ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : คำเตือน(ต่อ)
        คืนนั้น..หลังจากที่ทุกคนนอนหลับกันหมดแล้ว...แต่ไฟจากแสงตะเกียงแก๊สยังคงส่องสว่างอยู่...ที่นอกชาน..ร่าง ๆ หนึ่งนั่งทำความสะอาดและเช็คความเรียบร้อยของอุปกรณ์ถ่ายภาพ..อยู่เพียงลำพัง
....ยามนั้นดวงจันทร์ทอแสงเป็นประกายหลังจากผ่านพ้นเงาเมฆที่ล่องผ่านพ้นไป...ในค่ำคืนนี้เป้นคืนจันทร์เต็มดวง..ความเงียบสงบของคลื่นลมของบ้านต่างจังหวัด
เสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงร้องตอบรับราวกับเป็นบทเพลงในวงดนตรีระดับโลก..นับเป็นเพลงกล่อมให้หลับได้อย่างดี...แต่กลับไม่ใช่เขา
 
  ...ทัศนัยลุกจากห้องพลางหยิบอุปกรณ์ถ่ายภาพมาทำความสะอาดเพื่อใช้ในงานสำคัญพรุ่งนี้
“พี่ทัศยังไม่หลับอีกหรือค่ะ”เสียงลากเก้าอี้จากด้านในถูกยกมาวางข้างนอก  .. ชลาลัยสาวน้อย หล่อนแลเห็นแสงไฟจากตะเกียงข้างหน้าต่างเล็ดลอดเข้ามาในห้องของหล่อน จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าใครกันนะที่ยังไม่นอนอีก และเธอก็พบว่าคนนอนดึกคนนั้นคือชายหนุ่มผู้พูดน้อย ทัศนัยเอง
“ครับ..แล้วน้องลัยล่ะครับ”ชลาลัยยิ้มกริ่มพลางแหงนหน้ามองท้องฟ้า
“ที่นี่เงียบสงบผิดกับที่กรุงเทพเยอะเลยนะคะ”
“ครับ”ชลาลัยเอียงคอมองดูทัศนัยนั่งทำความสะอาดกล้องด้วยความสนใจ
“พี่ทัศชอบถ่ายรูปมากเลยหรือค่ะ”ทัศนัยตอบโดยไม่มอง
“ก็ใช่ครับ..ผมถือว่ามันเป็นงานอดิเรก”
“ดีจัง ลัยไม่ยักกะมีงานอดิเรกเลย”เสียงตบเท้าดังเป็นจังหวะ..ทัศนัยคิดว่าหล่อนอาจจะเบื่อ ๆ
“ทำไมล่ะครับ”
“ยังหาสิ่งที่ชอบไม่เจอล่ะมั้งค่ะ..แล้ว...พี่ทัศเป็นเพื่อนกับพี่นาถนานหรือยังค่ะ”
“ตั้งแต่มัธยมครับ แต่ก็มาเจอกันอีกทีก็เขาปี 1 ที่นี่”
“งั้นก็ถือว่าเป็นเพื่อเก่าเพื่อนแก่ได้สิค่ะ...แล้วพี่คชาล่ะค่ะ”
“ทางเจ้าชา ดูเหมือนนาถจะรู้จักมาก่อน...มีอะไรหรือเปล่าครับ”ทัศนัยหยุดมือ เงยหน้าขึ้นมองชลาลัย
“งั้น..ลัยขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า...ง่วงจัง เอ่อยากได้ผ้าห่มสักผืนมั้ยค่ะอากาศเริ่มเย็นแล้ว”
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมก็เข้าห้องแล้ว” ชลาลัยยิ้มก่อนจะเดินกลับเข้าไปข้างใน..จึงเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคงนั่งประกอบตัวกล้องเพียงลำพัง
พลันสายลมเย็น ๆที่พัดขึ้นมาจากทะเลกลับพัดแรงขึ้นจนชายหนุ่มต้องสยิวกายด้วยความหนาวเหน็บ
“กลับเข้าห้องดีกว่า เดี๋ยวไม่มีแรงถ่ายรูปพรุ่งนี้จะยุ่ง”ทัศนัยคิดงั้นร่างทั้งร่างก็นำอุปกรณ์ถ่ายภาพกลับเข้าไปในบ้านทันที..
**************************
เช้าวันรุ่งขึ้น....หลังจากคชาและนฤนาถเดินทางกลับมาจากตลาด...ทั้งสองก็ยกเรื่องราวประหลาดมาเล่าให้ทั้ง 2 ฟังขณะทำครัว
“นี่ รู้มั้ยวันนี้ข้าเข้าไปในเมืองมาเกิดไปเจอเรื่องแปลกเข้า”คชาเอ่ยพลางแล่เนื้อปลาทะเลเป็นชิ้น ๆ
“อะไร..หอยทากบอกชอบมึงหรือไง”คำพูดติดตลกร้ายของทัศนัยเรียกเสียงหัวเราะครืนจากชลาลัยจนแทบเอามือกุมท้อง
“เดี๋ยวเถอะมึง ไอ้นัย!” คชาเงื้อมืดอีโต้ขึ้น
“เออ ๆ กูขอโทษ ว่าแต่มีเรื่องแปลกอะไร”ทัศนัยรับมืออีโต้มาวางไว้บนเขียง
“ก็พวกคนในตลาดไง ทั้งเมืองเลยล่ะมั้ง”
“แล้วไง”
“ก็พากันเก็บของ..ปิดร้านไม่ขายของในวันนี้น่ะสิ..แถมยังซื้อพวกดอกไม้ ผ้าถุงเสื้อผ้าผู้หญิง ธูปเทียนจัดใส่พานราวกับจะนำไปไหว้ใครงั้นแหละ”
“มีการแก้บนหรือเปล่า”
“ข้าว่าไม่ใช่..เหมือนกับว่าวันนี้เป็นวันอะไรสักอย่าง..ถามใครก็เอาแต่อึกอักไม่ยอมพูดยอมจาราวกับกลัวอะไร  แถมยังมองพวกข้าด้วยสายตาแปลก ๆ”
“แล้วนี่ได้ของพวกนี้มาได้ไง”
“ก็พอดียัยนาถมันไปเจอร้านนึงเปิดขายของสดอยู่..ไม่ยักกะปิดเหมือนร้านอื่น”
“เออก็ยังดี ๆไม่งั้นคงไม่มีอะไรกิน”..ทัศนัยปลิดลำไยออกจากเม็ดส่งเข้าปาก
“แล้ววันนี้จะไปไหนเปล่าว่ะ..พ่อผู้ใหญ่เขาฝากมาบอกว่า อยากชวนไปกินข้างเย็นที่บ้านเค้าน่ะ”
“ก็ดีว่ะ แต่วันนี้คงสวยน่าดู วันพระจันทร์เต็มดวง”ทัศนัยเอ่ยยิ้มพลางเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง..ติดในใจว่าอยากให้ถึงตอนกลางคืนเร็ว ๆ
*****************
....ยามนั้นดวงจันทร์ทอแสงเป็นประกายหลังจากผ่านพ้นเงาเมฆที่ล่องผ่านพ้นไป...ในค่ำคืนนี้เป้นคืนจันทร์เต็มดวง..ความเงียบสงบของคลื่นลมของบ้านต่างจังหวัด
เสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงร้องตอบรับราวกับเป็นบทเพลงในวงดนตรีระดับโลก..นับเป็นเพลงกล่อมให้หลับได้อย่างดี...แต่กลับไม่ใช่เขา
 
  ...ทัศนัยลุกจากห้องพลางหยิบอุปกรณ์ถ่ายภาพมาทำความสะอาดเพื่อใช้ในงานสำคัญพรุ่งนี้
“พี่ทัศยังไม่หลับอีกหรือค่ะ”เสียงลากเก้าอี้จากด้านในถูกยกมาวางข้างนอก  .. ชลาลัยสาวน้อย หล่อนแลเห็นแสงไฟจากตะเกียงข้างหน้าต่างเล็ดลอดเข้ามาในห้องของหล่อน จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าใครกันนะที่ยังไม่นอนอีก และเธอก็พบว่าคนนอนดึกคนนั้นคือชายหนุ่มผู้พูดน้อย ทัศนัยเอง
“ครับ..แล้วน้องลัยล่ะครับ”ชลาลัยยิ้มกริ่มพลางแหงนหน้ามองท้องฟ้า
“ที่นี่เงียบสงบผิดกับที่กรุงเทพเยอะเลยนะคะ”
“ครับ”ชลาลัยเอียงคอมองดูทัศนัยนั่งทำความสะอาดกล้องด้วยความสนใจ
“พี่ทัศชอบถ่ายรูปมากเลยหรือค่ะ”ทัศนัยตอบโดยไม่มอง
“ก็ใช่ครับ..ผมถือว่ามันเป็นงานอดิเรก”
“ดีจัง ลัยไม่ยักกะมีงานอดิเรกเลย”เสียงตบเท้าดังเป็นจังหวะ..ทัศนัยคิดว่าหล่อนอาจจะเบื่อ ๆ
“ทำไมล่ะครับ”
“ยังหาสิ่งที่ชอบไม่เจอล่ะมั้งค่ะ..แล้ว...พี่ทัศเป็นเพื่อนกับพี่นาถนานหรือยังค่ะ”
“ตั้งแต่มัธยมครับ แต่ก็มาเจอกันอีกทีก็เขาปี 1 ที่นี่”
“งั้นก็ถือว่าเป็นเพื่อเก่าเพื่อนแก่ได้สิค่ะ...แล้วพี่คชาล่ะค่ะ”
“ทางเจ้าชา ดูเหมือนนาถจะรู้จักมาก่อน...มีอะไรหรือเปล่าครับ”ทัศนัยหยุดมือ เงยหน้าขึ้นมองชลาลัย
“งั้น..ลัยขอตัวไปนอนก่อนดีกว่า...ง่วงจัง เอ่อยากได้ผ้าห่มสักผืนมั้ยค่ะอากาศเริ่มเย็นแล้ว”
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมก็เข้าห้องแล้ว” ชลาลัยยิ้มก่อนจะเดินกลับเข้าไปข้างใน..จึงเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคงนั่งประกอบตัวกล้องเพียงลำพัง
พลันสายลมเย็น ๆที่พัดขึ้นมาจากทะเลกลับพัดแรงขึ้นจนชายหนุ่มต้องสยิวกายด้วยความหนาวเหน็บ
“กลับเข้าห้องดีกว่า เดี๋ยวไม่มีแรงถ่ายรูปพรุ่งนี้จะยุ่ง”ทัศนัยคิดงั้นร่างทั้งร่างก็นำอุปกรณ์ถ่ายภาพกลับเข้าไปในบ้านทันที..
**************************
เช้าวันรุ่งขึ้น....หลังจากคชาและนฤนาถเดินทางกลับมาจากตลาด...ทั้งสองก็ยกเรื่องราวประหลาดมาเล่าให้ทั้ง 2 ฟังขณะทำครัว
“นี่ รู้มั้ยวันนี้ข้าเข้าไปในเมืองมาเกิดไปเจอเรื่องแปลกเข้า”คชาเอ่ยพลางแล่เนื้อปลาทะเลเป็นชิ้น ๆ
“อะไร..หอยทากบอกชอบมึงหรือไง”คำพูดติดตลกร้ายของทัศนัยเรียกเสียงหัวเราะครืนจากชลาลัยจนแทบเอามือกุมท้อง
“เดี๋ยวเถอะมึง ไอ้นัย!” คชาเงื้อมืดอีโต้ขึ้น
“เออ ๆ กูขอโทษ ว่าแต่มีเรื่องแปลกอะไร”ทัศนัยรับมืออีโต้มาวางไว้บนเขียง
“ก็พวกคนในตลาดไง ทั้งเมืองเลยล่ะมั้ง”
“แล้วไง”
“ก็พากันเก็บของ..ปิดร้านไม่ขายของในวันนี้น่ะสิ..แถมยังซื้อพวกดอกไม้ ผ้าถุงเสื้อผ้าผู้หญิง ธูปเทียนจัดใส่พานราวกับจะนำไปไหว้ใครงั้นแหละ”
“มีการแก้บนหรือเปล่า”
“ข้าว่าไม่ใช่..เหมือนกับว่าวันนี้เป็นวันอะไรสักอย่าง..ถามใครก็เอาแต่อึกอักไม่ยอมพูดยอมจาราวกับกลัวอะไร  แถมยังมองพวกข้าด้วยสายตาแปลก ๆ”
“แล้วนี่ได้ของพวกนี้มาได้ไง”
“ก็พอดียัยนาถมันไปเจอร้านนึงเปิดขายของสดอยู่..ไม่ยักกะปิดเหมือนร้านอื่น”
“เออก็ยังดี ๆไม่งั้นคงไม่มีอะไรกิน”..ทัศนัยปลิดลำไยออกจากเม็ดส่งเข้าปาก
“แล้ววันนี้จะไปไหนเปล่าว่ะ..พ่อผู้ใหญ่เขาฝากมาบอกว่า อยากชวนไปกินข้างเย็นที่บ้านเค้าน่ะ”
“ก็ดีว่ะ แต่วันนี้คงสวยน่าดู วันพระจันทร์เต็มดวง”ทัศนัยเอ่ยยิ้มพลางเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง..ติดในใจว่าอยากให้ถึงตอนกลางคืนเร็ว ๆ
*****************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น