คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การเดินทางครั้งแรก.... -*- ?? ( 100%)
HeYyyyyy!!!!~
เสียงเฮลั่นฮอล์ลโตเกียวโดมสนั่นลั่น... เสียงกรี๊ดปะปนกับเสียงเรียกชื่อศิลปินที่เพิ่งกลับลงไปหลังเวที.. เสียงดังแบบนี้นักร้องที่เสร็จจากการแสดงต้องไม่ใช่ย่อยแน่.. แต่นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากวงบอยแบนด์สุดฮอตของเกาหลี ‘ทงบังชินกิ’ พวกเค้ามีทัวร์คอนเสริต์ไม่เว้นแต่ละเดือน จากประเทศนี้ก็ไปประเทศนั้นต่อ จากเมืองโน่นก็เข้าเมืองนี้ต่อ.. สรุปคราวๆก็คือพวกเค้าไม่ได้หยุดพักกันเลย ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตกันเลยทีเดียว ..หลังเวที.. 5 หนุ่มนั่งหอบกันด้วยความเหนื่อยเพราะเต้นกันสะบัดในเพลงสุดท้ายที่จบไป เหงื่อที่ไหลซึมเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่มันทำให้รู้ว่าพวกเค้าทุ่มเทกับงานตัวเองขนาดไหน ไม่ใช่แค่เล่นๆเหมือนกับวงอื่นๆที่เจอมา.. ชายผมซอยสั้นที่โกรกผมสีน้ำตาล ใบหน้าที่พราวไปด้วยหยดเหงื่อ นัยน์ตาเรียว ปากอิ่มที่กลั้นเสียงหอบไว้ขณะนี้ได้เม้มปิดสนิท... เค้าเงยหน้ามองเพื่อนร่วมวงที่สภาพกายก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเค้าเลย.. และในความเป็นหัวหน้าวง.. การดูแลเอาใจใส่กับเพื่อนร่วมวงมันย่อมสำคัญที่สุด ... เรื่องพักงาน.. แน่นอน!! เค้าต้องคิดไว้
“ก็เกือบๆแค่กำลังจะขึ้นสวรรค์ชั้นเกือบสุดท้ายเท่านั้นเอง” ชายหน้าสวยราวกับผู้หญิง ผมดำสนิทสไลด์ประบ่าที่เปียกเหงื่อ ปากเรียวเม้มกลั้นความเหนื่อยไว้แน่น ตากลมโตที่ปิดสนิทลืมขึ้นรับแสงไฟนีออนภายในห้อง...
“นายกำลังพูดเหมือนกับว่าพวกเราตายไปแล้วเลยนะแจจุง..”
“ก็มันจริงอย่างที่ฉันพูดมั้ยล่ะยูชอล ให้ตายเถอะ...ไม่เคยคิดกันเลยหรือไงว่านักร้องก็คน ไม่ใช่เครื่องจักรที่จะใช้งานตลอดน่ะ” ‘แจจุง’ หันไปมองเพื่อนร่วมวงเค้าอีกคน.. ชายเสียงทุ้มนุ่ม ใบหน้ารูปกลมรีที่ตอนนี้กลายเป็นทางเหงื่อผ่านเรียบร้อยแล้ว.. ตาเรียวที่แสนซนกลอกมองแจจุงช้าๆ และปากก็พูดตาม
“เพิ่งจะรู้ว่าเจ้าสาวของหัวหน้าวงเราก็บ่นเป็นเหมือนกัน..”
“พูดบ้าๆหน่ายูชอล.. แจจุงไม่ใช่เจ้าสาวฉัน!!~ ว่าแต่นายเถอะ.. ไม่ได้คิดแบบเดียวกับแจจุงเค้าหรอกเหรอ” .. หัวหน้าวง ‘ยูโนว ยุนโฮ’ แขวะเล็กน้อย
“คิด!!!” เสียงสั้นๆก่อนจะเงียบไป....
“นั่นประไร!!~ .. แล้วพวกนายล่ะ .. ก็ทั้ง 2 คนน่ะแหละ” ยุนโฮชี้ไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่อีกฟากอย่างเจาะจง...
“พวกเราน่ะเหรอ??” 2 หนุ่มที่นั่งนิ่งเอ่ยพร้อมกัน..
“เอ่อ... คงไม่ใช่มั้ง?? ก็มันเหลือใครล่ะคร้าบบบเซียเซีย.. แม็กกี้”
“อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นอีกนะยูชอล... ฉันไม่ชอบ!!!~” ชายหนุ่มที่มีหน้าแบบหลากหลาย ผู้ที่โดนเพื่อนหาว่าเป็นปลาโลมาน้อยสบถอย่างหัวเสีย..
“ผมว่าแบบนั้นก็น่ารักดีนะฮะ.. เซียเซีย!! น่ารักออก”
“เงียบปากไปเลย!!!” ‘เซีย’ หรือ จุนซู.. หันไปกำราบน้องเล็กของวงอย่างโมโห
“ไปว่าเค้าอีกแล้วที่รัก... ไม่เอาหน่า ^O^ ยังไงนายจะชื่อไหนก็เป็นนายอยู่ดี”
“เลิกพูดแบบนี้ด้วย” ... น้ำเสียงเหมือนงอนนนน??
“อ้วกกกกกก!!!!”
เพื่อนๆมอง 2 หนุ่มนั่งจีบกัน.. แต่ใครจะสนล่ะก็แค่เล่นๆกันเพื่อความสนุกของคนเราเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น ((แต่ถ้าจะคิดก็มันแล้วแต่เค้าล่ะ.. จริงมั้ย??)) ชายหนุ่มหน้าคมที่เพิ่งโดนเซียว่าใส่นั่งมองแก้วน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอย่างครุ่นคิด และทุกคนก็มองเค้าอย่างใช้ความคิดว่าหมอนี่มันคิดอะไรของมัน??.. ‘แม็ก’ หรือ ชังมิน คลายคิ้วที่ขมวดอยู่นานก่อนจะเงยหน้ามองพวกพี่ๆในวงและยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย เค้ากำลังจะเปิดปากบอกทุกคนว่า...
“เราไปพักร้อนกันดีมั้ย.. แล้วไปที่ที่เราคลายเครียดจากงานและเสียงกรี๊ดๆที่อยู่ข้างนอกด้วยดีมั้ย?? ..แต่ผมไม่ได้ว่าแฟนๆนะเมื่อกี้ เพียงแต่มันเสียงดัง”
“พวกเรายังไม่ได้ว่าอะไรนายซักหน่อย.. แต่ความคิดนายก็เข้าท่าเหมือนกัน แล้วพวกนายมีความคิดอะไรมั้ย ฉันหมายถึงว่าถ้าเราไปพักร้อน..เราจะไปที่ไหนกันดี เอาที่แบบเจ๊งๆนะ จะได้แบบว่าไม่ต้องมานั่งเสียอารมณ์” ยุนโฮผละตัวเด้งจากที่พิงอย่างเร็วเพื่อถามความเห็นจากเพื่อนๆในวง
“อืม... -*- ... ที่แบบเจ๊งๆงั้นเหรอ?? เอ่อ... -*- .. OUO .. นายว่าที่นี้เป็นไง ฮาวาย!! หาดทรายสีขาว สาวๆสวยๆ ต้นมะพร้าวหลายต้นและที่สำคัญ.. มันเย็นสบาย” เซียเหลือบตามองเพื่อนๆเค้าและยิ้มไปด้วย..
“นายก็คิดแค่นี้แหละจริงมั้ย ขอแค่มีต้นมะพร้าว หาดทรายและสาวๆน่ะ”
“อ้าวแล้วนายไม่เอาเหรอไงยูชอล.. ฉันรู้ว่านายก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ปลาโลมาน้อยหันมายิ้มกวนใส่พลางยักคิ้วให้มิคกี้อย่างขอความเห็น
“งั้นถ้านายไม่เอาแบบนั้น.. แล้วนายมีที่ที่ดีกว่าจุนซูพูดมั้ยล่ะ”
“มีซิ!! .. ฉันกับชังมินคิดไว้นานแล้วล่ะแจจุง .. ^O^ ..”
“แล้วมันที่ไหนของนายน่ะ ไอ้ที่ว่าดีของนายมันจะที่ไหนกัน” เซียชักบ่น..
“หึๆ!! ไม่ต้องคิดมาก.. ก็เพื่อนบ้านเราไง >U< .. เมืองไทย!!”
“เมืองไทย!!!!!!! OoO
”
โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ.. ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังโรงเรียน ภายใต้เงาไม้มีม้าหินอ่อนที่ถูกขีดเขียนไปด้วยหมึกปากกาเคมีและน้ำยาลบคำผิด และที่นี้เป็นที่สิงสู่ของเด็กนักเรียนหญิงม.ปลายกลุ่มหนึ่งซึ่งนั้นหมายถึงกลุ่มของฉันเองแหละค่ะ -*- .. ฉันกับเพื่อนอีก 3 คนก็จะมานั่งเม้าท์แตกถึงเรื่องไร้ๆสาระและดารา-นักร้องที่เพื่อนของฉันชอบอ่ะค่ะ เชื่อหรือไม่.. เพื่อนทั้ง 3 ของฉันมันเม้าท์เรื่องนักร้องเกาหลีอย่างออกรสขนาดประมาณว่าจะตามไปถึงถิ่นเค้ากันเลยทีเดียว .. จะไปว่าเพื่อนของฉันเลยก็ไม่ถูก จริงๆแล้วฉันก็บ้าๆตามพวกมันด้วยแหละ และนักร้องเกาหลีที่พูดถึงก็ทงบังชินกินั่นแหละ .. จะไปมีอะไรมากกว่านี้มั้ยล่ะ?? รู้สึกว่าเพื่อนฉัน.. เอ่อ.. ยัยจั๊ส.. มันไปได้ข่าวมาว่าทงบังพักร้อน 1 เดือนแล้วรู้สึกว่ามันจะไปรู้มาอีกว่าพวกเค้าจะมาที่ไทยอีก 3 วันข้างหน้าต่อจากนี้.. ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมันจะเป็นได้มากนาดนี้..
“นิมันเรื่องจริงใช่มั้ยจั๊ส พวกเค้าจะมาจริงๆใช่มั้ย” สาวหน้าหมวยที่มีทรงผมเป็นเอกลักษณ์มาก.. ทรงกะลาที่พวกเราจะเรียกเธอว่า ‘กะลานุ่น’ ตกใจนิดๆ
“แล้วที่ผ่านมา..ข่าวที่ฉันมาบอกพวกแกมันมั่วเหรอไงย่ะ” ‘จั๊ส’ สาวน้อยหน้าม้าที่เป็นเหยี่ยวข่าวเรื่องทงบังมาบอกพวกเราเหลือบตามองค้อน
“ไม่เอาหน่าพวกแกก็อย่าขึ้นเสียงกันดิว่ะ เฮ้อ!!~ แล้วพวกเค้าจะมาวันไหนล่ะ แล้วพวกเราจะไปกันมั้ยอ่ะ จะหยุดเรียนกันเลยหรึป่าวเหมี่ยว” ‘เจส’ สาวร่างท้วมที่ชอบห้อย Mp3 ไว้ที่คอเสมอพูดรัวๆแล้วหันมาทางฉัน
“ไม่รู้ซิ... เมื่อกี้ยัยจั๊สบอกว่ามาวันศุกร์ วันนี้เพิ่งวันอังคาร.. ก็คงจะต้องหยุดเรียนแล้วล่ะมั้ง บอกแม่ว่าป่วยการเมืองหรือไม่ก็ปวดกระเพาะทงบังอะไรอย่างเงี่ย” ฉันบอกเจสอย่างปัดๆทั้งๆในใจฉันแทบจะบินไปรับถึงสตูฯเลยด้วยซ้ำ
“ปวดกระเพาะทงบัง?? ปวดบ้าอะไรว่ะ ทงบังเกี่ยวไรเนี่ย”
“อ้าว!! ไม่รู้อะไรซะแล้วยัยกะลานุ่น.. ก็กระเพาะว่ารักทงบังไงล่ะว่ะ ไม่รู้เรื่อง”
“อ้วกกกกก!! ไอ้เน่า!!!”
“พอๆเลย.. ตั้งแต่วันนี้ไปนะ พวกเราจะไปนอนค้างที่บ้านแกเหมี่ยว .. เพราะบ้านแกใกล้ดอนเมืองสุด ฉะนั้นเรื่องทำป้ายก็ทำที่บ้านแก วางแผนที่บ้านแกที่สำคัญที่สุดเรื่องกินก็ที่บ้านแก”
“ยัยบ้า!!!~ มากไปแล้วย่ะยัยจั๊ส!! แกจะมาอยู่บ้านฉันเลยมั้ย พูดซะเหมือนฉันเป็นคนใช้แกเลยนะ เออๆๆ!! ได้.. ทุกอย่างโอเคเว้นเรื่องกิน.. หาเองเว้ย”
“อะไรว่ะ..”
“หรือพวกแกจะอยู่บ้านตัวเองแล้ววันศุกร์ค่อยมาเจอกันตอนตี 3 เฉพาะพวกแกที่มาตอนนั้นนะ แล้วถ้ามาสายก็ไปยืนเบียดๆกับพวกแฟนเพลงหน้าแห้งพวกนั้นก็แล้วแต่พวกแกนะ แล้วฉันจะรอพวกแกตอน 7 โมง เอางั้นใช่มั้ย??”
“ไม่ๆๆๆ!! ได้ๆๆ.. เรื่องกินพวกเราหาเองก็ได้”
ฉันมองเพื่อนทั้ง 3 คนอย่างนึกขำ.. อะไรก็ตามที่ต่อรองด้วยเรื่องของทงบังชินกิล่ะก็ .. พวกนี้เป็นต้องยอมฉันหมดเลย นุ่น จั๊สและเจสนั่งหน้าบานเป็นจานดาวเทียม??.. ไม่ๆ!! ฉันว่าหน้ามันบานมากกว่าพื้นน้ำทะเลซะอีก ไม่นานมากพวกเราก็ต้องเข้าเรียนตามปกติตามเดิม หน้าตาก็ตั้งใจเรียนอยู่หรอกแต่ในใจมันกลับเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเตรียมไปดอนเมืองแล้วล่ะค่ะ.. -*- .. พอเลิกเรียนพวกเราก็รีบมาประจำกลุ่มกันเหมือนเดิมแต่คราวนี้เลิกกลุ่มเร็วหน่อยเพราะยัยพวกนั้นต้องกลับไปเก็บเสื้อผ้ามาค้างบ้านฉันน่ะซิค่ะ เฮ้อ!! ส่วนฉันก็กลับบ้านไปรอพวกนั้นและจัดเตรียมการมาของเพื่อนๆในฐานะเจ้าบ้านที่ดี อืมม.. เจ้าบ้านที่ดี -*- !! ทำไมฉันต้องมาต้อนรับพวกนั้นด้วยนะ.. ไม่เข้าใจเลย ??
หมู่บ้านเมเบิ้ลวิลเลจ... ฉันต้องเดินเข้าหมู่บ้านที่ถนนมันคดเคี้ยวซะเหลือเกิน เลี้ยวโน่นเลี้ยวนี้จนไม่รู้ว่าสายไหนมันสายเข้าบ้านฉันอยู่แล้ว.. ใครมันสร้างทางแบบนี้ว่ะเนี่ย?? ((แล้วใครมันซื้อบ้านอยู่ว่ะห่ะ!!)) ไม่นานที่ฉันบ่นกับตัวเองเท้าฉันก็มาหยุดที่หน้าบ้านที่ตกแต่งแนวเกาหลีผสมญี่ปุ่นหน่อยๆคือพ่อฉันเป็นสถาปนิกแล้วก็แม่ฉันก็เป็นมัณฑนากรหญิงด้วย เรื่องบ้านก็หน้าที่พวกเค้าแหละค่ะ.. ฉันรีบเปิดประตูบ้านทันทีเมื่อไขประตูได้..
“กลับมาแล้วค่ะ... เมมๆๆ!! พ่อกับแม่กลับมายัง” ฉันตะโกนพลางถอดรองเท้านักเรียนออก.. เออ!!~ ฉันลืมบอกไปว่า ‘เมม’ ที่ฉันพูดถึงน่ะ น้องสาวฉันเอง..
“ยังเลย.. ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจังเลย ทุกทีกลับ 6 โมงนิ..”
“กลับมาจัดบ้านอ่ะดิ แต่คงไม่ต้องแล้วมั้ง?? พี่แก้วมาทำความสะอาดแล้วนิ .. ช่างเถอะ!! เออ -*- วันนี้เพื่อนพี่จะมานอนที่นี้ถึงวันศุกร์อ่ะนะ คงต้องรบกวนด้วยถ้ามันจะทำให้เสียสมาธิอ่านหนังสือ”
“โธ่!!~ ไม่กวนหรอกหน่า สนุกออก ^U^ มากันหมดเลยช่ายป่ะ” เมมกระทุ้งศอกใส่แขนฉันอย่างล้อเลียน.. น้องสาวฉันเหรอเนี่ย??
“อืมม.. เออนิ!!~ รู้มั้ยว่าทงบังอ่ะจะมาที่นี้วันศุกร์อ่ะ จะไปรับพวกเค้ากับพี่หรึป่าว แต่ว่าถ้าไปเมมต้องหยุดเรียนนะ แล้วค่อยบอกพ่อกะแม่อีกที”
“O_O .. >O< .. ของมันแน่อยู่แล้ว.. ไปซิไป!!”
“แต่แกไม่ได้ชอบวงนี้ไม่ใช่เหรอ?? เอสเจไม่ใช่เหรอที่แกชอบน่ะ”
OoO .. =_= .. -3- .. สีหน้าน้องสาวของฉัน..
“ยังไงเนี่ย?? สรุปแกชอบทงบังเข้าแล้วใช่มั้ย?? บอกพี่มาเดี๋ยวนี้นะ”
“ป๊าววว.. ไม่ได้ช๊อบบบบเลยนะ.. ไปอ่านการ์ตูนต่อแล้วนะ บาย!!~”
“ยัยเมม!! ลงมาคุยกันก่อนเลยนะ.. ยัยเมม!!!~” ฉันเรียกน้องฉันจนเสียงแทบแห้งมันก็ไม่ลงมาซักที.. ฉันเลยต้องมานั่งบ่นอุบคนเดียวรอยัยพวกนั้นมา..
Titong!!! Titong!!!!
“มากันแล้วเหรอ??” ฉันลุกเดินไปนอกบ้านก็เห็น 3 สาวหน้าแป้นยืนอมยิ้มและที่สำคัญหลังและมือของทุกท่านเต็มไปด้วยสัมภาระ.. -*-
“จะย้ายสำมะโนครัวมาอยู่บ้านฉันเหรอไงย่ะ!! ขนตู้เสื้อผ้ามาด้วยเหรอไง”
“แล้วมันจะทำไมย่ะ นี่แค่เบาะๆเท่านั้น.. รีบๆเปิดซิประตูน่ะ มันหนักนะเว้ยย”
“งั้นก็กลับบ้านตัวเองไปซิยัยจั๊ส... จะได้ไม่ต้องมายืนแบกอยู่”
“หยุดๆทะเลาะกันได้แล้ว.. แกก็รีบเปิดซิ จะมายืนคุยกันอย่างนี้เหรอไง” เจสเริ่มปวดขมับกับเสียงแหลมๆของยัยจั๊สเต็มทน..
“เอาๆ -*- ตามเข้ามาเลย .. พวกแกกินอะไรกันมายังเนี่ย? จะบอกว่าบ้านฉันไม่มีอะไรให้พวกแกกินหรอกนะ”
ความคิดเห็น