คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Fic Majin Tantei Nougami Neuro] MY LAST CAR.
My last car
31 ตุลาคม
เวลา 8 : 00 น
ถ้าโลกนี้ไม่นับเจ้าสัตวประหลาดนั้นเป็นปีศาจ เขาคงไม่มองว่าเจ้ารถบุโรทั่งนี้เองก็เป็นหนึ่งในเรื่องสุดพิศดารที่เกิดขึ้นชีวิตของเขาเอง
โกได ชิโนบุมองเจ้ารถบรรทุกเล็กสีขาวที่โดนยัดเยียดมาให้แทนรถสุดรัก แล้วก็ถอนหายใจเป็นครั้งที่ 30 ของวัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวันที่เขาต้องมาขับรถแบบนี้มันช่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน นี้เขายังไม่ได้สะสมไมล์จากรถสุดรักเขาเลยนะ เพิ่งผ่านมาได้ไม่กี่วันหลังซื้อแท้ๆ แต่นี้กลับต้องมายืนมองดูเจ้ารถใกล้พังนี้จอดเสียอยู่กลางทางโดยที่ไม่ว่าจะซ่อมยังไงมันก็ไม่ดีขึ้นกว่าเดิมสักเท่าไร
ขณะนี้เขาอยู่ห่างจากรถคันดั่งกล่าวประมาณ สิบหลา และกำลังยืนเพ่งพิศมันเป็นการจับผิดเมื่อ ชายหนุ่มล้วงยาสูบราคาถูกที่ซื้อมาจากมินิมาร์ทใกล้ๆ มาจุดสูบก่อนพ่นควันสีขาวให้ลอยฟุ้งเป็นมลพิษรอบกายโดยไม่สนใจสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปมารอบกาย
ไม่แคร์สื่อซะอย่าง
โกไดคิดขณะที่คุณแม่ลูกหนึ่งชี้ชายหนุ่มหัวทองอย่างเขาว่าเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน ว่าถ้าโตขึ้นไม่ขยันเรียนแล้วจะมาลงอีหรอบเดียวกับเขาก่อนจูงลูกจากไป... ชายหนุ่มขยี้บุหรี่ลงพื้นก่อนจะหัวเราะเบาๆ แบบน้ำเสียงไม่โสภา ก่อนจะส่งสายตาพิฆาตไปยังคุณแม่ที่แสนดีให้รีบจรลีจากเป็นการด่วนเมื่อเห็นอนาคตของชาติเร่มชี้มือมายังเขา
เขาเริ่มถอนหายใจเป็นครั้งที่ 31 มือขวาล้วงกระเป๋ากางเกงควานหามือถือก่อนกดเบอร์ ของนักสืบสาวจอมกินจุ มืซ้ายก็เริ่มต้นหยิบบุหรี่มวนใหม่ขึ้นมาเตรียมจุด
Trr
“ฮัลโล คุณโกได”
“...ไม่ต้องพูดมากเลย ยัยบ้า พูดข้อมูลเกี่ยวกับรถคันนี้เดี๋ยวนี้!!”
เสียงรับโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างสดใส แต่แทนด้วยเสียงเหี้ยมเกรียมจากเขาเต็มที่ สายตาอันเต็มไปด้วยความหวาดระแวงนั้นมองไปยังรถคันเก่า เสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะกำลังซึมซับข้อมูลอย่างเชื่องช้า เขายิ้มเล็กน้อยกับข่าวที่นักสืบสาวเล่ามา โกไดจุดไฟแช็ค แสงไฟสีแดงนั้นพลิ้วไหวไปมาตัวกับรถสีขาวที่อยู่ปลายสายตา เขาเปรยเสียงแผ่วเบา กับตัวเองเพื่อไม่ให้ปลายสายได้ยิน
“....นี่คือปริศนาในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าของคนสุดท้ายของรถคันนี้สินะ เนวโร” โกได ชิโนบุเสตามองท้องฟ้าสีครามที่ขัดตา มันช่างงดงามตัดกับวันที่ความรู้สึกของเขาไม่ได้เข้าที่เข้าทางเสียเหลือเกิน เสียงของเด็กๆ ที่แต่งตัวเป็นผี ไล่ล่าหาคนหลอกดัวแว่วไปมาให้เขาเริ่มรับรู้ถึงความเป็นไปของเทศกาล ชายหนุ่มถอนหายใจครั้งที่ 32 ปิดมือถือลงแล้วพึมพัมกับตัวเองว่า “....ยินดีต้อนรับเข้าสู่วันฮัลโลวีน”
ใช่แล้ว ถ้าโลกนี้ไม่นับเจ้าสัตวประหลาดนั้นเป็นปีศาจ เขาคงไม่มองว่าเจ้ารถบุโรทั่งนี้เองก็เป็นหนึ่งในเรื่องสุดพิศดารที่เกิดขึ้นชีวิตของเขาเอง ถ้าโลกนี้ไม่เชื่อว่าเจ้าเนวโรมันเป็นปีศาจ เขานี้แหละจะยืนยันว่าไอ้สัตว์ประหลาดนั้นน่ะปีศาจชัดๆ แล้ว เจ้ารถของเขานะ มันผิดปกติเข้าขั้นชัดๆ และถ้าจะให้เล่าว่าไอ้รถธรรมดาๆ คันนี้กลายเป็นสิ่งที่เหมือนกับเงามาเกาะกุมหัวใจเขาได้อย่างไร ก็คงต้องขอย้อนเหตุการณ์ที่เกิดในวันวานเสียหน่อยแล้ว
ย้อนก่อนวันฮัลโลวีนหนึ่งอาทิตย์
จุดเริ่มต้นของคำว่าซวยอาจเริ่มต้นในระยะเผาขน เมื่อเขาได้เจอกับภัยนอกการรับรู้ของมนุษย์ ที่ชื่อโนงามิ เนวโร คนแปลกๆ ที่ใช้เขาเยี่ยงทาส (ขนานนามให้อีกด้วยว่าเป็นทาสหมายเลข 2 ) และเด็กสาว ม.ปลายอย่างยาโกะ (เจ้าของนามทาสหมายเลขหนึ่ง ผู้หญิงหน้าโง่ที่ไม่ได้โง่อย่างที่คิดเลยสักนิดจริงๆ) เขาก็ต้องพบความซวยนานาประการที่เจ้าสองตัวนี้จะสรรหามาให้ ไม่ว่าจะเป็นการตกงาน การถูกลากมาทำงาน การถูกบีบบังคับให้เฝ้าสำนักงานด้วยข้าวปั้นไม่กี่ก้อน ฯลฯ แล้วที่เลวร้ายที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เขาต้องเสียรถที่เพิ่งถอยหมาดๆ ไปให้กับการหยุดยั้งเจ้าวายร้ายไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ ชื่อ HAL อะไรนั้นอีก และไม่ว่าจะอยากตะโกน กระชากคอ หรืออยากฆ่ามากเพียงไหน เขาก็ต้องหุบปากให้เงียบเข้าไว้เพื่อเป็นการเอาตัวรอดจากการทารุณกรรมจากเจ้าปีศาจนั้นให้ได้มากที่สุด
และก่อนที่จะเริ่มย้อนความคิดไปด้วยมากกว่านี่ สิ่งที่เขาออกจะกึ่งๆ รับไม่ได้คงไม่พ้นเจ้ารถเจ้าปัญหาซึ่งมาแทนรถสุดหรูของเขา มันเป็นรถบรรทุกขนาดเล็กที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งานอย่างที่สุด ยานยนต์คันนี้เป็นรถสีขาวขนาดที่สามารถนั่งได้สองคน กระบะรถสามารถบรรทุกของหนักได้เกือบห้าร้อยกิโล โกไดรู้ว่ารถขันนี้ถูกผลิตออกมาสำหรับการเคลื่อนย้ายขนาดเล็ก ที่เหมาะกับการเคลื่อนตัวในเมืองใหญ่ๆ ที่หนาแน่นไปด้วยรถรา และทางผู้ผลิตก็จำกัดตัวจำนวนเนื่องจากว่ามันไม่ได้เป็นรุ่นที่ดีนักในยุคที่น้ำมันแพงเข้ากระดูก มันไม่ได้รักโลกอย่างที่ควรจะเป็น นอกจากจะกินน้ำมันแบบเรียกเลือดขึ้นหน้าแล้ว มันยังสามารถปล่อยควันพิษได้อีกต่างหากหากขับนานโดยไม่ได้ล้าง หรือเปลี่ยนหัวฉีด ไม่แปลกเลยที่เจ้าเนวโรนั้นจะซื้อมาได้ในราคาที่เหมือนได้มาฟรีๆ เพราะสภาพชำรุดแบบสุดๆ มันก็สามารถบอกได้แล้วว่าเจ้ารถคันนี้ไม่ได้เป็นที่ต้องการของคนยุคนี้เท่าไรนัก รวมถึงเจ้าของเก่ามันด้วยที่ดูเหมือนไม่รักมันแบบสุดๆ จนสภาพมันทรุดโทรมลงกว่าเดิม
ช่างน่าสงสาร .ไม่รู้ว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นไปหามาได้ยังไง โกไดคิด เขาเอามือสัมผัสกับรอยแตกที่ไฟหน้ารถ เจ้าบุโรทั่งคันนี้อยู่กับเขามาได้เดือนกว่าๆ แล้ว และเขาก็ยังคงสภาพเดิมมันเอาไว้ทุกกระเบียดนิ้วตังแต่เสียค่าปรับเรื่องที่จอดรถเขาก็ยังไม่ได้มาสำรวจรถตัวเองเป็นจริงๆ จังเลยซักครั้ง
อาจเป็นเพราะวันนี้เป็นวันที่เขาดันซดเบียร์ไปหลายกระป๋อง เลือดของพวกที่ชอบยานยนต์เป็นชีวิตจิตใจในตัวจึงเหมือนร้องเตือนถึงสิ่งที่เขามีอยู่ในครอบครองว่าควรใส่ใจมันบ้าง
โกได ชิโนบุ ตัดสินใจลงมาตรวจรถให้ละเอียดด้วยตัวเองในวันที่ท้องฟ้าฝนเริ่มแปรปรวน เขาไม่ได้สนใจเรื่องสภาพอากาศที่อยู่ข้างนอกมากนัก ตอนนี้เขาอยู่ในอู่ซ่อมรถของคนรู้จักที่เคยใช้บริการสมัยอยู่กับเจ้านายเก่าที่ตายไป ทางเจ้าของต้อนรับเขาอย่างดีด้วยความหวั่นเกรงที่รู้ได้จากประสบการณ์ นับว่าเรื่องอิทธิพลเขายังพอมีอยู่ สมฉายาหมาบ้าที่ไม่ได้ถูกลืม (แต่อันอื่นควรลืมๆ ไปซะ)
เขานั่งขัดถูกรถเป็นการใหญ่ ตรวจตราดูสายไฟทุกเส้นเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน และจัดการเติมสิ่งที่ขาดหายไปบ้าง ด้วยการที่มีอาวุธอยู่ครบมือ การที่จะซ่อมแซมตามตำแหน่งที่ตัวเองรู้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไรเท่าไรนัก แม้ไม่ได้เก่งเท่าช่างที่มีฝีมือ แต่เขาก็เก่งพอตัวกับเรื่องที่เขารัก ปัญหาอยู่ที่มันใช้เวลานานกว่าปกติเนี่ยสิ ล่วงเลยมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง เขาหันมองนาฬิกาของอู่ซ่อมรถ ก็เห็นว่ามันเป็นเวลาเกือบตีหนึ่งเข้าไปแล้ว ชายหนุ่มเคลื่อนตัวออกจากใต้ท้องรถ ก่อนจะหันไปมองรอบกาย ดูเหมือนว่าช่างคนอื่นคงจะกลับไปหมดแล้ว
น่าจะส่งเสียงเรียกกันบ้าง
โกไดคิด เขาปาดเหลื่อที่ไหลอยู่รอบดวงตาด้วยหลังมือ ก่อนหันกลับไปมองเจ้ารถของเขา สภาพมันดูดีกว่าเดิมขึ้นมาก แม้ว่าภายนอกมันจะยังดูไม่เปลี่ยนแปลงเพราะเขายังไม่ได้ทำการเคลือบสี หรือจัดการส่วนที่บุบเลยก็ตาม เขาเปลี่ยนตัวถังใหม่หมดให้จักการกับน้ำมันได้ดีกว่าเดิม เขาคิดว่ามันน่าจะดีถ้าให้คนมีฝีมือกว่าเขานั้นมาดูเครื่อง แต่ความคิดนี้ของเขาถูกละไว้ด้วยภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป แค่ที่เขาทำอยู่นี้ก็ต้องจ่ายไปเยอะแล้ว นี่ถ้าความจริงไม่ติดว่าจ้างคนอื่นมันแพง เขาก็คงให้คนที่ซ่อมไว เร็ว และดี มาทำไปให้เสร็จหมดเรื่องยุ่ง แต่เพราะอยากลองฝีมือกับความอยากประหยัดมันก็เลยทำให้เขาต้องอาบเหงื่อแบบนี้ ซึ่งสำหรับโกไดแล้ว
มันสนุกสุดๆ ไปเลย!! ความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของรถเริ่มทยอยเข้ามาสู่ใจของชายหนุ่มหัวทอง เจ้าของฉายาหมาบ้าแบบเขา ด้วยเพราะแรงกายที่เสียไป และความภาคภูมิใจของงาน เลยทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึก รัก เจ้ารถคันนี้เขาอย่างจังๆ
เอาเถอะ ก็ให้มันสุดๆ ไปเลยแล้วกันนะ เขาฮัมเพลงในลำคอ ก่อนจะโน้มตัวไปจูบ เจ้ารถเจ้าปัญหาขงเข้าที่กระจกด้านข้างคนขับที่มีรอยแตกอยู่ ความร้อนจากลมหายใจเป่ากระจกรถขึ้นฝ้า ก่อนถูปแทนที่ด้วยรอยจูบของเจ้าของรถของมัน โกได ชิโนบุ ถอนริมฝีปากออกจากกระจก เขายิ้มอย่างภูมิใจก่อนจะใช่หลังมือเช็ดเจ้ารอยฝ้านั้นออก แต่สายตาของเขาก็พลันไปเห็นสิ่งแปลกปลอมบางอย่างที่ติดอยู่ที่พวงมาลัยคนขับ
เขาเปิดประตูออกมาก ก่อนที่จะนั่งลงตรงที่นั่งคนขับ โกไดหยิบไฟฉายจากหน้ารถมาส่องดูเจ้าสิ่งแปลกปลอมที่เขาไม่เคยสังเกต สิ่งที่เขาเห็นคือสติกเกอร์รูปเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วเขียมมันออกมาอย่างระมัดระวัง นี่เจ้าของรถคันเก่าคงติดมันทิ้งเอาไว้สินะ เขาดึงรูปมาดูใกล้ๆ กาวที่ติดอยู่หลังรูปนั้นเกาะแน่นที่ปลายนิ้ว ภาพของเด็กหญิงนั้น ยิ้มร่าให้กับเขา เขายิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดเบาๆ ว่า
“น่ารักดี ”
“ใช่มั้ยละ?”
เสียงปริศนาไร้ที่มาดังขึ้น โกไดชะงักค้างก่อนจะรีบหันไปมองรอบตัว เขาไม่เห็นใคร ชายหนุ่มเปิดประตูรถออกมา เขายืนมองรอบๆ อู่ แต่ก็ไม่มีเงาได้ผ่านเข้ามาในสายตา ความหนาวเย็นที่แปลกประหลาดนั้นลอยอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ โกไดคิดว่านั้นเป็นเพราะฝนที่ตกมาหนัก จึงเปลี่ยนอากาศรอบตัวเขาได้ เขาเอารูปที่ติดอยู่ปลายนิ้วมาดูอีกครั้ง เด็กหญิงยังยิ้มไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความรู้สึกของเขานั้นมันช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน คล้ายกับใครบางคน ไม่สิ สิ่งแปลกปลอมนั้นกำลังเฝ้ามองเขาอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มหันกลับเข้ามานั่งในรถอีกครั้ง เขานั่งหลับตาสักพัก เพื่อคลายอาการคิดมากของตัวเอง โกไดควานหาบุหรี่ที่มีติดตัวมาคาบเอาไว้ ก่อนจะควานหาไฟแช็คที่วางเอาไว้เพื่อมาจุด ด้วยเพราะเจ้าไฟฉายนั้นกำลังจะหรี่แสงดับลงแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย เขาจึงต้องใช้ความพยายามควานหาสิ่งที่ต้องการในที่มืดอย่างลำบาก แต่แล้ว เมื่อใกล้คิดว่าจะได้เจอกับสิ่งที่จะหยิบ มือของเขาก็คว้าเขากับบางอย่างที่อุ่น และหยาบกร้านข้าได้เสียก่อน
“เฮ้ย ”
ความมืดที่อยู่รอบตัว ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาจับอะไรอยู่ อันที่จริงเขารู้ว่านั้นเป็นมือของคน แต่ของใครละ?
“แกเป็นใครนะ เฮ้?”
แกร๊ก เสียงล็อคของประตูดันขึ้นท่ามกลางความเงียบ ชายหนุ่มเสไปมองดูที่ประตูด้วยความแปลกใจ เขาเริ่มตัดสินใจส่งเสียงถามอีกครั้ง
“แกเป็นใครน่ะ?” สายตาเพ่งไปที่เงาร่างดำที่มือ ก่อนเลื่อนสายตาไปยังเจ้าของ คำถามที่เหมือนตอบไม่ได้ทำให้เขาต้องเพ่งเล็งไปที่เงาดำๆ รูปร่างคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา เงาแสดงออกมาว่าเป็นผู้ชาย กลิ่นสาบของโคโลญ์ กลิ่นเบียร์ และกลิ่นน้ำมันคล้ายๆ เขาลอยคลุ้งออกมา ดูเหมือนมันจะกุมมือเขาที่กำลังกำไฟแช็คอยู่ ชายหนุ่มพยายามดึงมือออก แต่เจ้ามือที่แสนหยาบกร้านและแข็งแกร่งนั้นกลับยึดมือเขาเอาไว้แน่น โกไดพยายามใช้มืออีกข้างนั้นกระแทกเจ้าของมือนั้นแรงๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ฝ่ายนั้นจับข้อมืออีกข้างเอาเสียนี่ และกว่าที่จะรู้ตัว เจ้าคนลึกลับก็กดริมฝีปากเข้ากับปากที่คีบบุหรี่เอาไว้อย่างรุนแรงแบบที่ไม่ทำให้ชายหนุ่มตั้งตัว บุหรี่หลุดร่วงออกมาจากริมฝีปากด้วยลิ้นของอีกฝ่ายที่แทรกดันเขามาเบียดเนื้อที่ โกไดอยากแหกปากร้อง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสใดๆ ทั้งสิ้น กลิ่นของเหล้า และกลิ่นน้ำมันเครื่องที่คลุ้งจมูกบอกได้แค่ว่า เจ้าของเงาที่กำลังรุกล้ำเขามานั้นร้ายกาจและไม่น่าไว้ใจอย่างรุนแรง!!
“อย่ามาตลกนะว้อย!!~ “เขาตะโกนออกมาเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยออกมาเป็นอิสระแต่นั้นก็เพียงไม่กี่วินาทีเมื่อเขา ถูกเจ้าของลิ้นที่แสนเก่งกาจมันบดจูบอันร้อนแรงเข้าอีกครั้งพร้อมกดร่างของเขาให้ติดกับประตูข้างคนขับ สัมผัสจากผิวหน้าที่กำลังร้อนผ่าว เขาก็รู้สึกเหมือนใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นเบียดชิดรูสึกได้จากความเจ็บปวดที่เหมือนเข็มทิ่มของหนวดมากมายที่ซุกไซร้ทั้งลำคอและย้อนกลับมาจูบเขาต่อ ราวกับขวานหากลิ่นกายของตัวเขาเองแบบไม่สนใจว่า โกไดจะชักสีหน้าแบบใดเลย
“อุ๊ อือ ” หัวสมองของเขากำลังขาวโพลน ลิ้นที่เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์นั้นกำลังสำรวจทุกพื้นที่ไม่มีการให้เขาได้ร้องโอดครวญ แต่เมื่อเจ้าของร่างนั้นปล่อยมือขวาของเขาออกเพื่อที่จะได้มาสัมผัสร่างกายของชายหนุ่ม โกไดก็รีบเรียกขวัญและกำลังใจของตัวเองออกมา ชกตะบันหน้าเจ้าเงานั้นอย่างแรงแล้วรีบหันไปเปิดประตูออก สลักล๊อคดึงออกมาได้อย่างยากลำบาก แต่เมื่อมันหลุดขึ้นมาทั้งอัน เขาก็รีบกระโจนออกมาโดยรีบดึงเสื้อที่ถูกเลิกขึ้นตอนไหนไม่รู้ให้กลับเขาที่ ชายหนุ่มจุดไฟแช็คในมือ แสงไฟพุ่งขึ้นมาพร้อมแรงโทสะที่กระโจนอยากขย้ำเจ้าคนตะไลที่บังอาจมาทำกับเขาแบบนี้ แต่แสงไฟที่ส่องนั้นกลับพบเพียงความว่างเปล่า
ความเงียบปกคลุ่มพื้นที่อีกครั้ง ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายนิ้ว เขายกมันขึ้นมาดู เล็บนิ้วชี้ของเขาฉีกออกมาเลือดสีแดงชานนั้นไหลออกมาตามปลายนิ้ว มันเปรอะเปื้อนรูปเล็กที่ยังคงติดแน่นอยู่ที่ปลายนิ้ว
โกไดเสมองไปยังที่รถของเขาอีกครั้งเพื่อดูให้แน่ใจว่า เจ้าคนบ้ากามนั้นไม่ได้หลบหรือซ่อนอยู่ในที่ไหนของรถ ครั้งเขาไม่เห็นใคร ก็ดับไฟลง แล้วรีบเดินออกจากอู่พร้อมรูปที่อยู่ในมือโดยที่ไม่ได้หันกลับมามองเจ้ารถเจ้าปัญหาของเขาอีก
เขาไม่รู้เลยว่า ท่ามกลางเสียงสายฝน เงาร่างของใครบางคนกลับยิ้มกริ่ม มองเขาอย่างไม่วางตาจากในรถ ราวกับเจอสิ่งที่ถูกใจ ใช่แล้ว โกได ชิโนบุไม่รู้เลยว่า ที่จริงแล้วนี่น่ะ เป็นจุดเริ้มต้นสิ่งเล็กของเขากับเจ้ารถของเขา ด้วยเพราะการที่เขาแกะรูปใบนั้นออกมา
จบส่วนที่ 1
ความคิดเห็น