ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : วันที่สวรรค์เล่นตลก
1. วันที่สวรรค์เล่นตลก
   
      เสียงฝนฟ้ากระหน่ำราวกับฟ้ารั่วจากสวรรค์ ได้เข้าถาโถมตัวจังหวัดในรอบ 10 ปี ..นับว่าหนักหนากว่าคราไหน ๆ จนยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
   
      แรงของพายุลูกนี้..ได้ส่งผลให้เกิดคลื่นลูกใหญ่สูงราว ๆ  5 เมตร ..มันได้ทำการกวาดต้อนบรรดา ชายหาดแลต้นไม้ ใบหญ้าที่ขึ้นอยู่ตามชายฝั่งให้กลืนหายไปพร้อมกับมัน..แม้ว่า ในครั้งนี้จะไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่นั่นบ้างคนกลับคิดว่าความตายน่าจะดีกว่าเพราะทรัพย์สินทุก ๆ อย่างของพวกเขาได้ถูกทำลายลงไปพร้อมกับสถานที่ท้องเที่ยวที่อยู่รอบชายฝั่ง..แม้ว่ามันจะไม่สามารถขึ้นมาถึงด้านบน..นั่นก็เพราะรั้วกระสอบทราบกับบรรดาต้นมะพร้าว สนทะเล..ตามความคิดของ นายเชษฐา ผู้มีความรักต่อทะเลคนหนึ่ง .แม้ว่านั่นจะป้องกันได้ส่วนหนึ่งแต่ความเสียหายก็ยังมี
กิจการร้านค้าต้องยกเลิกขายไปชั่วคราวเพื่อทำการปรับปรุงและเก็บขยะจากท้องทะเลที่พัดมาเกยหายพร้อมกับคลื่นลูกใหญ่เมื่อคืนวาน
 
    ผู้ที่เดือดร้อน..คงจะหนีไม่พ้นชาวประมงที่หาเลี้ยงชีพด้วยการหาปลาและจับสัตว์น้ำเป็นอาชีพ..นับว่าส่งผลกระทบอย่างมากเพราะเรือที่เคยใช้หาปลากลับถูกคลื่นซัดชนโขดหินใต้น้ำจนเป็นรูรั่วและอีกนานกว่าจะทำการซ่อมแซมให้สามารถแล่นได้ดั่งเดิมมีหลายครอบครัวถึงขนาดขายบ้าน ขายเรือ ขายที่ดินทำกินเพื่อหนีเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ ๆ ..จนเกือบหมดหมู่บ้าน จึงมีเพียงไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นที่ยังคงรักที่อยู่..รวมถึงครอบครัวของพิมพ์ .
   
    .  พิมพ์จันทร์ สาวสวยประจำหมู่บ้าน หล่อนเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของยายจัน..ห่างจากหมู่พอสมควร และความที่หล่อนเป็นคนสวยจึงตกเป็นที่หมายปองของบรรดาลูกบ้าน..ทั้งใกล้และไกล..ชื่อเสียงด้านความสวยของหล่อนดังไปไกลถึงตัวจังหวัด
    แต่พิมพ์จันทร์หาสนใจคนพวกนั้นไม่..เธอก็เหมือนเด็กสาวช่างฝันทั่ว ๆ ไป ที่เฝ้ารอคอยชายในฝัน..อยู่ตลอดเวลา..และฝันว่าจะได้แต่งงานมีรักที่บริสุทธิ์ .การปฏิเสธและเงียบเฉยของหล่อนทำให้บรรดาชายหนุ่มน้อย..หนุ่มใหญ่ต่างพากันล้มเลิกขบวนการที่จะได้หญิงสาวไปเป็นหน้าเป็นตาไปหมด ..แต่ก็มีเพียงไอ้เก้อกับไอ้เกื้อ 2 หนุ่มเท่านั้นที่ยังคงมีรักมั่นอย่างไม่เสื่อมคลาย..โดยไม่มีทีท่าว่าจะล้มเลิกโดยง่าย พวกมันทั้ง 2 ต่างพากันแวะเวียนนำของมาฝาก มาช่วยงาน ทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้ใกล้ชิดหญิงสาว..แต่พิมพ์จันทร์สำนึกโดยดีว่าทั้ง 2คิดเช่นไรกับตน..แม้จะเคยบอกไปสักกี่หน ทั้ง 2 ก็ไม่เคยท้อ..ทำตัวเสมอต้นเสมอปลายโดยตลอด
     
      พิมพ์จันทร์จึงเอ๋ยพูดกับยายในค่ำคืนหนึ่ง
  “ยายจ๋า..พิมพ์มีเรื่องไม่สบายใจ..อยากถามยายจีะ”
  “อือ”ยายจันทร์ที่กำลังนั่งนั่งตำหมากอยู่นั้น..เอ่ยพลางม้วนจีบพลู..แล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวงำ ๆ ไปตามประสา
  “คงเป็นเรื่องเจ้าเก้อกับเจ้าเกื้อ” ยายจันทร์บ้วนน้ำหมากสีแดงแจ๋ลงกระโถนที่ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติก..กากน้ำหมากกองสุมอยู่ในนั้นทั้งเก่าและใหม่
  “จ๊ะยาย  พิมพ์เห็นใจและเห็นถึงความดีของพวกพี่เก้อและพี่เกื้อ..แต่พิมพ์ไม่ได้คิดอะไรกับพวกพี่เขาแบบนั้น ความรู้สึกของพี่ชายเท่านั้นที่พิมพ์จะมีให้ได้”
“เอ็งจะเอายังไงล่ะ .ยายจะไม่ห้ามเอ็ง .ทำตามที่ใจเอ็งต้องการเถอะ”
“งั้นพิมพ์จะไปบอกพวกพี่ ๆ ทั้ง 2 นะจ๊ะ”
“ไม่ทันแน่จ๊ะ..เพราะพี่เกื้อจะไปกรุงเทพพรุ่งนี้แต่เช้า พิมพ์จะรับไปรับกลับนะจ๊ะ”
“เอาไปฉายไปด้วยแล้วก็ระวังตัวให้ดี..เดี๋ยวนี้ขโมยขโจรมันชุกชุมยิ่งกว่าปลาเสียอีก”
  “จ๊ะยาย..พิมพ์วิ่งเล่นที่นี่มาตั้งแต่เกิด”พิมพ์จันทร์เอ่ยพลางหยิบไฟฉายที่แขวนเอาไว้ที่เสตะปูหน้าประตูบ้าน..แล้วรีบวิ่งฝ่าดงแสมไป   
                    ***********************
“เฮ้ยไอ้เกื้อ .ข้าขอพูดเปิดอกนะโว้ย” .ไอ้เกื้อนั่งซดเหล้าเพียง ๆ เพื่อขับไล่ความรู้สึกหดหู่ใจ..ในเมื่อพรุ่งนี้มันจะต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ..เพื่อไปหางานทำ..และมันจะไม่ได้พบกับหญิงในดวงใจอีกนาน
“ไอ้เกื้อ  นั่งบื้ออะไรอยู่ว่ะ”
“ข้าแค่นั่งย้อมใจโว้ย..อยากจะพูดอะไรก็พูดมาสักที”
“ข้าคิดว่า ข้ากำลังมีความรัก..แบบว่า..ไม่ใช่ ข้าไม่ได้รักน้องพิมพ์นะ..แต่.ทั้งเอ็งและข้าต่างก็รู้ดี..ว่าน้องพิมพ์ต่างก็ไม่ได้คิดกับพวกเราอย่างที่พวกเราคิดเลย..ตลอดเวลา 3 ปี มานี่..ใช่ว่าพวกเราจะไม่พยายาม .แล้วเมื่อคืนข้าไปเจอน้องลัก..ในคลับ น้องเค้าเพิ่งอกหักมาหมาด ๆ ข้าเลยถือโอกาสดามหัวใจให้ โป๊ะเชะ เรียบร้อย..ตอนนี้เราสองคนเลยเป็นแฟนกัน ”เก้อมองเพื่อนรักที่ยังคงกระดกเหล้าอย่างไม่ยั้ง
“ไอ้เกื้อ..ข้ามองเห็นว่ะ..สักวันพวกเราต่างก็ต้องเจ็บปวด..สู่ข้าเดินออกมาจะดีกว่า ก็เหลือแต่เอ็ง..จะยอมตัดใจหรือเปล่า”
“เอ็งอาจจะพูดถูก..ไอ้เก้อ..แต่ข้าเลิกรักน้องพิมพ์ไม่ได้ พรุ่งนี้ข้าจะต้องเข้ากรุงเทพ..อยากขอให้เอ็งช่วยไปดูแลน้องพิมพ์แทนข้าด้วย..รับปากสิว่ะ”
“เออ..ยังไงน้องพิมพ์ก็เหมือนน้องสาวข้าคนนึง..ข้ารับปาก” ตอนนั้นเองที่พิมพ์จันทร์กำลังเดินลัดเลาะชายฝั่งมาที่ร้านเหล้า..ที่ประจำของ 2 หนุ่ม..และหล่อนเห็นทั้ง 2 แล้ว..จึงจะส่งเสียงเรียก .แต่..มันสายไปเสียแล้ว..เมื่อหล่อนถูกมือกำลังปิดปาก ก่อนที่จะถูกตุ้ยท้องจนสลบไป
                      ******************
พิมพ์จันทร์ฟื้นคืนสติในตอนเช้าของวันใหม่ .เสียงของคลื่นซัดชายฝั่ง แล ความเย็นของน้ำทะเล ปลุกหล่อนให้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาพบว่า..ตัวเองนอนอยู่ริมโพรงหญ้าในสภาพเปลือยเปล่า..ไร้อาภรณ์ปกปิดกายแม้สักชิน ยามนั้นเอง หล่อนก็ได้รับรู้ว่าตนเองถูกขมขื่น รอยเลือดที่หว่างขาและอาการเจ็บปวดที่ท้องน้อยเป็นเครื่องพิสูจน์
********************
- -“ยายจ๋า” พิมพ์จันทร์สาวเท้าขึ้นบันได  ด้วยสภาพอันอิดโรย..แต่ก็พยายามทำสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา .
“เอ็งหายไปไหนมาทั้งคืน..รู้มั้ยยายเป็นห่วงมากนะ”
“พิมพ์ขอโทษจ๊ะยาย พิมพ์ขอโทษ ..พิมพ์เอ่อ.ไปค้างบ้านฝนจ๊ะยาย..เห็นว่ามันดึกแล้ว เลยขอค้างก่อน..เอ่อ..ยายกินข้าวหรือยังจ๊ะ”
พิมพ์จันทร์เอ่ยพลางลุกเข้าไปในครัว เห็นหม้อว่างเปล่า..จึงจัดการหุงหาข้าวปลาทำกับข้าวให้ยาย ก่อนที่จะยกสำรับร้อน ๆ มาวาง..หล่อนไม่ลืมที่จะหยิบชามข้าวและช้อนมาด้วย
“ยายจ๋ากินข้าวจ๊ะ”ยายจันทร์บ้วนน้ำหมากทิ้งและดื่มน้ำเพื่อล้างคอก่อนจะเดินเข้าไปในครัว
  “วันนี้พิมพ์ทำสุดฝีมือเลยนะจ๊ะ”
“วันนี้ทำไมเอ็งถึงพูดมากจัง ห๊ะ”
“เปล่าจ๊ะ..ยายทานข้าวเถอะ..ก่อนที่กับข้าวจะเย็นก่อน”..แม้ยายจันทร์จะรู้สึกถึงอาการแปลก ๆ ..แต่ก็ไม่นึกเอะใจ..ว่าวันนี้จะเป็นชั่วโมงสุดท้ายที่จะได้เห็น หน้าหลานสาวผู้นี้
              *******************************
   
      เสียงฝนฟ้ากระหน่ำราวกับฟ้ารั่วจากสวรรค์ ได้เข้าถาโถมตัวจังหวัดในรอบ 10 ปี ..นับว่าหนักหนากว่าคราไหน ๆ จนยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
   
      แรงของพายุลูกนี้..ได้ส่งผลให้เกิดคลื่นลูกใหญ่สูงราว ๆ  5 เมตร ..มันได้ทำการกวาดต้อนบรรดา ชายหาดแลต้นไม้ ใบหญ้าที่ขึ้นอยู่ตามชายฝั่งให้กลืนหายไปพร้อมกับมัน..แม้ว่า ในครั้งนี้จะไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่นั่นบ้างคนกลับคิดว่าความตายน่าจะดีกว่าเพราะทรัพย์สินทุก ๆ อย่างของพวกเขาได้ถูกทำลายลงไปพร้อมกับสถานที่ท้องเที่ยวที่อยู่รอบชายฝั่ง..แม้ว่ามันจะไม่สามารถขึ้นมาถึงด้านบน..นั่นก็เพราะรั้วกระสอบทราบกับบรรดาต้นมะพร้าว สนทะเล..ตามความคิดของ นายเชษฐา ผู้มีความรักต่อทะเลคนหนึ่ง .แม้ว่านั่นจะป้องกันได้ส่วนหนึ่งแต่ความเสียหายก็ยังมี
กิจการร้านค้าต้องยกเลิกขายไปชั่วคราวเพื่อทำการปรับปรุงและเก็บขยะจากท้องทะเลที่พัดมาเกยหายพร้อมกับคลื่นลูกใหญ่เมื่อคืนวาน
 
    ผู้ที่เดือดร้อน..คงจะหนีไม่พ้นชาวประมงที่หาเลี้ยงชีพด้วยการหาปลาและจับสัตว์น้ำเป็นอาชีพ..นับว่าส่งผลกระทบอย่างมากเพราะเรือที่เคยใช้หาปลากลับถูกคลื่นซัดชนโขดหินใต้น้ำจนเป็นรูรั่วและอีกนานกว่าจะทำการซ่อมแซมให้สามารถแล่นได้ดั่งเดิมมีหลายครอบครัวถึงขนาดขายบ้าน ขายเรือ ขายที่ดินทำกินเพื่อหนีเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ ๆ ..จนเกือบหมดหมู่บ้าน จึงมีเพียงไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นที่ยังคงรักที่อยู่..รวมถึงครอบครัวของพิมพ์ .
   
    .  พิมพ์จันทร์ สาวสวยประจำหมู่บ้าน หล่อนเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของยายจัน..ห่างจากหมู่พอสมควร และความที่หล่อนเป็นคนสวยจึงตกเป็นที่หมายปองของบรรดาลูกบ้าน..ทั้งใกล้และไกล..ชื่อเสียงด้านความสวยของหล่อนดังไปไกลถึงตัวจังหวัด
    แต่พิมพ์จันทร์หาสนใจคนพวกนั้นไม่..เธอก็เหมือนเด็กสาวช่างฝันทั่ว ๆ ไป ที่เฝ้ารอคอยชายในฝัน..อยู่ตลอดเวลา..และฝันว่าจะได้แต่งงานมีรักที่บริสุทธิ์ .การปฏิเสธและเงียบเฉยของหล่อนทำให้บรรดาชายหนุ่มน้อย..หนุ่มใหญ่ต่างพากันล้มเลิกขบวนการที่จะได้หญิงสาวไปเป็นหน้าเป็นตาไปหมด ..แต่ก็มีเพียงไอ้เก้อกับไอ้เกื้อ 2 หนุ่มเท่านั้นที่ยังคงมีรักมั่นอย่างไม่เสื่อมคลาย..โดยไม่มีทีท่าว่าจะล้มเลิกโดยง่าย พวกมันทั้ง 2 ต่างพากันแวะเวียนนำของมาฝาก มาช่วยงาน ทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้ใกล้ชิดหญิงสาว..แต่พิมพ์จันทร์สำนึกโดยดีว่าทั้ง 2คิดเช่นไรกับตน..แม้จะเคยบอกไปสักกี่หน ทั้ง 2 ก็ไม่เคยท้อ..ทำตัวเสมอต้นเสมอปลายโดยตลอด
     
      พิมพ์จันทร์จึงเอ๋ยพูดกับยายในค่ำคืนหนึ่ง
  “ยายจ๋า..พิมพ์มีเรื่องไม่สบายใจ..อยากถามยายจีะ”
  “อือ”ยายจันทร์ที่กำลังนั่งนั่งตำหมากอยู่นั้น..เอ่ยพลางม้วนจีบพลู..แล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวงำ ๆ ไปตามประสา
  “คงเป็นเรื่องเจ้าเก้อกับเจ้าเกื้อ” ยายจันทร์บ้วนน้ำหมากสีแดงแจ๋ลงกระโถนที่ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติก..กากน้ำหมากกองสุมอยู่ในนั้นทั้งเก่าและใหม่
  “จ๊ะยาย  พิมพ์เห็นใจและเห็นถึงความดีของพวกพี่เก้อและพี่เกื้อ..แต่พิมพ์ไม่ได้คิดอะไรกับพวกพี่เขาแบบนั้น ความรู้สึกของพี่ชายเท่านั้นที่พิมพ์จะมีให้ได้”
“เอ็งจะเอายังไงล่ะ .ยายจะไม่ห้ามเอ็ง .ทำตามที่ใจเอ็งต้องการเถอะ”
“งั้นพิมพ์จะไปบอกพวกพี่ ๆ ทั้ง 2 นะจ๊ะ”
“ไม่ทันแน่จ๊ะ..เพราะพี่เกื้อจะไปกรุงเทพพรุ่งนี้แต่เช้า พิมพ์จะรับไปรับกลับนะจ๊ะ”
“เอาไปฉายไปด้วยแล้วก็ระวังตัวให้ดี..เดี๋ยวนี้ขโมยขโจรมันชุกชุมยิ่งกว่าปลาเสียอีก”
  “จ๊ะยาย..พิมพ์วิ่งเล่นที่นี่มาตั้งแต่เกิด”พิมพ์จันทร์เอ่ยพลางหยิบไฟฉายที่แขวนเอาไว้ที่เสตะปูหน้าประตูบ้าน..แล้วรีบวิ่งฝ่าดงแสมไป   
                    ***********************
“เฮ้ยไอ้เกื้อ .ข้าขอพูดเปิดอกนะโว้ย” .ไอ้เกื้อนั่งซดเหล้าเพียง ๆ เพื่อขับไล่ความรู้สึกหดหู่ใจ..ในเมื่อพรุ่งนี้มันจะต้องเดินทางเข้ากรุงเทพ..เพื่อไปหางานทำ..และมันจะไม่ได้พบกับหญิงในดวงใจอีกนาน
“ไอ้เกื้อ  นั่งบื้ออะไรอยู่ว่ะ”
“ข้าแค่นั่งย้อมใจโว้ย..อยากจะพูดอะไรก็พูดมาสักที”
“ข้าคิดว่า ข้ากำลังมีความรัก..แบบว่า..ไม่ใช่ ข้าไม่ได้รักน้องพิมพ์นะ..แต่.ทั้งเอ็งและข้าต่างก็รู้ดี..ว่าน้องพิมพ์ต่างก็ไม่ได้คิดกับพวกเราอย่างที่พวกเราคิดเลย..ตลอดเวลา 3 ปี มานี่..ใช่ว่าพวกเราจะไม่พยายาม .แล้วเมื่อคืนข้าไปเจอน้องลัก..ในคลับ น้องเค้าเพิ่งอกหักมาหมาด ๆ ข้าเลยถือโอกาสดามหัวใจให้ โป๊ะเชะ เรียบร้อย..ตอนนี้เราสองคนเลยเป็นแฟนกัน ”เก้อมองเพื่อนรักที่ยังคงกระดกเหล้าอย่างไม่ยั้ง
“ไอ้เกื้อ..ข้ามองเห็นว่ะ..สักวันพวกเราต่างก็ต้องเจ็บปวด..สู่ข้าเดินออกมาจะดีกว่า ก็เหลือแต่เอ็ง..จะยอมตัดใจหรือเปล่า”
“เอ็งอาจจะพูดถูก..ไอ้เก้อ..แต่ข้าเลิกรักน้องพิมพ์ไม่ได้ พรุ่งนี้ข้าจะต้องเข้ากรุงเทพ..อยากขอให้เอ็งช่วยไปดูแลน้องพิมพ์แทนข้าด้วย..รับปากสิว่ะ”
“เออ..ยังไงน้องพิมพ์ก็เหมือนน้องสาวข้าคนนึง..ข้ารับปาก” ตอนนั้นเองที่พิมพ์จันทร์กำลังเดินลัดเลาะชายฝั่งมาที่ร้านเหล้า..ที่ประจำของ 2 หนุ่ม..และหล่อนเห็นทั้ง 2 แล้ว..จึงจะส่งเสียงเรียก .แต่..มันสายไปเสียแล้ว..เมื่อหล่อนถูกมือกำลังปิดปาก ก่อนที่จะถูกตุ้ยท้องจนสลบไป
                      ******************
พิมพ์จันทร์ฟื้นคืนสติในตอนเช้าของวันใหม่ .เสียงของคลื่นซัดชายฝั่ง แล ความเย็นของน้ำทะเล ปลุกหล่อนให้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาพบว่า..ตัวเองนอนอยู่ริมโพรงหญ้าในสภาพเปลือยเปล่า..ไร้อาภรณ์ปกปิดกายแม้สักชิน ยามนั้นเอง หล่อนก็ได้รับรู้ว่าตนเองถูกขมขื่น รอยเลือดที่หว่างขาและอาการเจ็บปวดที่ท้องน้อยเป็นเครื่องพิสูจน์
********************
- -“ยายจ๋า” พิมพ์จันทร์สาวเท้าขึ้นบันได  ด้วยสภาพอันอิดโรย..แต่ก็พยายามทำสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา .
“เอ็งหายไปไหนมาทั้งคืน..รู้มั้ยยายเป็นห่วงมากนะ”
“พิมพ์ขอโทษจ๊ะยาย พิมพ์ขอโทษ ..พิมพ์เอ่อ.ไปค้างบ้านฝนจ๊ะยาย..เห็นว่ามันดึกแล้ว เลยขอค้างก่อน..เอ่อ..ยายกินข้าวหรือยังจ๊ะ”
พิมพ์จันทร์เอ่ยพลางลุกเข้าไปในครัว เห็นหม้อว่างเปล่า..จึงจัดการหุงหาข้าวปลาทำกับข้าวให้ยาย ก่อนที่จะยกสำรับร้อน ๆ มาวาง..หล่อนไม่ลืมที่จะหยิบชามข้าวและช้อนมาด้วย
“ยายจ๋ากินข้าวจ๊ะ”ยายจันทร์บ้วนน้ำหมากทิ้งและดื่มน้ำเพื่อล้างคอก่อนจะเดินเข้าไปในครัว
  “วันนี้พิมพ์ทำสุดฝีมือเลยนะจ๊ะ”
“วันนี้ทำไมเอ็งถึงพูดมากจัง ห๊ะ”
“เปล่าจ๊ะ..ยายทานข้าวเถอะ..ก่อนที่กับข้าวจะเย็นก่อน”..แม้ยายจันทร์จะรู้สึกถึงอาการแปลก ๆ ..แต่ก็ไม่นึกเอะใจ..ว่าวันนี้จะเป็นชั่วโมงสุดท้ายที่จะได้เห็น หน้าหลานสาวผู้นี้
              *******************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น