ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โลกหลากสีของราชินีบ้าหัว

    ลำดับตอนที่ #64 : สงกรานต์ [2017] **NEW NEW NEW**

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 60


         ฟิคนี้เคยเป็นยูบีลีฟมาก่อน แรร์ค่อดๆ555555555555555


     
     
         สงกรานต์... หากพูดถึงสงกรานต์จะนึกถึงอะไรล่ะ?
    เล่นน้ำ? ปะแป้ง?
    แหงอยู่แล้วว่าต้องมีพวกลวนลามไม่ใช่หรือไง!!?
    "เพราะงั้นไม่ให้ไปอ่ะ"
    "เดี๋ยวดิ! โลยัลเป็นเพื่อนหรือพ่อเนี่ย!?"
     
         ... เพราะเหตุผลที่ว่ามาข้างบน สารถี(?)ประจำตัวเขาจึงไม่ยอมให้ออกไปเล่นน้ำซะงั้น
    แถมยังมาทำมุ่ยหน้าส่ายหัวไปมาอีก ... นับวันชักจะเหมือนพ่อมากกว่าเพื่อนเข้าไปทุกที
     
    "สงกรานต์ไม่เห็นมีอะไรน่าเล่น... ไม่ดิ ปกติคนแบบเธอก็ไม่น่าจะเล่นไรงี้นี่"
    ตอนนี้คิงส์อยู่ในสภาพนั่งประจันหน้ากับพ่อ(...)
    ให้อารมณ์ราวกับกำลังขออนุญาตออกไปเล่นกับเพื่อนยังไงยังงั้น
    "ก็ไวท์ชวนเล่นอ่ะ"
    "ถึงจะยังไงก็ยังไม่อยากให้ไปแหละน้า..."
    และในระหว่างที่กำลังกุมขมับเครียดกับคนตรงหน้า
    ในใจแอบคิดไว้ว่าก็ดีเหมือนกันเพราะขี้เกียจออกไป อีกใจก็อยากแอบหนีออกไปหาเพื่อน
    ดูสภาพเขาตอนนี้แล้วเหมือนเด็กคิดจะหนีออกจากบ้านไปเที่ยวกับเพื่อนจริงๆ
     
    "อ๊ะ นี่ไง! ไวท์โทรมาตามแล้วเนี่ย"
    พูดพร้อมชูหน้าจอโทรศัพท์อัดใส่หน้าอีกฝ่ายที่ยังคงทำหน้าไม่รับแขก ก่อนจะกดรับทันที
     
    "เนี่ย โลยัลไม่ยอมให้ออกจากบ้านอ่ะ"
    แถมยังฟ้องคนในโทรศัพท์ซะด้วย
    "อ๊ะ อืม ได้ๆ"
    ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักๆแล้วยื่นโทรศัพท์ให้โลยัลที่นั่งทำหน้ายืนกราน(...)อีกฝั่งนึง
     
    "หา? ไวท์เหรอ? ขอโทษนะไม่อยากให้ยัยนี่ไปน่ะ---"
    ก่อนที่เสียงที่เคยแข็งเป็นหินนั่นจะนิ่งไปแล้วส่งเสียงรับในลำคอแค่ "อือ"
    คนผมดำกดวางสายพร้อมถอนหายใจออกมาหน่อยๆ จึงค่อยยื่นโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ
    ".... โอเค จะพาไปส่ง แต่ต้องให้ฉันเดินด้วยก็แล้วกัน"
    "อื้อ! แบบนั้นก็ได้!"
    คิงส์กระพริบตาปริบๆก่อนจะพยักหน้าออกมายิ้มๆ
    ".... งั้นเดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดก่อน ส่วนเธอแน่ใจแล้วนะว่าจะไปชุดนั้นน่ะ?"
    พอเห็นคนใส่แว่นพยักหน้ารัวๆเลยแค่ถอนหายใจอีกรอบก่อนเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ
     
    คิงส์มองโลยัลที่เดินลับตาไปก่อนจะหันกลับมามองโทรศัพท์ในมือตัวเอง
    ... เมื่อกี้นี้ไวท์คุยอะไรกับโลยัลนะ?
    พ่อตัวดีที่เอาแต่ยืนกรานจะไม่ให้ไปถึงได้ยอมเปลี่ยนใจได้เนี่ย...
     
     
     
     
         นั่นไง... เป็นไปดั่งที่คาดการณ์ แค่ลงจากรถจะเดินมาที่ที่นัดยังโดนสาดน้ำปะแป้งเลย
    "เพราะงี้แหละถึงได้ไม่อยากเล่นสงกรานต์ไง"
    "น่าๆ 1ปีมีแบบนี้ทีก็สนุกดีนี่นา?"
    คิงส์หันไปพูดกับคนผมดำที่ทำหน้าเนือยๆอยู่ด้านหลังตัวเอง
    ก่อนจะดึงชายเสื้อเขาเบาๆทำเอาต้องหันไปมองตาม จึงได้เห็นว่ากลุ่มพวกเขานั่งรออยู่
     
    "อ้าว สีหน้าไม่ดีเลยนี่หว่า?"
    เลยเดินเข้าไปหาพร้อมคนตัวเล็กพร้อมแซวคนผมแดงที่เหมือนจะไม่อยากลุกไปไหน
    "ก็ไม่ชอบที่ที่คนเยอะนี่หว่า"
    เอลริคตอบรับคำแซวด้วยคำบ่นอุบอิบ คนตาสองสีที่นั่งอยู่ข้างๆจึงถอนหายใจออกมา
    "ก็บอกแล้วว่าคนเยอะนะ ให้อยู่บ้านอ่ะ"
    ".... ไม่เอาอ่ะ"
    "นั่นไง! ทรมานตัวเอง"
    โลยัลยิ้มอ่อนพลางตบบ่าเพื่อนที่โดนคุณแฟนดุหน่อยๆ
     
    "โฮพโง่น่ะ ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงต้องตามมา"
    "นั่นสินะ"
    "เดี๋ยวสิ! อยู่ๆมาว่ากันแบบนี้ได้ไงน่ะ? ฉันทำอะไรผิดเหรอ!!?"
    โลยัลได้แต่หัวเราะกับความซื่อบื้อของคนตาสองสี 
    ก่อนจะเบี่ยงสายตามองไปทางคิงส์ที่มาด้วยกันที่ตอนนี้ไปยืนคุยกับไวท์แล้ว
     
         "จะว่าไปไวท์พูดออะไรกับโลยัลเหรอ? เขาถึงยอมน่ะ"
    คนตาสีม่วงโบกมือไปมาก่อนจะพูดขึ้นยิ้มๆเป็นคำตอบ
    "โฮพเอาโทรศัพท์เราไปคุยน่ะ"
    "เห... เหรอ?"
    "ได้ยินมาว่าขู่ฆ่าแน่ะ"
    "เอ๊ะ...."
    บางทีเขาอาจจะหูฝาดไปก็เป็นได้กับประโยคเมื่อกี้นี้สินะ...
     
    ก่อนที่คนตาสีเขียวจะสะดุดตากับร่างที่คุ้นเคยเลยอดไม่ได้ที่จะทักเพื่อน(?)ไปซะหน่อย
    "แล้วทำไมคินถึงได้เกาะอาคิแน่นขนาดนั้นล่ะ?"
    คนที่ถูกทักพอได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งกำชับกอดที่กอดแขนสามีตัวเองแน่นขึ้นอีก
    "ตั้งแต่ลงรถอาคิก็ถูกรุมปะแป้งตลอดทางเลยนี่!"
    ส่วนคนที่ถูกพูดถึงก็แค่ยิ้มเนือยๆ(?)ก่อนจะพูดต่อ
    "คินเองก็โดนปะแป้งพอๆกันไม่ใช่หรือไงล่ะครับ?"
    พอเห็นภาพสองคนนั้นคุยกันแบบนั้นแล้ว คิงส์เลยอดไม่ได้ที่จะไปคุยกระซิบกับไวท์
     
    "จะว่าไปเหมือนช่วงนี้คินอ้อนอาคิเยอะขึ้นเลยนะเนี่ย"
    "เราก็ว่างั้นเหมือนกัน... ก็ดีแล้วแหละ อาคิก็แฮปปี้ดีด้วย... หวา!!"
    ก่อนที่คนพูดจะสะดุ้งเฮือกใหญ่เพราะโดนแก้วน้ำเย็นจี้ที่หลังคอ
    และต้นเหตุก็ไม่ใช่ใครอื่นเลย... 
    "ฮะๆ ขอโทษที ไม่คิดว่าตัวเล็กจะสะดุ้งขนาดนั้นน่ะ"
    แต่เป็นแฟนของไวท์เองนั่นแหละนะ
    "เฮียวอย่าแกล้งเราสิ!"
    "ฮะๆ ขอโทษที แต่น้ำนี่ซื้อมาให้ตัวเล็กเลยนะ"
    "งื้อออออออออ ย อย่าทำให้เราเถียงอะไรไม่ออกสิ"
     
         จะว่าไปเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็น่ารักดีนี่นา...
    และก่อนที่จะได้เอ่ยแซวเพื่อนตัวเองสักหน่อยก็ต้องชะงักไปเพราะเห็นคนสองคนที่เดินมาทางพวกเขาด้วยสภาพเปียกโชก เหมือนกับว่าได้เล่นน้ำมาแล้วอย่างโชกโชน
     
    "กว่าจะฝ่ามาถึงที่นี่ได้นี่เกือบตายเลยนะ!"
    คนที่พอมาถึงก็โวยขึ้นมาทันที ดูสภาพก็รู้ว่าโชกโชนน้ำและแป้งมามากขนาดไหน
    "สงกรานต์นี่มันนรกชัดๆเลยไม่ใช่เร้อ!!!?"
    อีกคนร้องขึ้นมา ก่อนที่ทั้งคู่จะบิดๆเสื้อให้แห้งลงหน่อย
    ... แต่ถ้าหากเห็นชุดทั้งคู่ก็พอเดาได้หรอกว่าน่าสาดน้ำซะขนาดไหน
     
    "รอดมาถึงนี่ได้ก็บุญแล้วนะ"
    เอลริคที่นั่งอยู่พูดขึ้นพร้อมมองชุดที่ผู้มาใหม่ทั้งสองสวมใส่แล้วพูดต่อ
    "คำถามจริงๆควรเป็นแต่งตัวกันแบบนี้ทำไมชาร์ตถึงได้ยอมให้ออกจากบ้านมากกว่า"
    ทุกคนในที่นั่นต่างพยักหน้าพร้อมกันในใจโดยมิได้นัดหมายทันที
    บรังในชุดเกาะอกสีแดงและกางเกงยีนส์ขาสั้นถูกปิดทับด้วยเสื้อคลุมสีขาวตัวโคร่งน่ะยังพอว่า
    แต่ยูดาสในชุดเสื้อคอกลมตัวโคร่งๆสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำนี่สิ... ถ้าเป็นแค่เสื้อขาวธรรมดาคงไม่เท่าไหร่ แต่นี่น่ะเป็นเสื้อที่ขาวที่ถูกสาดน้ำจนหมดเผยให้เห็นเสื้อชั้นในสีดำด้านในแบบชัดเจนเต็มตา...
    "หุๆ ไม่ใช่แค่เสื้อในธรรมดาหรอกนะ! เป็นแบบสายไขว้ด้วยจ้า!!"
    ยังจะมาทำท่าพราวลี่พรีเซ้นต์อีก....
     
    "แต่น่าเสียดายนะที่ผมดันยาวบังสายเสื้อในหมดเลย ...นี่อุตส่าห์เลือกอันที่ไขว้สวยๆมาแท้ๆเชีย----"
    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"
    ก่อนที่คนที่กำลังพราวลี่พรีเซ้นต์เสื้อใน(?)ตัวเองจะชะงักไปแล้วมุ่ยหน้าหน่อยๆพร้อมพึมพำขึ้นมา
    ".... มากันแล้วงั้นเหรอ?"
    "อื้อ จ้องมาทางนี้สุดๆไปเลยด้วย"
    บรังที่อยู่ข้างๆและหันไปมองทางต้นเสียงกรี๊ดถอนหายใจออกมาหน่อยๆ
    "ก็ช่วยไม่ได้นี่นา เล่นวิ่งหนีออกมาจากบ้านแบบนั้นเลยอ่ะ"
    "ถ้าขืนไม่หนีออกมาก็ต้องโดนจับแต่งชุดมิดชิดสิ ไม่เอาหรอก แบร่!"
     
    ทันทีที่ได้ยินคำพูดแบบนั้นทุกคนในบริเวณนั้นก็ทำความเข้าใจได้ทันที
    ... บรังกับยูหนีชาร์ตมาชัวร์ๆสินะ
    และยังไม่ทันได้พูดอะไรกัน สองหน่อผมส้มก็เดินบึ่งมาทางนี้ทันที
    ... เอาจริงๆคือชาร์ตบึ่งมาพร้อมลากมิสชงมาด้วย
    มิสชงเองก็แต่งวับๆแวมๆพอๆกัน แต่เอาเป็นว่าก็ยังมิดชิดกว่าสองคนนี้น่ะนะ
     
    "หนีออกมาจากบ้านยังไม่เท่าไหร่ แต่ชุดนี้มันอะไรอ่ะ!!?"
    นั่นไง... พอมาถึงก็เมินเพื่อนฝูงไปว้ากใส่ภรรยาเต็มๆ
    "นี่มันที่สาธารณะนะ มาว้ากใส่ทำไมเนี่ย!?"
    "ก็จะแต่งชุดโป๊ขนาดนี้ทำไมอ่ะ!? ทีตอนอยู่กันสองต่อสองไม่เคยแต่---"
    "นี่มันที่สาธารณะ! อย่าพูดดัง!!"
    มิสชงกับบรังว้ากขึ้นมาพลางเอามือปิดปากคนผมส้มที่เกือบหลุดพูดความสัมพันธ์ของเขากับยูดาสออกมากลางที่สาธารณะ ชาร์ตจึงทำได้เพียงส่งสายตาแง่งๆ(?)ใส่คนผมดำที่กอดอกแผ่รังสี(....)
     
    ... และนั่นก็คือการเริ่มสงกรานต์ของพวกเขาทั้งหมด
     
     
    ....
    ....
    พอรู้ตัวกันอีกทีก็แยกกันไปหมดซะได้
     
    ก็คนเยอะซะขนาดนี้
    แถม....
    'คิโนะ' คนนี้ก็ฮอตซะขนาดนี้ *เอามือป้องปากหัวเราะโฮะๆๆๆ*
     
    "อิจิรุจังงงง"
    "คินจังงงงงงงง"
    "ขอปะแป้งหน่อยอิจิรุซังงงงงง"
     
    ด้วยความที่ฝูงชนแออัดรวมตัวกันเล่นสงกรานต์ บวกความฮอตปรอทแตก(...)ของฉันคนนี้ ฮอตจนถึงขั้นที่โดนดักล้อมหน้าล้อมหลังจ่อเรียงคิวปะแป้งกันซ้ายขวาหน้าหลัง ทำให้ฉันกับอาคิระหลงกับกลุ่มที่เดินด้วยกันมาตั้งแต่แรกน่ะสิ โฮ ความสวยช่างเป็นบาปเหลือเกิน
     
    ถ้าเอาจริงๆฉันยืนหน้าซุ้มนี้มาจะสิบนาทีได้แล้วมั้ง
    คนในซุ้มก็เป็นบรรดาคนที่เคยเล่นด้วยต่างเข้ามาปะแป้งหน้าหลังกันสนุกสนาน
    ก็นะ คนมันสวย ช่วยไม่ได้อ่ะเนอะ
    คิดดูสิ นี่ขนาดแต่งแค่เสื้อยืดสีครีมเรียบๆกับกางเกงขาสั้น ไม่ได้หวือหวาเรียกแขกแบบยูดาส คนยังมารุมกันซะขนาดนี้ แล้วถ้าได้ลองแต่งเซ็กซี่เรียกแขกแบบยูดาสจะยิ่งฮอตปรอทแตกขนาดไหนกัน!!
     
    โธ่เอ้ย ถ้ารู้ว่าบรรดากิ๊กๆจะมาเที่ยวกันเยอะขนาดนี้
    ฉันเปิดซุ้มยืนนิ่งๆให้คนมาปะแป้งน่าจะดีกว่าหรือเปล่าน้า? งั้นปีหน้าเปิดซุ้มเลยแล้วกัน โฮะๆ
     
    "ขอปะแป้งหน่อยนะคะ"
    "มีแฟนหรือยังคะ? สนใจแลกไลน์กันหน่อยมั้ย?"
     
    แล้วเสียงที่ดังแทรกขึ้นมาในห้วงความคิดของฉัน ก็ทำเอาต้องชะงักแล้วหันไปมอง
    ... ไม่ทันได้รู้ตัวอาคิระที่ยืนรอฉันโดนรุม(ปะแป้ง)อยู่ข้างๆก็มีรอยปะแป้งเต็มไปหมดเหมือนกัน!
    ไหนจะเมื่อกี้มีคนขอแลกไลน์อีก!!
    ร่างกายนี่เลยขยับไปเกาะแขนอีกฝ่ายพร้อมเขม่นใส่สองสาวที่กดโทรศัพท์บิดไปมา
     
    "อ้าว... ปะแป้งกับเพื่อนๆเสร็จแล้วเหรอครับ?"
    ... ทำไมต้องเน้นคำว่าเพื่อนขนาดนั้นด้วยเล่า!! 
    "เสร็จแล้ว เดินกันต่อเถอะ"
    อาคิระไม่ได้พูดว่าอะไรฉัน.... เหมือนปกติอ่ะ
    เขาแค่หันไปยิ้มหน่อยๆให้สองสาวที่แห้วไลน์ไป
    วะฮะฮ่าาาา!! นี่แฟนฉันย่ะ! พวกหล่อนทำได้แค่มองไปซะเถอะ!!
     
    "อิจิรุซังจะไปแล้วเหรอออ?"
    "อื้อๆ ไว้นัดเจอกันวันหลังน้า ♥"
    นี่ไง หันไปโบกมือให้พวกด้านหลังสักหนึ่งจึก
    คนสวยๆโนสนโนแคร์แบบฉันสามารถขับรถไฟได้ทุกรางเสมอล่ะ โฮะๆ
     
    "จะว่าไป คนข้างๆอิจิรุซังเนี่ยเพื่อนเหรอ?"
    กึก! ... ทั้งๆที่จะทำเป็นไม่สนไม่ได้ยินคำพูดที่ไล่หลังมาจากคนในซุ้มก็ได้แท้ๆ
    แต่อาคิระที่กำลังเดินๆอยู่กลับหยุดกึกแล้วหันไปมองกลุ่มคนพวกนั้นซะงั้น
     
    ... เอ๋
    เกิดอะไรขึ้นอ่ะ .....
     
    ".... นั่นสินะครับ"
    เสียงของเขาพูดเหมือนพึมพำ แต่กลับดังพอได้ยินกันในบริเวณนั้นซะงั้น
    "ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ ว่าผมเป็นอะไรกันแน่น้า?"
    "... อาจจะเป็นได้แค่เพื่อนของอิจิรุซังเหมือนพวกคุณก็ได้นะครับ"
    ดวงตาสีนิลปรายลงมามองก่อนจะพูดต่อ
    "สรุปเราเป็นอะไรกันเหรอครับอิจิรุซัง? ช่วยบอกให้ชัดๆตรงนี้หน่อยได้มั้ยครับ?"
     
    ....
     
    เอ๋!!!!!!!!!!!!!!!!!!!?
    อยู่ๆก็เป็นอะไรของเขาน่ะ!!!
    ไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ ที่ว่าให้บอกให้ชัดๆตรงนี้ว่าเป็นอะไรกันน่ะ
     
    ".... อิจิรุซังครับ?"
    "เป็นแฟนกันค่ะ"
    "ไหนพูดดังๆหน่อยสิครับ? เพื่อนที่อยู่ตรงนั้นเขาอยากรู้นะว่าผมเป็นอะไรกับอิจิรุซังน่ะ"
    "เป็นแฟนกันค่ะ!!!!"
    "ดีมากครับ... แล้วคนเป็นแฟนกันจะอยากให้แฟนตัวเองนัดเจอกับผู้ชายคนอื่นมั้ยครับ?"
    "..... ไม่ค่ะ"
    เห็นอีกฝ่ายยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะกุมมือฉันแล้วเดินต่อไป
    .. ไอ้ตัวฉันเองก็ไม่กล้าจะหันกลับไปมองบรรดากิ๊กพวกนั้นด้วยสิ โฮ 
     
    "คิก"
    ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงอาคิระหัวเราะ พอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่ากำลังยิ้มพึงพอใจอยู่
    "อะ--อาคิโกรธเหรอ?"
    "เปล่าครับ เปล่า แค่ไม่คิดว่าคินจะตอบทันทีเลยว่าเป็นแฟนกันน่ะ"
    พอได้ยินแบบนั้นเลยยิ่งกำชับแขนที่เกาะอีกฝ่ายไว้แน่นขึ้น
    "ก็อาคิเรียกฉันว่าอิจิรุซังนี่... ไม่อยากให้เรียกกันห่างเหินแบบนั้นเลย"
     
    "ก็คินนั่นแหละที่ผิดก่อนไม่ใช่เหรอครับ?"
    "..."
    "ยังไงซะรถไฟก็ขับได้แค่รางเดียวนะครับ"
    เอ๊ะ?
     
    ...
    หรือว่า...
    "ตอนนั้นแอบอ่านใจฉันเหรอ!!?"
     
    ไม่ต้องมายิ้มใส่อย่างเดียวเลยนะ!!
    เป็นคนที่รับมือไม่ได้จริงๆ จะตอนนี้หรือ 10ปีที่แล้วก็เถอะ! รับมือยากชะมัดเลย...
     
     
    ...
    ....
    พอรู้ตัวอีกทีก็ดันหลงทางกับทุกคนซะแล้วสิ
    ยังดีนะที่ไม่หลงกับเฮียวด้วย แต่ก็เพราะอีกฝ่ายเล่นกุมมือเขาไว้แน่นซะขนาดนี้นี่นะ
     
    "คนเยอะชะมัด...."
    ได้ยินเฮียวบ่นพึมพำออกมาแบบนั้น
    "อือ ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้เลยเนอะ---- ว้าย!!?"
    พอได้ยินเสียงร้องของเรา เฮียวที่กำลังเดินๆอยู่ก็ชะงักไปก่อนจะเหลือบตามามอง
     
    ".... มีอะไรหรือเปล่าตัวเล็ก?"
    "ปะ--เปล่าหรอก"
    ตอบรับออกไปแบบนั้นขณะที่กุมมืออีกฝ่ายไว้แน่นขึ้นแล้วเดินต่อไป
     
    ... แต่เพราะคนแออัดกันซะขนาดนี้เลยแทบจะไม่ได้เดินออกห่างจากบริเวณนี้เลย
    ไม่สิ ถ้าพูดให้ถูกคือเหมือนเดินได้ทีละครึ่งก้าวนั่นแหละ
    เพราะงั้นสัมผัสที่เหมือนกำลังโดนลวนลามอยู่นี่ก็คงเป็นเพราะคนเบียดกันไปมาแน่ๆเลย!
     
    "!!!"
    หวา พออยู่ๆโดนจับหน้าอกเลยเผลอบีบมือที่จับกับเฮียวไว้จนได้
    โถ่ ไวท์... ใจเย็นๆน่า ไม่มีใครลวนลามหรอก ก็นี่มันแค่คนเบียดกันน่ะ---
    ผั๊วะ!!
    และความคิดก็ต้องหยุดลงเมื่อเฮียวปล่อยหมัดใส่คนที่อยู่ข้างๆพวกเขาจนล้มลงไปกอง
    เล่นเอาฝูงคนที่ค่อยๆเดินกันอยู่ชะงักแล้วหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียวเลย
     
    "ฮะ--เฮียว?"
    "เฮ้ย! อะไรของแกวะ อยู่ๆมาต่อยกันเนี่ย!!?"
    นั่นไง ผู้ชายที่โดนต่อยดูเหมือนเพิ่งตั้งสติได้เลยลุกขึ้นมาโวยแล้วอ่ะ!
    แถมพอมองไปทางเฮียวก็ดูเหมือนจะมองอีกฝ่ายแบบกวนโอ้ยสุดๆอีกต่างหาก!
    "แล้วใครใช้ให้แกมาลวนลามแฟนฉันวะ?"
    "ละ--ลวนลามอะไรวะ!?"
    "อ๋อ คิดว่าคนเบียดๆกันแล้วจะมองไม่เห็นหรือไงวะ"
    หวา! ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ต้องมีเรื่องกันจริงๆแน่ๆเลย! ใครก็ได้! ช่วยเราที!!!
     
    "อ้าว อย่าทะเลาะกันสิ คนมองเต็มไปหมดแล้วนะ"
    แล้วในระหว่างที่กำลังอ้อนวอนให้ฟ้าส่งใครสักคนมาช่วย ก็มีคนที่ฟ้าส่งมาช่วยจริงๆซะด้วย!
    "แล้วก็ถ้าลวนลามเขาจริงก็อย่าโวยวายมากสิ มันไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นมาหรอกนะ"
    พอได้ยินคำพูดแบบนั้นผู้ชายคนนั้นก็นิ่งไปแล้วหันไปฟึดฟัดทางอื่นแทน
    ความสงบสุขจึงกลับมาอีกครั้ง ฮูเร่!
     
    "เกือบมีเรื่องแล้วเนอะ"
    "ไม่ต้องการให้แกเข้ามาสอด"
    สึบะยิ้มๆให้กับคำพูดของเฮียวที่ยังคงทำหน้าทำตาเขม่นหาเรื่องอยู่
    โถ่เอ้ย! สึบะมาช่วยให้ไม่มีเรื่องน่ะดีแล้วไม่ใช่เหรอเฮียวววว
    "ไม่หรอกๆ สึบะเข้ามาช่วยได้ถูกเวลาเลยล่ะ!"
    "ตัวเล็ก!!"
    "กะ-ก็ถ้ามีเรื่องกันจริงๆมันอันตรายนะ! เฮียว-- โอ้ย!"
    ทั้งๆที่เรายังพูดไม่ทันจบเลยแท้ๆ แต่เฮียวกลับดึงแก้มยืดจนพูดต่อไม่ได้ซะงั้น!
     
    "ก็ตัวเล็กนั่นแหละ ถ้าโดนลวนลามก็บอกกันบ้างสิ ไม่ใช่ทำนิ่งๆน่ะ"
    หวา ไหงกลายเป็นเราที่โดนดุล่ะ!!?
     
    "เอาน่าๆ เดินกันต่อเถอะ ก่อนจะโดนบีบจนบี้แบนกันหมดน่ะ"
    และสึบะก็เป็นผู้คลี่คลายสถานการณ์อีกครั้งจนได้!
    พระเจ้าส่งคนมาคลี่คลายสถานการณ์ได้ถูกคนจริงๆเลย
    "ใครบอกจะให้แกเดินด้วย"
    และเฮียวก็ยังเป็นเฮียวเหมือนเดิม...
     
    ... สึบะไปทำอะไรให้เฮียวไม่ชอบหน้ากันเนี่ย?
     
    "หืม? ฉันจะช่วยดูไวท์จากทางซ้าย นายก็ดูจากทางขวา แบบนั้นไม่ดีหรือไง?"
    "...... ...... เออ"
    แต่สุดท้ายก็กลับมาดีกันได้ แบบนี้เนี่ยดีจังเลยนะ! 
     
    เพราะทั้งสองคนเป็นคนสำคัญสำหรับเรานี่นา!
    ไม่อยากให้ทะเลาะกันเลยเนอะ ♥
     
     
    ...
    ....
     
    เรื่องหลงกับกลุ่มน่ะไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสเลยสักนิด เพราะยังไงก็อยู่กับเอล...
    แต่เรื่องที่ชวนหงุดหงิดตอนนี้คือยัยเด็กที่มารวมกลุ่มด้วยตอนนี้ต่างหาก!
     
    "พี่เอลเมาคนมั้ยคะ? เหนื่อยหรือเปล่า? ไปนั่งพักกันมั้ย?"
    "ไม่เป็นไรหรอก..."
    เมฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆ!!!!
    หล่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!
    แฟนเขาก็ยืนหัวโด่เกาะแขนเขาอยู่ตรงนี้แท้ๆ!! ทำไมหล่อนยังเนียนมาเกาะแขนแฟนฉันด้วยยะ!?
    แล้วเอลนี่ก็อีกคน!! ทำไมยอมให้เกาะแกะขนาดนั้นเล่า!!?
    หรือว่าสองคนนี้จะมีซัมติงกันจริงๆ?
     
    ... นั่นสิ ตอนเรียนก็ดูสนิทกัน
    แถมนี่ัยังมาทำงานด้วยกันอีก!
    ... ไม่! ม่ายยยย ม่ายยย โฮพ!! อย่าคิดมาก เธอเริ่มฟุ้งซ่านอีกแล้วนะ!!
     
    "โฮพ..."
    "จ๋า!!?"
    "หน้าตาเครียดๆเหมือนคิดอะไรอยู่นะ"
    "เปล่าจ๊ะ! ไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิด!!"
    เอลถอนหายใจหน่อยๆก่อนจะเอื้อมมือมาลูบๆหัวเขา
    ใช่แล้วๆ!! ไม่ต้องคิดมากไปหรอกโฮพ! สนุกไปกับเทศกาลดีกว่าเนอะ!
     
    "อุ้ย! พี่เอล... ก้มลงมาหน่อยสิ เดี๋ยวล้างหน้าให้"
    ก่อนที่คำพูดของเมฆจะทำเอาคลื่นสมองกลายเป็นเส้นตรง(...)
    ยิ่งพอหันไปมองแล้วเห็นยัยผมเปียกำลังลูบหน้าเอลอยู่ พร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็ยิ่งหงุดหงิดใจ
    "ฮะๆ ถ้าไม่ไหวจริงๆไปหาที่นั่งพักไม่ดีกว่าเหรอคะ?"
    แล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นสีหน้าของคนผมแดง
    .... โธ่เอ้ย ก็บอกแล้วแท้ๆว่าคนมันเยอะไม่ต้องตามมาหรอกน่ะ .....
     
    สุดท้ายก็เฟดตัวกันออกมานั่งที่ฟุตบาทข้างๆซึ่งอยู่ไม่ห่างจากถนนเส้นหลักเท่าไหร่
    เหลือแค่ตัวเองกับเอลริคอยู่สองคน เพราะเมฆบอกจะไปซื้อน้ำมาให้แล้ววิ่งหายไปในดงคน
    ... จะว่าไปแล้วที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเขาเองหรือเปล่านะ?
    ทั้งๆที่ควรจะสังเกตเห็นแต่แรกแท้ๆว่าเอลสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่
    แต่เพราะเอาแต่เขม่นใส่เมฆจนไม่ได้ดูสถานการณ์นี่สิ ....
     
    "ขอโทษนะ"
    "หืม? ... ขอโทษเรื่องอะไรน่ะ?"
    "ก็ฉัน---"
    "อ๊ะ แปบนะ"
    เอลริคร้องเบาๆก่อนจะกดรับโทรศัพท์ผ่านซองกันน้ำ แล้วพูดตอบรับปลายสายแค่อืมๆก่อนจะวางไป
     
    "ไปรับเมฆก่อนนะ รายนั้นหลงทางในฝูงคนน่ะ"
    "เอ๋? มีงี้ด้วย? ดะ--เดี๋ยวฉันไปเอง! เอลนั่งอยู่นี่แหละ!!"
    "...... ไม่เป็นไรหรอก ไปแปบเดียวเดี๋ยวมา"
     
    เอ๊ะ.... คนที่ควรจะนั่งพักมันเอลไม่ใช่หรือไงล่าาาา!!!?
    แต่ยังไม่ทันได้โวยอะไรคนผมแดงก็เดินเข้าฝูงคนไปแล้วเรียบร้อย โฮ อะไรเนี่ยยยย
     
    ....
    .....
    ผ่านไปจะ 10 นาทีแล้ว ก็ยังไม่มีใครจะกลับมาทางนี้(....)
    ระ--หรือว่าจะโดนทิ้งแล้วเนี่ย!!? ทั้งสองคนแอบไปเดินเที่ยวกันต่อหรือไง!? (.......)
    ฮึ่ยยยยยย รอไม่ไหวแล้วอ่ะ!! จะบุกเข้าไปหาแล้วนะ!!
    "เฮ้ย! มีผู้หญิงอยู่ตรงนี้คนเดียวด้วย"
    แล้วก็ต้องสะดุ้งแรงๆเมื่ออยู่ๆก็มีกลุ่มผู้ชายเดินมาหาตัวเอง
    แถมพอจะเดินหนี ก็ดูเหมือนจะมีคนนึงในกลุ่มนั้นคว้าข้อมือเอาไว้ซะแล้วด้วยสิ
     
    "ช่วยปล่อยด้วยค่ะ จะไปหาแฟน"
    "หา? ก็อยู่คนเดียวชัดๆไม่ใช่เหรอ? อย่าอ้างโน่นนี่เลยน่า ไปด้วยกันเถอะ"
    "ก็บอกแล้วนี่คะว่าจะไปหาแฟน!"
    "ฮะๆ อย่าดื้อน่า ไปสนุกด้วยกันเถอะ"
    เอ๊ะ หูหนวกกันหรือไงฟะ ก็บอกแล้วไงว่ามากับแฟนอ่ะ! 
    "ช่วยปล่อยด้วยค่ะ ...ไม่งั้นจะ---"
    ทั้งที่กำลังจะเปิดศึกแท้ๆ แต่ดันโดนดึงตัวอย่างแรงซะได้
     
    "อย่ายุ่งกับยัยนี่"
    แล้วคนที่ดึงตัวให้ไปหลบอยู่ด้านหลังก็ไม่ใช่ใคร เอลริคนั่นเอง!
    "แล้วแกเป็นใครวะ มาขวางกันเนี่ย!!?"
    "...... เป็นตำรวจ"
    โอเค พอพูดแบบนั้นกลุ่มผู้ชายพวกนั้นก็ทำหน้าโอเครย์แล้วค่อยๆเดินเลี่ยงกันออกไป...
    ... สุดยอดเลยอ่ะ!
     
    "ยัยบ้า!!" ว่าแล้วไม่ผิดว่าพอพวกนั้นเดินเฟดไปจากระยะสายตา คนผมแดงต้องหันมาบ่นเขาแน่ๆ โฮ
    "เมื่อกี้นี้ถ้ามาไม่ทันนี่คิดจะทำอะไร ฮะ?"
    "กะ---ก็จะต่อยสักหมัด...."
    "ไม่ใช่สมัยมัธยมแล้วไม่ใช่หรือไง!? ไม่ได้ต่อยตีมาหลายปีแล้วนะ!! แถมเมื่อกี้ก็เป็นผู้หญิงคนเดียวกลางวงผู้ชายจะสิบคนเลยไม่ใช่เหรอ!!?"
    ว้าย โดนโกรธจริงๆด้วยอ่ะ T_____T
    "..... แล้วจะให้ปล่อยไปเที่ยวคนเดียวได้ยังไงล่ะเนี่ย...."
    "ขอโทษค่ะ--- ........... เอ๋?"
     
    หัวกำลังประมวลคำที่คนผมแดงพูดเรื่องไม่กล้าปล่อยให้ไปเที่ยวคนเดียว
    ก่อนจะเข้าใจทันทีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงขอมาเที่ยวด้วยแม้จะคนเยอะ หน้าก็แดงแปร๊ดขึ้นมาทันที
    "เอ๋?.... เอ๋????"
    ตู้ม! และในระหว่างที่กำลังปล่อยออร่าชมพูกันอยู่ น้ำโครมใหญ่ก็สาดเข้ามาใส่คนผมทวินเทลจนมู้ดพังทลาย
     
    "ว้าย ขอโทษนะคะ เห็นพี่โฮพหน้าแดงๆเลยสาดน้ำระงับอารมณ์ให้น่ะค่ะ"
    ".... เมฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆฆ!!!!!!!!!!"
    ... และในวันนี้สองคนนี้ก็ยังคงไม่ถูกกันเหมือนเคย ...
     
     
    ...
    ....
    ไม่ได้ขยับตัวออกห่างจากตรงนี้มาจะเป็นชั่วโมงแล้ว ...
     
    "อยากกลับบ้านแล้วอ่า"
    บรังโอดครวญป็นคนแรกเมื่อทั้งสี่คนทิ้งตัวนั่งลงบนฟุตบาทแถวนั้น
    เอาเป็นว่าพวกเขาสี่คนหลงจากกลุ่ม แถมต้องยืนอยู่กับที่เกือบจะเป็นชั่วโมงเพื่อให้คนมาปะแป้ง
     
    เหตุผลที่โดนรุมปะแป้งข้อแรกคือตัวเขากับยูดาส
    โอเค... ชุดมันอาจจะล่อเสือล่อตะเข้ไปหน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าคนจะรุมกันขนาดนั้นนี่นา
    "ว่าแต่บรังไม่ได้โดนลวนลามอะไรใช่มั้ย?"
    "อื้อ ... ก็เพราะยูช่วยบังคนให้หลายๆคนนั่นแหละ"
    "ฮึ่ม ก็ถ้าพวกนั้นมาลวนลามบรังที่แสนน่ารักของฉัน ฉันจะตัดมือมันทิ้งให้หมดเลย"
    คนผมดำพูดขึ้นยิ้มๆ ... ถึงจะฟังดูเหมือนพูดเล่นๆแต่ทำไมไม่รู้ถึงรู้สึกเหมือนจะทำจริงตามที่พูดเลย
     
    ใช่แล้ว ถึงจะโดนรุมปะแป้งแค่ไหน แต่พวกมือที่ลูบนานๆหรือจับส่วนนู้นนี้ของร่างกายเนี่ยไม่มีเลย
    และนั่นก็คงเพราะยูดาสที่ยืนอยู่ข้างๆกันช่วยบังเอาไว้แน่ๆ
     
    "นี่ๆ แล้วถ้าฉันโดนลวนลามล่ะๆ?"
    เสียงมิสชงที่นั่งอยู่ข้างๆชาร์ตดังขึ้นมาพร้อมชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
    "..... ไม่รู้สิ ฉันอาจจะเข้าไปร่วมแจมลวนลามด้วยก็ได้นะ ♥"
    "ว้าย ยูลามกจังงงง ♥"
     
    และนี่คือเหตุผลที่สองที่พวกเราต้องยืนอยู่เกือบชั่วโมง
    ... ชาร์ตและมิสชง
    ทั้งสองคนเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นที่รักของประชาชน(?) ถึงมิสชงจะแค่เป็นนักข่าวก็เถอะ
    แต่เพราะเป็น 'คู่จิ้น' กับชาร์ตที่ดังระเบิดระเบ้อ มิสชงเองก็เลยพลอยเป็นที่รู้จักในวงกว้างไปด้วย
     
    จะว่าไป... พอพูดถึงชาร์ตแล้ว...
    "เฮ้ย! ตาลุงเป็นอะไรหรือเปล่า? เห็นเงียบมาพักนึงแล้วนะ"
    พอได้ยินเสียงทักแบบนั้น คนผมส้มที่ใส่หมวกปิดบังใบหน้าของตัวเองก็เงยหน้าขึ้นมางอแงทันที
     
    "ก็ทั้งสามคนนั่นแหละ! ทำไมแต่งตัวแบบนี้ออกจากบ้านล่ะ!!?"
    อ๋อ... ยังงอแงเรื่องนี้อยู่อีกสินะ...
    "จะแต่งตัวยังไงมันก็เรื่องของพวกฉันไม่ใช่หรือไง?"
    พอโดนยูดาสตอกกลับไปแบบนั้น คนผมส้มก็ยิ่งพองแก้มเป็นเด็กๆ
    "ไม่อยากให้ใครเห็นหุ่นพี่ยูอ่ะ! หุ่นบรังด้วย!! ส่วนมิสชงชุดมิดชิดระดับนึงแล้ว ให้อภัยได้!!"
    "... ไม่ได้อยากได้การอภัยจากพี่ซะหน่อย"
    มิสชงถอนหายใจเนือยๆ
     
    "ทำไมจะโชว์หุ่นไม่ได้อ่ะ ก็มีของดีก็ต้องโชว์ไม่ใช่เหรอ?"
    ยูดาสยังคงตอบกลับด้วยท่าทีซื่อๆก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาแล้วเหล่มองมิสชง
    "ฮุๆ หรือว่าที่มิสๆไม่ได้แต่งเซ็กซี่ๆมา จะเป็นเพราะไม่มั่นใจในหุ่นตัวเองน้า?"
    "หา? เอาอะไรมาพูดน่ะ!? ถ้าจะพูดแบบนั้นไว้หลังจากนี้ไปพิสูจน์กันหน่อยมั้ยล่ะ?"
    "ตายจริง คิดว่าจะยอมเหรอจ้ะ? ฉันเองก็มั่นใจเรื่องหุ่นตัวเองน้า"
    ทั้งสองคนที่ทะเลาะกันเหมือนเด็กๆยืนขึ้นพร้อมกันพลางหันไปทางชาร์ตที่นั่งอยู่ตรงกลางแล้วพูดขึ้น
     
    "เอาล่ะ! ชาร์ต/พี่ชาร์ตคิดว่าใครหุ่นดีกว่ากันเหรอ!!?"
    "เอ๋!? ไหงอยู่ๆมาถาม---"
    ดูเหมือนเพราะตกใจที่โดนถามเลยลืมไปแล้วว่าเคยโกรธเรื่องชุด (....)
    "กะ--- ก็ชาร์ต... เป็นคนที่ได้สัมผัสพวกเรามากที่สุดนี่นา..."
    พอโดนตอบคำถามไปด้วยน้ำเสียงที่ติดเขินอายหน่อยๆ ก็กลายเป็นว่าชาร์ตได้ลืมเรื่องชุดโดยสมบูรณ์...
     
    "ดะ--ดีทั้งคู่เลยครับ"
    สุดท้ายพอโดนสายตาที่จ้องมาอย่างคาดหวังเลยตอบไปโดยไม่ได้มองหน้าทั้งสองคน
    ... ตายแน่ๆ อยู่ๆก็เล่นมาอ้อนกันแบบนี้ ชาร์ตน้อย(?)อาจจะทนไม่ไหวเอาก็ได้...
     
    "งะ-งั้น! แล้วฉันล่ะ?"
    เสียงหวานสั่นๆของคนที่นั่งเงียบไปนานดังขึ้น ทำเอาทั้งสามคนหันไปมอง
    บรังกอดอกพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่หวิวๆดูขาดความมั่นใจสุดๆ
    ".... ก็ฉัน.... นะ--หน้าอก...."
    "ตายจริงงงงง บรังยังโตได้อีกนะ ♥ เดี๋ยวฉันนวดให้เอง! คืนนี้เลยเป็นไงจ๊ะ?"
    มิสชงหัวเราะหน่อยๆก่อนจะเดินไปคลอเคลียเด็กสาวผมน้ำตาลที่หน้าแดงก่ำ
    ส่วนยูดาสก็เดินไปสมทบที่หลังก่อนจะพูดยิ้มๆ
    "งั้นเดี๋ยวฉันนวดให้มิสชงด้วยก็แล้วกันนะ ♥ เผื่อจะอัพไซส์ให้เท่าฉันได้ไง ♥"
    และทันทีที่พูดประโยคนั้นจบ ชาร์ตก็โพลงขึ้นมา
    "แล้วฉันก็นวดฮันนี่ต่อใช่มั้ย!?"
     
    "....."
    "....."
    "....."
    "โรคจิต"
    สามเสียงประสานออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
     
     
    ...
    ....
    ตอนนี้คิงส์กำลังแปลกใจมาก ...
    แทบไม่มีคนเข้ามาปะแป้งเขาเลย หรือแม้แต่น้ำก็มาถึงเขาได้น้อยมากๆ น้อยสุดๆ
    ซึ่งจริงๆมันก็ดีแล้วหรือเปล่านะ?
    แต่มันแทบไม่ได้บรรยากาศความเป็นสงกรานต์เลยไม่ใช่หรือไงฟะ!!?
     
    "โลยัล!"
    "หา?"
    คนผมดำเอียงตัวลงมาฟังเสียงของอีกฝ่ายเล็กน้อย
    เพราะเสียงเพลงจากรอบข้างดังอื้ออึงจนแทบไม่ได้ยินเสียงคนตัวเล็กเลย
     
    แถมยังมาหลงกับคนอื่นแบบนี้อีก ... แย่ชะมัด
    นี่โชคดีแค่ไหนแล้วเนี่ยที่คิงส์ไม่หลงกับเขาไปด้วยน่ะ
    ไม่สิ... ถึงหลงเขาก็จะหาให้เจอแล้วบ่นใส่ให้ไม่กล้าหลงไปไหนเลย!
     
    "มันแปลกๆอ่ะ แทบไม่โดนปะแป้งเลยเนี่ย!"
    "..."
    "น้ำก็แทบไม่โดนสาด! หรือฉันทำอะไรน่ารังเกียจหรือเปล่าเนี่ย?"
    "เปล่าหรอก... เพราะฉันยืนบังอยู่.... คิดว่าน่าจะเป็นเพราะงั้นนะ"
     
    ใช่แล้ว เขาเองก็รู้ดีว่าที่คนตัวเล็กแทบไม่โดนปะแป้งสาดน้ำเลยเนี่ยต้องเป็นเพราะเขายืนบังชัวร์ๆ
    ไหนจะเผลอแผ่รังสี 'ออกไปห่างๆนะ' ออกมาอีกต่างหาก...
    เพราะงั้นก็ไม่แปลกหรอกที่คิงส์จะไม่มีใครมาปะแป้งน่ะ
     
    "หวา... มาถึงช่วงเบียดกันอีกแล้วเหรอเนี่ย?"
    คิงส์บ่นพึมพำออกมาพร้อมก้าวเท้าฉับๆเข้าไปในฝูงชนอย่างไม่รีรอ
    ... พฤติกรรมนั่นทำเอาเขาอยากเรียกอีกฝ่ายมาเขกกะโหลกสักทีจริงๆ
    จะรีบไปไหนของเขาเนี่ย! ถ้าหลงกันขึ้นมาอีกจะทำยังไง!?
     
    แล้วก็เป็นไปตามคาด... ช่วงคนเบียดนี่มันนรกชัดๆ
    แต่ก็เป็นช่วงที่ตัวเขาเองจะได้โดนตัวคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหน้าด้วยเหมือนกัน
    งั้นสรุปมันเป็นนรกไทม์ หรือสวรรค์ไทม์กันแน่นะ....
     
    "หวา!"
    แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นคิงส์ที่อยู่ด้านหน้ากำลังจะล้มลงหน้าฟาดพื้น
    เลยเอื้อมมือไปคว้าตัวอีกฝ่ายเอาไว้แล้วดึงมาแนบชิดตัวเอง จนเหมือนกำลังกอดกลายๆ
    "เนี่ยเพราะรีบเดินจนสะดุดน่ะสิ!"
    "รู้แล้วน่า อย่าดุสิ!"
    "ยังไม่สำนึกผิดอีกนะ? นี่ถ้าคว้าไม่ทันดั้งหายหมดแล้วนะเนี่ย?"
    คนผมน้ำตาลสะดุ้งเบาๆเมื่อได้ยินคำว่า 'คว้า' ก่อนที่พวงแก้มจะขึ้นสีแดงอ่อนๆแล้วร้องออกมา
     
    "จะว่าไป... ปล่อยได้แล้ว! คิดจะกอดไปถึงเมื่อไหร่เนี่ย!?"
    โลยัลที่ได้ยินแบบนั้นจึงหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะกำชับกอดให้แน่นขึ้นแล้วพูดต่อ
    "ไม่ปล่อยละ... จะกอดไว้แบบนี้แหละ กันหน้าทิ่มอีก เดี๋ยวคว้าไม่ทัน"
    คิงส์ที่เห็นว่าถึงจะดิ้นต่อไปก็คงไร้ประโยชน์จึงแค่พองแก้มหน่อยๆแล้วเดินไปทั้งที่โดนกอดไว้อยู่
     
    และแน่นอนว่าพอมาถึงจุดที่คนเริ่มกระจายกัน คนผมดำก็ปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ
    "เห็นฉันเป็นเด็กๆหรือไงถึงมาหิ้วไปเดินไปเนี่ย..."
    "เปล่าสักหน่อย! กอดแล้วนุ่มดี แถมเซฟด้วย ไม่ชอบให้กอดเหรอ?"
    พออีกฝ่ายตอบกลับมาหน้าเฉยแถมยิ้มๆแซว
     
    ... หมั่นไส้
    นั่นคือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของคนผมน้ำตาล
    เลยอดไม่ได้ที่จะใช้ปืนฉีดน้ำรูปค้างคาวจิ๋วในมือฉีดน้ำอัดใส่หน้าอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้
    แต่กลายเป็นว่าคนที่ถูกฉีดกลับยิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิม
    "อ๊ะ เขินเหรอ? เห? ไม่ตอบคำถามกันหน่อยเหรอออ?"
    "พอเลย! จะไปเติมน้ำแล้ว!!"
    คิงส์สะบัดหน้าหนีอีกฝ่ายแล้วเดินไปตรงซุ้มที่ให้เติมน้ำฟรี
    ส่วนโลยัลก็แค่มองตามอีกฝ่ายยิ้มๆ 
     
    ...
    ....
    "นี่ คิงส์!"
    "อะร---- !!?"
    แล้วคำพูดที่จะพูดก็ถูกกลืนหายไปเมื่อโลยัลที่เดินมาหาวางนิ้วลงบนแก้มตัวเอง
    นิ้วลากผ่านแก้มข้างนึงไปยังอีกข้างนึงก่อนจะถอยออกห่างแล้วยิ้มให้
     
    "เห็นบอกว่าอยากโดนปะแป้งไม่ใช่เหรอ? ก็เลยไปซื้อแป้งมาปะให้--- อ้าก!!?"
    "...."
    คนใส่แว่นไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรมากกว่านี้จึงกวักน้ำที่ให้เติมฟรีใส่หน้าอีกฝ่ายรัวๆ
    โลยัลที่โดนกระทำ(?)ร้องโอดครวญก่อนจะปาดน้ำบนใบหน้าตัวเองทิ้ง
    แล้วพอจะเงยหน้าขึ้นไปบ่นอีกคนที่มากระทำกันไม่ให้ตั้งตัว(??)ก็ต้องชะงักไป
     
    ... เพราะใบหน้าอีกฝ่ายที่ขึ้นริ้วสีแดงหน่อยๆนั่น ...
    "เขินเหรอจ๊ะ?"
    "เปล่าสักหน่อย!!"
    คิงส์สะบัดหน้าหนีอีกฝ่ายหน่อยๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อโลยัลทิ้งฝ่ามือลงมาขยี้ที่ผมของตนเบาๆ
    "น่ารักจริงๆเลยน้า ♥"
    "...."
     
     
     
     
     
     
     
     
    "... มือที่มาขยี้นี่เปื้อนดินสอพองใช่มั้ย?"
    "รู้ทันด้วยเหรอ!?"
    "โลยัลลล!!!"
     
     
     
     
     
    เย้ๆ ย้อนหลังสงกรานต์ 1 เดือน!! (.......)
    ตอนแรกจะแต่งให้เริ่ม-จบดีกว่านี้แล้วนะ แต่แบบไม่ไหวละ จบเถ้อะ5555
     
    ถ้าภาษาหรืออะไรเมาๆก็ไม่ต้องห่วงนะ
    ไม่ได้อ่านฟิค-แต่งฟิคมาเป็นเดือน วันๆทำแต่งาน ไม่มีเวลาขัดเกลาภาษาในจิตใจ(....)
     
    ตอนแต่งกลัวมากๆว่าจะเผลอแต่งเอลโฮพยาวไป
    แต่พอมาเช็คตอนท้ายก็พบว่ามันยาวพอๆกันทุกพาร์ท โอเค ไม่รู้สึกผิดละ

    ป.ล. ถ้างว่ารูปมาการองเกี่ยวไร คำตอบคืออยากกินเว้ยยย หิว


     
     
     
     
     
     
     
     
     
    T
    B

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×