ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic An cafe :My LOVE [TerukixMiku]

    ลำดับตอนที่ #10 : Part 10 : My Love,I love You

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 52


    2 ปีผ่านไปเร็วเหมือนโกหก(ก็โกหกจิงๆนิ= =’’)

    “ไง เทรุกิ”เสียงทักทายเสียงใสของร่างบางที่แต่งตัวได้โดดเด่นถึงแม้จะใส่ชุดธรรมดาอดีตมือกลองวงเจร็อกที่ตอนี้หลังจากเหตุการณ์ที่มือเบสและนักร้องนำลาออกได้ผลันตัวมาเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องดนตรี

    “ไง โบมีอะไรหรอ”ร่างสูงที่กำลังนั่งดูบัญชีอย่างขะมักขะเม้นโดยที่ไม่สนเพื่อนของตนเลย

    “เฮ้อ วันนี้ได้ยินมาว่าทาคุยะได้จดหมายจากคานนด้วยนะ”สิ่งที่โบพูดทำให้ร่างสูงหันมาสนใจแทบจะทันที

    “คานนเขียนว่าอะไรบ้าง”โบยิ้มนิดๆก่อนจะส่งซองจดหมายให้เทรุกิที่ประทับตาต่างประเทศทำให้เทรุกิอึ้งไปเล็กน้อย

    “ท่าทางพวกนั้นจะไปรักษาตัวที่อเมริกาอ่านะ”โบพูดเสียงอ่อนพลางหยิบใบปลิวเครื่องดนตรีมาดู

    “มิคุ....”เทรุกิพูดเบาๆแต่มันก็ดังพอที่อีกคนจะได้ยินภายในร้านที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป

    “ถ้ารักเค้าอยู่ก็ไปสิ ครั้งนี้สัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีก”โบยิ้มพร้อมส่งตั๋วเครื่องบินให้เทรุกิ ร่างสูงอึ้งเล็กน้อยก่อนจะรับตั๋วมาพร้อมขอบคุณกับอีกคน

    “แต่วีซ่า ทำเองนะ555+และก็ฝากขอโทษมิคุด้วยที่ทำให้อาการกำเริบขนาดนั้นนะ”เทรุกิเห็นดังนั้นจึงลูบหัวเบาๆทำให้อีกคนนึกถึงสัมผัสเอาแสนอ่อนโยนของไคคนหนึ่งที่เค้าไม่เคยที่จะได้รับเลย

    “ไม่เป็นไรวีซ่าชั้นยังไม่หมดอายุ555+”เทรุกิพุดติดตลกทำให้อีกคนหนึ่งเห็นไคซ้อนทับเพื่อนของเค้าที่แม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็จะยิ้มอย่างสนุกสนานและจริงใจกับตัวเค้าเสมอถึงว่าล่ะทำไมมิคุถึงรักหนักรักหาเพราะอย่างนี้นี่เอง

    ---------------------------------------------
    “หนาวไหม”ร่างสูงอดีตมือเบสถามคนที่นอนบนเตียงสิ่งที่ได้รับมาคือการส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่

    “กินอะไรบ้างเถอะน้า อีกไม่นานก็หายแล้วอย่าทำตัวเป็นเด็กๆสิ”อีกคนยังนิ่งก่อนจะหยิบปากกากับกระดาษมาเขียนส่งให้อีกคน

    “เออๆ ดีเนอะตอบมาว่าไม่มีกำลังใจจากคนรัก เหอๆ มีชั้นก็ดันไม่เอาเองเนอะ”มิคุทำหน้าขยะแขยงเป็นเชิงแกล้งทำเอาอีกคนหงุดหงิดเล็กน้อย

    “เออๆรู้แล้วล่ะ จิงสิเห็นหมอบอกว่านายนะหายแล้วแต่ที่เสียงไม่กลับมาน่าจะเป็นจิตใจของนายมากกว่าที่ปิดกั้นนะ”มิคุทำท่าทางฟังแล้วเขียนบางอย่างให้คานน

    “หือ ไรเนี่ยอยากออกจากโรงพยาบาล”คานนแทบอยากจะเอาจานในมือทุบหัวคนที่นอนเล่นบนเตียงที่กำลังฟังipodอยู่จิงๆ

    “เออๆเดี๋ยวถามหมอให้อยู่นานก็เสียเงินมากขึ้นอ่านะ ใช่ว่าเรามีเงินมากซะที่ไหน”ว่าแล้วคานก็เดินออกไปข้างนอกโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกคนที่ฟังเพลงอยู่น้ำตาได้ไหลออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

    ‘เทรุจังจะเป็นอย่างไงบ้างนะ จะไปดีกับโบไหม แล้วทำอะไรอยู่นะ’ตลอดสองปีที่ผ่านมาร่างที่นอนอยู่บนเตียงต้องรับการผ่าตัดหลายรอบเงินที่เก็บสะสมและที่ครอบครัวทุ่มเทหากันมาก็หมดไปกับการผ่าตัดครั้งแล้วครั้งเล่าของตน และผลที่ออกมาคือเค้าหายแล้วเหลือแต่เสียงที่พยายามอย่างไรก็ไม่กลับมาซักทีทำไมกันนะถ้าปาฏิหารย์มีจิง ก็ขอให้เกิดกับเค้าด้วยเถอะ

    ---------------------------------------------------
    “ไปดีๆครับเทรุกิซัง”เสียงบอกลาของทาคุยะที่ตอนนี้อยู่ข้างๆกับยูกิที่ไม่มีแว่นตาและหัวฟูๆเหมือนเดิมทำให้แปลกตาไม่น้อยนอกจากจะหน้าตาดีแล้วยังดีอีกตั้งหาก

    “คราวนี้ก็อย่านอกใจอีกนะครับพวกผมขี้เกียจต้องเสียน้ำตาอีกนะครับ”ยูกิพูดพร้อมตบไหล่เทรุกิทำเอาคำถูกว่ายิ้มนิดๆ

    “พวกนายนี้ก็ยังตัวติดกันเหมือนเดิมเลยนะ”ทั้งคู่ยิ้มนิดๆก่อนจะยื่นบัตรอะไรให้

    “ร้านอาหารของพวกผมนะครับเทรุกิมีที่สำหรับเล่นกีต้าร์และเครื่องดนตรีอื่นๆและเครื่องดนตรีจะสั่งจากร้านของเทรุกิซังนะครับ”ทาคุยะพูดทำให้อีกคนเข้าใจว่าทั้งสองคนนี้หายไปไหนที่แท้ก็แอบไปลงทุนกันสองคนนี่เอง

    “พวกนายนี่ก็ก้าวหน้าไปเยอะว่าแต่โบไม่มาหรอ”ทั้งคู่ส่ายหัวพร้อมกันทำให้คนที่มองอดเอ็นดูทั้งสองคนนี้ไม่ได้ถึงจะอายุมากขึ้นแต่นิสัยก็เหมือนเดิมจิงๆ

    “อ่ะ ได้เวลาไปแล้วชั้นไปก่อนนะโชคดีนะพวกนายฝากร้านชั้นด้วยนะ”ทั้งสองคนยิ้มลาก่อนถอนหายใจ

    “เฮ้อ คุณโบคิดจะทำอะไรของเค้านะเนี่ย”ทั้งสองต้องปิดกันเรื่องที่คุณโบจะตามคุณเทรุกิไปดูว่าสำเร็จตามที่หวังหรือเปล่า

    “ไปกันเถอะเดี๋ยวจะได้เวลาเปิดร้านแล้วอ่า”ทันทีที่ยูกิพูดจบก็เดินนำอีกคนไปขึ้นรถ

    “เฮ้ รอด้วย”ทาคุวิ่งตามอีกคนและเหมือนอีกคนรู้เลยชะลอฝีเท้าให้อีกคนตามทัน

    ----------------------------------------------------------------
    “อ่านหนังสือเป็นด้วย”เสียงกวนประสาทของคานนทำให้มิคุปิดหนังสือก่อนจะเขียนอะไรให้คานนและเมื่อได้โอกาสมิคุก็เอาหนังสือฟาดลงกลางกะบาลทำเอาอกคนมึนไปเลยก่อนจะอ่านสิ่งที่อีกคนเขียน

    “ให้ชั้นไปนรกเรอะฝันไปเถอะชั้นจะหลอกหลอนนายไปตลอดชีวิตคอยดู”พูดจบมิคุก็วิ่งไปล็อกคอทำท่าเหมือนนักมวยปล้ำ

    “ถ้าแกมีเสียงคงได้บรรยากาศกว่าอีก”มิคุคลายแขนของตัวเองก่อนจะกลับมานั่งเตียงในห้องของตนเองในหอพักของคานน

    “ไม่ต้องเศร้าหรอกเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองนะเชื่อชั้น”อีกคนยิ้มก่อนจะไปเก็บของว่างไว้เข้าที่

    ----------------------------------------------------------------
    “ที่นี่หรอ เฮ้อ ต้องทำใจก่อนเข้าไป”เทรุกิมายืนอยู่หน้าห้องของคานนก่อนทำท่าจะเคาะมารอบที่ร้อยแล้วแต่ก็ไม่ได้เคาะซักทีโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกคนที่แอบลุ้นตัวจนตัวสั่นแล้ว

    “มาแอบตรงนี้เดี๋ยวเค้าก็เห็นหรอก”เสียงเรียบพูดข้างหูของคนแอบดูทำเอาคนที่แอบอยู่ตกใจจนแทบจะร้องแต่อีกคนก็รีบปิดปาก

    “เงียบๆหน่อยสิเดี๋ยวมันก็ได้ยินพอดี”อีกคนยอมทำอย่างว่าง่ายก่อนจะหันไปดูอีกครั้ง

    “โอเค ทำใจได้แล้ว”พอประโยคสุดท้ายพูดจบเทรุกิก็เคาะประตูแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับขณะที่คิดว่ากลับไปรอที่อื่นดีกว่าร่างบางของคนที่ร่างสูงคิดถึงที่สุดก็ปรากฏออกมา

    “มิคุ”คนที่ถูกเรียกแทบจะปิดประตูแต่อีกคนก็ไวกว่าดึงอีกคนเข้ามากอดไว้เหมือนป็นสิ่งล้ำค่า

    “........”อีกคนดูเหมือนจะพูดต่อว่าประมาณว่าปล่อยแต่เสียงกลับไม่ออกมา

    “ชั้นรักนายนะขอร้องล่ะเชื่อเถอะนะชั้นจะไม่ทำเรื่องอย่างนั้นอีกแล้วขอแค่มีนายก็พอคนเดียวของชั้นแค่นั้น”เทรุกิกระชับอ้อมกอดก่อนจะมองอีกคนที่น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

    “ทะ........เท.....เทรุ......จัง”เหมือนเสียงที่ห่างหายไปจะกลับถึงจะเป็นคำพูดที่แผ่วเบาแต่เทรุกิก็ดีใจ

    “มิคุนายขอร้องพูดอีกเถอะอยากได้ยินเสียงของนาย พูดอีกหน่อยเถอะ”อีกคนที่ไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่พูดก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาที่ไหลออกมา

    “ชะ......ชั้น.....ระ.....รัก......นะ.......นาย”เทรุกิมองหน้าอีกคนแล้วประกบจูบมอบความหอมหวานและหาความหวานที่ห่างหายไปนานคืนมา

    “ชั้นจะดูแลนายเองจะไม่ให้ไคมาทำหน้าที่นี้อีกแล้ว”มิคุยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายที่เช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายบาง
    ------------------------------------------------------------------
    “นี่ทำใจได้หรอ”โบถามก่อนจะนั่งลงปั้นตุ๊กตาหิมะเล่นโดยมีอีกคนมองดู

    “ได้สิก็ชั้นแค่ขออยู่ข้างๆเค้าเองนิตัวจริงมาแล้วหมดหน้าที่ชั้นแล้ว”คานนพูดพร้อมดึงม้วนบุหรี่ออกมาสูบ

    “นี่ สนใจคนนั่งข้างๆไหมล่ะ”โบพูดแบบยิ้มนิดๆทำเอาคานนหยักคิ้วข้างหนึ่งอย่างลองเชิง

    “ถ้าทำให้ชั้นสนใจได้ก็ลองดูสิ”อีกคนยิ้มร่าก่อนจะดึงบุหรี่ของอีกคนมาสูบต่อ

    “นี่ถือว่าเป็นจูบทางอ้อมนะ”โบพูดแบบเขินนิดๆก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นโดยที่คานนขำนิดๆก่อนจะดึงอีกคนมาจูบทำให้คนที่ถูกกระทำอึ้งกับเหตุการณ์ทันที

    “ไม่ต้องทางอ้อมก็ได้”คานนยิ้มแบบมีเลศนัยก่อนจะเดินเข้าหอพักของตัวเองทำให้อีกคนเขินหน้าแดงแป๊ด
    -----------------------------------------------------------------
    “เฮ้อ....”ทาคุยะที่ถอนหายใจออกมาอย่างยาวตรงเคาท์เตอร์ของร้านของตนกับยูกิเพราะความเงียบที่มีมากจนเกินไป

    “ทำใจเย็นๆน่าเดี๋ยวก็ดีขึ้นเองล่ะเพิ่งเปิดไม่นานเองนี่”ทาคุยะทำหน้างอเล็กน้อยก่อนจะสังเกตเห็นขนส่งคันใหญ่ที่มีกำลังขนเครื่องดนตรีที่เค้าสั่งมา

    “ไง ทาคุยูกิสบายดีไหมชั้นเอาของมาส่งล่ะ”ทั้งสองคนยิ้มให้กับคนที่มาส่งแล้วทำหน้าสงสัยเล็กน้อยเพราะคนๆนี้เพิ่งไปอเมริกาได้อาทิตย์เดียวเอง

    “พอดีชั้นอยากมาเซอไพร์พวกนายอ่า เข้ามาสิ”เทรุกิตอบข้อสงสัยแล้วคนที่ทั้งสองคนคิดไม่ถึงเดินเข้ามาพร้อมกับอุ้มหมาตัวน้อยมาด้วยถึงมันจะใหญ่ขึ้นเนื่องจากกาลเวลา

    มิคุซังO.O”ทั้งสองคนเข้ามาอีกคนรีบลุกขึ้นมาหาอีกคนอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ย นี่จะกอดกันนานไหมเนี่ยแฟนชั้นนะโว้ย”เทรุกิแซวก่อนจะบอกให้คนยกของไปลงที่ๆทาคุยะเคยบอกว่าอยากให้เอาลง

    “มิคุซังคิดถึงจังเลยครับ”ทาคุยะพูดพลางลูบหมาน้อยที่กำลังดิ้นไปมาในอ้อมกอดของคนที่เค้ากำลังพูดด้วย

    “เหมือนกันจ้ะทาคุ”เสียงที่พูดออกมาทำให้สองคนน้ำตาไหลเสียงที่ไม่ได้ยินมานานก็ได้ยินซักทีเสียงอันทรงเสน่ห์

    “ดีใจด้วยนะครับ”ทั้งสองคนก็คุยกันไปอีกพักหนึ่งก่อนจะมีคนสองคนเดินเข้า

    “นี่ กะจะปล่อยให้พวกชั้นรอข้างนอกจรากงอกหรือไงเนี่ยมิคุ”โบพูดพลางควงแขนคานนแน่นทั้งๆที่อีกคนทำหน้าเฉยๆ

    “ทั้งสองคนนี่ก็ลงเอยกันได้ซักทีครับ”คานนมองเปรยๆก่อนไม่พูดอะไรก่อนจะมายืนข้างมิคุ

    “ถ้าเป็นคนนี้คงดีกว่า”มิคุขำนิดๆก่อนจะมองไปที่โบที่กำลังมิคุอย่างแค้นนิดๆทำเอามิคุรีบวิ่งไปหาเทรุกิทันที

    “ชั้นไม่หมาหัวแหลมหรอก”คำพูดแทงใจดำทำเอาคานนหน้าเสียนิดๆก่อนมาดที่เก๊กเอาไว้จะหลุดทีละน้อย

    “555+”คนอื่นๆหัวเราะโดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนสองคนที่กำลังกุมมือกันแน่นก่อนที่เทรุกิจะกระซิบที่ข้างหูอีกคน

    “I Love You”มิคุยิ้มก่อนจะหอมแก้มอีกคนเป็นการตอบแทนและกระซิบที่ข้างหู

    “I Love You too”ใช่แล้วเรื่องทั้งหมดที่ทำให้พวกเค้ามีวันนี้เริ่มขึ้นที่วันนั้นวันที่พวกเค้าเจอกัน

    “ขอโทษที่มาช้าครับ”ร่างสูงที่รีบร้อนเข้ามาในร้านที่นัดกันไว้ซึ่งคนที่นัดก็ดันมาสายได้ซะนี่
    และพอมาถึงก็ดันสะดุดขาตัวเองล้มไปซะนี่สิหน้าอายที่สุด

    “ไม่เป็นไรนะ”คนที่ส่งมือมาให้เค้าเป็นคนที่เรียกว่ามีเสน่ห์อย่างไงไม่รู้รู้แต่ว่าเค้าไม่สามารถวางตาจากคนๆนั้นได้เลยแม้แต่วินาทีเดียวนี่สินะจุดเริ่มต้นของพวกเราและพวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
     

    ----------------END------------------------- 

    ยังมีภาคพิเศษอีกนะค่า

    แต่มานะดองจนเค็มแล้วล่ะค่า

    เดี๋ยวอีกไม่นานหรอกค่า

    อดใจรอสำหรับคนอ่านนะค่า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×