ลำดับตอนที่ #12
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 12 | อีกครึ่งของดวงวิญญาณ
"เกิดอะไรขึ้นไวเปอร์?"
เจ้าของชื่อที่กำลังนั่งแกะซองลูกอมหันไปมองทางประตูห้องที่เปิดออก เขาชะงักมือลงเมื่อนัยน์ตาสีแดงก่ำของหญิงสาว
เป็นการบอกว่าเธอกำลังโกรธ
ยิ่งดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเท่าไหร่ ยิ่งบ่งบอกระดับความโกรธได้เป็นอย่างดี ถือซะว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของสองพี่น้องคู่นี้ล่ะนะ
"ฉันบอกเลยนะว่า— แค่กๆ" นิกซ์ยกมือปิดปากไอทันที มืออีกข้างยันกำแพงไว้กันไม่ให้ตัวเองล้ม
"เป็นไงล่ะ ดื้อด้านดีนัก"
เฟลแซนส์บ่นหญิงสาวที่ดื้อจะมาโรงพยาบาลให้ได้ แม้ตัวเขากับเฟลพาไพรัสจะห้ามยังไงก็ตาม
ทุกๆคนที่อยู่ในห้องหรี่ตามองโครงกระดูกตัวเล็กในชุดโทนสีดำแดง ถึงแม้เฟลแซนส์จะบ่นนิกซ์มากแค่ไหน แต่ตัวหมอนั่นเองก็ช่วยพยุงนิกซ์ให้ไปนั่งดีๆ
ซึนจริงๆนั่นแหละ...
ไวเปอร์ถอนหายใจ มือหนาเอื้อมไปกดปุ่มเรียกพยาบาลเพื่อขอยาแก้ไข้ให้ตัวหญิงสาวพร้อมสั่งให้ไปซื้อข้าวต้มให้อีกด้วย
"นั่นสิครับ ป่วยอย่างนี้ทำไมไม่ไปนอนอยู่บ้าน"
"ก็นายบอกว่าเป็นเรื่องร้ายแรงนี่!!! แค่กๆ" เธอหันไปแว้ดใส่บุคคลที่โทรมา มือยกปิดปากไออีกครั้งจนเฟลแซนส์เขกเข้าที่หัวดังโป๊ก!
เฟลแซนส์จ้องมองหญิงสาวข้างตัวตาขวาง "รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งพูดเสียงดังยิ่งไอหนักกว่าเดิมก็ยังจะทำอีกนะ!"
"ถ้ายังไม่หยุดเดี๋ยวฉันจะเอาตะกร้อครอบปากหมามาครอบปากเธอซะเลย"
นิกซ์ทำมือรูดซิบปากเป็นอันบอกว่าเธอยอมเงียบแล้ว อย่าดุเธอ อย่าทำเธอเลยนะ
"ส่วนแกไอ้ผมเทา เข้าเรื่องได้แล้ว" เมื่อเห็นว่าคนข้างตัวจะไม่พูดอะไรออกนอกเรื่องนอกทาง เฟลแซนส์ก็หันไปสั่งให้ไวเปอร์รีบเล่าเรื่องทั้งหมดสักที
"ก็— ง่ายๆเลยคือมีคนบุกมาวางยาสลบสี่คนนั้น จากนั้นก็เอาดวงวิญญาณของนอกซ์ไปครึ่งดวงพร้อมฉีดยาอะไรบางอย่างเข้าสู่ร่างเขา" ไวเปอร์ทำการอธิบายถึงเรื่องเมื่อคืน "และดวงวิญญาณของเขาก็ค่อยๆหายไปทีละนิด รวมถึงหลอดHPของนอกซ์ด้วย"
"จากการคาดเดาของผม หลอดHPของเขาที่หายไปไม่น่าเป็นห่วงเท่าดวงวิญญาณที่กำลังถูกดูดที่ล่ะนิดล่ะน้อยไปหาอีกครึ่ง"
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเมื่อตัวคุณหมอผมเทาพูดจบประโยค ทุกคนหันไปมองนิกซ์ที่นั่งหน้าทมึงตึงปล่อยรังศีไม่เป็นมิตรออกมา
ไวเปอร์ทำการเอ่ยต่อทันที
"และถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาก็จะตาย แม้ดวงวิญญาณของเขาจะไม่ได้แตกสลายก็ตาม"
นิกซ์ทำสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างอะไรจากคนอื่นๆ ถุงมือหนาสีแดงวางบนหัวของเธอพร้อมร่างของเฟลพาไพรัสที่ยืนอยู่ข้างหลัง
"ไม่มีวิธีรักษารึไง?" เฟลพาไพรัสเอ่ยถามในสิ่งที่ทั้งตัวเขาและคนอื่นๆอยากจะรู้ออกไป
"น่าเสียดายที่ยานั้นไม่ใช่ยาพิษ ผมจึงไม่สามารถรักษาได้"
เพราะถ้าเกิดมันคือยาพิษ มีหรือที่เขาจะรักษาไม่ได้
ตัวไวเปอร์เองนั้นคืออดีตหัวหน้าทีมแพทย์ขององค์กรเชเซน หนึ่งในคนที่ได้อยู่เลเวล0และเป็นคนที่ทรยศองค์กรออกมาพร้อมๆกับตัวหญิงสาว
นิกซ์หรี่ตามองคุณหมอที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นอดีตนักฆ่าที่เชี่ยวชาญด้านพิษอันดับหนึ่งขององค์กร
ใช่— ยอมรับเลยว่าไวเปอร์นั้นเก่งกว่าเธอด้านยาพิษ หากอีกฝ่ายไม่ได้ร่วมมือกับเธอและเลือกที่จะตามฆ่าเธอแทนล่ะก็
ไม่แน่ว่าเธออาจจะตายโดยไม่รู้ตัว
เหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถพิเศษที่หาจับตัวได้ยากอย่างไวเปอร์คือเลือดของเขา เลือดของเขาสามารถถอนพิษได้ทุกชนิดและเร่งการทำงานของร่างกายให้บาดแผลหายเจ็บเร็วขึ้น
ใช้บ่อยอาจตายได้ ไม่ว่าจะทั้งไวเปอร์หรือแม้แต่คนที่ได้รับเลือดเขาไปก็ตาม
นี่จึงเป็นเหตุผลที่นอกซ์ไม่มีแผล และที่ตัวพี่ชายของเธอไม่ได้ฟื้น เพราะเสียพลังงานไปมาก อาจฟื้นได้ภายใน4-5วัน
อีกอย่าง ชื่อไวเปอร์ไม่ใช่ชื่อจริง
นิกซ์ทำการไขว้ขาของตัวเอง ปกติแล้วนั้นทุกคนในองค์กรจะได้รับชื่อใหม่หรือไม่ก็อาจถูกเรียกโดยฉายา
ชื่อจริงของทุกคนไม่มีใครรู้ แม้แต่ตัวไวเปอร์เองก็อาจลืมชื่อที่แท้จริงไปแล้วก็ได้ ส่วนเธอกับพี่ชายถูกยกให้เป็นกรณีพิเศษที่สามารถใช้ชื่อจริงได้
แต่คนอื่นๆก็คิดว่าชื่อทั้งคู่เป็นชื่อปลอมอยู่ดี...
"ยังมีวิธียื้อชีวิตเขาอยู่ นั่นก็คือการหาดวงวิญญาณที่คล้ายกันมาใส่"
นิกซ์ทำท่าอ้าปากจะเสนอตัวให้เอาของเธอไป แต่เฟลแซนส์กับเฟลพาไพรัสก็ยกมืออุดปากเธอไปเสียก่อน
"อย่าแม้แต่จะคิด"
ถ้ามีหูกับหาง พวกเขาคงเห็นมันลู่ลง
ไวเปอร์หัวเราะในลำคอเบาๆ "แต่อันนั้นมันก็แค่ยื้อชีวิตไว้ชั่วคราว ถ้าจะเอารักษาแบบหายขาดล่ะก็—"
ดวงตาดั่งอสรพิษหรี่ลง
"พวกคุณต้องออกตามหาเซเรน่า"
ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก
เสียงนาฬิกาดังก้องไปมาในห้องนอนขนาดเล็ก มือบางเล็กขาวนวลเอื้อมไปหยิบหลอดทดลองที่มีสารสีม่วงมาผสมในบีกเกอร์
กึก
มือบางชะงัก นัยน์ตาสีเหลืองอร่ามภายใต้เลนส์แว่นเลื่อนไปมองผู้ที่บุกรุกเข้ามาในห้อง
"มีธุระอะไรงั้นเหรอคะ?"
หญิงสาวเรือนผมสีเขียวอ่อนมัดเปียทั้งสองข้างเอ่ยถามคนตรงหน้า หูกวางบนเส้นผมกระดิกไปมา สิ่งที่เป็นจุดเด่นสุดของหญิงสาวก็คงจะเป็นเขากวางสีน้ำตาลที่สวยงามและใบหน้ามีลวดลายบางอย่างคล้ายรอยสัก
คนตัวสูงในชุดโทนดำขาวเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง "ได้เวลากินข้าวแล้ว"
เธอเอียงคอ เลื่อนสายตาไปมองผลงานการทดลองที่ยังทำไม่เสร็จสมบูรณ์ และหากว่าเธอลงไปกินข้าวตอนนี้โดยทิ้งงานวิจัยไว้ มันอาจจะต้องเสียเวลาในการทำงานใหม่หมด
"ขอเวลาอีกห้านาทีค่ะ งานนี้สำคัญมาก"
อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้น มือที่ไร้เนื้อหนังลูบหลังคอตัวเอง
"ได้ ถ้าอีกห้านาทียังไม่ลงมาล่ะก็—"
"ฉันจะพังห้องนี้ทิ้ง เข้าใจไหม?"
ใบหน้าสวยราวกับตุ๊กตากระเบื้องคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้อย่างไม่เกรงกลัวคำพูดขู่ของคนตรงหน้า
"เข้าใจแล้วค่ะ"
นิกซ์นั่งกอดอกอย่างใช้ความคิด การจะช่วยเขาได้ต้องขอความช่วยเหลือจากเซเรน่า ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่เธอพาหลบหนีออกจากองค์กร
เปลือกตาบางปิดลง เสียงพูดของไวเปอร์ลอยเข้ามาในหัวก่อนที่เขาจะออกจากห้องนี้ไป
"เซเรน่าเป็นนักวิทยาศาสตร์มือหนึ่ง เธออาจหาทางรักษาเขาได้"
และนอกจากนี้การที่จะหาดวงวิญญาณที่คล้ายกันมาใส่ร่างของนอกซ์ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ดวงวิญญาณสีแดงแห่งปณิธานก็ว่าหายากแล้ว ยิ่งดวงวิญญาณสีชมพูแห่งความกลัวและสีดำแห่งความเกลียดชังยิ่งหายากเข้าไปใหญ่
แต่คนที่มีดวงวิญญาณแห่งปณิธานที่เธอรู้จักก็มีเพียงแค่สองคน
คาร่า กับ ฟริกส์
สองคนนี้ตัดทิ้งได้เลย ฟริกส์ไม่มีทางช่วยเธอหรอก และคาร่าก็ไม่สามารถทำได้เพราะดวงวิญญาณของเธออยู่กับฟริกส์— อันนี้เธอไม่แน่ใจมากเท่าไหร่
เพราะเธอแค่รู้สึกถึงการมีอยู่ของคาร่ายามอยู่ใกล้ฟริกส์ก็เท่านั้นเอง แน่นอนว่าถ้าไม่มีทางเลือกอื่น ตัวเธอเองคงต้องแบ่งดวงวิญญาณของตัวเองให้นอกซ์
(ซึ่งต้องแอบทำโดยที่ไม่ให้พวกเฟลรู้...)
ฉึก!
คมมีดถูกเทเลพอร์ตปักเข้าที่ผนังกำแพง หลังนิกซ์รับรู้ได้ว่ามีคนถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวผมดำขมวดคิ้วเมื่อเห็นร่างของฟริกส์ที่ตอนนี้ควรจะอยู่กับทอเรียลโผล่มาที่นี่
แซนส์เดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย "เฮ้ฟริกส์ เธอควรจะไปอยู่กับ---"
พรึ่บ!
"ทำไมแกถึงอยู่ที่นี่ยัยเด็กเวร!?"
ทุกคนในห้องขมวดคิ้วงุนงงกับท่าทีของแซนส์เมื่อจู่ๆมอนสเตอร์โครงกระดูกตัวเล็กจุดไฟที่ตาขึ้นมา พวกเขาพากันไปมองร่างฟริกส์ที่ยืนนิ่ง
แต่พอทุกคนได้เห็นใบหน้าของคนตัวเล็ก พวกเขาก็ตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้ทันที เว้นไว้เพียงมอนสเตอร์แพะหนุ่มกับนิกซ์ที่นั่งนิ่งตกใจ
ร่างของเด็กคนนี้คือฟริกส์ แต่ข้างในกลับไม่ใช่ฟริกส์
"ว่าไง~ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเพื่อนเก่า"
แซนส์กัดฟันกรอด
"แก—"
"คาร่า!"
ยามที่ได้เจอหน้าของคาร่า ภาพความทรงจำในอดีตก็ซ้อนทับเข้ามา
เปรี้ยง!
คืนนั้นเป็นคืนฝนตก เป็นคืนที่เธอได้เห็นร่างของเพื่อนสนิททั้งสองตายลงไปท่ามกลางกองดอกไม้สีทอง เลือดสีแดงที่ไหลนองลงพื้น
ภาพจำที่คาร่าพยายามคลานไปหาแอสเรียล ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเธอไม่มีวันหายไป
ราวกับตราบาปในชีวิต ที่เธอปล่อยให้สองคนนั้นตาย
เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าตอนนั้นเธอเลือกที่จะช่วยทั้งสอง—
พวกเธอจะได้ใช้ชีวิตปกติแบบคนอื่นๆได้บ้างหรือเปล่า ได้กลับไปยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุข สู้กันเพื่อแย่งชินนาม่อนพายชิ้นสุดท้าย ทะเลาะกับมอนสเตอร์ตัวอื่นๆที่รังแกแอสเรียล
ใช้ชีวิตแบบปกติที่เด็กทั่วไปเขาทำกัน
แหมะ
หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมากระทบกับหลังมือ นิกซ์กระชับกอดคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น เธอร้องไห้อย่างไม่สนใจใคร
"ฉันขอโทษ" ริมฝีปากพูดพร่ำเพรื่อแต่คำเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา
แอสเรียลจ้องมองสองสาวเพื่อนรักของเขาในวัยเด็กด้วยสายตาอ่อนลง เมื่อไม่กี่ปีก่อนหลังนิกซ์กลับมาที่นี่ เธอได้มาพูดขอโทษเขาเกี่ยวกับเรื่องในอดีต
จนสุดท้ายกว่าจะขอให้เธอหยุดโทษตัวเองได้ก็ปาไปหลายอาทิตย์
"ฉันขอโทษคาร่า ฉันขอโทษที่ทิ้งพวกเธอไว้"
"เลิกโทษตัวเองสักทีเถอะยัยบ้า" เธอขมวดคิ้วดันตัวนิกซ์ออกห่างจากตน "ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยนอกซ์ ไม่ใช่ฟังคำขอโทษจากเธอ!"
"ช่างหัวเรื่องเก่าๆไปเถอะ ฉันไม่ได้สนใจแล้ว"
มือเอื้อมไปเช็ดน้ำตาคนที่ตัวสูงกว่าตนเองในตอนนี้ "ถ้ายังไม่หยุดโทษตัวเองฉันจะโกรธเธอจริงๆนะ"
นิกซ์นิ่งลง ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มให้อีกฝ่าย มือที่หยาบกร้านจากการหยิบจับอาวุธมาเป็นเวลานานกุมมือคาร่า
"ฉันดีใจที่ได้พบเธออีก"
"ฉันก็เหมือนกัน"
เหล่าแซนส์(เว้นไว้แต่พวกเฟล)พากันมองอย่างสงสัย พวกเขารู้แค่ว่านิกซ์เคยอยู่กับครอบครัวดรีมเมอร์มาก่อน สิ่งที่พวกเขาคิดคือพวกเขานึกว่าเธอจะรู้จักก่อนที่คาร่าจะตกลงมาในใต้พิภพ
แซนส์เลิกใช้พลังของตัวเองทันที จริงอยู่ที่เมื่อก่อนตัวเขากับยัยเด็กนั่นจะเคยฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง— ก็ตายจริงๆนั่นแหละ
แต่ในเมื่อคาร่าเป็นคนที่นิกซ์ไว้ใจ เขาก็จะยอมไว้ใจเธอบ้างเช่นกัน
มั้งนะ?
"เทม! ทำไมเธอถึงได้ควบคุมร่างฟริกส์ได้ล่ะ?" เทมมี่เอ่ยถามในสิ่งที่สงสัย เป็นคำถามที่ใครๆต่างก็อยากถามแต่ยังไม่มีใครกล้าถามออกมาขัดซีนซึ้งๆ
"ห๋า? ฉันก็แค่หาจังหวะดีๆแล้วยึดร่างนี้ซะ" คาร่าเลิกคิ้วยกมือขึ้นกอดอก "แต่ก็ยึดได้ไม่นานหรอก"
เด็กสาวผิวสีน้ำผึ้งเดินเข้าไปใกล้ผู้บาดเจ็บบนเตียง แม้สภาพจะไร้บาดแผลแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่มีวี่แววจะฟื้นขึ้น
ปิ๊ป!
หัวใจสีแดงครึ่งนึงปรากฏออกมาที่ฝ่ามือ เธอใส่มันเข้าไปในตัวของนอกซ์
"เท่านี้ก็เรียบร้อย" เธอพูดออกมา แม้ใจจริงอยากจะยกให้เพื่อนหนุ่มทั้งดวง แต่ถ้าทำอย่างนั้นฟริกส์อาจจะจับสังเกตได้
แม้ตัวเธอรู้ว่ายังไงก็ปิดฟริกส์ได้ไม่นานก็ตาม
"ต่อจากนี้เธอจะทำยังไงนิกซ์" นัยน์ตาสีแดงเลื่อนไปมองเพื่อนสาว "ออกเดินทางตามหาดวงวิญญาณของหมอนี่เหรอ?"
นิกซ์พยักหน้าให้เป็นคำตอบ "อาจต้องทิ้งนอกซ์ไว้ที่นี่"
คาร่าหรี่ตาลง ปากคลี่ยิ้มออกมาราวกับมีแผนอะไร
"ฉันมีข้อเสนอ จะลองฟังดูไหมล่ะ?"
โครงกระดูกมากมายหลายสิบอันเสกขึ้นจ่อรอบตัวคาร่า มอนสเตอร์โครงกระดูกทั้งหลายนำตัวมาบังหญิงสาวไว้ไม่ให้ตัวคาร่าเข้าใกล้เธอ
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเสนออะไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องดีแน่!
แปะๆ
นิกซ์ตบเข้าที่ไหล่เฟลแซนส์เบาๆ
เฟลแซนส์มองหญิงสาวผมสีดำนิลตาเขม็ง เขาถอนหายใจออกมาแล้วเลิกใช้พลังทำให้พวกที่เหลือทำตาม
นิกซ์เดินไปนั่งไขว้ขาที่เก้าอี้ โดยมีคาร่าเดินมานั่งตรงข้าม จริงอยู่ที่เธอก็เห็นด้วยกับแซนส์ตรงที่ข้อเสนอของคาร่าดูไม่น่าไว้ใจ
แต่เธอก็เป็นพวกชอบเสี่ยงอยู่แล้ว:)
"ว่ามาสิคาร่า"
คาร่าฉีกยิ้มกว้างจนเกือบถึงใบหู
"ต้องอย่างนี้สิเพื่อนรัก"
Talk :
กลับมาอีกครั้งแล้วค่ะ!<( ̄︶ ̄)>
อธิบายนิดนึงเผื่อใครงง : คาร่า แอสเรียล นิกซ์ นอกซ์ เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่นานสองพี่น้องก็ถูกปะป๊าแกสเตอร์ปล่อยทิ้งไว้ที่โลกอันเดอร์มาเฟีย
ซึ่งตรงช่วงที่แอสเรียลกับคาร่าตายนั้น สองพี่น้องก็คอยแอบมองเหตุการณ์ทั้งหมด เนื่องจากถ้าทั้งสองเข้าไปช่วย ไทม์ไลน์ของโลกจะเปลี่ยนไป
แน่นอนว่าแม้อยากจะช่วยแค่ไหนก็ตาม ทั้งสองก็ต้องฝืนหักห้ามใจตัวเอง จึงทำให้นิกซ์รู้สึกผิดเพราะเธอยืนอยู่ตรงนั้นแท้ๆ แต่ไม่สามารถช่วยได้ค่ะ
ตอนตอนนี้แต่งแล้วก็ลบพิมพ์ใหม่หลายรอบมากเลยค่ะ เพราะทางเรารู้สึกว่าเขียนไปเขียนมาแล้วมันแปลกๆ
หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ และไรท์ขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนาน(´°̥̥̥̥̥̥̥̥ω°̥̥̥̥̥̥̥̥`)
สิ่งที่ยากที่สุดของการแต่งนิยายคือการตั้งชื่อตอน!!!(ノ`Д´)ノ彡┻━┻
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
ความคิดเห็น