คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 เศษแก้วในใจ
Chapter 4 เศษแก้วในใจ
"เกลียดของหวานหรือเปล่า"
"ก็... ไม่ได้รังเกียจนี่"
"สำหรับพี่สึบาสะแปลว่าชอบมาก"
"ยุ่งจริง โซมะ!"
บทสนทนาที่ดูเหมือนจะสนุกสนานดังลอยมาจากกลุ่มชายหญิงสี่คนที่ดูโดดเด่น มองจากสายตาของคนอื่นแล้ว ช่างเป็นคู่ที่ลงตัวมาก หญิงก็สวยบาดตา ชายก็หล่อบาดใจ เรียกว่าได้เป็นคู่รักในอุดมคติเลย
หากใครจะทราบว่า...บางสิ่งอาจไม่เหมือนที่คิดเสมอไป
"งั้นเอารสมะนาวละกัน ไม่ค่อยหวานมาก"
จิคาเนะเอ่ยพลางยื่นไอติมหวานเย็นแท่งรสมะนาวที่ฮิเมโกะวิ่งไปซื้อมาให้สึบาสะ แต่ดันลืมซื้อของตัวเอง เลยต้องเดินกลับไปใหม่ โดยมีโซมะอาสาไปเป็นเพื่อน(อย่างบริสุทธิ์ใจ ^o^")
หลังจากผ่านมื้อกลางวันที่วุ่นวายเล็กน้อยแล้ว ฮิเมโกะก็ชวนสองหนุ่มออกมาเดินเล่นบริเวณสวนสาธรณะ ใกล้ๆกับห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น ถึงแม้จะยังไม่ได้ของขวัญตามที่จิคาเนะคาดหวังไว้ แต่ใบหน้ายิ้มแย้มของฮิเมโกะก็ทำเอาขัดไม่ได้ ต้องเลยตามเลยกันไป
"หวานจะตาย" สึบาสะบ่นออดแอด แต่ก็เลียไอติมแท่งอย่างอารมณ์ดี
เมื่อก่อนโซมะเคยบอกว่าสึบาสะชอบของหวานซึ่งผิดปากภาพลักษณ์มากไปโข สร้างความประหลาดใจให้จิคาเนะและฮิเมโกะเป็นอันมาก ตัวสึบาสะเองก็กลัวจะเสียฟอร์ม เลยไม่เคยกินอะไรหวานๆเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเธอ แต่พอมาเห็นตอนกินหวานเย็นแบบนี้ ใบหน้าเคร่งเครียดพลันดูเด็กลงไปหลายปี
"ไม่กินเหรอ" ถามเบาๆ เมื่อสังเกตว่าในมือจิคาเนะไม่ถือไอติมแท่ง ให้ผู้ชายอายุยี่สิบกว่ามานั่งกินไอติมคนเดียวมันก็เขินเหมือนกันนะ ยิ่งเวลามีผู้หญิงมานั่งข้างๆยิ่งแล้วใหญ่
"ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบของหวาน" คำตอบของจิคาเนะเล่นเอาคนอายุมากกว่าแถมเป็นผู้ชายกลืนน้ำลายเอื๊อก รู้สึกอยากเขวี้ยงไอติมแท่งในมือทิ้งทันที
"ตะ แต่ว่า เมื่อกี้ก็เห็นกินสายไหมกับยัยลูกแมวนี่ สายไหมมันหวานกว่าไอติมอีกนะ"
จิคาเนะยิ้มบางๆ แต่ดูเศร้าสร้อยอย่างประหลาด "นั่นเพราะฮิเมโกะอยากให้ฉันกินน่ะ"
สึบาสะขมวดคิ้ว " .คิดจะยอมทำเพื่อฮิเมโกะทุกอย่างเลยหรือไง . ถึงแม้มันจะขัดกับความรู้สึกของตัวเองน่ะเหรอ "
"ตัวฉันเองไม่สำคัญหรอก เพราะมันจะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าไม่มีฮิเมโกะ..."
"ก็พอเข้าใจอยู่หรอก ความรู้สึกนั้นน่ะ" สึบาสะโยนไม้ไอติมเปล่าลงในถังขยะ "ฉันเอง... ถ้าไม่มีโซมะอยู่ข้างๆ ป่านนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง อาจจะตายไปแล้วก็ได้นะ"
"พวกเราเนี่ย... เหมือนกันจริงๆด้วยนะคะ" จิคาเนะยิ้มเศร้าๆ พริบตานั้น สึบาสะรู้สึกเหมือนเห็นรอยยิ้มที่สวยงามที่สุด แต่มันก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว "ทั้งที่อ่อนแอขนาดไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ยังแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง เพื่อไม่ให้คนที่รักเกลียด"
" .เป็นอะไรไปเหรอ เธอกับฮิเมโกะทะเลาะกันเหรอไง ถึงพูดแปลกๆแบบนี้"
จิคาเนะถอนหายใจแผ่วเบา "ไม่รู้เหมือนกัน ฉันอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้ แต่ว่า....ยิ่งมีความสุขมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ...จะเรียกว่า มีความสุขอยู่บนความทุกข์ก็ได้มั้ง "
"คิดมากไปแล้ว ฮิเมโกะไม่เห็นมีท่าทางกังวลเลยนะ" ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งออกมาจากริมฝีปากได้รูปนั้น กลิ่นบุหรี่อ่อนๆราวกับจะทำให้จิคาเนะเคลิ้มไป
"ฉันกลัวน่ะ...อาจจะเป็นนิสัยแย่ๆของฉันเองก็ได้ แต่ฉันกลัวเหลือเกิน" เสียงไพเราะยิ่งแผ่วเบาลงไปทุกที "ฮิเมโกะรักฉัน สำหรับตอนนี้ แต่ต่อไปในอนาคตล่ะ... พอคิดแล้วก็ยิ่งกลัว ถ้าฮิเมโกะไม่รักฉันล่ะ ถ้าฮิเมโกะรู้สึกแปลกๆล่ะ ถ้าฮิเมโกะมองฉันด้วยสายตาขยะแขยงล่ะ"
"อย่าคิดมากเลย มันก็แค่ 'ถ้า' ไม่ใช่เหรอ.... ฉันเกลียดคำนี้จะตายไป" สึบาสะอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง สองคนนั้นไปซื้อไอติมถึงไหนกันนะ ไม่กลับมาซักที เรื่องปลอบหญิงนี่ไม่ถนัดเลย ให้ตายสิ! "รักษาความรักตอนนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ความรักมันกำหนดไม่ได้หรอกนะ"
"ฉัน...ไม่รู้จะประคองความรู้สึกนี้ไปได้นานแค่ไหน"
"ไม่เอาน่า การมาคิดมากฟูมฟายไม่ใช่นิสัยของเธอนะ "
"ความรักของฉันกับฮิเมโกน่ะ เหมือนเศษแก้วชิ้นเล็กๆที่บาดลึกเข้าไปในจิตใจ แม้จะเล็กจนมองแทบไม่เห็นแต่ยังรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้ ไม่ว่าใคร ก็ต้องกังวลกันทั้งนั้น"
"พอที! หยุดได้แล้ว" ตวาดออกมาโดยไม่รู้ตัว อาจเพราะตรงกับตัวเองเหมือนกัน
ติ๋ง~~ หยาดน้ำใสๆ ไหลรินลงบนกระโปรงอย่างไม่รู้ตัว นัยน์ตาสีน้ำเงินอมดำคู่สวยที่เคยมีแววสงบลึกล้ำ กลับคลอหน่วยไปด้วยน้ำตา
"ร้องไห้... ทำไม" สึบาสะอ้าปากค้างอย่างลืมตัว ทำให้บุหรี่ร่วงพล็อยลงบนพื้น เขาเพิ่งเคยเห็นจิคาเนะผู้เยือกเย็นเสียน้ำตาก็วันนี้แหละ แถมยังต่อหน้าคนมากมายที่หันมามองอย่างสนใจอีกด้วย
"อ้าว? ทำไม...น้ำตามันไหล" จิคาเนะรีบยกมือป้ายดวงตา เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำตาถึงไหลออกมาเอง
"รีบเช็ดเร็ว คนมุงใหญ่แล้ว" สึบาสะรีบบอก แล้วกวาดสายตาเย็นชาไปยังเหล่าญี่ปุ่นมุงทั้งหลายที่พากันเผ่นแน่บทันที
"จิคาเนะจาง! ซื้อไอติมมาให้แล้ว" เสียงฮิเมโกะดังมาแต่ไกล โซมะวิ่งตามมา
"พอดีคนเยอะ เลยรอนานไปหน่อย" โซมะอธิบายแบบไม่รอให้ถามด้วยซ้ำ
"จิคาเนะจัง เอารสวานิลานะ แบ่งครึ่งกับฉันละกัน" ฮิเมโกะยื่นไอติมให้จิคาเนะกัดคำนึง ก่อนจะกัดตามด้วยท่าทางสบายใจ...สงสัยจิคาเนะกังวลไปเองน่ะแหละ "เป็นไง อร่อยไหม "
จิคาเนะยิ้ม ตอบด้วยน้ำเสียงหลากอารมณ์
"หวาน"
"หวานอยู่แล้ว ก็ไอติมนี่นา" ฮิเมโกะตอบยิ้มๆ พลางกัดไปอีกคำใหญ่ ไอติมแท่งในมือหายไปอย่างรวดเร็ว
จิคาเนะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือยี่ห้อบัลการี่ราคาแพงที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญเมื่อปีที่แล้ว เข็มสั้นเดินเลยเลขสามไปเล็กน้อย...บ่ายสามกว่าแล้ว
"ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันคงต้องขอตัวก่อน"
"อ้าว? จะกลับแล้วเหรอ" โซมะถาม
"ก็อยากจะคุยต่ออยู่หรอก แต่มีนัดตอนบ่ายสี่โมง ถ้าไม่รีบไปตอนนี้เดี๋ยวจะสาย ฮิเมโกะจะอยู่ต่อก็ได้นะ แล้วฉันจะโทรหาละกัน"
"นัดกับคุณพ่อที่บ้านฮิเมมิยะเหรอ" ฮิเมโกะเอียงคอถาม จิคาเนะพยักหน้าตอบ "งั้นก็เดินทางระวังด้วยนะคะ " ว่าแล้วก็รีบลุกขึ้นหอมแก้มทีนึงเบาๆ เป็นเชิงบอกลา
"ลาก่อนนะ โองามิคุง สึบาสะซัง" จิคาเนะหันมาลาทั้งสอง แล้วรีบก้าวยาวๆ อย่างสง่างาม เส้นผมสีน้ำเงินเข้มยาวสลวยพลิ้วไสวเป็นประกาย สะกดสายตาของชายหญิงทุกคนให้หันมามองเหลียวหลัง
ฮิเมโกะถอนหายใจเฮือก นึกเสียดายที่ไม่ได้พกกล้องถ่ายรูปติดตัวมาด้วย
"ฮิเมมิยะเนี่ย ไม่เปลี่ยนไปเลยเนอะ" โซมะเปรยขึ้นมา
แต่เสียงเย็นๆของสึบาสะขัดขึ้นมากลาง
"ไม่หรอก เปลี่ยนไปเยอะเลย"
โซมะเลิกคิ้ว "ผมไม่เห็นว่าจะเปลี่ยนไปตรงไหนเลย"
ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือริมฝีปากบาง ก่อนจะหายไปช้าๆ ในอากาศ กลิ่นบุหรี่ซึมซาบเข้าไปในโสตประสาทของโซมะ พร้อมกับประโยคสุดท้ายของสึบาสะ
"มันมองไม่เห็นด้วยตา แต่รู้สึกได้ด้วยใจน่ะ"
ตอนนั้นโซมะยังไม่ทันฉุกใจในคำพูดของสึบาสะเลย...
ความคิดเห็น