ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักอลวัน หอพักอลเวง

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 : แปลงโฉม

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 49


                  
                  เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว  บิลดำเนินการทุกอย่างเตรียมพร้อม  เขายื่นเรื่องการสมัครเข้าเรียนของเจสสิก้าโดยติดต่อกับผู้อำนวยการของโรงเรียนโดยตรง  และวันต่อมาเขาก็ได้รับการตอบรับจากโรงเรียนเรื่องรับเจสสิก้าเข้าเป็นนักเรียนไฮสคูลของเซนต์มาร์ติเนท  แน่นอนรวมถึงสมาชิกคนใหม่ในหอพักชายแมนฮู้ดด้วย  เนื่องด้วยผู้อำนวยการท่านนี้รู้จักสนิทสนมกับบิลเป็นอย่างดีจึงยินดีให้ความช่วยเหลือและร่วมมือเต็มที่  ดังนั้นนอกจากบิล  เรย์แลนด์  และเจสสิก้าที่รู้เรื่องแผนการนี้  ผู้อำนวยการท่านนี้ก็รู้ทุกอย่างด้วย  บิลเคารพท่านมากและทั้งสองก็เคยร่วมงานกันมานานจนรู้นิสัยใจคอของกันและกัน  บิลจึงไว้ใจท่านและบอกทุกอย่างไปตามความจริง 

                  ในตอนแรกบิลมีปัญหาเล็กน้อยเรื่องหอพักชาย  เพราะแต่ละห้องจะต้องอยู่กันสองคน  บิลเอ่ยขอกับผู้อำนวยการว่าควรเปิดห้องให้เจสสิก้าอยู่คนเดียว  เพราะยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงไม่สมควรพักห้องเดียวกับผู้ชาย  ผู้อำนวยการตกลงตามคำขอ  แต่เจสสิก้ากลับเป็นฝ่ายปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าการที่เธอได้อภิสิทธิ์ในการอยู่คนเดียวเป็นส่วนตัวจะทำให้เธอเด่นและเป็นที่สงสัยของนักเรียนคนอื่นๆ  อาจจะทำให้ถูกจับตามองเป็นผลให้เธอทำงานลำบากขึ้น  แค่เธอเป็นคนเดียวที่ได้เข้ามาเรียนที่เซนต์มาร์ติเนทกลางคันก็เด่นจะแย่อยู่แล้ว  ในที่สุดบิลจึงยอมจำนนด้วยเหตุผล 

                  ผู้อำนวยการบอกให้บิลพอสบายใจขึ้นมาได้บ้างว่าห้องที่เจสสิก้าจะต้องไปอยู่ด้วยนั้นรูมเมทคือนายราเฟน เอลลาโด้  หนุ่มอายุสิบหก  ลูกชายคนเล็กของนายกเทศมนตรีราคอฟ เอลลาโด้  ท่านพูดถึงนายราเฟนคนนี้ว่าเป็นคนเรียนดี  มีความประพฤติเรียบร้อย  เป็นนักเรียนดีเด่น  ไม่เคยก่อเรื่องที่เสียหายและทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียงซักครั้ง  จึงทำให้บิลวางใจ  เขาเองก็พอรู้จักกับนายกเทศมนตรีราคอฟบ้าง  ด้วยยศศักดิ์ที่ต่างกันจึงไม่ถึงกับสนิทสนมนัก  พบเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง  ส่วนลูกชายคนเล็กที่ชื่อราเฟนบิลก็เคยเจอ  แต่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและตอนนั้นราเฟนก็อายุเพียงแค่หกขวบ  ส่วนเจสสิก้านั้นไม่รู้จักและไม่เคยเจอกับชายหนุ่มที่ชื่อราเฟนมาก่อน  แต่ฟังจากที่ผู้อำนวยการบอกก็คิดว่าน่าจะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร


    ......................................................


                  "กลับมาแล้วค่า" 

                  เสียงใสดังแว่วมาก่อนตัวที่บริเวณหน้าประตู  บิลซึ่งนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นละสายตาจากทีวีหันไปตามเสียง  ไม่นานสาวน้อยเจ้าของเสียงก็เดินเข้ามาตามด้วยชายหนุ่มอีกคนที่หิ้วถุงช๊อปปิ้งพะรุงพะรัง  บิลชะงักยิ้มทันทีเมื่อเห็นร่างตรงหน้า  เจสสิก้าในรูปลักษณ์ใหม่เดินมานั่งลงข้างเขาแล้วกอดเขาเป็นการทักทาย  เรย์แลนด์วางของทั้งหมดลงบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามแล้วเอนหลังพิงพักเหนื่อย

                  "ในที่สุดก็ตัดจนได้สินะ  อาล่ะเสียดายแทนเลย"  บิลทำหน้าเศร้าพลางลูบผมสีน้ำตาลทองซอยสั้นที่เคยยาวสลวยถึงกลางหลังของหลานสาว

                   "อาอย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้นสิคะ  อีกไม่กี่ปีก็กลับมายาวเหมือนเก่าแล้ว  เจสว่าตัดแล้วโล่งดีออก"  เจสสิก้าพูดแล้วสะบัดผมที่ซอยระต้นคอไปมา 

                  บิลถอนหายใจอย่างปลงๆ  "ดีนะที่ไม่สั้นมาก  ยาวระต้นคอกำลังดี  แต่ตอนแรกอาบอกว่าจะสั่งทำวิกให้ก็ไม่เอา"

                  "ก็เจสกลัวว่ามันจะไม่สมจริงนี่คะอา  ถ้าเจสเล่นกีฬาแล้ววิกเกิดหลุดต่อหน้าคนอื่นขึ้นมาความก็แตกสิคะ"  เจสสิก้าให้เหตุผล

                  "แต่วิกนี้อาว่าจะสั่งทำขึ้นมาพิเศษเลยนะ  เหนียวแน่นถึงขนาดดำน้ำก็ไม่หลุด  กะว่าจะให้เจสไปตัดผมให้ยาวประบ่า  แล้วผมส่วนที่ถูกตัดก็นำมาทำเป็นวิกอันนี้ไงล่ะ"  บิลบอก

                  "ฟังแล้วน่าสนใจค่ะ  แต่เจสกลัวรำคาญนี่  แล้วต้องมาใส่ตลอดเวลาผมก็ร่วงกันพอดี  เจสว่าตัดไปเลยน่ะดีแล้วค่ะ"

                  "เอาเถอะๆ  ยังไงก็ตัดไปแล้วนี่"  บิลยอมแพ้  มองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  "แต่อาว่า...ดูยังไงก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดีนะ  ถึงแม้จะใส่กางเกงแต่งตัวแบบผู้ชายก็เถอะ"

                  "แหม...ก็ได้เท่านี้แหล่ะค่ะอา  ที่เหลือก็ต้องอาศัยท่าทางและการพูดให้ดูเป็นผู้ชายซึ่งเรื่องนั้นเจสสบายมาก"

                  บิลพยักหน้าก่อนหันไปมองผู้ช่วยหนุ่มที่นั่งแหงนหน้าพิงโซฟาอย่างหมดสภาพ  "ว่าไงเรย์  ตั้งแต่กลับมาไม่พูดไม่จาเลยซักคำ  คงเหนื่อยล่ะสิ"  เขาเอ่ยถามอย่างเห็นใจ

                  เรย์แลนด์ก้มหน้าลงมาตอบเสียงเนือยๆ  "นิดหน่อยครับ  ยังไงเรื่องช๊อปปิ้งผมก็สู้ผู้หญิงไม่ได้อยู่แล้ว" 

                  "จะไม่ให้เหนื่อยได้ไงล่ะคะ  เรย์ต้องมาคอยช่วยเจสเลือกเสื้อผ้าและของใช้สำหรับผู้ชาย  ไหนยังจะต้องถือของเดินตามต้อยๆอีก"  เจสสิก้าบอกกลั้วหัวเราะ

                  บิลก็หัวเราะไปด้วย  เพราะเหตุนี้เขาจึงไม่ไปด้วย  พักผ่อนอยู่บ้านสบายกว่าเป็นไหนๆ

                  เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์  สำนักงานนักสืบปิด  บิลจึงได้หยุดพักผ่อนอยู่บ้าน  ส่วนเรย์แลนด์ก็ออกไปช๊อบปิ้งกับเจสสิก้า  พาไปตัดผม  ซื้อเสื้อผ้าของใช้สำหรับผู้ชายเพื่อเตรียมตัวก่อนวันเปิดเทอมที่จะมาถึง  คอยให้คำแนะนำในฐานะที่เป็นผู้ชายว่ามีอะไรที่จำเป็นบ้าง 

                  "วันนี้ต้องขอบคุณเรย์มากนะคะที่อุตส่าห์ไปเป็นเพื่อนเจสแล้วยังช่วยเจสเลือกของอีก"  เจสสิก้ากล่าวของคุณชายหนุ่ม

                  "ไม่เป็นไรหรอกครับ  ผมเต็มใจ  เรื่องแค่นี้เอง"  เรย์แลนด์ยิ้มให้หญิงสาว 

                  เจสสิก้าหันไปมองบิลด้วยหางตา  "เรย์นี่ใจดีจังนะ  ไม่เหมือนคนบางคน  ชวนไปก็ไม่ยอมไป  นอนดูทีวีอยู่บ้านสบายใจเฉิบ" 
       
                  "อ้าว  เรื่องอะไรอาต้องไปเดินถือของต้อยๆให้เหนื่อยทำไมล่ะ  อาไปกับเจสทีไรกลับมาขาลากทุกที"

                  เจสสิก้าค้อนอาตนเองอย่างหมั่นไส้

                  "ผมคงต้องขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อนนะครับ  เดินมาทั้งวันจนเหนื่อยขาลากหมดแล้ว  พรุ่งนี้จะไปทำงานไหวรึเปล่าก็ไม่รู้"   เรย์แลนด์เอ่ยลาเป็นเชิงแซวหญิงสาวไปในตัวพลางลุกขึ้นจากโซฟา

                  "เรย์ก็  เป็นไปด้วยอีกคน"  เจสสิก้าหน้างอ 

                  บิลหัวเราะแล้วพยักหน้าหงึกๆ  ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้หลานสาวเป็นเชิงบอกว่า 'เห็นมั๊ยล่ะ'

                  "ผมพูดเล่นน่ะครับ  ไม่เหนื่อยหรอก  แค่ได้ไปไหนมาไหนกับเจสผมก็ยืดแล้ว"  เรย์แลนด์บอกทีเล่นทีจริง

                  เจสสิก้ายิ้มหวานอย่างถูกใจ  "ถ้างั้นเดี๋ยวเจสไปส่งที่รถนะคะ"

                  "ขอบคุณครับ"  เรย์แลนด์พูดก่อนจะลาบิลแล้วเดินออกไปโดยมีเจสสิก้าเดินตาม

                  เจสสิก้าเดินไปส่งชายหนุ่มที่รถ  เมื่อลากันเรียบร้อยเรย์แลนด์ก็ขับรถออกไป  เจสสิก้าจึงเดินกลับเข้ามาหาบิลที่ห้องเดิมก่อนจะทรุดตัวลงนั่งแล้วยืดแขนยืดขาแก้เมื่อย

                  "จริงสิ  อาเพิ่งนึกขึ้นได้  วันนี้ทางร้านส่งเครื่องแบบนักเรียนชายมาให้แล้วนะ"  บิลพูดขึ้นระหว่างที่เจสิก้าล้มตัวนอนบนตักของเขา

                  เจสสิก้าผุดลุกขึ้นนั่งทันที  เอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น  "จริงเหรอคะ!  แล้วตอนนี้ชุดอยู่ไหนคะ"

                  "อยู่บนห้องเรานั่นแหล่ะ  อาให้ป้าเมย์ (แม่บ้าน) ซักรีดแล้วเก็บไว้ในตู้เสื้อผู้เรียบร้อยแล้ว"  บิลบอก

                  "งั้นเจสขอขึ้นไปลองใส่เลยนะคะ"  พูดจบก็วิ่งจู๊ดขึ้นไปบนห้องทันทีโดยมีเสียงบิลตะโกนไล่หลัง

                  "อย่าลืมลงมาให้อาดูด้วยล่ะ"

                  อีกสิบนาทีต่อมาเจสสิก้าก็เดินเข้ามาในห้องเดิมด้วยชุดเครื่องแบบนักเรียนชายเต็มยศของเซนต์มาร์ติเนท  เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว  สวมทับด้วยเสื้อสูทสีแดงเลือดหมู  ติดกระดุมทองที่ตัวเสื้อและแขนเสื้อ  มีตราโรงเรียนรูปมงกุฎปักที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย  เนคไทสีเดียวกันกับเสื้อสูทแต่อ่อนกว่าเล็กน้อย  กางเกงสแล็กก็สีเดียวกันลายสก๊อตสลับขาว  รองเท้าหนังสีดำเงาวับ

                  "เป็นไงบ้างคะอา"  เจสสิก้าถามเสียงใส              

                  บิลตะลึงมองมองด้วยความทึ่ง  หญิงสาวในชุดเครื่องแบบนักเรียนชายดูแล้วแปลกตาไปจากเดิมค่อนข้างมาก  ดูเหมือนเป็นเด็กหนุ่มจริงๆ  แม้หน้าจะสวยหวาน  แต่ความสูงและทรงผมซอยสั้นช่วยให้มองดูเป็นเด็กผู้ชายขึ้นมาได้บ้าง

                  "ดูดีมากเลยเจส  พอใส่เครื่องแบบแบบนี้ก็ดูเท่ห์ดีนี่เรา  อย่างงี๊สาวๆเซนต์มาร์ติเนทตอมกันเกรียวแน่เลย"  บิลเอ่ยกลั้วหัวเราะ

                  "จริงเหรอคะ  เอ้ย!  ฮะแฮ่ม  จริงเหรอฮะ"  เจสสิก้าแกล้งทำเสียงต่ำ  เปลี่ยนการพูดเป็นแบบผู้ชาย

                  บิลหัวเราะขันพลางกวักมือเรียกหลานสาวให้มานั่งข้างๆ  เจสสิก้าทำตามอย่างว่าง่าย  บิลกอดหลาวสาวแล้วโยกตัวเล่นไปมา  เจสสิก้ากอดตอบ  หลับตาพริ้ม

                  "เฮ้อ...อีกไม่นานหลานของอาก็จะต้องอยู่ห่างจากอาแล้วสินะ  อาคงเหงาแย่"

                  เจสสิก้าเงยหน้าขึ้น  แววตาเศร้าสร้อย  "แล้วเจสจะกลับมาอยู่กับอาทุกๆสุดสัปดาห์นะคะ  หรือไม่ก็ให้เรย์มาพักอยู่ที่นี่เลยก็ได้  อาจะได้ไม่เหงา"

                  "อยู่กับใครก็ไม่มีความสุขเท่าอยู่กับหลานรักของอาล่ะน่า"  บิลบอกแล้วขยี้ผมเจสสิก้าอย่างเอ็นดู  "เอาเถอะ  อย่างน้อยตอนนี้อาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเจสแล้ว  อามั่นใจว่าเราจะดูแลตัวเองได้  ยังไงก็ระวังตัวด้วยล่ะ"

                  "ค่ะอา  เจสสัญญา  เจสจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด  แล้วจะกลับมาให้อาตรวจสภาพทุกอาทิตย์เลยเอ้า"

                  "หึหึ  ทำเป็นพูดดีไป  ไม่ใช่ว่าไปอยู่ที่นู่นมีความสุขแล้วจะลืมอาหรอกนะ" 

                  "โธ่  อาก็รู้ว่าเจสไม่มีทางเป็นแบบนั้น  ไม่เอาน่า  ทำหน้างอเดี๋ยวแก่เร็วหมดหล่อไม่รู้นะ" 

                  บิลหัวเราะขันพลางขยี้หัวหลานสาวแรงๆอีกอย่างหมั่นไส้  ก่อนจะไล่ให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเดี๋ยวเครื่องแบบจะหยับหมด  เดือดร้อนแม่บ้านต้องเอาไปซักรีดใหม่  เจสสิก้าทำตามอย่างว่าง่าย  ลุกขึ้นแล้วหอมแก้มอาหนึ่งทีก่อนจะขึ้นบันไดไปอย่างร่าเริง


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×