ลำดับตอนที่ #78
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #78 : 乙女解剖 [TsubaCyder]
乙女解剖であそぼうよ
ドキドキしたいじゃんか誰だって
恥をしたい 痛いくらいが良いんだって知った
あの夜から
ตอนมัธยมต้นจำได้ว่าได้ยินชื่อของคนคนนี้มาตลอด
ชื่อที่เด่นหราอยู่บนบอร์ดเสมอเวลาประกาศคะแนนออกมา
อันดับ 1 ไอซาวะ สึบาสะ
"คะแนนเป็นยังไงบ้างเหรอไซเดอร์?"
"อืม ก็โอเคแหละนะ"
เพื่อนของเขาเหล่มองบอร์ดคะแนนก่อนจะยิ้มแหย่ออกมาแล้วพูดต่อ
"คะแนนอันดับ 3 นี่ไม่ใช่แค่คำว่าโอเคแล้วมั้ง?"
พอได้ยินแบบนั้นก็แค่ยิ้มแหยๆตอบรับไป
ที่จริงเขาไม่ใช่คนเก่งขนาดนั้น ขยันอ่านหนังสือเป็นบ้าซะมากกว่า
"แต่ว่าไอซาวะนี่สุดยอดเลยเนอะ"
"ไม่ใช่แค่อันดับ 1 ของชั้นปี น่าจะอันดับ 1 ของโรงเรียนเลยมากกว่า"
"แถมอันดับยังไม่เคยร่วงเลยด้วย อันนี้แหละที่สุดยอด"
เขาหันกลับไปมองบอร์ดคะแนนนั่นอีกครั้ง
ชื่ออันดับ 1 ที่เห็นมาจนเคยชินไม่เคยเปลี่ยนไปสักที
เจ้าตัวก็ไม่เคยโผล่มาดูคะแนนตัวเองที่บอร์ดสักครั้งเหมือนกัน
"อ่า ช่างเถอะ! ไหนๆคะแนนก็ออกแล้วไปฉลองกัน---"
เพื่อนตัวดีพูดยังไม่ทันจบก็ชะงักไปเพราะโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น
พอเจ้าตัวหยิบขึ้นมาดูก็หัวเราะแหะๆออกมา
"แฟนชวนไปเที่ยวฉลองสอบเสร็จเหรอ?"
"อาหะ"
สุดท้ายเพราะไม่อยากไปเจอความหวานเลี่ยน เลยขอตัวออกมาจากเพื่อน
จะว่าไป... เรื่องแฟนเนี่ย
ก็เคยคิดอยากจะมีบ้างอยู่หรอก ... แต่คงจะยากไปสินะ
こんばんは、今平気かな?
特に言いたいこともないんだけど
もうあれやこれや浮かぶ「いいな」
君が居なくちゃどれでもないや
仮面同士でイチャついてら
เพราะไม่อยากกลับบ้านไวเลยจบลงที่มาสิงอยู่ห้องสมุด
เอาเถอะ... อย่างน้อยก็จะได้ทำการบ้านด้วย
ก่อนจะชะงักเมื่อเดินไปถึงโต๊ะที่เคยใช้ประจำแล้วมีคนนั่งอยู่
แถมพอมองดีๆก็ยิ่งตกใจ
ไอซาวะ สึบาสะคนนั้นนี่นาาาาาาา !!!!
"...."
"!!!?"
พออีกฝ่ายปรายตาขึ้นมองก็เผลอตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจไปซะแล้ว
"ขอโทษที ฉันแย่งที่หรือเปล่า?"
"ม ม ไม่เลย!!!"
".... ฮะๆ ไม่เห็นต้องเกร็งขนาดนั้นเลยนี่นา"
ก่อนจะชะงักเมื่อคนตรงหน้ายิ้มออกมา
คำพูดที่เหมือนจะหยอกล้อกับรอยยิ้มนั่นทำเอาใจเผลอเต้นโครมคราม
".... นั่งด้วยกันก่อนก็ได้นะ"
"อ๊ะ---- ขอบ... ขอบคุณ.... ครับ"
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น..."
เขาพูดออกมายิ้มๆ ละสายตาจากโทรศัพท์ในมือ เท้าคางกับโต๊ะแล้วจ้องมาจนไม่รู้จะเอาตาไปไว้ที่ไหนดี
รู้สึกประหลาดชะมัด เพราะดันใจเต้นกับอีแค่ถูกจ้องหน้า
"ไซเดอร์ใช่มั้ย?"
"!!? อ อื้อ!"
"ฉันเห็นชื่อนายบนบอร์ดน่ะ เก่งจังเลยนะ ไต่อันดับขึ้นมาได้เรื่อยๆเลย"
"ขอโทษที ... แต่ฉันเรียกว่าไซเดอร์ได้ใช่มั้ย?"
"ร เรียกแค่ไซก็ได้--"
พอพูดจบก็อยากจะตบหน้าตัวเองสักร้อยรอบ
เพิ่งเคยได้คุยกันแท้ๆ ทำไมถึงร้อนรนไปหมดขนาดนี้นะ
อีแบบนี้โดนมองว่าขี้อ่อยแหงๆ !
แต่อีกฝ่ายกลับดูไม่ได้ใส่ใจนัก เขาแค่หัวเราะออกมาเบาๆแล้วพูดยิ้มๆ
"ถ้างั้นเรียกฉันแค่สึบะก็ได้"
寸寸 恋と表記せず
気持ち vs 退屈はPK戦
そうなにもかもに迷子がおり
泪流してSOSを
半目開きで娘娘する
"อีกสองเดือนก็จะประกาศห้องที่จะได้อยู่ตอน ม.ปลายสินะ?"
"ใช่แหละ รอบนี้อยู่กันยาวยันเรียนจบเลยด้วย ถ้าได้อยู่ห้องเดียวกับคนดีๆก็ดีสินะ"
ไซเดอร์บ่นพึมพำพลางเขียนโน๊ตย่อสรุปสอบในสมุดเล่มเล็กตรงหน้า
"นั่นสินะ ถ้าพวกเราได้อยู่ห้องเดียวกันก็คงดี"
แกร๊ก !
เพราะแรงกดที่มากเกินไปไส้ดินสอที่กำลังเขียนอยู่เลยหักลง
ใบหน้าคนผมส้มขึ้นสีแดงอ่อนๆ
"... นั่นสิน้า"
ตอบรับออกไปแบบนั้นแล้วกดดินสอในมือต่อ
อีกสองเดือนต่อมาเหมือนพระเจ้าจะรับคำขอนั่น
ชื่อที่เด่นหราอยู่บนบอร์ดจัดห้องคือชื่อของพวกเขาสองคนที่ได้อยู่ห้องเดียวกัน
[ดูเหมือนจะได้อยู่ห้องเดียวกันล่ะ]
เลยส่งไลน์ไปหาคนที่ไม่น่าจะโผล่มาดูบอร์ดประกาศแต่เช้าตรู่แบบเขา
อีกฝ่ายอ่านข้อความแล้วตอบกลับมาแทบจะทันที
[นั่นสินะ ดีจังเลย]
[เท่านี้ก็ได้อยู่ด้วยกันสามปีรวดเลยเนอะ]
คำว่าอยู่ด้วยกันทำเอาเผลอยิ้มออกมา
[ฝากตัวด้วยนะ]
[ฝากตัวด้วย]
แมวสีดำเดินมาคลอเคลียเหมือนจะแสดงความยินดีให้
病事も全部
君のもとへ添付
ツライことほど分け合いたいじゃない
この好きから逃げたいな
พอได้มาอยู่ห้องเดียวกันถึงรู้ว่าสึบาสะไม่ได้เก่งแค่เรื่องเรียน
แม้แต่วิชาพละก็ยังทำได้เพอร์เฟคจนน่าทึ่ง
"เหนื่อยหน่อยนะ"
"สึบาสะสอนกระโดดแบบเมื่อกี้หน่อยสิ!"
เสียงมากมายที่ห้อมล้อมตัวเขาตอนหมดคาบพละ
แต่เจ้าตัวกลับไปเคยรำคาญอะไร ก็แค่ยิ้มแล้วตอบกลับทุกคน
การเรียน กีฬา กระทั่งการเข้าสังคม
สุดยอดไปหมดจนไม่รู้จะดึงลงมาจากอันดับ 1 ยังไง
"สึบะทำยังไงให้เก่งได้ทุกด้านขนาดนี้น่ะ?"
คนผมน้ำตาลหัวเราะขณะมองหน้าเขาที่จ้องเอาจ้องเอา
"ไม่ได้เก่งทั้งหมดแต่เกิดซะหน่อย"
"เมื่อก่อนสุขภาพไม่ดีเลยนะ เข้าโรงบาลบ่อยๆ แต่อยากเก่งน่ะเลยพยายาม"
"โฮ่"
"ทำเสียงแบบนั้นไม่เชื่อเหรอ?"
"งั้นเรื่องเรียนกับเข้าสังคมล่ะ? นั่นก็ฝึกเหรอ?"
"เปล่า ฉลาดอยู่แล้ว"
"แหวะ"
"ส่วนเข้าสังคมน่ะไม่ได้พยายามนะ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้"
"ก็จริงแหะ"
"ดูสิ ขนาดไซเดอร์ขี้กลัวจะตาย เผลอแปบๆยังสนิทกับฉันเลย"
".... อุ ไม่ได้ขี้กลัวขนาดนั้นสักหน่อย"
ประโยคสนทนาของพวกเขาในทุกเย็นที่ห้องสมุดก็คงเป็นประมาณนี้
やっぱ
乙女解剖であそぼうよ
本当の名前でほら呼び合って
「生きたくない」 そう言えばいいんだった
楽になれるかな
"ทั้งสองคนดูสนิทกันจะตาย นึกว่าคบกันอยู่ซะอีก"
"หาาาา?"
ไซเดอร์ลากเสียงยาวเมื่อโดนเพื่อนทักขึ้นมาแบบนั้น
เพื่อนตัวดีลากเฟรนไฟร์ในมือผ่านซอสมะเขือเทศ เอาเข้าปากอย่างไม่ยี่ระ
"ก็ดูสนิทกันจริงๆ"
"เขาก็สนิทไปทั่วนั่นแหละ"
อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอเหมือนจะแกล้งหยอก
"..... ไม่รู้ด้วยแล้ว"
สุดท้ายก็สู้เพื่อนไม่ได้จนต้องดื่มน้ำในมือเหมือนจะแก้เขิน
"วันนี้เหมือนพายุจะเข้าเลย"
สึบาสะพึมพำขณะมองนอกหน้าต่าง เค้าพายุกำลังจะเข้าแน่ๆ
เมฆที่ดำครึ้มเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว
คนนั่งตรงข้ามกดโทรศัพท์ยุกยิก ก่อนจะพูดต่อ
"... เดี๋ยวฉันไปส่งไซดีกว่า"
"อ่า... เอ๊ะ!???"
"พายุมันจะเข้านี่ คนแบบไซจะปล่อยให้กลับคนเดียวเหรอ?"
"ท ทำไมคนแบบฉันจะกลับคนเดียวไม่ได้ล่ะ?"
"... ไม่ได้เอาร่มมาใช่มั้ยล่ะ?"
"อึก"
"ส่งถึงแค่ที่รอรถน่า แล้วเดี๋ยวฉันให้ร่มกลับไปด้วย"
คิ้วยิ่งขมวดแน่นขึ้นเมื่อได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น
ไม่ได้โมโหที่อีกฝ่ายทำเหมือนตัวเองเป็นเด็ก
กลับกันเลย... ชอบมาก ชอบขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ
"ขี้โกง"
"?"
"ยิ่งทำแบบนี้ฉันก็ยิ่งชอบสึบะสิ..."
พูดออกไปแล้ว
พูดคำว่าชอบออกไปจนได้ !! ใบหน้าร้อนผ่าวขัดกับมือและเท้าที่เย็นเหยียบ
ใจเต้นโครมครามจนน่ารำคาญ ทำเอาไม่ได้ยินเสียงฟ้าฝนข้างนอก
สึบาสะเองก็นิ่งเงียบไปนานมากจนชวนให้ใจคอไม่ดี
แต่จะให้เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าอีกคนตอนนี้ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน
"เข้าใจแล้ว งั้นเอาตามนั้นเลย"
"?"
หลังจากเงียบไปนานเขาก็พูดขึ้นมา พอเผลอเงยหน้าขึ้นมอง
ใบหน้าที่ไม่รู้จักก็ปรากฏขึ้นมา
"ตอนนี้พวกเราเป็นแฟนกันนะ"
ไม่ใช่คำตอบรับ ไม่ใช่คำพูดที่ว่าชอบเหมือนกัน
เขาเพียงแค่ยิ้มออกมา
ควรจะดีใจแท้ๆ แต่ใบหน้าชั่วขณะที่เหมือนกำลังทุกข์ใจอยู่ก่อนจะยิ้มออกมานั่นมันอะไรกัน
乙女解剖であそぼうよ
ドキドキしたいじゃんか誰だって
恥をしたい 痛いくらいが良いんだって知った
あの夜から
เสียงฝนที่เทลงมาไม่ยอมหยุดข้างนอกอาคารเรียน
พวกนักเรียนที่ยังไม่ยอมกลับบ้านก็คงติดแหง่กอยู่ในอาคารนี้เหมือนกันหมด
"ฮ้า-- "
เสียงฝนที่ดังซะขนาดนั้น คงไม่มีใครได้ยินเสียงหอบหายใจพวกนี้แน่ๆ
ริมฝีปากถอยห่างออกจากกัน น้ำสีใสเชื่อมไหลลงมา
คนผมส้มเกาะไหล่อีกฝ่ายแน่น
โชคดีที่ตอนนี้พวกเขานั่งกันอยู่
ถ้าขืนการจูบเมื่อกี้เป็นการยืนจูบ พอถอนริมฝีปากออกมา
เขามั่นใจได้เลยว่าตัวเองต้องเข่าอ่อนจนไหลลงมานั่งหมดรูปบนพื้นแน่ๆ
ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากที่เปรอะน้ำลาย ดวงตาที่เอ่อน้ำตา
"นั่นก็จูบครั้งแรกเหรอ?"
ไซเดอร์ถามย้ำหลังไอค่อกแค่กเสร็จ
"ใช่ ครั้งแรกเลย"
สึบาสะตอบยิ้มๆ
"มีพรสวรรค์ใช่มั้ยล่ะ?"
"น่ากลัวเกินไปแล้วสึบะ"
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรอีก มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วยิ้มออกมา
"ฝนซาแล้วแหะ จะกลับกันเลยมั้ย?"
こんな早くにごめんね
起こしちゃったよね
今大丈夫?
君が別の人のことを好きになるって夢を見たんだ
否定してほしい ねえ愛して?
ผ่านมาได้เดือนนึงแล้วหลังจากพวกเขาตกลงคบกัน
ช่วงแรกก็โดนทุกคนแซวชวนให้เขิน แต่พักหลังมาก็เริ่มชินๆได้แล้วเหมือนกัน
จะว่าไปแล้วเวลาทุกอย่างเนี่ยผ่านไปไวชะมัด
รู้ตัวอีกทีก็ใกล้จะจบ ม.5 แล้ว...
ทั้งที่เหมือนเพิ่งผ่าน ม.4 มาไม่นานนี่เองแท้ๆ
"ฮ่า เหนื่อยชะมัดเลย"
"ไซเดอร์วิ่งเร็วชะมัดเลย"
"แต่ก็ยังแพ้สึบะเขาล่ะนะ"
คนผมส้มหัวเราะ
ใช่ ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ก็ตามไม่ทันซะทีนะคนนั้นน่ะ
"เอ้า น้ำ"
ก่อนจะหยุดความคิดไปเมื่อคนที่กำลังนึกถึงโผล่มาพร้อมขวดน้ำแล้วทิ้งตัวนั่งข้างๆ
เขารับมาเปิดดื่มแทบจะทันที
"นี่ ไซ"
"?"
พอหันไปหาคนด้านข้างก็โดนทาบริมฝีปากลงมาเบาๆแล้วถอยออก
"เซอร์วิส"
เขาพูดยิ้มๆออกมา ส่วนตัวคนโดนเซอร์วิสน่ะอ้าปากพะงาบๆหน้าร้อนไปแล้ว !
โชคดีที่เหมือนช็อตเมื่อกี้จะไม่มีใครเห็นเข้า
แต่ถึงอย่างนั้นก็อดฟาดแขนอีกฝ่ายเบาๆไม่ได้
朝と夜2回分
君に撒くスパイス
思い込みの狂気 効果はない
ねえ最近冷たいね
ตลอดเวลาที่คบกันมา อาจพูดได้ว่าเป็นเรื่องแปลก
สึบาสะเดาใจยากมาก
สามารถโกหกได้โดยที่ไม่ออกพิรุธ
เพราะงั้นเล่นโจ๊กเกอร์ด้วยก็คงต้องใช้ดวงล้วนๆห้ามเชื่อคำพูดและหน้าตา
เพราะงั้น...
".... ฉันชอบสึบะนะ"
"อยู่ๆก็พูดขึ้นมาเลยเหรอ?"
คนผมน้ำตาลเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมองใบหน้าเขา
จังหวะเงียบเข้ามาแทรกอย่างยาวนาน
"... แล้วสึบะล่ะ?"
มันนานจนเขาต้องเป็นฝ่ายสานต่อประโยคนั่นเอง
".... ชอบสิ"
อีกฝ่ายตอบกลับมา ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้านั่นเหมือนเดิม
ทั้งที่ไม่ได้แตกต่างจากรอยยิ้มปกติที่เห็นมาตลอด
แต่ทำไมก็ไม่รู้ถึงรู้สึกได้ว่าคำพูดนั่นมันเป็นคำโกหก
เป็นคำโกหกที่สึบาสะก็ตั้งใจจะบอกให้รู้ว่ากำลังโกหกอยู่
เพราะคำว่าชอบของอีกฝ่ายน่ะนับครั้งได้
และทุกครั้งที่พูดมันออกมา สายตานั่นก็เหมือนไม่ได้มองมาที่เราหรือเปล่านะ?
やっぱ
乙女解剖であそぼうよ
身を焦がす感情をヌき合って
もうバカみたい 「嫌嫌」がたまんないの
誤解は解けるかな
อยู่มาวันนึงหลังจากอ่านข้อความในโทรศัพท์เสร็จ
เขาก็ผลีผลามออกจากโรงเรียนไปเลยในช่วงเย็น
จริงๆตั้งแต่แรกก็พอจะรู้ตัวอยู่หรอก
เพราะเฝ้ามองมาตลอดตั้งแต่มัธยมต้น
เขาน่ะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแอบหวังอยู่ดี
乙女解剖であそぼうよ
涎をバケットの上に塗って
確かめよう 期待外れ最高潮だった
あの夜から
หลังจากวันที่ผลีผลามออกไปแล้ว สึบาสะก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม
เข้ามาขอโทษที่หายหน้าไปวันนั้นเพราะมีเรื่องด่วน
"ใจดีจังเลยนะสึบะเนี่ย"
แล้วความสัมพันธ์เหล่านี้ก็ยังคงดำเนินต่อไป
ยิ่งใกล้จบ ม.6 มากเท่าไหร่กลับยิ่งอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนกับระเบิดเวลา จนไม่อยากให้เวลาดำเนินไปมากกว่านี้
ยังอยากอยู่ด้วย
ยังอยากเป็นที่รักของเธออยู่
ยังไม่อยากให้ขอโทษที่โกหกมาตลอดว่าชอบ
乙女解剖であそぼうよ
本当の名前でほら呼び合って
「生きたくない」 そう言えばいいんだった
楽になれるかな
ต่อให้คิดยื้อแค่ไหนวันเรียนจบก็ต้องมาถึงอยู่ดี
"เอ้า ใกล้กันหน่อย"
พวกที่ถ่ายรูปพูดขึ้นสุดท้ายเลยขยับใกล้อีกคนมากจนได้ยินเสียงใจตัวเองเต้นโครมคราม
... ใช่ ก็ยังเขิน ยังตื่นเต้นแทบบ้า ถึงจะคบกันมาเป็นปีก็เถอะ
"พอจบจากถ่ายรูปนี่ ขอคุยด้วยหน่อยนะ"
และนี่คือคำพูดที่ไม่อยากได้ยินมากที่สุด
"เลิกกันเถอะ"
คำพูดที่คาดคิดไว้แล้วถูกพูดออกมา อีกฝ่ายทำสีหน้าลำบากใจ
"... ทำไมล่ะ?"
เกลียดตัวเองที่ถึงจะรู้เหตุผลแต่ก็ยังถามซ้ำออกไปเหมือนจะทรมานตัวเอง
"ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว"
"เรื่องนั้นรู้อยู่แล้ว!"
"ทำไมแค่เรื่องที่ว่าสึบะมีคนที่ชอบฉันจะไม่รู้ล่ะ!? ฉันน่ะนะมองสึบะมาตลอดตั้งแต่มอต้น
พยายามไล่ตามสึบะมาตลอดทั้งเรื่องเรียน เรื่องกีฬา เพราะงั้นแค่เรื่องที่สึบะมีคนที่ชอบน่ะ
ดูออกมาตั้งแต่แรกแล้วเถอะ!!"
"แต่ทำไม... ทั้งที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันขนาดนี้แท้ๆ ฉันกลับแทนที่คนคนนั้นไม่ได้เลยเหรอ?"
"เป็นฉันไม่ได้เหรอ?"
"ไม่ได้"
น้ำเสียงจริงจังที่ตอบกลับมาทำเอาสะดุ้งไปเบาๆ
"มันไม่มีใครแทนที่ใครได้หรอก"
ตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย กลัวว่าถ้าเผลอไปมองตาคู่นั้นเข้าแล้วจะร้องไห้ออกมา
"ขอโทษที อยากให้เป็นสามปีชีวิตมัธยมที่ไซมีความสุขนะ"
"เพราะแค่อยากให้ฉันมีความสุขเลยคบด้วยเหรอ?"
"ก็บอกอ้อมๆมาตลอดแล้วนะว่าฉันคบกับไซเพราะแค่นั้นแหละ"
..... อ๋อ เพราะงี้ถึงได้ทำให้รู้ตรงๆสินะว่าตอนบอกชอบน่ะเป็นแค่คำโกหก
"แล้วเป็นไงล่ะ? ได้คบกันแล้วมีความสุขมั้ย?"
"... เจ็บกว่าที่คิดอีก เลยคิดว่าถ้าเป็นเพื่อนกันตลอดสามปีน่าจะดีกว่าเป็นแฟนนะ"
ตอบกลับไปแบบนั้นทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่
ได้ยินเสียงสึบาสะหัวเราะเหมือนเดิมดังขึ้นมา
"นั่นสินะ คิดเหมือนกันเลย"
ถึงจะไม่ได้เงยหน้ามองหน้าอีกฝ่าย แต่ก็เดาได้ว่าเขาคงยิ้มออกมาเหมือนปกติแน่ๆเลย
乙女解剖であそぼうよ
ドキドキしたいじゃんか誰だって
恥をしたい 痛いくらいが良いんだって知った
あの夜みたいに
ถึงจะคิดไว้แล้วว่าต้องจบแบบนี้ในสักวัน แต่มันกลับเจ็บกว่าที่คิด
สุดท้ายพอกลับมาถึงบ้านน้ำตาก็เผลอร่วงแหม่ะลงมาจนได้
นอกหน้าต่างคือกลุ่มก้อนเมฆฝนสีดำที่เคลื่อนเข้ามา
เสียงลมดังจนน่ากลัว ดูท่าวันนี้จะพายุเข้าซะแล้วมั้ง โชคดีที่กลับก่อน
'ตอนนี้พวกเราเป็นแฟนกันนะ'
คำพูดนั่นกลับมาดังก้องน่ารำคาญในหูตอนนี้ซะได้
แบบนี้ก็หยุดน้ำตาไม่ได้กันพอดี
ทั้งที่ควรจะลืมๆเสียงพวกนี้ ทั้งที่ควรจะหงุดหงิดที่มันดังขึ้นมาแท้ๆ
แต่ในอกกลับทั้งอุ่นทั้งเจ็บปนเปกันไปหมด
ทรมานยิ่งกว่าเจ็บไปเลยอย่างเดียวเป็นไหนๆ...
.... เพราะงี้ถึงได้เกลียดตอนฝนตกไงล่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น