ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic ~kananduki no miko~ (yuri)

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 เศษแก้วในใจ

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 49


    Chapter 4 เศษแก้วในใจ

    "เกลียดของหวานหรือเปล่า"

    "ก็... ไม่ได้รังเกียจนี่"

    "สำหรับพี่สึบาสะแปลว่าชอบมาก"

    "ยุ่งจริง โซมะ!"

    บทสนทนาที่ดูเหมือนจะสนุกสนานดังลอยมาจากกลุ่มชายหญิงสี่คนที่ดูโดดเด่น มองจากสายตาของคนอื่นแล้ว ช่างเป็นคู่ที่ลงตัวมาก หญิงก็สวยบาดตา ชายก็หล่อบาดใจ เรียกว่าได้เป็นคู่รักในอุดมคติเลย

    หากใครจะทราบว่า...บางสิ่งอาจไม่เหมือนที่คิดเสมอไป

    "งั้นเอารสมะนาวละกัน  ไม่ค่อยหวานมาก"

    จิคาเนะเอ่ยพลางยื่นไอติมหวานเย็นแท่งรสมะนาวที่ฮิเมโกะวิ่งไปซื้อมาให้สึบาสะ  แต่ดันลืมซื้อของตัวเอง เลยต้องเดินกลับไปใหม่ โดยมีโซมะอาสาไปเป็นเพื่อน(อย่างบริสุทธิ์ใจ ^o^")

    หลังจากผ่านมื้อกลางวันที่วุ่นวายเล็กน้อยแล้ว ฮิเมโกะก็ชวนสองหนุ่มออกมาเดินเล่นบริเวณสวนสาธรณะ ใกล้ๆกับห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น  ถึงแม้จะยังไม่ได้ของขวัญตามที่จิคาเนะคาดหวังไว้  แต่ใบหน้ายิ้มแย้มของฮิเมโกะก็ทำเอาขัดไม่ได้ ต้องเลยตามเลยกันไป

    "หวานจะตาย" สึบาสะบ่นออดแอด แต่ก็เลียไอติมแท่งอย่างอารมณ์ดี 

    เมื่อก่อนโซมะเคยบอกว่าสึบาสะชอบของหวานซึ่งผิดปากภาพลักษณ์มากไปโข สร้างความประหลาดใจให้จิคาเนะและฮิเมโกะเป็นอันมาก  ตัวสึบาสะเองก็กลัวจะเสียฟอร์ม เลยไม่เคยกินอะไรหวานๆเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเธอ  แต่พอมาเห็นตอนกินหวานเย็นแบบนี้  ใบหน้าเคร่งเครียดพลันดูเด็กลงไปหลายปี

    "ไม่กินเหรอ" ถามเบาๆ เมื่อสังเกตว่าในมือจิคาเนะไม่ถือไอติมแท่ง  ให้ผู้ชายอายุยี่สิบกว่ามานั่งกินไอติมคนเดียวมันก็เขินเหมือนกันนะ  ยิ่งเวลามีผู้หญิงมานั่งข้างๆยิ่งแล้วใหญ่

    "ไม่ล่ะ  ฉันไม่ชอบของหวาน" คำตอบของจิคาเนะเล่นเอาคนอายุมากกว่าแถมเป็นผู้ชายกลืนน้ำลายเอื๊อก รู้สึกอยากเขวี้ยงไอติมแท่งในมือทิ้งทันที

    "ตะ แต่ว่า เมื่อกี้ก็เห็นกินสายไหมกับยัยลูกแมวนี่  สายไหมมันหวานกว่าไอติมอีกนะ"

    จิคาเนะยิ้มบางๆ แต่ดูเศร้าสร้อยอย่างประหลาด "นั่นเพราะฮิเมโกะอยากให้ฉันกินน่ะ"

    สึบาสะขมวดคิ้ว "….คิดจะยอมทำเพื่อฮิเมโกะทุกอย่างเลยหรือไง ….  ถึงแม้มันจะขัดกับความรู้สึกของตัวเองน่ะเหรอ "

    "ตัวฉันเองไม่สำคัญหรอก เพราะมันจะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าไม่มีฮิเมโกะ..."

    "ก็พอเข้าใจอยู่หรอก  ความรู้สึกนั้นน่ะ" สึบาสะโยนไม้ไอติมเปล่าลงในถังขยะ "ฉันเอง... ถ้าไม่มีโซมะอยู่ข้างๆ ป่านนี้ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงอาจจะตายไปแล้วก็ได้นะ"

    "พวกเราเนี่ย... เหมือนกันจริงๆด้วยนะคะ" จิคาเนะยิ้มเศร้าๆ  พริบตานั้น สึบาสะรู้สึกเหมือนเห็นรอยยิ้มที่สวยงามที่สุด แต่มันก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว "ทั้งที่อ่อนแอขนาดไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ยังแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง  เพื่อไม่ให้คนที่รักเกลียด"

    "….เป็นอะไรไปเหรอ  เธอกับฮิเมโกะทะเลาะกันเหรอไง ถึงพูดแปลกๆแบบนี้"

    จิคาเนะถอนหายใจแผ่วเบา "ไม่รู้เหมือนกัน ฉันอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้ แต่ว่า....ยิ่งมีความสุขมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ...จะเรียกว่า มีความสุขอยู่บนความทุกข์ก็ได้มั้ง "

    "คิดมากไปแล้ว  ฮิเมโกะไม่เห็นมีท่าทางกังวลเลยนะ" ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งออกมาจากริมฝีปากได้รูปนั้น  กลิ่นบุหรี่อ่อนๆราวกับจะทำให้จิคาเนะเคลิ้มไป

    "ฉันกลัวน่ะ...อาจจะเป็นนิสัยแย่ๆของฉันเองก็ได้ แต่ฉันกลัวเหลือเกิน" เสียงไพเราะยิ่งแผ่วเบาลงไปทุกที "ฮิเมโกะรักฉัน  สำหรับตอนนี้  แต่ต่อไปในอนาคตล่ะ... พอคิดแล้วก็ยิ่งกลัว  ถ้าฮิเมโกะไม่รักฉันล่ะ ถ้าฮิเมโกะรู้สึกแปลกๆล่ะ ถ้าฮิเมโกะมองฉันด้วยสายตาขยะแขยงล่ะ"

    "อย่าคิดมากเลย มันก็แค่ 'ถ้า' ไม่ใช่เหรอ.... ฉันเกลียดคำนี้จะตายไป" สึบาสะอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง  สองคนนั้นไปซื้อไอติมถึงไหนกันนะ ไม่กลับมาซักที  เรื่องปลอบหญิงนี่ไม่ถนัดเลย ให้ตายสิ! "รักษาความรักตอนนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ความรักมันกำหนดไม่ได้หรอกนะ"

    "ฉัน...ไม่รู้จะประคองความรู้สึกนี้ไปได้นานแค่ไหน"

    "ไม่เอาน่า  การมาคิดมากฟูมฟายไม่ใช่นิสัยของเธอนะ "

    "ความรักของฉันกับฮิเมโกน่ะ  เหมือนเศษแก้วชิ้นเล็กๆที่บาดลึกเข้าไปในจิตใจ  แม้จะเล็กจนมองแทบไม่เห็นแต่ยังรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้ไม่ว่าใคร ก็ต้องกังวลกันทั้งนั้น"

    "พอที! หยุดได้แล้ว" ตวาดออกมาโดยไม่รู้ตัว อาจเพราะตรงกับตัวเองเหมือนกัน

    ติ๋ง~~ หยาดน้ำใสๆ ไหลรินลงบนกระโปรงอย่างไม่รู้ตัว  นัยน์ตาสีน้ำเงินอมดำคู่สวยที่เคยมีแววสงบลึกล้ำ กลับคลอหน่วยไปด้วยน้ำตา


     


     

    "ร้องไห้... ทำไม" สึบาสะอ้าปากค้างอย่างลืมตัว ทำให้บุหรี่ร่วงพล็อยลงบนพื้น เขาเพิ่งเคยเห็นจิคาเนะผู้เยือกเย็นเสียน้ำตาก็วันนี้แหละ  แถมยังต่อหน้าคนมากมายที่หันมามองอย่างสนใจอีกด้วย

    "อ้าว? ทำไม...น้ำตามันไหล" จิคาเนะรีบยกมือป้ายดวงตา  เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำตาถึงไหลออกมาเอง

    "รีบเช็ดเร็ว คนมุงใหญ่แล้ว" สึบาสะรีบบอก แล้วกวาดสายตาเย็นชาไปยังเหล่าญี่ปุ่นมุงทั้งหลายที่พากันเผ่นแน่บทันที

    "จิคาเนะจาง! ซื้อไอติมมาให้แล้ว" เสียงฮิเมโกะดังมาแต่ไกล  โซมะวิ่งตามมา

    "พอดีคนเยอะ เลยรอนานไปหน่อย" โซมะอธิบายแบบไม่รอให้ถามด้วยซ้ำ

    "จิคาเนะจัง เอารสวานิลานะ  แบ่งครึ่งกับฉันละกัน" ฮิเมโกะยื่นไอติมให้จิคาเนะกัดคำนึง ก่อนจะกัดตามด้วยท่าทางสบายใจ...สงสัยจิคาเนะกังวลไปเองน่ะแหละ "เป็นไง อร่อยไหม "

    จิคาเนะยิ้ม ตอบด้วยน้ำเสียงหลากอารมณ์

    "หวาน"

    "หวานอยู่แล้ว ก็ไอติมนี่นา" ฮิเมโกะตอบยิ้มๆ พลางกัดไปอีกคำใหญ่  ไอติมแท่งในมือหายไปอย่างรวดเร็ว

    จิคาเนะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือยี่ห้อบัลการี่ราคาแพงที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญเมื่อปีที่แล้ว  เข็มสั้นเดินเลยเลขสามไปเล็กน้อย...บ่ายสามกว่าแล้ว

    "ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันคงต้องขอตัวก่อน"

    "อ้าว? จะกลับแล้วเหรอ" โซมะถาม

    "ก็อยากจะคุยต่ออยู่หรอก แต่มีนัดตอนบ่ายสี่โมง  ถ้าไม่รีบไปตอนนี้เดี๋ยวจะสายฮิเมโกะจะอยู่ต่อก็ได้นะ แล้วฉันจะโทรหาละกัน"

    "นัดกับคุณพ่อที่บ้านฮิเมมิยะเหรอ" ฮิเมโกะเอียงคอถาม จิคาเนะพยักหน้าตอบ "งั้นก็เดินทางระวังด้วยนะคะ " ว่าแล้วก็รีบลุกขึ้นหอมแก้มทีนึงเบาๆ เป็นเชิงบอกลา

    "ลาก่อนนะ โองามิคุง สึบาสะซัง" จิคาเนะหันมาลาทั้งสอง แล้วรีบก้าวยาวๆ อย่างสง่างาม  เส้นผมสีน้ำเงินเข้มยาวสลวยพลิ้วไสวเป็นประกาย สะกดสายตาของชายหญิงทุกคนให้หันมามองเหลียวหลัง

    ฮิเมโกะถอนหายใจเฮือก นึกเสียดายที่ไม่ได้พกกล้องถ่ายรูปติดตัวมาด้วย

    "ฮิเมมิยะเนี่ย ไม่เปลี่ยนไปเลยเนอะ" โซมะเปรยขึ้นมา

    แต่เสียงเย็นๆของสึบาสะขัดขึ้นมากลาง

    "ไม่หรอก  เปลี่ยนไปเยอะเลย"

    โซมะเลิกคิ้ว "ผมไม่เห็นว่าจะเปลี่ยนไปตรงไหนเลย"

    ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือริมฝีปากบาง ก่อนจะหายไปช้าๆ ในอากาศ กลิ่นบุหรี่ซึมซาบเข้าไปในโสตประสาทของโซมะ พร้อมกับประโยคสุดท้ายของสึบาสะ

    "มันมองไม่เห็นด้วยตา แต่รู้สึกได้ด้วยใจน่ะ"

    ตอนนั้นโซมะยังไม่ทันฉุกใจในคำพูดของสึบาสะเลย...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×