ลำดับตอนที่ #65
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #65 : 命に嫌われている。
แม่ของเขาถูกพ่อบอกเลิก ด้วยเหตุผลง่ายๆทั่วๆไปที่ว่าพ่อมีผู้หญิงคนใหม่ เธอเก็บตัววันๆเอาแต่ร้องไห้แล้วพร่ำบอกว่าต้องการเขามากแค่ไหนจนน่ารำคาญ และสุดท้ายความเศร้าของเธอก็กลายเป็นความชิงชัง
เธอที่ไร้ที่ไปก็จบลงที่หันมาทำร้ายลูกชายคนเดียวของตัวเอง
ลูกชายซึ่งเป็นผลผลิตที่ได้มาจากเธอและเขาคนนั้นอย่างละครึ่ง
เพราะงั้นเวลามองหน้าแล้วเผลอนึกถึงเขาคนนั้นก็เริ่มตวาดออกไป
สึบาสะในวัย 5ขวบมองภาพสะท้อนของตัวเองจากกระจก เขารู้ว่าตัวเองได้ส่วนไหนจากแม่ และได้ส่วนไหนจากพ่อจากการคาดเดา เพราะแม่ไม่ได้มีดวงตาสีเดียวกัน บางทีเขาอาจจะได้ตามาจากพ่อ เวลาที่แม่มองตาเธอเลยสบถออกมาล่ะมั้ง แต่สีผมของเขาก็คล้ายกับแม่ และถ้าถามว่าทำไมเขาต้องมาคาดเดาเอง ง่ายมาก... พอพ่อเลิกกับแม่เธอก็กวาดทุกอย่างที่มีเรื่องเกี่ยวกับเขาทิ้ง พูดให้ถูกคือสึบาสะจำหน้าพ่อตัวเองไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
แต่ก็มีสิ่งนึงที่เกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นที่เธอกวาดทิ้งไปไม่ได้
ใช่... สึบาสะรู้ ตัวเขานั่นแหละที่เธออยากกวาดทิ้งที่สุด
"ไอซาว่าหมดเวลา!"
สุดท้ายแม่ที่น่าสงสารก็ตัดสินใจเลี้ยงดูเขาต่อ แต่อาจไม่ใช่เลี้ยงดูในฐานะลูก
เธออาจตัดสินใจเลี้ยงดูเขาในฐานะสัตว์เลี้ยงซะมากกว่า
"... ทำถูกหมดนี่ งั้นก็กินข้าวได้"
เธอกวาดสายตามองหนังสือแบบฝึกหัดในมือ
ไม่มีคำชม ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า เพียงแต่ให้รางวัลเป็นอาหารประทังชีวิตต่อไปเท่านั้น
ถ้าทำตามที่เธอสั่งได้หมดก็จะได้สิทธิ์มีชีวิตต่อ
นี่เป็นการใช้ชีวิตที่ถูกเธอคนนั้นเลี้ยงดูมาตั้งแต่ตอน 5 ขวบ
เขาจึงพูดได้ว่าตัวเองไม่ใช่คนฉลาด แค่ต้องพยายามฉลาดเพื่อให้มีชีวิตรอด
ชามอาหารถูกวางลงตรงหน้าแบบไม่ได้ใส่ใจนัก
... ใช่ แม้แต่วิธีการกินก็อาจพูดได้ว่าเหมือนสัตว์เลี้ยงมากกว่าคน
แต่ก็ช่างเถอะ แค่ยังมีชีวิตรอดก็พอแล้ว
บางครั้งเขาเคยถามเธอว่าขอขึ้นไปนั่งกินข้าวด้วยได้มั้ย เจ้าหล่อนก็อาละวาดจนพาลจะทำให้อดข้าวไปซะเปล่าๆ
... ก็เลยคิดว่าก้มหน้ารับคำสั่งน่าจะดีกว่าล่ะมั้งนะ
ยังไงซะก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าข้าวกินอยู่แล้วล่ะ
"ไอซาว่าหมดเวลากินของแกแล้ว กลับไปนอนไป"
สึบาสะเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่านี่เป็นวิธีการเลี้ยงดูที่ผิด แต่ก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้
... นี่เป็นวิธีการแสดงความรักของแม่หรือเปล่านะ?
เขาในวัย 7 ขวบได้รับอิสระมากขึ้น ได้รับอนุญาติจากแม่ให้ทำอาหารได้ ได้รับอนุญาติให้ออกมานอกห้องได้
ติ๊ง!
แต่วันนี้กลับมีเสียงกดกริ่งดังขึ้นที่หน้าห้อง ตัวเด็กชายไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองยังไงดี
เขาไม่เคยได้รับอนุญาติจากแม่ให้พูดคุยกับคนอื่นนอกจากเธอ
ไม่สิ ไม่เคยได้รับอนุญาติให้เปิดประตูบานนั้นออกไป
ติ๊ง!
หลังจากเว้นช่วงไปพรรคหนึ่งเสียงกดกริ่งก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เด็กชายตัดสินใจฝ่าฝืนคำสั่งของแม่ครั้งแรก เดินไปเปิดประตูบานนั้น
ชายตรงหน้าคือผู้ชายผมน้ำตาล ตาสีน้ำตาลแดง ... เหมือนภาพสะท้อนในกระจก
เหมือนจนเข้าใจเลยว่าทำไมแม่ถึงเกลียดขี้หน้าเขาขนาดนั้น
"สึบาสะ?"
"...?"
เขาที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองยังไงดีทำได้เพียงจ้องหน้าชายตรงหน้า
ผู้ชายคนนั้นมองซ้ายขวาเข้าไปในห้องก่อนเอ่ยออกมา
"แม่แกล่ะ?"
"...."
"ฉันถามว่าแล้วแม่แกล่ะ?"
"...."
"เป็นใบ้ไปแล้วหรือไงวะ!?"
ก่อนที่เขาจะสะดุ้งเฮือกใหญ่ไปเมื่ออีกฝ่ายคว้าแขนเขาอย่างแรง หัวใจเต้นรัวด้วยความกลัว
แต่เสียงที่จะร้องกลับไม่สามารถแม้แต่จะร้องขอความช่วยเหลือออกไปได้
"ไอซาว่า!!"
เสียงของแม่ที่ดังขึ้นมาเหมือนเป็นการปลดล็อคว่าเขาสามารถพูดได้
"แม่!!"
"อ้าว มาแล้วเรอะ?"
"... ปล่อยเด็กนั่นก่อน แล้วไปหาที่คุยกันดีๆ"
"ในบ้านก็ได้นี่"
"ไม่เอาหรอก"
ผู้เป็นพ่อยอมปล่อยมือของเขาออกก่อนจะหันไปหัวเราะในลำคอ ส่วนแม่เขาก็แค่ปรายตามองมา
"กลับเข้าบ้านไปไอซาว่า แล้วเราค่อยคุยกัน"
คืนนั้นแม่กลับมา เธอมีรอยช้ำบนหน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่คิดจะปกปิดเท่าไหร่นัก
"ใครสั่งให้แกเปิดประตู"
"เคยได้รับคำสั่งมั้ยว่าสามารถเปิดประตูได้"
"..."
เขาที่ตอบอะไรไม่ได้เพราะคิดว่าคงไม่ถูกใจเธอจบลงที่นอนระเบียง
ก็ยังโชคดีล่ะนะที่อากาศไม่หนาว
หลายครั้ง หลายคราวต่อจากนั้นก็เหมือนพวกเขาสองคนไม่คิดจะปกปิด
หรือเพราะตอนนี้การตอบสนองของลูกพวกเขามันน้อยมากจนพวกเขาคิดว่าให้รู้ไปก็คงไม่เป็นไร
ภาพที่พ่อตบตีแม่กลายเป็นเรื่องที่เห็นจนชินตา
เธอไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากสึบาสะ
เธอยิ้มอยู่ด้วยซ้ำตอนโดนเขาทำแบบนั้น
และหน้าที่ของลูกชายอย่างเขาก็คือการนั่งดูเธอถูกทุบตี
"ตอนช่วงที่เลิกกันไปเธอเลี้ยงดูมันแบบไหนเนี่ย?"
"เหมือนหมา เหมือนหมาตัวนึงนั่นแหละ"
พวกเขาคุยกันแบบนั้นบ้าง
ความรุนแรงที่เห็นจนชินตา
ดูเหมือนต่อให้เลิกกันไปแล้ว แต่ผู้หญิงคนใหม่ของพ่อจะไม่ชอบความรุนแรง
สุดท้ายเลยจบลงที่พวกเขามาหากันเพื่อทำร้ายร่างกายกัน
สึบาสะไม่ได้รู้สึกว่าที่พวกเขาทำอะไรแบบนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
ในทางกลับกันเขากลับรู้สึกอิจฉาที่พ่อทำให้แม่ยิ้มได้แบบนั้น
เขาในวัย 10 ปี ชินชาไปกับความรุนแรงของพ่อแม่พิลึกๆและการทำตัวเป็นหมาตามคำสั่งแม่
เขาเริ่มสงสัยซะด้วยซ้ำ
... ความรักคืออะไร ?
ที่พ่อทำกับแม่คือความรักหรือเปล่า เพราะเธอดูมีความสุขเหลือเกินที่โดนเขาตบตี
ที่แม่ทำกับเขาคืออะไร เธอได้ให้ความรักเขาแล้วใช่มั้ย? ถึงแม้เป็นในฐานะสุนัขก็ตาม
แล้วตอน 12 ปีก็ดันมีความคิดแปลกๆที่อยากจะทำให้เธอยิ้มได้แบบนั้นบ้าง
"มองหน้าฉันแบบนั้นแกมีปัญหาอะไรหรือไง?"
เธอที่นั่งอยู่บนโต๊ะมองมาที่เขา สายตานั่นชิงชังจนถึงขีดสุด
จนถึงทุกวันนี้เธอก็ไม่เคยเรียกเขาว่าสึบาสะเลยด้วยซ้ำ
".... แม่รักผมมั้ย?"
"อย่าถามอะไรน่าขยะแขยง"
ถึงเธอจะพูดแบบนั้นแต่ตัวเด็กชายก็ยังคงรักเธอ
เขาอยากทำให้เธอยิ้มได้บ้าง
แบบเดียวกับที่พ่อทำได้
ภาพของเธอที่ตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะเอ่ยขอชีวิต
ภาพที่เธออยู่ข้างล่างของเขา
ภาพที่สวยที่สุดตั้งแต่เกิดมาแล้วได้เห็น
ถ้ากดแรงบีบมากกว่านี้เธอจะแสดงสีหน้าแบบไหนกันนะ?
จะไม่ยอมพูดอ้อนวอนจนยอมกัดลิ้นตัวเองตายไปเลยหรือเปล่านะ?
พอคิดแบบนั้นกลับเผลอยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว
มือของเธอปัดป่าย จนลมหายใจใกล้จะหมดแล้วแท้ๆก็ยังไม่คิดอ้อนวอน
ตัวเขาในตอนนั้นได้แต่คิดว่าภาพตรงหน้านั้นสวยมากจนตาวาว
สุดท้ายจึงปล่อยมือออกจากลำคอนั่น
ร่างของคนเป็นแม่ร่วงลงไปไอค่อกแค่กกับพื้น เธอดูใกล้ตายจนน่าสมเพช
ดวงตาสีฟ้ามองมาที่เขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังเหมือนอย่างเคยเลย
"แกคิดจะทำอะไรห๊า!!?"
พอเธอเริ่มมีแรงก็กลับมาทุบตีเขาอีกแล้ว
ทั้งที่น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าตอนนี้เธอสู้แรงเขาไม่ได้ด้วยซ้ำนี่นะ
"ให้ผมทำอะไรแบบนั้นแทนพ่อก็ได้นี่? ยังไงผมก็หน้าเหมือนพ่อขนาดนี้แล้ว"
ตอบเธอไปแบบนั้น
ใจจริงก็แค่อยากให้ตัวเองเป็นคนเดียวที่เธอยิ้มให้
ไม่สิ อยากให้ต้นเหตุของรอยยิ้มเธอเป็นเพราะเขาบ้าง สักครั้งนึงก็ได้
"พูดอะไรของแก"
"เรื่องแบบนี้น่ะมันไม่มีใครแทนที่กันได้หรอกนะ"
ประโยคนั้นเป็นครั้งแรกที่ฟังแล้วยิ้มไม่ออกเลยสักนิด
ทั้งที่แค่อยากจะแทนที่พ่อ
แค่อยากจะได้รับรอยยิ้มนั่นบ้างแท้ๆ
"ดูทำหน้าเข้า แกเหลิงคิดว่าตัวเองเป็นอะไรกันห๊า? ฉันไม่ชอบคนหน้าบึ้ง ยิ้มสิวะ"
เป็นแม่ที่ใจร้ายชะมัด
"แทนที่กันไม่ได้อะไรกันล่ะ!!?"
แล้วนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เขาขึ้นเสียงกับเธอ เธอตรงหน้าสะดุ้ง อาจจะยังตื่นกลัวจากตอนที่เขาบีบคอเธออยู่
"ทั้งที่ตัวเองก็เอาแต่เรียกผมว่าไอซาว่าๆแท้ๆ!! เอาแต่เรียกผมด้วยนามสกุลพ่ออยู่นั่นแล้วยังจะมาบอกว่าแทนที่กันไม่ได้อีก!! แม่นั่นแหละที่แทนที่ผมด้วยพ่อมาตลอดไม่ใช่หรือไง!!!"
"แน่จริงก็เรียกสึบาสะสิ!!!"
"ไอซาว่าแก!!!"
"ก็บอกให้เรียกสึบาสะ!!"
เรื่องหลังจากนั้นพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าเธอจะทำอะไร ตั้งแต่วินาทีที่เจ้าหล่อนเดินดุ่มๆไปหยิบเตารีดขึ้นมานั่นแหละ
และในช่วงเวลาที่ทำใจไว้แล้วอย่าอีหรอบนี้ได้โดนแม่เอาเตารีดทาบหลังแหงๆเสียงประตูเปิดก็ดังขึ้น
พ่อวิ่งพรวดเข้ามาหยุดแม่เอาไว้ เธอร้องโวยวายพลัดกับเขาที่หาว่าเธอเสียสติไปแล้ว
สุดท้ายเรื่องก็จบที่มีใครก็ไม่รู้ว่าที่บ้านเต็มไปหมด
"ต่อจากนี้แกก็อยู่กับพ่อไปก่อนละกันนะ"
".... แล้วแม่ล่ะ?"
ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเดินออกไปจากห้อง
หลังจากวันนั้นเขาก็ถูกพาตัวมาโรงพยาบาล แยกกันอยู่กับแม่โดยสิ้นเชิง
อย่างน้อยที่นี่ก็มีข้าวให้กินครบสามมื้อโดยไม่ต้องทำอะไรให้ถูกใจแม่
ตัวเขาที่ใช้ชีวิตในห้องสีขาวๆนี่มาหลายวันเกิดเบื่อขึ้นมา
เลยตัดสินใจแอบหนีพ่อออกไปเดินเล่น
[ xxx ]
ก่อนจะชะงักเมื่อเดินถัดไปไม่กี่ห้องก็เจอชื่อที่คุ้นเคยอยู่บนประตู
ถึงจะยังไม่แน่ใจนักแต่เด็กชายก็ลองเปิดเข้าไป
ดวงตาสีฟ้านั่นเหลือบมองมาทางเขา พอเห็นดวงตาของเธอก็เผลอยิ้มแหยออกมา
'ฉันไม่ชอบคนทำหน้าบึ้ง เพราะงั้นแกยิ้มไว้ตลอดซะ'
'ต่อให้จะโดนสั่งไปนอนนอกระเบียงก็แค่ยิ้มไว้ก็พอ ไม่งั้นฉันจะโยนแกลงไปแทน'
นั่นเป็นคำสั่งแรกๆเลยมั้งที่ได้รับมา
ตั้งแต่ตอนนั้นก็ยิ้มมาแทบตลอดเลย
".... แกมาทำอะไรที่นี่"
"ก ก็ผมเดินหลงมา"
เธอไม่ตอบอะไรอีกนอกจากมองออกไปนอกหน้าต่างที่อยู่ข้างเตียง
"พ่อบอกว่าต่อจากนี้ผมต้องไปอยู่กับพ่อ ทำไมล่ะ?"
"เป็นคำถามที่ดีไอซาว่า"
เธอหันกลับมาหาเขา ดวงตานั่นจ้องมาเหมือนกำลังเยาะเย้ยซะมากกว่า
"แกเป็นเด็กฉลาด น่าจะเข้าใจว่าแม่ที่จะเอาเตารีดทาบหลังลูกไม่ควรได้อยู่กับลูกอีก"
"....."
"ฉันจะทิ้งแกไปตลอดกาล"
"....."
"ยินดีด้วยไอซาว่า ได้เวลาหาเจ้าของใหม่แล้ว"
"ในที่สุดฉันก็ตัดแกทิ้งไปจากชีวิตของฉันได้ซะที"
เธอพูดแบบนั้นแล้วยิ้มออกมา
ไม่เห็นจะตลกเลย
"อย่ามาร้องไห้ในห้องฉันนะ มันน่ารำคาญ"
เธอพูดขึ้นทั้งที่ยังยิ้มเยาะอยู่แล้วจ้องมองเขา คำพูดจากเธอทั้งหมดเหมือนเป็นคำสั่งไปแล้ว
ขาเลยก้าววิ่งออกจากห้องไปอย่างเลิ่กลั่ก
ไม่ชอบเลยสักนิด
อย่ามายิ้มเพราะทิ้งกันไปได้แล้วนะ
รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก
เกลียด? รัก ไม่รู้ เกลียด เกลียด เกลียด เกลียด รัก?
รัก เกลียด? รัก?? เกลียด??? รัก???? เกลียดด????
ความรู้สึกปนเปในหัว จนรู้สึกตัวอีกทีก็เผลอเปิดประตูเข้าไปหลบอยู่ในห้องห้องนึง
พอคิดว่าน่าจะถึงห้องของตัวเองก็เผลอทิ้งตัวลงกอดเข่าร้องไห้ออกมา
ความรู้สึกปนเปไปหมด
ถ้าเขาไม่ได้รับคำสั่งจากแม่แล้วจะเป็นยังไงต่อเหรอ?
เจ้าของใหม่บ้าบออะไรกัน เกลียดที่มายิ้มให้เพราะบอกว่าทิ้งกันไปได้แล้วด้วย
"นี่"
ก่อนที่เสียงสะอื้นจะสะดุดกึกเมื่อได้ยินเสียงร้องทัก
เด็กชายเงยหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมองเจ้าของเสียง
เห็นเด็กหญิงเจ้าของตาสีม่วงเป็นประกายมองมาที่เขาพร้อมยิ้มซีดๆ
"ร เราเห็นนายอยู่ๆก็วิ่งเข้ามาแล้วร้องไห้"
"เป็นอะไรหรือเปล่า?"
ซวยละะะะะะะะะะ
มัวแต่รีบวิ่งอยากกลับไปร้องไห้คนเดียวที่ห้องเลยไม่ทันได้ดูว่าถูกห้องหรือเปล่า
"ข ขอโทษ เราเข้าผิดห้อง"
"ไม่เป็นไรๆ เราอยู่ห้องนี้คนเดียวมานานแล้ว มีเพื่อนเข้ามาอยู่ด้วยไม่เป็นไรหรอก"
"โดยเฉพาะเด็กที่เข้ามาร้องไห้โฮๆน่ะนะ"
"!!!!"
เผลอหน้าแดงขึ้นมา อารมณ์อายมากกว่าซะแล้วจังหวะนี้
"ถ้าไม่รังเกียจ... เราชื่อไวท์เตอร์ยินดีที่ได้รู้จัก"
"....... ช่วยเรียกเราว่าสึบาสะที"
"ได้สิ! ไม่ชอบให้เรียกนามสกุลเหรอ? งั้นเราจะเรียกสึบาสะตามคำขอนะ!"
เธอที่ตาเป็นประกายแวววาวนั่นยื่นมือมาให้
สำหรับตอนนั้น แค่นิดเดียวก็ได้ ความอบอุ่นจากมือเธอ
เสียงที่เธอเรียก ชื่อของเขาที่ไม่ใช่ไอซาว่า
จะใครก็ได้สักคน สำหรับเขาในตอนนี้ก็ต้องการแค่นั้นเอง
ต้องการแค่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น