คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : C H A P T E R 3
CHAPTER 3
มินซอนเยไม่เคยทำเรื่องอย่างนี้มาก่อน และเธอไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้... แล้วนั่นแหล่ะที่ทำให้เธอเครียด
ก่อนที่ความคิดของเธอจะหยุดลงเมื่อหญิงสาวปริศนาตรงหน้าจะมอบจูบให้เธออีก...
หญิงสาวที่เธอเจอครั้งแรก... หญิงสาวที่เธอไม่สามารถเห็นใบหน้าได้ เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ยอมให้เธอถอดหน้ากาก...หญิงสาวที่เธอรู้จักเพียงแค่ชื่อ...
หญิงสาวที่เป็นจูบแรกของเธอ....
มินซอนเยจูบตอบอีกฝ่ายอีกครั้งก่อนที่ใบหน้าของเธอจะแดงขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความร้อนชื้นที่ถูกส่งเข้ามาในช่องปาก
หญิงสาวรู้สึกถึงมือของอีกฝ่ายที่สอดเข้ามาในกลุ่มผมนุ่มสลวย...
นักร้องสาวหลับตานิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายควานหาความหวานในริมฝีปากของตนเองต่อไป...
ตอนนี้อานโซฮีลืมไปว่าตัวเองกำลังเล่นละคร... เธอลืมว่าตัวเองมายืนอยู่ในคอนโดของอีกฝ่ายได้อย่างไร ลืมทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากรอยจูบของอีกฝ่ายที่เริ่มตราตรึงในหัวใจ...
รสสัมผัสที่เธอรอคอยมานานแสนนาน...
มินซอนเยดึงอีกฝ่ายเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วอย่างใจร้อน ก่อนที่ริมฝีปากของทั้งสองจะสัมผัสกันอีกครั้งด้วยความรีบร้อน เหมือนกับว่ารอยจูบของกันและกันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ...
ในที่สุดร่างบางของมินซอนเยก็ถูกอีกฝ่ายดันลงบนเตียงนุ่ม... หัวใจเต้นตูมตามเมื่อรู้สึกถึงความร้อนของอีกฝ่ายที่ทาบทับลงมา ก่อนที่จะหอบหายใจเมื่อรู้สึกถึงมือนุ่มของอีกฝ่ายที่เลื่อนมาสัมผัสที่หลังเนียน...
"ซะ...โซ"
อานโซฮีจูบปิดทางคำพูดของอีกฝ่าย เธอไม่อยากได้ยินชื่อของใครอื่น แม้ว่าชื่อนี้จะเป็นชื่อที่เธอสร้างมันขึ้นมาก็ตามแต่...
มือของโซฮีลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างผ่านผ้าบาง...ในใจแทบจะระเบิดออกมาด้วยความตื่นเต้น เพราะว่าเธอก็ไม่เคยทำแบบนี้กับใคร และเธอมั่นใจว่ามินซอนเยก็เช่นกัน...
"เธอจะไม่ให้ฉันเห็นหน้าเธอเลยเหรอ?" เสียงของมินซอนเยดูตัดพ้อ หากอานโซฮีเลือกที่จะไม่ใส่ใจ หญิงสาวก้มลงปิดริมฝีปากแดงสด... มือบางรีบปลดชุดราตรีของอีกฝ่ายอย่างรีบร้อน
โซฮีกลืนน้ำลายเมื่อเห็นผิวเนียนละเอียดของอีกฝ่ายที่พ้นจากขอบชุด ก่อนที่จะก้มลงมอบสัมผัสจนทำให้คนด้านล่างต้องตัวสั่นเทา...
พี่ซอนเย...
มินซอนเยหน้าแดงก่ำเมื่อเธอรู้สึกถึงมือของอีกฝ่ายที่กำลังเอื้อมมือไปปลดเสื้อผ้าของเธอ... ก่อนที่สัญชาตญาณของเธอทำให้เธอพยายามดันมือของอีกฝ่ายออก
แม้ว่าทั้งห้องจะมืดจนเธอแน่ใจว่าอีกฝ่ายต้องไม่เห็นใบหน้าและเรือนร่างของเธอแน่ๆ แต่ความอายก็ไม่สามารถเลือนหายไปจากความคิดของเธอไปได้...
ความคิดของเธอต้องหยุดลงเมื่ออีกฝ่ายก้มลงจูบเธออีก ก่อนที่หน้ากากบนใบหน้าของอีกฝ่ายจะพ้นจากใบหน้า มินซอนเยชะงักไปเมื่อสังเกตเห็นความคล้ายคลึงของใบหน้าของคนตรงหน้า...เหมือนเธอเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...
ก่อนที่อานโซฮีจะรีบซุกใบหน้าลงไปกับซอกคอของอีกฝ่ายทันที เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นใบหน้าเธอ...
"อื้อ..."
NC
หญิงสาวจ้องมองใบหน้าหวานของคนตรงหน้า เสียงลมหายใจอันเงียบสงบและความรู้สึกที่อบอุ่นแผ่ซ่าน...เมื่อร่างกายได้แนบชิดกัน มินซอนเยกำลังหลับสนิท เมื่อเธอมั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่ตื่นมา หญิงสาวรีบยกแขนที่โอบรอบตัวเธอ และเขยิบตัวออกจาก
มินซอนเยอย่างรวดเร็ว
อานโซฮียืนนิ่งขณะที่มองมินซอนเยหลับ...สายตาคู่สวยพยายามจดจำรายละเอียดของอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด
พี่ซอนเยดู...สงบนิ่ง ใบหน้าหวานยังคงงดงามเสมอ แม้กระทั่งตอนหลับ
อานโซฮีเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียง อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว แล้วสิ่งนี้กำลังคอยย้ำเตือนเธอว่า เธอควรออกไปจากห้องของมินซอนเยได้แล้ว เพราะว่าอานโซฮีรู้ตัวเองดีว่า ถ้าหากอยู่นานกว่านี้...เธอจะไม่สามารถห้ามใจไม่ให้ตัวเองอยู่ต่อได้...
แล้วทุกอย่างก็จะแย่ยิ่งกว่าเดิม ไม่ เธอปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด...
สาวแก้มป่องลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมา ก่อนที่เธอจะรีบคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมร่างบางๆของมินซอนเยอย่างรวดเร็ว
อานโซฮีหยิบชุดที่เธอสาบานว่าจะไม่ใส่อีกมาสวมอย่างรวดเร็ว เธอหยิบกระดาษโน๊ตใบเล็กๆขึ้นมา ก่อนที่จะเขียนข้อความสั้นๆทิ้งไว้ให้อีกฝ่าย เธอต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะเขียนตัวอักษรที่ไม่ใช่ลายมือของเธอเอง
แม้ว่าเธอจะพยายามมากเท่าใด ในตอนนี้เธอก็ไม่สามารถทำใจที่จะออกไปจากห้องนี้ได้เลย เธอมองไปรอบๆห้องของมินซอนเยที่เธอเคยมาเป็นประจำ...
อานโซฮีจ้องมองร่างบางๆที่ยังคงนอนหลับใหลอยู่บนเตียงนุ่มนิ่ง เธอขยับตัวเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานสวย ก่อนที่จะครอบครองริมฝีปากของมินซอนเยด้วยสัมผัสอันบางเบา....เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะผละออกจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อานโซฮีรีบเดินไปยังประตู มือเรียวสวยจับลูกบิดประตูแน่น
อย่าหันกลับหลัง ห้ามหันกลับไปมอง....
หากเธอก็หันกลับไปมองมินซอนเยอีกครั้ง...มองราวกับว่าจะไม่ได้เจอและรู้จักกันอีก...
เธอต้องไม่ร้องไห้ เธอต้องไม่ร้องไห้ มันตลกมากหากเธอจะร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้ เธอรู้มาตลอดว่าต้องเป็นแบบนี้... แล้วเธอก็เป็นคนเลือกแบบนี้เอง
เพื่อที่จะได้อยู่ในอ้อมกอดของมินซอนเย เพื่อที่จะได้สัมผัส...ได้รับรสจูบ...อย่างน้อยตอนนี้...มินซอนเยเป็นของเธอ....เคยเป็นของเธอ
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ...ควรจะเพียงพอสำหรับเธอแล้ว
ก่อนที่คืนของเธอกับมินซอนเยจะสิ้นสุดลง... เธอค้นพบเสียงของเธอ ที่ดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา...และคำๆนี้ก็ไม่มีวันที่อีกฝ่ายจะมีโอกาสได้รับรู้...
“ฉันรักพี่ซอนเย...”
แล้วอานโซฮีก็เดินออกไปจากห้องของคนที่นอนอยู่ด้วยหัวใจที่ร้าวราน...ก่อนที่เธอจะยืนนิ่งอยู่หน้าห้องของเธอที่อยู่ตรงข้ามกับมินซอนเย ก่อนที่เธอจะปล่อยให้น้ำตาใสๆรินไหลออกมาอย่างช้าๆ....
______________
อานโซฮีต้องยอมรับว่าอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นเป็นอาทิตย์ที่ยาวนานมากกว่าปกติ ส่วนใหญ่เธอใช้เวลาไปกับการเรียน...หนังสือ...และการบ้าน และพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่จมปลักอยู่กับความเสียใจ
หญิงสาวถอนหายใจออกมาแรงๆขณะที่นั่งลงบนโซฟาในห้องนอนของเธอเอง ดวงตาคู่สวยปิดสนิทราวกับต้องการปิดกั้นความคิดที่เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ เธอเพิ่งได้เจอมินซอนเยในงานวันเกิดของพี่เค้า และเธอก็เพียงพูดทักทายไม่กี่คำแล้วก็เดินจากไป เธอไม่ได้สงสัยว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร จนพี่ซอนเยอาจจะรู้สึกไม่สบายใจเลยถามเธอแบบนั้น
แต่มันก็ผ่านมาสามสี่วันแล้ว... เธอจ้องมองนาฬิกานิ่ง เวลานี้เป็นเวลาที่เธอได้เจอ
พี่ซอนเยใน”ตอนนั้น”
อานโซฮีรู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้าเมื่อนึกถึงคืนนั้น... แค่เพียงคืนๆเดียวกลับเป็นความทรงจำที่คอยตามหลอนหลอนเธอมาเป็นอาทิตย์...
ให้ตายเถอะ! หญิงสาวเขวี้ยงหมอนใบเล็กลงพื้นอย่างหงุดหงิด เธอควรที่จะหยุดคิดเรื่องนั้นได้แล้ว ควรที่จะไม่นึกถึงมัน แล้วก็เลิกเศร้าเสียใจสักที...
อานโซฮีก้มลงหยิบหมอนข้างขึ้นมา ก่อนที่จะกอดไว้แน่น พยายามไม่นึกถึงหน้าของใครบางคนที่คอยวนเวียนในความคิดของเธอเสมอ....
เธอต้องทำได้สิ... เธอเคยทำได้เสมอมาไม่ใช่เหรอ? เธอมักจะปกปิดความรู้สึกที่มีต่อพี่ซอนเยได้ แต่ทำไมตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างมันกำลังเอ่อล้นออกมา... แต่เธอต้องทำมันให้ได้
ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น อานโซฮีขมวดคิ้วอย่างสงสัย ก่อนที่จะยืดตัวลุกขึ้น เธอไม่รู้ว่าใครจะมีธุระกับเธอในเวลาดึกขนาดนี้ บางทีอาจจะเป็นซอนมีก็ได้ เพราะว่าเพื่อนคนนี้ชอบมานอนที่ห้องเธอบ่อยๆ
อานโซฮีเปิดประตูพลางยิ้มบางๆให้อีกฝ่าย ก่อนที่รอยยิ้มนั่นเกือบจะจางหายไป...
พี่... ซอนเย...
ความรู้สึกแปลกใจบังเกิดขึ้นในทันที ก่อนที่เธอจะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจติดขัดเมื่อเห็นใบหน้าหวานที่แสนคุ้น เคย...รอยยิ้มหวานของอีกฝ่าย...ที่สามารถทำให้ใครหลายคนแทบลืมหายใจ...รวม ทั้งเธอด้วย
“อ่า...พี่ซอนเย สวัสดีค่ะ” อานโซฮีทัก พยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติเท่าที่จะทำได้ “ไม่คิดว่าจะเป็นพี่”
“หวัดดี โซฮี... ยังไม่นอนใช่มั้ย? พี่เข้าไปได้มั้ย?” มินซอนเยถามพลางเดินเข้ามาในห้องทันทีเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยปฏิเสธ
อานโซฮีเดินถอยหลังไปเล็กน้อย เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างเธอกับมินซอนเยโดยไม่ให้น่าเกลียดเกินไป “ฉันเพิ่งทำรายงานเสร็จ...กำลังจะไปนอนพอดีเลยค่ะ” เธอพูดเบาๆ ก่อนที่จะยิ้มให้อีกฝ่ายบางๆ รู้สึกขำขันตัวเองที่ยังคงรู้สึกแปลกๆกับสายตาของอีกฝ่ายอยู่ นี่ก็เป็นแค่มินซอนเยคนเดิม รอยยิ้มเดิมๆที่เธอคุ้นเคยมาเกือบสามปี...เธอยังคงเป็นเหมือนเดิม รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เธอเริ่มอึดอัดเมื่อมินซอนเยไม่หยุดจ้องมองเธอเสียที
“พี่ซอนเยจะดื่มอะไรมั้ยค่ะ?” อานโซฮีถามก่อนที่จะเดินไปยังตู้เย็น หากเสียงของอีกฝ่ายหยุดเธอไว้ก่อน
“ไม่เป็นไร โซฮี พี่ไม่หิว”
“ฉันแปลกใจนิดหน่อยที่พี่มาหาฉันในเวลาแบบนี้... พี่ไม่ได้ไปดูหนังกับพี่เยอึนเหรอค่ะ?”
มินซอนเยยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “พี่บอกเยอึนว่าไปด้วยไม่ได้วันนี้ เพราะว่าพี่มีเดท”
เดท.... พี่ซอนเยมีเดท?
อานโซฮีกระพริบตาถี่ๆ พยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ ไม่เห็นแปลกเลยที่คนอย่างมินซอนเยจะคบกับใครสักคน...แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอด้วย
ความจริงก็คือไม่เห็นน่าแปลกใจตรงไหนถ้าหากพี่ซอนเยจะไปกับใครสักคนหลังจากที่นอนกับเธอ....โซยอน แล้วนั่นก็เป็นคำตอบที่คอยตอกย้ำว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปกว่าแค่คืนๆเดียวที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป...
ความจริงข้อนี้เธอรู้ดีตลอดมา และความจริงข้อนี้ทำให้เธอไม่กล้าที่จะสบตากับอีกฝ่าย เธอจึงทำได้แต่ยืนนิ่ง ก่อนที่จะก้าวไปยังตู้เย็นแล้วหยิบขวดน้ำใสๆมาดื่ม แสร้งกับว่าเธอกำลังสนใจสิ่งของในตู้เย็น พยายามไม่หันไปสบสายตากับอีกฝ่าย ก่อนที่จะยืนข้างๆคนที่นั่งบนโซฟา
“จริงเหรอค่ะ? แล้วทำไมพี่รีบกลับมาล่ะ?” ความสามารถของอานโซฮีคือปิดบังความรู้สึกได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้เธอชักจะเกลียดความสามารถข้อนี้ของเธอเสียแล้ว
“อืม...” มินซอนเยเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก หากฟังจากน้ำเสียงเนือยๆของอีกฝ่าย
“เป็นใครเหรอค่ะ?” สาวแก้มป่องถามออกไป ทั้งๆที่ความจริงเธอไม่อยากจะรับรู้อะไรทั้งสิ้น
“พี่ชอบเค้ามากๆ” สาวหน้าหวานสารภาพ เพียงแค่นั้นไม่พอ อีกฝ่ายยังคงพูดต่อ และนั่นก็ทำให้อานโซฮีรู้สึกประหลาดใจ....ทั้งประหลาดใจ ทั้งปวดหัวใจ เพราะเธอไม่เคยได้ยินมินซอนเยย้ำชัดความรู้สึกของตัวเองชัดเจนขนาดนี้
“พี่รู้สึก...สบายใจเวลาอยู่กับเค้า เหมือนกับว่ารู้จักกันมาเป็นปีๆ รู้สึกเหมือนกับว่าพี่ไว้ใจเค้า เชื่อใจเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้คุยกัน”
“อ่อ...” อานโซฮีพึมพำเสียงแหบแห้ง นิ้วมือจับแก้วน้ำไว้แน่นราวกับว่ากลัวมันตกหาย เธอไม่ได้หันไปมองอีกฝ่าย.... เธอไม่รู้ว่าควรทำตัวเช่นไรดี แต่เหมือนมีอะไรที่ทำให้เธอยังคงนิ่งเงียบ ไม่แสดงความรู้สึกเช่นเดิม เธอไม่ได้ร้องไห้.... ร้องไห้ไม่ได้เด็ดขาด....
“เค้าทำให้พี่หัวเราะด้วยนะ”
“อ่อ...” อานโซฮีตอบรับอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่เบายิ่งกว่าเดิม เป็นครั้งแรกที่เธอหวังว่าพี่ซอนเยจะออกไปจากห้องเธอเสียที ออกไปให้เร็วที่สุด เธอไม่อยากที่จะรับรู้เรื่องนี้อีกแล้ว ไม่อยากรับรู้เรื่องของใครก็ตามที่พี่ซอนเยให้ความสนใจ
มินซอนเยจ้องมองอานโซฮีที่ดูใจเย็น ถ้าเป็นคนอื่นคงคิดว่าโซฮีไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่ใช่กับเธอ เธอรู้จักโซฮีมากพอ... เธอรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร จากน้ำเสียงที่มีแววขมขื่น...
แล้วนี่ก็ทำให้เธอตัดสินใจเลิกที่จะแกล้งพูดเรื่องนี้กับอีกฝ่าย เธอทำไม่ได้... เธอน่าจะรู้ว่าเธอไม่ควรทำอะไรแบบนี้... เธอแค่อยากจะแกล้งคืนเรื่องที่โซฮีปลอมตัวเป็นคนอื่นมาหลอกเธอ แต่เมื่อเธอคิดดูแล้ว มันค่อนข้างจะใจร้ายไปเสียหน่อย เพราะนี่คือ โซฮี แล้วเรื่องที่โซฮีทำกับเธอ ก็ไม่ได้ทำร้ายเธอเท่าใดนัก แม้ว่าเธอจะรู้สึกเสียใจ แต่ก็เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงสั้นๆ
“โซฮีไม่อยากรู้เหรอว่าเค้าชื่ออะไร?” เธอถามต่อเบาๆ
ทันใดนั้นอานโซฮีก็เงยใบหน้าขึ้นสบตากับเธอทันที แม้ว่าโซฮีจะไม่ได้สบตากับเธอโดยตรงเพราะอีกฝ่ายกำลังมองคิ้วของเธอต่างหาก
“....อยากรู้สิคะ.... เค้าชื่ออะไรเหรอ?”
มินซอนเยลุกขึ้น พลางยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ๆอีกฝ่าย “จริงๆแล้ว มันก็ดูเป็นเรื่องประหลาดดีเกี่ยวกับชื่อของคนนั้นนะ” สาวหน้าหวานสวยพยายามทำน้ำเสียงติดตลก ก่อนที่จ้องมองสาวหน้ากลมนิ่ง “เค้าบอกพี่ว่าเค้าชื่อ โซยอน”
มินซอนเยสาบานว่าเห็นมือของอานโซฮีสั่นระริกก่อนที่จะนิ่งไปอีกครั้ง สายตาคู่สวยจ้องมองเธอจริงๆเป็นครั้งแรก ก่อนที่เธอจะยิ้มให้อีกฝ่ายบางๆ แล้วขยับไปใกล้ๆจนไม่มีระยะห่างของเธอทั้งสองคน สายตาคมสวยจ้องมองสาวแก้มป่องนิ่ง ขณะที่เธอเลื่อนนิ้วไปสัมผัสพวงแก้มของอีกฝ่ายเบาๆ “แต่ว่าชื่อจริงของเค้า” มินซอนเยหยุดเงียบ ก่อนที่จะต่อประโยคจนจบ
“คือ อานโซฮี”
______
ไม่จำเป็นต้องอ่านเอ็นซีก็ได้นะคะ ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญ
แต่ถ้าใครอยากอ่าน ทิ้งเมลล์ไว้เลยค่า
ความคิดเห็น