คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : -S e c o n d S h o t-
Second Shot
อาน โซฮีเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นในหอพักของเธอกับมินซอนเยและปาร์คเยอึน เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอีกฝ่ายจะตื่นแล้ว หากหญิงสาวต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าห้องนั่งเล่นว่างเปล่าไม่มีใครสักคน ดูเหมือนจะไม่มีใครตื่นเลยสักคน สงสัยว่าเมื่อวานพี่ซอนเยกับพี่เยอึนจะดูหนังด้วยกันดึกไปหน่อย รอยยิ้มปรากฏขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะถอดเสื้อคลุมแล้วพาดไว้บนโซฮีสีอ่อน ก่อนที่จะก้าวเท้าเดินไปยังหน้าประตูห้องของมินซอนเย เธอสูดลมหายใจลึกก่อนที่จะเคาะประตู...
ไม่มีเสียงตอบกลับ...
อาน โซฮีตัดสินใจเคาะประตูแรงๆอีกครั้ง หากยังคงไม่มีเสียงตอบรับ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอเอื้อมมือไปเปิดประตู ก้าวเท้ายาวๆไปยังเตียงนอนที่มีเจ้าของนอนหลับอยู่ ภาพที่เห็นทำให้โซฮีอดยิ้มออกมาไม่ได้
มิ นซอนเยกำลังหลับสนิท ผ้าห่มผืนหนาปกปิดร่างบางๆของอีกฝ่ายจนถึงลำคอ ตุ๊กตาตัวโปรดของมินซอนเยโผล่พ้นออกมาจากผ้าห่ม สายตาอันซุกซนของอานโซฮีเหลือบไปเห็นฝ่าเท้าของอีกฝ่ายที่โผล่พ้นออกมาจาก ผ้าห่ม สาวแก้มป่องยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะเลื่อนมือของเธอไปยังฝ่าเท้าและเริ่มปฏิบัติการจั๊กจี้อีก ฝ่ายอย่างรวดเร็ว...
มินซอนเยร้องออกมาเบาๆอย่างขัดใจ ขณะที่รีบเลื่อนเท้าทั้งสองข้างเข้าไปในผ้าห่มเพื่อหลบหลีกการจู่โจมของอีก ฝ่าย จนอานโซฮีต้องหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“พี่ซอนเย ตื่นได้แล้ว!”
“....ไปให้พ้น” หญิงสาวหน้าหวานครางออกมาด้วยความง่วงงุน ก่อนที่จะหันศีรษะไปอีกทาง
“ตื่น เดี๋ยวนี้เลยนะ พี่ซอนเย พี่จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน?” อานโซฮีพูดพลางลุกไปเปิดผ้าม่าน แสงอรุณแรกของวันเริ่มส่องสว่างไปทั่วห้อง
มินซอนเยครางเมื่อแสงแดดแยงตา ก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งอย่างจำใจ
“โซฮี... จะทรมานอะไรฉันอีกล่ะ?”
สาวหน้าหวานบ่นอย่างเคืองๆก่อนที่จะเอนตัวลงบนเตียงอีกครั้ง พร้อมกับดึงผ้าห่มมาปกปิดใบหน้าหวาน
“ไปปลุกเยอึนไป...”
“ฉันไม่อยากคุยกับคนอื่น ฉันอยากคุยกับพี่”
อานโซฮีพูดอย่างไม่ยอมแพ้ เธอนั่งลงบนเตียงของอีกฝ่าย
“งั้นไว้ค่อยคุยกันอีกที”
“นี่มันจะเก้าโมงแล้วนะ พี่ซอนเย”
“นี่ฉันยังนอนไม่ถึงสี่ชั่วโมงเลยนะ อานโซฮี” เสียงของมินซอนเยดังขึ้นผ่านผ้าห่มผืนหนา
“ฉันก็เหมือนกันแหล่ะ ฉันตื่นตั้งหกโมง”
“ใครก็รู้ว่าเธอน่ะบ้า”
อานโซฮีตีอีกฝ่ายแรงๆ จนทำให้ร่างบางสะดุ้ง
“มินซอนเย ฉันบอกให้พี่ตื่นไง!” หญิงสาวไม่พูดเปล่า พยายามดึงผ้าห่มออกจากตัวอีกฝ่าย
“ฉันอาจจะโป๊อยู่ก็ได้นะ ยัยซาลาเปา!” มินซอนเยพูดพลางฝังใบหน้าลงไปกับหมอนตามเคย....
สาวแก้มป่องชะงักเมื่อได้ยินที่อีกฝ่ายบอก “พี่ไม่ได้โป๊อยู่จริงๆใช่มั้ย? แต่ใครจะสน ฉันก็มีเหมือนพี่นั่นแหล่ะ”
“ยัยบ้า...ไปให้พ้น”
ใบหน้าของอานโซฮีบูดบึ้งก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ “แต่ว่าฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่จริงๆนะ”
มินซอนเยชะงักไปเมื่อได้ยินน้ำเสียงของอีกฝ่าย ก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้นและลูบผมของเธอที่ชี้ฟู
“ก็ได้...เรื่องอะไรล่ะ?”
อานโซฮียิ้มขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตกลงยอมรับฟังเธอแล้ว...
“เมื่อวานฉันไปนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุดเหมือนอย่างเคย แต่ว่า....”
“แต่ว่า?”
“คิมดูฮุนมายุ่งวุ่นวายกับฉัน”
ดวงตาของมินซอนเยวาววับด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินที่น้องสาวของเธอพูดถึง ชื่อนี้ เธอรู้ประวัติของชายหนุ่มผู้นี้เป็นอย่างดี เพราะใครๆก็รู้ว่าคนๆนี้ทำตัวแย่แค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะเพิกเฉยต่อเรื่องนี้...
“ไอ้บ้ากามนั่นมายุ่งกับเธอเหรอ?” มินซอนเยเอ่ยออกมาในที่สุด
“ใช่...เขา-“
“แล้วหมอนั่นทำอะไรเธอหรือเปล่า?” สาวหน้าหวานถามอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเลือนสายตาไปยังใบหน้าของอีกฝ่าย
“พี่ซอนเย เขาไม่ได้ทำอะไรฉันทั้งนั้น” อานโซฮีรีบบอกอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่ามินซอนเยเริ่มทำตัวเป็นพี่ห่วงน้องมากกว่า ปกติ “เขาอาจจะหยาบคายบ้าง แต่เขาไม่ได้ทำร้ายฉัน”
“ตอนนี้ไม่ แต่ต่อไปไม่แน่”
อานโซฮีหัวเราะออกมา หากน้ำเสียงกลับไม่รื่นรมย์เท่าใดนัก “ฉันว่าเขาไม่ทำอะไรฉันหรอกค่ะ เพราะหมอนั่นแค่อยากให้ฉันเป็นหนึ่งในคอเล็คชั่นบนเตียงนอนของเขามากกว่า”
“ถ้าไอ้บ้ากามนั่นมันทำอะไรบ้าๆขึ้นมา ฉันไม่ยอมแน่ๆ”
อานโซฮีหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย “พี่ซอนเยทำเหมือนเป็นองครักษ์ส่วนตัวของฉันอย่างนั้นแหล่ะ”
“ฉันเป็นตัวอย่างที่ดีด้วยเถอะ แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก?”
“เขาถามว่าฉันจะไปงานปาร์ตี้กับเขาได้หรือเปล่า”
“โซฮีบอกไปว่ายังไง?” มินซอนเยเท้าคางถามอย่างสนใจ
“ฉันโกหกเขาไป...ว่าฉันไปกับคนอื่นแล้ว” สาวแก้มป่องพูดพลางเบือนหน้าหนี ไม่สบตากับอีกฝ่าย
มินซอนเยสังเกตได้ว่าดูอีกฝ่ายเครียดขึ้น แล้วตอนนี้เธอก็รู้สึกเครียดไปกับอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้
“แล้วไงต่อ?”
“เขา...เอ่อ...ฉัน...เขาถามว่าฉันจะไปงานกับพี่...คือ”
มินซอนเยจ้องมองใบหน้าที่รู้สึกผิดของสาวแก้มป่อง “โซฮี เธอบอกหมอนั่นไปว่าไม่ได้ไปกับฉัน...ใช่มั้ย?”
อีกครั้งที่สาวแก้มป่องไม่ตอบ แต่ยังคงหลบหน้าเธอ
“โซฮี อย่าบอกนะว่าเธอ...”
“ฉันขอโทษ!” ในที่สุดอานโซฮีก็ร้องออกมา “ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีนี่!”
“แล้วทำไมเธอถึงไม่พูดชื่อคนอื่นล่ะ!” สาวหน้าหวานร้องออกมาด้วยความโกรธ ก่อนที่จะยืนขึ้น เธอรู้สึกตาสว่างขึ้นมาทันตาเห็น “ให้ตายเถอะ! เธอก็รู้ว่าฉันชอบยูบิน...”
อานโซฮีถอนหายใจออกมาเบาๆ ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เธอรู้ดีว่าพี่ซอนเยแอบชอบพี่ยูบินมานานแค่ไหนแล้ว
“...พี่ซอนเย ฉันขอโทษ...ก็ฉันตกใจนี่ พี่ก็รู้ว่าเขาจะไม่ปล่อยฉันจนกว่าฉันจะพูดอะไร ฉันรู้ว่าเขาเกลียดพี่ เขาอิจฉาพี่ ฉันก็เลย...นั่นแหล่ะ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันบอกกับเขาว่าเราไปงานบอลล์ด้วยกัน”
“ฉันไม่สนใจว่าเจ้านั่นจะรู้สึกยังไง โซฮี...ฉันเป็นห่วงเธอ ฉันอยู่ข้างเธอตลอดมา...แต่ว่าเรื่องนี้! ฉันแค่ไม่อยากให้ยูบินเข้าใจผิด!”
หญิงสาวแก้มป่องรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องเมื่อได้ยินเช่นนั้น ความรู้สึกผิดชาวาบขึ้นมาทันที...หากยังคงน้อยกว่าความผิดหวังเมื่อได้ยิน ว่ามินซอนเยปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเธอ อย่างน้อยแค่หลอกว่าเป็นแฟนกันไม่กี่วันก็ยังดี...
“พี่พูดถูก” ในที่สุดอานโซฮีก็พูดออกมา “ฉันผิดเองที่เป็นคนทำให้เรื่องนี้ดูวุ่นวายมากขึ้น ฉันไม่คิดว่าการที่ฉันเผลอบอกเขาไปว่าเราคบกันอยู่มันจะทำให้วุ่นวายขนาดนี้ แล้วฉันก็...”
“คบ?” มินซอนเยถามขึ้นทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา “เธอกำลังบอกฉันว่าเธอบอกไอ้บ้านั่นว่าเราคบกัน?”
อานโซฮีใบหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอพูดไม่ออก...
“อานโซฮี!”
สาวแก้มป่องสะดุ้งด้วยความตกใจ “ฉันรู้ ฉันมันแย่!” เธอรีบลุกขึ้นจากเตียง พลางก้าวเท้าหันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย “พี่ซอนเย ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ....ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพูดแบบนั้นออกไป พี่ลืมเรื่องนี้ไป... ฉันจะ...ฉันจะ...” อานโซฮีถอนหายใจแรงๆ “ฉันจะไปพูดกับคิมดูฮุน...ฉันจะไปบอกความจริงกับเขา”
“ไม่...ฉันไม่ยอมให้เธออยู่กันตามลำพังกับเจ้าบ้านั่นหรอกนะ” มินซอนเยพูด น้ำเสียงยังแสดงถึงอารมณ์โกรธ
“...ก็ได้ ฉันจะแกล้งเป็นแฟนกับโซฮี แต่ว่าเราจะเลิกกันทันทีที่งานปาร์ตี้นั่น อย่างน้อยฉันก็อยากจะสารภาพรักกับยูบิน”
อานโซฮียิ้มออกมาทันทีเมื่อได้ยินที่อีกฝ่ายพูดจบ เธอเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างโอบกอดอีกฝ่ายแน่น
“พี่ซอนเย...ขอบคุณค่ะ! ฉันรักพี่ที่สุดเลย!”
มินซอนเยถอยหลังไปเล็กน้อยเมื่อเสียจังหวะเพราะอีกฝ่ายโถมตัวเข้าใส่อย่าง แรง หญิงสาวหน้าหวานหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะกอดอีกฝ่ายเช่นกัน “ฉันยังเคืองเธออยู่เถอะ”
“ฉันรู้ ไม่แปลกใจหรอก” อานโซฮียิ้มบางๆอย่างรู้สึกผิด “มันไม่ยากหรอกพี่ แค่ทำตัวสนิทกันเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ”
“ก็ใช่” มินซอนเยพยักหน้าเห็นด้วย “แต่ว่าเราต้องบอกเยอึนนะ ไม่งั้นยัยบ้านั่นประสาทเสียแน่ๆ ถ้าหากมันคิดว่าเราคบกันจริงๆ”
“โอเคค่ะ แต่ว่าพี่เยอึนคนเดียวนะ ยัยซอนมีน่ะปากโป้งจะตาย ฉันกลัวว่ามันจะไม่เนียน....”
ความคิดเห็น