บันทึกของชนพ
ถ้าคุณหาเรื่องสนุกๆอยู่ละก็ ข้ามชีวิตนายชนพไปเถอะ
ผู้เข้าชมรวม
49
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ต้นเรื่อง
“นพเอ๊ย... นพ... นพ... ชนพ!!!” เป็นเสียงที่ปลุกให้ชนพตื่นขึ้นในเวลาราวๆ 4 ทุ่มครึ่งของวันอันแสนเหน็ดเหนื่อยของเขา เสียงของแม่เขานั่นเองที่ดังมาจากหน้าบ้านขึ้นมาถึงห้องนอนบนชั้นสองนี่(ซึ่งอันที่จริงด้วยมาตรฐานบ้านทาวน์เฮาส์แบบเก่า หน้าบ้านกับห้องนอนมันก็ไม่ได้มีระยะห่างมากกันนักหรอก) ดูเหมือนว่าแม่ของเขาจะกลับมาแล้ว แต่กลับมาจากไหน เขาก็ไม่รู้ เขาพยายามโทรหาแม่หลายครั้งในช่วงเย็นหลังจากที่กลับถึงบ้านจากการทำงานที่แสนเหนื่อยล้า ร้อน และเดินจนตีนแทบแตกของเขา ชนพพยายามจะลุกขึ้นและสลัดความงัวเงียให้ได้ เขาไม่รู้ว่าแม่เรียกเขาเสียงดังขนาดนี้เพื่ออะไร หรือเขาเผลอล็อคประตูบ้านไว้อีกแล้วกันนะ
แกร๊ก เสียงลูกบิดประตูเปิด แม่มาถึงห้องนอนซะแล้ว ชนพยังลุกขึ้นจากที่นอนไม่ได้ด้วยซ้ำ เวรกรรมของคนเป็นภูมิแพ้ อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยช่วงนี้เล่นงานทั้งจมูก และคอของชนพอย่างไม่ปราณีปราศรัย ซ้ำไข้หวัดครั้งหลังๆที่ผ่านมานี้ยังส่งผลให้เขามีขี้ตาเยอะเป็นพิเศษ คุณเคยเห็นเวลาลูกแมวเล็กๆมันป่วยแล้วมีขี้ตาเกาะตาเป็นก้อนๆเหนียวๆไหมล่ะ น่ารังเกียจชะมัด และไอ้นั่นแหละที่เต้มตาชนพไปหมด อี๋...
“แม่เรียกทำไมไม่ตอบเลย แล้วกุญแจรถเอ็งก็คาอยู่ที่รถอยู่แล้ว บอกกี่ครั้งกี่หนไม่เคยจำ เดี๋ยวขโมยมันก็มาขับออกไปหรอก รั้วเร้อก็ไม่รู้จักปิดให้เรียบร้อย มาทีไรทำแม่หนักใจทุกทีสิน่า”
เสียงบ่นไม่ขาดปากตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก เป็นอย่างนี้ตลอด แม่มักจะต้องบ่นเขาตลอด รัวเป็นชุดไม่เคยหยุด น่าแปลกที่แม่ของเขาสามารถหาเรื่องบ่นได้ทุกครั้งที่เจอหน้า เอ๊ะ หรือเป็นเพราะเขาเองชอบหาเรื่องให้แม่บ่นกันนะ? ช่างเถอะ ชนพเกลียดเสมอเวลาที่แม่เขาบ่นอย่างนี้ หลายครั้งที่เขาคิดถึงบ้าน อยากจะกลับมาหาแม่บ้าง แต่เขาเลือกที่จะไม่กลับ และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้เขาไม่อยากกลับ
“อา... แล้วกุญแจ อยู่ไหนแล้ว” ชนพถามทั้งที่ยังงัวเงีย เขาพยายามยันตัวเองลุกอย่างเต็มที่แม้ว่าไอ้ไข้หวัดที่เขาเป็นจะพยายามจับเขากดลงกลับไปที่เตียงเพียงใดก็ตาม
“นู่น อยู่หน้ากระจกนู่น” แม่ตอบ
แม่หมายถึงหน้ากระจกบานใหญ่กลางบ้านที่เคยเป็นที่ที่เขาชอบมาเช็ดตัวหลังอาบน้ำ และแต่งตัวตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้กระจกบานนั้นแทบไม่ถูกใช้งานในการส่องอีกต่อไปแล้ว มันเก่าและเต็มไปด้วยคราบสกปรก ที่หน้ากระจกเป็นโต๊ะศูนย์รวมความวุ่นวายของบ้าน มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ คือเมื่อใครก็ตามกลับถึงบ้านก็จะเอาของมากองไว้ตรงนี้แหละ กระเป๋า หนังสือ ของจุกจิก แม้แต่พี่ชายของชนพที่กลับมาจากทำงาน เวลาถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ ยังโยนเสื้อผ้าไว้บนโต๊ะนี้เลย(ชนพคิดเสมอว่าน่ารังเกียจชะมัดพี่ชายเขาทำงานทำการแล้วแท้ เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ยังทำตัวเป็นเด็กๆ ครั้งหนึ่งชนพตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่าพี่ชายเขาทิ้งกางเกงในเหม็นโฉ่ที่ม้วนเป็นรูปอินฟินิตี้ไว้บนโต๊ะตัวนี้ ทำเอาเขาแทบอ้วกเลยทีเดียวตอนที่พยายามจะเอามันไปไว้หลังบ้าน... ทำตะเกียบเสียของไปคู่หนึ่งแน่ะ) ต้องเป็นโต๊ะตัวนั้นแน่ๆ ที่แม่หมายถึง
ชนพลงจากเตียงและพยายามจะลงไปเอากุญแจรถมาเก็บกับตัวก่อน เขาไม่อยากต้องไปตามหามันตอนเช้าเวลาที่ต้องรีบออกไปทำงาน
“ฮัดเช้ย!”น้ำมูกใสๆ กระโจนออกมาจากรูจมูกทั้งสองข้างของชนพด้วยความเร็วกว่า 80 กม/ชม. ชนพพยายามคว้าทิชชูมาเช็ดน้ำมูกทิ้งเสีย เขาเกลียดที่สุดเวลาที่ใครต้องมาเห็นเขาในสภาพ “หวัดแดก” แบบนี้ แม้แต่แม่เขาเองก็ตาม
“อ่าว ไม่สบายเหรอ เป็นอะไรมากไหมเนี่ย” แม่ถาม
“ไม่เป็นไรแม่ เป็นหวัดนิดหน่อย” “จะกินอะไรไหม กินอะไรร้อนๆหรือเปล่า เดี๋ยวจะไปซื้อไว้ให้”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณครับ”
“คืนนี้แม่ไม่ได้นอนบ้านนะ ไปนอนโรงพยาบาล”
“อ่าว ใครเป็นอะไร”
“ต้นพุทธมันไม่สบาย แม่เลยไปนอนเป็นเพื่อนอาเอ็งเนี่ย ไม่เอาอะไรร้อนๆแน่นะ”
“ไม่ละครับ”
แล้วแม่ก็ไป ชนพนั่งเรียกสติตัวเองอยู่บนเตียง เขามึนหัวมากจนรู้สึกว่าสามารถลงบันไดยี่สิบขั้นที่เขาขี้นลงตังแต่เด็กได้โดยสวัสดิภาพในตอนนี้ เขาพยายามเปิดตา นวดคอตัวเอง นวดบ่า เรียดสติ ตื่นสิวะ! อย่างน้อยก็แค่ไปเอากุญแจมาก็ยังดี บรี๊น เสียงแม่ขับรถออกไปแล้ว ชนพงัวเงียลงบันได ตายังไม่ค่อยจะเปิด หยิบกุญแจ แล้วขึ้นมานอนต่อ ต้นพุทธ น้องสาวคนเล็กสุด ลูกสาวอาคนเล็กที่เพิ่งแต่งงานไปไม่นาน ต้นพุทธมันอายุได้กี่เดือนแล้วนะ ชนพคิด ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ตัวมันเล็กนิดเดียว ครั้งสุดท้ายที่ชนพเจอน้องสาวคนนี้ เธอให้ของขวัญเขาเป็นอ้วกอุ่นๆ ชนพเลยไม่แน่ใจว่าเขาชอบน้องสาวคนนี้มากนัก ขอให้มันแข็งแรงไวๆก็แล้วกัน ชนพรู้สึกเหนื่อยมาก เหมือนร่างจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ซวยจริงๆ เสือกต้องมาไม่สบายเอาตอนทำงานด้วยนะ พรุ่งนี้อีกวันนึงสินะ เฮ้อ แต่ก็ดี เดี๋ยวก็จบแล้ว จะได้พักสักที...
เปลือกตาของชนพหนักขึ้นเรื่อยๆ มันหนักทั้งๆที่เขาไม่ได้เปิดตาด้วยซ้ำ มันปิด แต่ก็หนักเหมือนโดนหินทับ นอนซะทีกู พรุ่งนี้จะได้รีบตื่นรีบไป และด้วยความง่วงผสมกับอาการป่วยที่รุมเร้า เพียงสามนาทีหลังจากที่เปลือกตาทั้งคู่ของเขางับสนิท ชนพก็หลับไป...
ผลงานอื่นๆ ของ วิศิษฎ์ ดิษฎ์ฐาวรกุล ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ วิศิษฎ์ ดิษฎ์ฐาวรกุล
ความคิดเห็น