยังคงดูกังวล เธอรู้ดีเวลาอานโซฮีกัดริมฝีปากนั้นบ่งบอกว่าสาวแก้มป่องกำลังกังวลเป็น อย่างหนัก และนี่ก็ไม่ได้รวมถึงใบหน้าที่แสดงออกว่ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นอะไร? รู้สึกไม่มั่นใจล่ะซี่.. ยัยตัวแสบ”
มินซอนเยกล่าวพลางยิ้มกว้าง ก่อนที่จะบีบมือเพื่อนให้กำลังใจน้องสาวของตนเอง
“ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดีน่า...”
“ฉันหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะพี่” อานโซฮีพึมพำออกมาเบาๆ จนทำให้มินซอนเยต้องหยุดเดินก่อนที่จะหันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
“มันคงไม่อยากหากเราจะแกล้งเป็นคนรักกันใช่มั้ย? เราต้องผ่านมันไปให้ได้สิ เรารักกันไม่ใช่เหรอ? โซฮี”
อานโซฮีทำได้เพียงแค่ยิ้มออกมาบางๆ “ก็ใช่...พี่ก็รู้ว่าฉันรักพี่...แต่ว่ามันไม่ใช่แบบ...”
“มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันรู้” มินซอนเยพูดพลางบีบมือของอีกฝ่าย
“ถือว่าเราเล่นละครกันโซฮี เพราะฉะนั้น ทำตัวตามสบาย โอเคนะ?”
ความอบอุ่นจากมือของอีกฝ่ายทำให้ความกังวลมลายไปบ้าง ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว
“ฉันพร้อมแล้วค่ะพี่”
มินซอนเยยิ้มกว้างก่อนที่จะเดินจูงมืออีกฝ่ายเข้าไปในบริเวณห้องอาหารของมหาวิทยาลัย
รอยยิ้มแสแสร้งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทั้งสองขณะที่สบสายตากันอย่างหวานฉ่ำ... อานโซฮีสังเกตได้ว่าเริ่มมีคนหันมาสนใจและหันมามองเป็นตาเดียว ทั้งสงสัยระคนแปลกใจ ก่อนที่จะชี้ชวนให้เพื่อนของตนเองหันมามอง...
มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าใดนัก เพราะว่ามินซอนเยเป็นคนเด่นของมหาวิทยาลัย มีคนมาชื่นชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่มีคนชอบ ก็ต้องมีคนเกลียด เพราะว่าอิจฉา และหนึ่งในนั้นก็คือ คิมดูจุน
“ข่าวลักษณะนี้แพร่เร็วเสมอเนอะ” มินซอนเยกระซิบเบาๆ
“จากที่ดูก็น่าจะจริงนะคะ” อานโซฮีตอบกลับมาเบาๆ
มินซอนเยหัวเราะออกมา ก่อนที่จะดึงร่างบางให้เข้ามาใกล้ๆ และจูบแก้มป่องๆเบาๆ ซึ่งส่งผลให้อานโซฮีถึงกับหน้าแดงเข้มด้วยความเขินอาย... พี่ซอนเยเก่งเรื่องการแสดงแบบนี้เสมอ แต่ว่าไม่เห็นต้องจริงจังแบบนี้ก็ได้นี่...
“อรุณสวัสดิ์” มินซอนเยกล่าวทักทาย ปาร์คเยอึน และ ลีซอนมีก่อนที่จะนั่งลงตรงข้าม
ซอน มีเบิกตากว้างเมื่อเห็นท่าทางของทั้งสองคน “เรื่องจริงเหรอเนี้ย?” ร่างบางถามก่อนที่จะยิ้มกว้างอย่างดีใจเมื่อเห็นว่ามินซอนเยและอานโซฮีพยัก หน้า
“โอ้ย! ฉันดีใจจัง! ฉันคิดอยู่เสมอเลยว่าพี่ซอนเยและโซฮีจะต้องรักกันสักวันหนึ่ง”
มินซอนเยหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ซอนมีคิดแบบนั้นเหรอ?”
“ก็แน่นอนอยู่แล้ว” หญิงสาวบอกพลางยิ้มตาหยี่ให้ปาร์คเยอึน
“พนันครั้งนี้ฉันชนะนะคะ”
ปาร์คเยอึนที่กำลังดื่มน้ำแอ๊ปเปิ้ลอยู่ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินที่อีกฝ่ายพูด “อะไรนะ?”
“จำที่เราพนันกันไม่ได้เหรอค่ะ”? ซอนมีกลาวอย่างเป็นต่อ
สาวร่างสูงวางแก้วน้ำลงเมื่อเริ่มนึกถึงเรื่องที่เธอได้พนันกับซอนมีไว้เมื่อเดือนก่อน...
ซอนมีค่อนข้างมั่นใจว่าซอนเยและโซฮีจะต้องรักกันสักวันหนึ่ง... แน่นอนว่าเธอขำไปกับความคิดนี้ และซอนมีก็ไม่ค่อยจะชอบใจที่โดนเธอหัวเราะเยาะเท่าใดนัก
“แต่...แต่ว่าเรื่องนี้ไม่นับนะ!”
“กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันน่ะ?” อานโซฮีถามออกมาด้วยความสงสัย
“ก็เรื่องที่ว่าพวกเธอจะต้องรักกันสักวันไง พี่เยอึนเค้าไม่ยอมเชื่อฉัน”
“เรื่องนี้ไม่นับเถอะ!!!”
ปาร์คเยอึนร้องออกมา ก่อนที่ใบหน้าคมต้องบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเมื่อมินซอนเยเหยียบเท้าเธอ อย่างแรง หญิงสาวได้แต่ครวญครางด้วยความเจ็บ หันไปมองเพื่อนรักตาเขียวปั๊ด...
“แล้วทำไมถึงไม่นับล่ะ? เยอึน...”
มินซอนเยถามอีกฝ่ายยิ้มๆ หากเป็นรอยยิ้มที่ปาร์คเยอึนกลัวเป็นพิเศษ
“พี่เค้ากำลังพยายามให้ตัวเองรอดพ้นกับสิ่งที่ตัวเองพนันไว้ไงค่ะ” ซอนมีพูดพลางตีไหล่อีกฝ่ายเบาๆ “ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันไม่โหดร้ายกับพี่หรอก”
“แล้วคนที่แพ้ต้องทำอะไรเหรอ?” อานโซฮีถาม พยายามที่จะไม่หลุดขำออกมา
“พี่เค้าบอกว่า ถ้าฉันชนะ พี่เค้าจะยอมฉันทุกอย่างตลอดทั้งสัปดาห์เลยล่ะ!”
ซอนมีพูดออกมาอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าหวาน
“ฉันต้องไปก่อนแล้ว อาจารย์นัดฉันไว้ เจอกันที่ห้องเรียนนะโซฮี แล้วเจอกันนะคะพี่ๆ”
“แล้วเจอกัน” ทั้งสามกล่าวพลางโบกมือลาซอนมี ก่อนที่ปาร์คเยอึนจะหันมามองหน้าเพื่อนและน้องของตนเองที่กำลังทานขนมหวานอยู่
“แบบนี้มันไม่แฟร์เลยนะ!”
ปาร์คเยอึนกัดฟันกรอดๆ เมื่อเห็นว่าซอนมีเดินไปแล้ว
“ฉันดันลืมเรื่องพนันบ้าๆนั่นไปสนิท! ฉันจะไปบอกความจริงกับซอนมี ฉันจะได้ไม่ต้อง...”
“ไม่ได้นะคะ”
อานโซฮีตัดบทสนทนาของอีกฝ่ายทันทีเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
“พี่เป็นคนเดียว...และจะต้องเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ได้รู้เรื่องนี้ ทำไมพี่ไม่มองกลับกันล่ะค่ะ? ถ้ายัยซอนมีรู้ความจริง ยัยนั่นก็จะต้องเป็นคนตามใจพี่เหมือนกันอยู่ดีนั่นแหล่ะ”
ปาร์คเยอึนยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ฉันชักชอบความคิดของเธอแล้ว โซฮี”
อานโซฮีหันไปมองมินซอนเยที่หันมามองเธอ ก่อนที่จะยิ้มและหัวเราะกันออกมาเบาๆ แต่พวกเธอก็หัวเราะกันได้ไม่นาน เมื่อมีใครเดินเข้ามาข้างหลังของอานโซฮีและมินซอนเย
ปาร์คเยอึนเงยหน้ามองบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญ ก่อนที่มินซอนเยและอานโซฮีจะรับรู้ได้ทันทีว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญเป็นใคร...
“พวกเธอคงไม่ได้คิดว่าทุกคนจะเชื่อไปกับเกมที่พวกเธอกำลังเล่นกันอยู่ใช่มั้ย?”
มินซอนเยหันมามองหน้าคิมดูจุนก่อนที่จะยืนขึ้น แล้วดึงสาวแก้มป่องมาใกล้ๆเธอ
“เสียใจด้วยนะ คิมดูจุน ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง” ปาร์คเยอึนเอ่ยขึ้นมาเรียบๆ
“อ้อ...ฉันลืมไปว่านายน่ะหลงตัวเองขนาดหนักเลยนี่ คงยากหน่อยนะกว่าจะทำใจยอมรับได้ว่าโซฮีไม่เคยสนใจนายด้วยซ้ำ”
ชายหนุ่มกัดริมฝีปากแน่นอย่างโกรธเคืองเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ฉันไม่ได้พูดกับเธอ ปาร์คเยอึน”
“เสียใจด้วยนะ” มินซอนเยเอ่ยน้ำเสียงเย็น
“ถ้านายมายุ่งกับเพื่อนหรือคนของฉัน เราจะได้เห็นดีกันแน่”
“อู้ยย....น่ากลัวเป็นบ้า” คิมดูจุนแสร้งทำเป็นกลัว
“นายน่ะ ไปให้พ้น” ในที่สุดอานโซฮีก็พูดขึ้น ใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาตามสไตล์ เธอพยายามเดินไปเอาเรื่องกับอีกฝ่าย หากมินซอนเยดึงห้ามไว้
“นายก็ได้ยินแล้วนี่” มินซอนเยพูดพลางดึงโซฮีเข้ามาแนบชิดกว่าเดิม
“ตอนนี้โซฮีอยู่กับฉัน คิมดูจุน แล้วนายก็รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริง”
“แล้วไงล่ะ? พวกเธอทำเป็นเดินไปไหนมาไหนด้วยกัน จับมือกัน แล้วฉันจะต้องเชื่อว่าพวกเธอคบกันด้วยเหรอ?” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดัง “ใครๆก็ทำได้ ขอโทษนะที่ฉันไม่เชื่อ มันไม่เห็นจะแตกต่างจากเมื่อก่อนตรงไหนเลย” คิมดูจุนพูดพลางจ้องมองสาวแก้มป่องอย่างจาบจ้วง
“ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ฏิเสธฉันนะ น้องเปา...”
“อย่าเรียกโซฮีแบบนั้นนะ!” มินซอนเยพูดอย่างโกรธเคือง
“ก็ฉันจะเรียก ใครจะทำไม? เธอไม่ได้จดลิขสิทธิ์ไว้นี่?” ชายหนุ่มพูดอย่างยียวน
“นายไม่มีสิทธิเรียกเธอแบบนั้น”
ในที่สุดปาร์คเยอึนก็พูดออกมาหลังจากที่เงียบมานาน ใบหน้าสวยคมนิ่งเฉย หากมีรังสีความโกรธเคืองและความหงุดหงิดอย่างรุนแรง ไม่ค่อยมีใครกล้าทำให้ปาร์คเยอึนหงุดหงิดและโกรธนัก และตอนนี้คิมดูจุนก็กำลังทำมันอยู่
“นายคงไม่อยากให้ฉันโกรธใช่มั้ย? คิมดูจุน...”
“...ก็ได้...ฉันไปก็ได้” ชายหนุ่มกล่าว อดที่จะหวาดหวั่นไม่ได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิง แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะมีเรื่องกับแชมป์คาราเต้หรอกนะ “แต่เธอก็หลบหลังบอร์ดี้การ์ดของเธอไปตลอดไม่ได้หรอกนะ อานโซฮี เราได้เจอกันอีกแน่...ที่รัก”
คิม ดูจุนเผยรอยยิ้มร้ายกาจก่อนที่จะเดินจากไป... อานโซฮีถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนที่จะนั่งลง มินซอนเยได้แต่ลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆอย่างปลอบใจ ในขณะที่ปาร์คเยอึนยิ้มให้กำลังใจอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรนะ โซฮี”
“ไม่เป็นไรหรอกโซฮี เจ้านั่นมันปอดแหกจะตาย มันไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นหรอก” อานโซฮีจ้องหน้า มองพี่สาวทั้งสองก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆ
“ขอบคุณพี่ๆมากนะคะ”
มินซอนเยและปาร์คเยอึนยิ้มกว้างก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิกแก้มป่องๆของอานโซ ฮี สาวแก้มป่องไม่มีวันได้รู้เลย ว่าหนุ่มสาวที่เห็นเหตุการณ์ในวันนี้ อยากจะเป็น ‘อานโซฮี’ ขนาดไหน....
ความคิดเห็น