ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~My SouL MatE~ My DeStinY~ (( TVXQ Fan Fic))

    ลำดับตอนที่ #2 : นี่มันฟลุ๊คหรือชะลิขิต??

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 51


                “เฮ้!!!!!!!!!! ... พักร้อน^^ พักร้อน^^ .. สุขใจจังเว้ยยยยย” เสียงทุ้มตะเบ็งเฮอย่างดีใจพลางกระโดดไปรอบๆห้องโดยมีสายตาทั้งเอือมและระอาใจ 8 คู่จ้องมองอยู่
    “หยุดกระโดดไปมาซักทีได้มั้ยยูชอน -*- ฉันจะดูทีวี ... บ๊ะ!! บอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามไปแล้วเห็นมั้ยไอ้เพื่อนซวยเอ๊ย!! .. ยุนโฮ - -* นายไปตบกบาลมันซักผัวะให้เลิกส่งเสียงน่ารำคาญทีดิ๊!!”
    “รอมานานแล้วพรรคพวก” .... หัวหน้าวงสุดเข้มลุกขึ้นอย่างเร็วก่อนจะยกมือฟาดเข้าด้านหลังหัวของยูชอนไปเต็มๆคราบ .... ผ๊วะ!!!!! สม ~_~ ไอ้ไก่งี่เง่า!! ... แจจุงและชังมินมองเพื่อนไก่ของพวกเค้าอย่างสะใจก่อนจะหันหน้ามาคุยกับจุนซูต่อถึงเรื่องการพักร้อนที่รอคอยมานานแสนนาน..
    “หายเหนื่อยเลยนะครั้งนี้ .. ว่าแต่พวกเราไปไทยครั้งนี้ไปพักที่ไหนกันอ่ะ” แจจุงยิ้มถามกับเพื่อนอีก 2 คนทั้งๆที่ในใจเค้าไปนอนราบกับน้ำทะเลที่ไทยเรียบร้อยแล้ว..
    “เห็นทางทีมงานบอกมาว่าไปเกาะพีพีนะ .. ไม่รู้จะเปลี่ยนโปรแกรมหรือป่าวเนี่ยซิ -*- หวั่นๆจริงๆเลย”
    “อย่ากังวลไปเลยชังมินเอ๋ยย^^ ไม่ว่าจะไปจังหวัดไหนๆ เราก็ได้เที่ยวผ่อนคลายซักทีไง” โลมาน้อยเหยียดตัวนอนราบกับโซฟาเมื่อการแข่งขันฟุตบอลรายการโปรดของเขาจบลง..
    “ถูกต้องนะครับบบบ ^O^ การพักร้อนครั้งนี้มันต้องมันสะแด๋วแน่ๆเลยเพื่อนเอ๋ยยย ... วู้!! ทนรอไม่ไหวแล้วโว้ยยยเหลืออีกตั้ง 2 วันแน่ะกว่าจะได้ไปอ่ะ” หนุ่มฉายา ‘ไก่’ วิ่งถลาเอาหน้ามาเกาะขอบผนังพิงโซฟาพลางโยกหัวซ้ายขวาตามเพลงที่ฮัมออกมา
    “ไอ้เว่อร์!!!!!!!!!!!!!!!”   พร้อมกันด่าทันที ...
     
    **************** 2 วันผ่านไป *******************
                “วันนี้แน่เหรอ??!! นุ่น!! แกดูใบที่ปริ้นออกมาดิ๊ว่าตรงกับไฟร์ทบินหรึป่าว?” ฉันเงยหน้ามองจอมอร์นิเตอร์เครื่องใหญ่บะลักกั่กตรงหน้าก่อนจะหันไปดูใบที่นุ่นถืออยู่ .. ตอนนี้พวกเราอยู่ที่สนามบินแล้วค่ะ แฟนคลับที่พอจะรู้ข่าวนั้นก็มีไม่ถึง 10 กว่าคน และที่ฉันหันไปดู -*- อืมมม .. ไฮโซทั้งนั้น!!!! ก็แหง่ล่ะคนที่เส้นเท่านั้นแหละที่จะรู้ได้ อ่ะๆๆ!! แต่พวกเราไม่ใช่ไฮโซไฮซ้อที่ไหนหรอก.. ยัยจั๊สไปถามแฟนคลับพวกนั้นน่ะแหละ มันพอจะมีเส้นสายอยู่บ้าง ตอนแรกพวกนั้นจะเอาค่าข่าวด้วย ดู๋ดูซิค่ะ คนไทย!!! ฉันแทบจะบ้า แต่พวกนั้นบอกว่าไหนๆก็แฟนฯเหมือนกันเลยไม่เอาเงิน .. แล้วคิดว่าฉันจะซาบซึ้งด้วยหรือไงห่ะ?? เอาเหอะ -*- ...
    “พี่เหมี่ยว!! ลืมไปแล้วเหรอ?ว่าญาติเราทำงานอยู่ที่นี้น่ะ” สิ้นเสียงน้องสาวสุดที่รักของฉัน ยัยเพื่อนหูดีของฉันหันหน้ามาทางเรา 2 พี่น้องอย่างมีความหวัง...
    “ใครหรึ??”
    “โธ่!! ก็น้าอายไง เขาทำงานเป็นคนเช็กคนขึ้นเครื่องอ่ะ เคยจำไรได้บ้างมั้ยห่ะ!!!”
    “โอ๊ยย!! เงียบๆๆเซ่ -*- อยากให้ยัยพวกนั้นมันได้ยินหรือไง? ... แฟนคลับยิ่งหูไวเป็นปรอทวัดไข้อยู่” ฉันตะปบปากเมมทันทีก่อนจะหันไปมองรอบๆตัวราวกับว่าตัวเองเป็นเชลล๊อคโฮมหลงยุคมาอย่างนั้นแหละ
    “จะทำอะไรก็รีบๆเข้าเหอะ .. อีกแค่ 10 นาทีนะเครื่องที่พวกนั้นนั่งมาจะลงจอดแล้ว” เจสพูดเตือนก่อนจะหันหน้าหนีฟังเพลงต่อไป
    “งั้นแกโทรหาน้าอายเลยเร็วๆ พี่ไม่กล้าพูดกับเขา”
    “เจ้าค่ะ!!!”
    ทันทีที่น้องสาวของฉันโทรไปหาญาติผู้ใหญ่ที่ฉันรัก!!! มากที่สุดในตอนนี้ พวกเราก็วิ่งแจ้นหายไปกับฝูงฝรั่งชาวต่างชาติที่กำลังจะเข้าเกร์ททันที ไม่นานน้าอายก็ออกมาหาพวกเราที่ยืนหลบๆซ่อนๆอยู่แถวหน้าประตูทางเข้า แล้วฉันก็เพิ่งรู้ว่าน้าสาวคนสวยคนนี้เป็นเช็กตารางเที่ยวบินของผู้โดยสารขาเข้าทุกประเทศอีกด้วย นั่นก็ถือว่าเป็นโชคดีของเราล่ะค่ะทุกท่าน^^ ที่สามารถจะรู้ได้เลยว่าใครมาที่ประเทศเราบ้าง...
    “ว่าแต่จะให้น้าพาพวกเธอทั้งหมดเข้าเกร์ทเนี่ยนะ”
    “แล้วน้าสามารถหรือป่าวล่ะค่ะ^^ พวกเรากำลังรอความมั่นคงในคำพูดของคุณน้าแสนสวยอยู่นะค่ะ^^” นุ่นยิ้มหวานเท่าที่จะหวานได้ให้กับน้าของฉัน ซึ่งพวกเรามองไปแล้ว... ขอให้มันยิ้มครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายทีเหอะ
    “แล้วทำไมน้าจะทำให้ไม่ได้ล่ะ^^ งั้นเดินเข้ามาดีๆล่ะ แล้วอย่าพลัดหลงกับเพื่อนนะ คนเข้า-ออกมันเยอะ”
    “ค่า!!!!!!!!!!!!!!” หลังจากที่พวกฉันเดินเจริญตามรอยเท้าของน้าอายเข้าไปแล้วนั้น ฉันรู้สึกได้ถึงความเป็นคุณหนูทันที แบบว่ามีอภิสิทธิ์ในการเข้ามาโดยไม่มีตั๋ว ... คุณหนู๋คุณหนู^^ ชอบสุดๆไปเลยค่ะคุณขา
    “เดี๋ยวพวกหนูรอน้าที่ห้องนี้นะ เดี๋ยวน้าไปเช็กดูให้ว่าพวกเขาจะออกทางไหน?”
    “เร็วๆนะค่ะน้าอาย!!!!!!!!” เมมเร่งน้าสาวทีเล่นทีจริงก่อนจะยิ้มขำกับฉัน ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องพักผ่อนสำหรับแขกวีไอพี อ่อ!! พวกเรามากันแต่ตัวนะค่ะลืมบอกไป พอดีว่าความเห็นไม่ลงรอยกันตอนที่ทำป้ายชื่อ สุดท้ายเลยไม่ทงไม่ทำกันอย่างที่เห็นเนี่ยแหละค่ะ -0-
    “เฮ้ย!! นี่มันเลยเวลาลงเครื่องของพวกหนุ่มๆแล้วนิ .. ทำไมมันเงียบอย่างงี้ว่ะ -*- ปกติถึงมาทางการไม่ทางการก็ต้องมีการ์ดมาคอยกันต้อนรับแล้วนี่หว่า”
    “ไม่รู้ว่ะ สงสัยมาแนวใหม่แบบว่าแฝงตัวเข้าเมืองไรทำนองนี้มั้ง?” เจสเสริมความเห็นต่อจากนุ่นทันทีที่นึกออก
    “เอาเหอะๆ พวกเรารอคำตอบที่แสนหวานจากน้าอายเป็นพอเว้ย .. แล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากันที่หลัง”  ฉันหันไปตัดบทก่อนจะหันไปที่ประตูอีกครั้งเพราะดูเหมือนว่าจะมีคนเข้ามา...    คลืดดดดด!!!!
    “ห้องนี้แหละครับ เชิญพวกคุณมาพักก่อน” ชายหนุ่มผิวขาวในชุดสูทสีเทาอ่อนพูดภาษาที่ต่างจากพวกเราก่อนจะเข้ามาเคลียพื้นที่ในห้องอีก 2-3 คน .. พวกเรานั่ง(แอบ)กันอยู่มุมห้องพลางมองพวกเขาจัดโน่นทำนี่อย่างเงียบๆ
    “พักกันพอหายเหนื่อยก่อนนะครับ แล้วพวกผมจะจัดเตรียมรถตู้ให้” แล้วเขาคนนั้นก็แพล่มไปเรื่อยอยู่หน้าห้องก่อนจะเฟร์ตตัวเองหายไปจากกรอบประตูบานนั้นทันที
    “ช่างเป็นการเดินทางที่แสนเมื่อยตูดเหลือเกิน....”
    เสียงทุ้มนุ่มแฝงไปด้วยความมีเสน่ห์เอ่ยเป็นภาษาต่างชาติและดูจากการวิเคราะห์ภายใน 1 วินาทีคือภาษาเกาหลีนั่นเองหลังจากที่เข้ามาในห้องจนครบแล้ว .. ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเนียนในชุดลำลองสบายๆ 5 คนพากันมานั่งบนโซฟาตัวยาวที่ห่างจากพวกเรานั่ง(แอบ)อยู่ไปไม่กี่เมตร พวกเขาดูท่าทางจะเป็นคนใหญ่คนโตแน่ๆในความคิดของพวกเรา เพราะดูจากการปกปิดหน้าตาด้วยแว่นกันแดดสีมนออกไปทางสีชาหน่อยๆกับหมวกที่พอบังหน้าตาได้ และอีกทั้งการ์ดที่นำทางมาที่นี้แล้วการพูดจาที่ดูสุภาพกับ 5 หนุ่มนั้น ทำให้ไม่สามารถคิดเป็นโจรปล้นของในเครื่องบินได้หรอก ตอนนี้ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มผิวขาวทั้ง 5 คนกำลังนั่งคุยกันอย่างเพลินจิตโดยไม่รู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมอย่างพวกฉันกำลังแฝงตัวแอบดูอยู่
    “พวกพี่ว่าพวกเขาดูคุ้นๆมั้ย? เมมว่ามันคุ้นจนนึกไม่ออกเลยว่ามันคล้ายๆกับใคร” น้องสาวฉันหันมาถามทั้งๆที่ตัวเองหลบอยู่หลังโซฟาที่พวกเราเพิ่งกระเถิบหนีลงมา
    “นั่นซิ - -? คุ้นหน้าจังเลยเหมือนกับใครนะ? นึกไม่ออกแฮะ” จั๊สขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะหันไปมองพวกหนุ่มๆอีกครั้ง ... ฉันเองก็ว่าคุ้นแต่ก็ติดอยู่ที่ปากเนี่ยแหละ -*- ถ้าเป็นไปได้อยากให้ถอดทั้งหมวกทั้งแว่นออกจะได้รู้กันไปเลยว่าเป็นใครกันแน่? .. ว่าแต่พวกเรามาหลบกันทำไม???
    “แล้วพวกเราจะมานั่งหลบทำไมกันเนี่ยห่ะ?? เราเป็นแขกของน้าอายไม่ใช่เหรอ?? ลุก!!” นั่นล่ะ!! ฉันก็ว่าอยู่ ... สาวนุ่นเด้งตัวยืนขึ้นทันทีและพาขาตัวเองไปนั่งบนโซฟาตัวยาวอีกตัว ท่ามกลางสีหน้างงๆของเพื่อนๆและเสียงพึมพำอารามตกใจของ 5 หนุ่มแดมโสมนั้น...
    “แล้วจะหลบอีกนานมั้ย? ฉันบอกว่าให้ลุกขึ้น!! พวกเรามีสิทธิ์ที่จะอยู่ในห้องนี้นะเว้ย ยังไงซะพวกเราก็มาก่อนอยู่แล้ว” สายตาที่เหลือบไปทาง 5 คนอีกฝั่งบ่งบอกว่านี่มันที่ของฉัน... พวกฉันยันตัวเองขึ้นยืนพลางเดินมานั่งกับเพื่อนแสนห้าวที่เพิ่งพ่นคำอวดเบ่งใส่ ...... แล้วพวกเขาจะรู้เรื่องที่แกพูดมั้ยย่ะ?? ยัยบักกะลานุ่น!! ทำไปได๊!!!!
                อีกฝั่งฝากโซฟาก่อนหน้านี้.... วงบอยแบรนด์ชื่อดังของประเทศแดนโสม ‘ทงบังชินกิ’ ได้เดินตามการ์ดไม่กี่คนมายังห้องพักผ่อนของแขกวีไอพี พอมาถึงการ์ด 3-4 คนก็จัดการภายในห้องและพูดๆไม่กี่ประโยคแล้วเดินจากไป 5 หนุ่มเข้ามาในห้องพลางนั่งลงที่โซฟาตัวยาวทันทีเพราะความเหนื่อยล้าจากการนั่งเครื่องบิน
    “ช่างเป็นการเดินทางที่แสนเมื่อยตูดเหลือเกิน....” หนุ่มยูชอนพูดก่อนจะกระแทกก้นงอนงามลงบนโซฟาแสนนุ่มพลางหันไปยิ้มกับเพื่อนๆ (ระหว่างนี้ยังคงตกอยู่ในสายตาของพวกโรคจิตสาว......สวย!!!)
    “นั่นซิ -*- ดีนะที่แฟนคลับไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ แต่ถึงรู้ก็มีไม่กี่คนหรอก ข้างนอกอ่ะ!!” แจจุงเอนตัวพิงกับพนักเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังที่เอาแต่ก้มงอเพราะเล่นเกมกับชังมิน..
    “เอาหน่า^^ อีกไม่กี่นาทีพวกเราก็ได้พักผ่อนแบบเต็มสตรีมแล้วเพื่อนเอ๋ยย!!! เนี่ยแหละหน่าที่พวกเรารอคอยมาเป็นปี ... -*- ... หลายปี!!!!!!!!!!!! กว่าจะได้มา...อืมมมมมมม ~_~ รู้สึกดีจริงๆ”
    “แต่ถ้านายไม่พูดกับผู้จัดการนะยุนโฮ .. พวกเราก็ไม่ได้มายืดแข้งขาแบบนี้หรอก” เสียงทุ้มเล็กตามสไตล์ของหนุ่มโลมาพูดเชิงขอบใจกับหัวหน้าวงหุ่นสมาร์ทที่นั่งถัดจากเขาไป.. แล้วพวกเขาทั้ง 4 ก็ระเบิดหัวเราะกันออกมาโดยไร้เสียงของน้องเล็กที่หันซ้าย-ขวาเหมือนกับระแวงอะไรซักอย่าง
    “ชังมิน^^ .. นายเป็นอะไรหรือป่าวเนี่ย? หันรีหันขวางเหมือนคนจิตตกอยู่ได้.. ติดยาไง๊??”
    “พูดเป็นเล่นหน่าพี่ยูชอน .. คนอย่างผมเนี่ยนะ *3* ตายแล้วเกิดใหม่มันยังจะดีกว่าซะอีก”
    “แล้วทำบ้าอะไรของนายล่ะว่ะ!! ใครจะตามมาฆ่าเหรอไง?? .. โอ้ววว!! จริงซิ ช่วงนี้มีข่าวมาว่าหญิงสาวคอยตามตัวหนุ่มหล่อเพื่อหวังจะได้ใกล้ชิดสนิมสนมอยู่นี่หน่า ... หรือว่าพวกเราจะตก..!!” แจจุงแสร้งทำท่าทางโอบรัดตัวเองราวกับว่าบอบบางซะเหลือเกิน .. ทั้งที่ตัวเองมีกล้ามเนื้อที่ดูเพอร์เฟคม๊ากก..มาก!!!
    “ปัญญาอ่อน!!!! -*- .. พี่ก็คิดได้แค่นี้แหละหน่า (หันไปทาง 3 หนุ่มที่เหลือ) ผมว่ามันแปลกๆเหมือนกับว่าพวกเราไม่ได้อยู่กันแค่นี้ต่างหากล่ะ” ระหว่างที่ชังมินกำลังบอกพวกพี่ๆทั้ง 4 คนถึงความผิดปกติ .. หญิงสาวแปลกหน้าลุกขึ้นพรึ่บหลังโซฟาตรงข้ามกับพวกเขาและเดินมานั่งราวกับว่าเธอไม่เห็น 5 หนุ่มเลย.. ด้วยความตกใจเพราะนึกว่าแฟนคลับเลยหยิบโน่นหยิบนี่มาบังหน้ากันยกทีม...
    “แล้วจะหลบอีกนานมั้ย? ฉันบอกว่าให้ลุกขึ้น!! พวกเรามีสิทธิ์ที่จะอยู่ในห้องนี้นะเว้ย ยังไงซะพวกเราก็มาก่อนอยู่แล้ว” เธอพูดตะโกนไปด้านหลังพลางเบี่ยงสายตามาทางหนุ่มๆราวกับว่าจะบอกอะไรซักอย่าง .. สิ้นเสียงของเธอก็มีหญิงสาวแปลกหน้าเพิ่มขึ้นมาอีก 4 คนจากหลังโซฟาเช่นเดิม แถมพากันนั่งโดยไม่รู้สึกความเป็นตัวตนของพวกเขาเลยซักนิด ... หรือพวกเธอไม่รู้ว่าเป็นพวกเราว่ะ?? แล้วเป็นใครกัน???
    “เฮ้ย!! นี่มันอะไรกันเนี่ย? ไหนว่าไม่มีคนอยู่ไง ... ที่นี้เขาให้แขกพักรวมกันได้ด้วยเหรอ??” จุนซูหันไปความเห็นจากหนุ่มไก่ที่เอาแต่บังๆหลบๆอยู่คนเดียว
    “หรือว่าจะเป็นแฟนคลับที่ย่องแอบเข้ามาด้วยความแนบเนียน .. ต้องการจะใกล้ชิดกับเรามากจนถึงขนาดต้องติดสินบนเจ้าหน้าที่ของที่นี้ .. โอ้ววว!! พระเจ้า OoO มันเป็นไปไม่ได้!!!”
    “พอซักทีเหอะแจจุง -*- ไอ้โรคหลงตัวเองจนได้โล่เนี่ย .. ถ้าเป็นแฟนคลับจริงพวกนั้นน่าจะรู้แล้วซิว่าเป็นพวกเราน่ะ แล้วถ้าหยิ่งคลั่งเหมือนนายว่าอ่ะนะ คงไม่หลบพวกเราตั้งแต่พวกเราอยู่กันตามลำพังหรอก” หัวหน้าวงหันไปปั้นหน้าเชิงให้เหตุผลกับหนุ่มหน้าสวยทันที .. เห็นว่าสวยหรอก -*- เหอะๆๆ!!!
    “งั้นเดี๋ยวผมมาแล้วกัน อยากรู้เหมือนกันว่าพวกนี้เป็นใคร??”
    “แล้วนายพูดกับเขารู้เรื่องเหรอ?? นายเรียนภาษาไทยมาด้วยเหรอไงชังมิน??”
    “แล้วจะมีภาษาอังกฤษไว้ทำส้น..อื้ม..อะไรล่ะครับพี่คร้าบบบ อยู่อเมริกาแน่ป่ะเนี่ย? ไม่ใช่ไปเกาะศรีลังกาแล้วโกหกพวกเราหรอกนะ?” ชังมินส่ายหน้าเหนื่อยกับการถามไร้สาระของรุ่นพี่ร่วมวงอย่างยูชอนก่อนจะลุกเดินไปทาง 5 สาวแปลกหน้าเพื่อถามอะไรพวกเธอนิดหน่อยพอเป็นพิธี .. โดยมีสายตาเค้นเขี้ยวของหนุ่มไก่ไล่หลังมา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×