ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 พบหน้า
ตอนที่ 2 พบหน้า
อากาศร้อนอบอ้าวกลางกรุงเทพไม่ทำให้ความรู้สึกตื่นเต้นของผมลดลงเลยแม้แต่น้อย  กลับยิ่งรู้สึกรอคอยนานเป็นสิบปีเข้าไปอีก
เสียงเครื่องปรับอากาศดังลั่นเหมือนเสียงฮอเก่าๆ ที่ไร้ความเย็นในห้องแถวเล็กๆย่านสีลม คือที่ขายบัตรคอนเสิร์ตของ’Blue’ 
ภายในร้านมีรูปโปสเตอร์เก่าๆ เหมือนติดมาแล้วห้าสิบปียังไงยังงั้น  ขายพวกเทปเพลงเก่าๆ ของพวกชอบสะสม  ถัดไปด้านในร้านกลับมีห้องซ้อมนาดเล็กของเจ้าของร้าน  ถึงจะมีแต่อุปกรณ์โทรมๆ  แต่ก็มีทุกอย่างครบครัน
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ..  ผมคิดอย่างเจ็บปวด  มือลูบเครื่องอัดเสียงที่ไม่ต่างจากเศษเหล็ก  ให้นักดนตรีที่มีพรสวรรค์ขนาดนั้นมาอัดเสียงในห้องดนตรีพรรคนี้มันออกจะโหดร้ายไปแล้ว
“สนใจห้องซ้อมของเราเหรอครับ” เสียงผู้ชายวัยไล่เลี่ยกับผมดังขึ้น  เขาพยักหน้าไปทางเก้าอี้ไม้ตัวเดียวในร้านเป็นเชิงบอกให้นั่ง “ถึงมันจะเก่าไปซักหน่อย แต่อัดเดโมเพลงของ’Blue’มาแล้วนะครับ”
ผมเงยหน้าขึ้น  สบตาเป็นมิตรกับชายหนุ่มตรงหน้า ผมคิดว่าเริ่มถูกชะตากับเขาแล้ว
“อ่า   ครับ คือผมอยากได้บัตรคอนเสิร์ตของ’Blue’ จะช่วยขายให้ผมได้รึเปล่า”
เขามีท่าทางเสียใจเล็กน้อย  หยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ในปาก ก่อนควันขาวๆจะลอยละล่องไปทั่วใบหน้า ครอบคลุมสีหน้าของเขาอีกชั้นหนึ่ง
“เสียใจด้วยนะ” เขาตอบหลังจากสูบบุหรี่ไปอีกสองสามอึก “บัตรมันขายหมดตั้งแต่วันแรกแล้ว”
หมดแล้ว   ผมกลืนน้ำลาย รู้สึกถึงความเสียใจที่เอ่อล้นจากดวงตา 
นี่ผมจะร้องไห้เพราะไม่ได้บัตรคอนเสิร์ตใบเดียวเหรอ!!
ไม่  ไม่มีทาง  คนแข็งแกร่งอย่างผม คนที่ไม่มีวันให้ใครเห็นน้ำตาอย่างผม  กลับร้องไห้งอแงเป็นเด็กเพราะไม่มีบัตรคอนเสิร์ตงั้นเหรอ
“เฮ้ย  เฮ้ย  ไม่เห็นต้องร้องไห้เลยนี่หว่า” เขาเอ่ยอย่างตกใจ “แค่ไม่ได้บัตรคอนเสิร์ตแค่เนี้ย”
“ผะ  ผมไม่ทราบจริงๆครับ” ผมพยายามซับน้ำตา  รู้สึกแปลกใจที่ตัวเองเศร้าเสียใจมากขนาดนี้  ตอนที่โดนแม่ห้ามเรียนคณะที่ตัวเองชอบยังไม่ร้องสักแอะเลย “ผม แค่คิดว่า  เพลงของBlue มีบางอย่างที่มันอธิบายไม่ถูก  ฟังแล้ว รู้สึก   ดี ”
“งั้นเหรอ” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ  หน้าตาของเขาดูไม่เลวเลยทีเดียว เป็นพวกห่ามๆอย่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบ แต่อย่างว่าผู้หญิงที่ไหนจะสนพวกเงียบๆอย่างผมกันล่ะ 
“ถ้านายอยากได้บัตรจริงๆล่ะก็   ลองไปหา’Blue’ดูสิ” เมื่อผมยังคงเงียบ เขาเลยพูดต่อ  “มันเป็นเกมส์ที่เราเล่นกันทุกปี บัตรใบสุดท้ายจะเก็บไว้ที่’Blue’ ใครอยากได้จะต้องตามหาตัว’Blue’ให้เจอ  ให้ฟรีๆด้วยนะ”
ผมรู้สึกสังหรณ์แปลกๆแฮะ “แล้วเคยมีใครเคยเจอ’Blue’มั้ยครับ”
“นี่แหละที่แย่  จัดมาสามปีแล้วยังไม่มีใครเคยเจอเลย” เขายักไหล่ เดินไปหยิบขวดน้ำจากตู้แช่เก่าๆ หน้าร้าน  ส่งให้ผม “ไม่รู้ว่า’ยัยนั่น’ไปซ่อนอยู่ที่ไหน อ้อ ฉันก็เป็นหนึ่งใน’Blue’ ชื่อเชน ยินดีที่ได้รู้จัก”
ผมติดใจกับคำว่ายัยนั่นมาก  แต่การที่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นสมาชิกของ’Blue’ลบทุกอย่างในหัวไปจนหมดสิ้น เหลือแต่ความตื่นเต้นสุดๆเท่านั้น 
แล้วคำพูดทั้งหลายก็พรั่งพรูออกมา
“จริงเหรอครับ!! คุณเป็นหนึ่งในวงBlueเหรอ!!  พวกคุณเล่นเพลงคลาสสิกได้เพราะมากๆเลย โดยเฉพาะไวโอลินกับเปียโน  ใครเป็นคนโซโลไวโอลินของเพลงที่สามครับ แล้วท่อนที่แปดของเพลงที่หกพลิ้วมากเลย สื่อความรู้สึกของผู้หญิงออกมาได้ดีมากๆ แล้วยัง ”
“สต็อป!!” เชนยกมือขึ้นห้าม “ถึงจะบอกว่าเป็นหนึ่งในBlue แต่ไม่ได้บอกว่าฉันเล่นดนตรีซักหน่อย  อย่าเข้าใจผิดซิ”
“เอ๋..  งั้นใครเป็นคนเล่นละ” ผมทำหน้าเอ๋อๆ
เชนเกาหัวแกรกๆ ท่าทางลำบากใจเหมือนบอกไม่ได้
“ฉันบอกนายได้แค่ว่า Blueเป็นผู้หญิงและคนเล่นทั้งหมดก็คือยัยนั่นคนเดียว เข้าใจ๋”
“ผะ  ผู้หญิง  เล่นคนเดียว” ผมอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อ จะบ้าเรอะ! เพลงพวกนั้นเล่นยากจะตาย แถมถ้านับดีๆแล้ว มีเครื่องดนตรีแทบทุกชนิดมั้ง!?
“เออ  ฉันบอกได้แค่นี้แหละ นาย ”
“อะ  กริชครับ ผมชื่อกริช”
“อืม กริชนะ” เขาพึมพำ เปิดสมุดโน๊ตปกสีน้ำตาล เขียนอะไรยุกยิกลงไปบนกระดาษ “โอเค นายลงทะเบียนแล้ว มีเวลาอีกสองสัปดาห์ก่อนงานคอนเสิร์ต บอกไว้ก่อนนะว่าBlueไม่ยอมให้นาจับง่ายๆหรอก  พยายามเข้าล่ะไอ้น้อง”
เวลาอีกสองอาทิตย์ เท่ากับอีกสิบสี่วัน
ภายในสิบสี่วัน  ผมต้องตามหาBlueให้เจอ
คนที่ไม่เคยเห็นหน้า  ไม่มีข้อมูล  หรืออะไรซักอย่าง
รู้แต่ว่าเธอคือผู้หญิง 
และผมต้องหาเธอให้เจอ
การตามหาBlue .
ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว .
อากาศร้อนอบอ้าวกลางกรุงเทพไม่ทำให้ความรู้สึกตื่นเต้นของผมลดลงเลยแม้แต่น้อย  กลับยิ่งรู้สึกรอคอยนานเป็นสิบปีเข้าไปอีก
เสียงเครื่องปรับอากาศดังลั่นเหมือนเสียงฮอเก่าๆ ที่ไร้ความเย็นในห้องแถวเล็กๆย่านสีลม คือที่ขายบัตรคอนเสิร์ตของ’Blue’ 
ภายในร้านมีรูปโปสเตอร์เก่าๆ เหมือนติดมาแล้วห้าสิบปียังไงยังงั้น  ขายพวกเทปเพลงเก่าๆ ของพวกชอบสะสม  ถัดไปด้านในร้านกลับมีห้องซ้อมนาดเล็กของเจ้าของร้าน  ถึงจะมีแต่อุปกรณ์โทรมๆ  แต่ก็มีทุกอย่างครบครัน
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ..  ผมคิดอย่างเจ็บปวด  มือลูบเครื่องอัดเสียงที่ไม่ต่างจากเศษเหล็ก  ให้นักดนตรีที่มีพรสวรรค์ขนาดนั้นมาอัดเสียงในห้องดนตรีพรรคนี้มันออกจะโหดร้ายไปแล้ว
“สนใจห้องซ้อมของเราเหรอครับ” เสียงผู้ชายวัยไล่เลี่ยกับผมดังขึ้น  เขาพยักหน้าไปทางเก้าอี้ไม้ตัวเดียวในร้านเป็นเชิงบอกให้นั่ง “ถึงมันจะเก่าไปซักหน่อย แต่อัดเดโมเพลงของ’Blue’มาแล้วนะครับ”
ผมเงยหน้าขึ้น  สบตาเป็นมิตรกับชายหนุ่มตรงหน้า ผมคิดว่าเริ่มถูกชะตากับเขาแล้ว
“อ่า   ครับ คือผมอยากได้บัตรคอนเสิร์ตของ’Blue’ จะช่วยขายให้ผมได้รึเปล่า”
เขามีท่าทางเสียใจเล็กน้อย  หยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ในปาก ก่อนควันขาวๆจะลอยละล่องไปทั่วใบหน้า ครอบคลุมสีหน้าของเขาอีกชั้นหนึ่ง
“เสียใจด้วยนะ” เขาตอบหลังจากสูบบุหรี่ไปอีกสองสามอึก “บัตรมันขายหมดตั้งแต่วันแรกแล้ว”
หมดแล้ว   ผมกลืนน้ำลาย รู้สึกถึงความเสียใจที่เอ่อล้นจากดวงตา 
นี่ผมจะร้องไห้เพราะไม่ได้บัตรคอนเสิร์ตใบเดียวเหรอ!!
ไม่  ไม่มีทาง  คนแข็งแกร่งอย่างผม คนที่ไม่มีวันให้ใครเห็นน้ำตาอย่างผม  กลับร้องไห้งอแงเป็นเด็กเพราะไม่มีบัตรคอนเสิร์ตงั้นเหรอ
“เฮ้ย  เฮ้ย  ไม่เห็นต้องร้องไห้เลยนี่หว่า” เขาเอ่ยอย่างตกใจ “แค่ไม่ได้บัตรคอนเสิร์ตแค่เนี้ย”
“ผะ  ผมไม่ทราบจริงๆครับ” ผมพยายามซับน้ำตา  รู้สึกแปลกใจที่ตัวเองเศร้าเสียใจมากขนาดนี้  ตอนที่โดนแม่ห้ามเรียนคณะที่ตัวเองชอบยังไม่ร้องสักแอะเลย “ผม แค่คิดว่า  เพลงของBlue มีบางอย่างที่มันอธิบายไม่ถูก  ฟังแล้ว รู้สึก   ดี ”
“งั้นเหรอ” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ  หน้าตาของเขาดูไม่เลวเลยทีเดียว เป็นพวกห่ามๆอย่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบ แต่อย่างว่าผู้หญิงที่ไหนจะสนพวกเงียบๆอย่างผมกันล่ะ 
“ถ้านายอยากได้บัตรจริงๆล่ะก็   ลองไปหา’Blue’ดูสิ” เมื่อผมยังคงเงียบ เขาเลยพูดต่อ  “มันเป็นเกมส์ที่เราเล่นกันทุกปี บัตรใบสุดท้ายจะเก็บไว้ที่’Blue’ ใครอยากได้จะต้องตามหาตัว’Blue’ให้เจอ  ให้ฟรีๆด้วยนะ”
ผมรู้สึกสังหรณ์แปลกๆแฮะ “แล้วเคยมีใครเคยเจอ’Blue’มั้ยครับ”
“นี่แหละที่แย่  จัดมาสามปีแล้วยังไม่มีใครเคยเจอเลย” เขายักไหล่ เดินไปหยิบขวดน้ำจากตู้แช่เก่าๆ หน้าร้าน  ส่งให้ผม “ไม่รู้ว่า’ยัยนั่น’ไปซ่อนอยู่ที่ไหน อ้อ ฉันก็เป็นหนึ่งใน’Blue’ ชื่อเชน ยินดีที่ได้รู้จัก”
ผมติดใจกับคำว่ายัยนั่นมาก  แต่การที่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นสมาชิกของ’Blue’ลบทุกอย่างในหัวไปจนหมดสิ้น เหลือแต่ความตื่นเต้นสุดๆเท่านั้น 
แล้วคำพูดทั้งหลายก็พรั่งพรูออกมา
“จริงเหรอครับ!! คุณเป็นหนึ่งในวงBlueเหรอ!!  พวกคุณเล่นเพลงคลาสสิกได้เพราะมากๆเลย โดยเฉพาะไวโอลินกับเปียโน  ใครเป็นคนโซโลไวโอลินของเพลงที่สามครับ แล้วท่อนที่แปดของเพลงที่หกพลิ้วมากเลย สื่อความรู้สึกของผู้หญิงออกมาได้ดีมากๆ แล้วยัง ”
“สต็อป!!” เชนยกมือขึ้นห้าม “ถึงจะบอกว่าเป็นหนึ่งในBlue แต่ไม่ได้บอกว่าฉันเล่นดนตรีซักหน่อย  อย่าเข้าใจผิดซิ”
“เอ๋..  งั้นใครเป็นคนเล่นละ” ผมทำหน้าเอ๋อๆ
เชนเกาหัวแกรกๆ ท่าทางลำบากใจเหมือนบอกไม่ได้
“ฉันบอกนายได้แค่ว่า Blueเป็นผู้หญิงและคนเล่นทั้งหมดก็คือยัยนั่นคนเดียว เข้าใจ๋”
“ผะ  ผู้หญิง  เล่นคนเดียว” ผมอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อ จะบ้าเรอะ! เพลงพวกนั้นเล่นยากจะตาย แถมถ้านับดีๆแล้ว มีเครื่องดนตรีแทบทุกชนิดมั้ง!?
“เออ  ฉันบอกได้แค่นี้แหละ นาย ”
“อะ  กริชครับ ผมชื่อกริช”
“อืม กริชนะ” เขาพึมพำ เปิดสมุดโน๊ตปกสีน้ำตาล เขียนอะไรยุกยิกลงไปบนกระดาษ “โอเค นายลงทะเบียนแล้ว มีเวลาอีกสองสัปดาห์ก่อนงานคอนเสิร์ต บอกไว้ก่อนนะว่าBlueไม่ยอมให้นาจับง่ายๆหรอก  พยายามเข้าล่ะไอ้น้อง”
เวลาอีกสองอาทิตย์ เท่ากับอีกสิบสี่วัน
ภายในสิบสี่วัน  ผมต้องตามหาBlueให้เจอ
คนที่ไม่เคยเห็นหน้า  ไม่มีข้อมูล  หรืออะไรซักอย่าง
รู้แต่ว่าเธอคือผู้หญิง 
และผมต้องหาเธอให้เจอ
การตามหาBlue .
ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว .
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น