ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chaos Legion : Damian and Derpentious

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 : เบื้องหลังม่าน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 117
      0
      23 พ.ย. 48



                  \"ฝ่าบาทให้คนไปตามหม่อมฉัน  มีอะไรให้รับใช้หรือ\"



                  \"เจ้าว่าเจ้าแม่ทัพหลวงนั่นใช่พ่อมดราอูลที่เจ้าเคยพูดถึงรึเปล่า\"



                  \"คิดว่าไม่น่าใช่นะฝ่าบาท  พ่อมดราอูลไม่ยุ่งเกี่ยวกับสงคราม\"



                  \"แต่ตอนที่ข้าประมือกับหมอนั่น  มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นด้วยนะ  แสงสีทองเปล่งออกมาจากตัวมันแล้วข้าก็รู้สึกเหมือนมีพลังที่มองไม่เห็นผลักข้า\"



                  \"ถ้าแม่ทัพนั่นเป็นพ่อมดราอูลจริงเหตุใดจึงไม่ใช้เวทมนตร์กำจัดพวกเราล่ะฝ่าบาท  เพียงแค่ร่ายคาถากองทัพเราก็ตายเป็นเบือแล้ว  ไม่เห็นต้องใช้ดาบฟาดฟันให้เสียแรง\"



                  \"จริงสินะ\"  พระองค์เห็นด้วย



                  หรือว่าเขาจะตาฝาดไปเอง  ไม่น่าจะใช่...



                  \"แล้วฝ่าบาทจะทำยังไงต่อไป\"  เคอร์เทียสเอ่ยถาม  \"จะกลับเมืองเลยไหมฝ่าบาท  เพราะทหารของเราก็เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งคงสู้กับพวกเดเมี่ยนไม่ไหว  หรือฝ่าบาทจะเรียกทหารอีกกองทัพให้ตามมาสมทบแล้วค่อยกลับไปบุกพวกนั้นอีกครั้ง\"



                  \"บุกน่ะบุกแน่  ข้าไม่ยอมเลิกลาง่ายๆหรอก  แต่ไม่ใช่ตอนนี้  ข้ามีแผนที่จะทำให้พวกเดเมี่ยนมันวุ่นวายจนไม่มีกะจิตกะใจจะรบแน่\"



                  \"แผนอะไรหรือฝ่าบาท\"





                                                                    ...............................................................





                  ในตอนสายของวันเดียวกัน  ขณะที่เมเดียสกำลังว่าราชการกับเหล่าเสนาบดีอยู่ในท้องพระโรง  ก็มีทหารนายหนึ่งเข้ามารายงานเหตุการณ์บางอย่าง



                  \"ขอเดชะพระอาญาไม่พ้นเกล้า  เจ้าเหนือหัวเวนเดอรัสแห่งเดอเพนเทียสมาขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ\"



                  คำรายงานของทหารเรียงเสียงฮือฮาให้กับทุกคนในห้อง  แม้แต่เมเดียสเองก็แปลกใจไม่แพ้กัน



                  \"เวนเดอรัสน่ะรึมาขอเข้าเฝ้า\"  พระองค์ตรัสถามอย่างไม่อยากเชื่อ



                  \"พะย่ะค่ะ  ตอนนี้พระองค์รออยู่ที่นอกพระราชวัง  ฝ่าบาทจะให้เชิญเสด็จไหม\"



                  \"ในเมื่อกล้ามาเราก็ต้องกล้าต้อนรับ  ไปเชิญเขาเข้ามา\"



                  ทหารออกไปจากห้องเมื่อได้รับคำสั่งจากเมเดียส  พระองค์ไล่ให้เหล่าเสนาบดีออกไปเมื่อเสร็จธุระ  จึงเหลือเพียงนางกำนัลที่คอยรับใช้สองคนกับเหล่าทหารองครักษ์



                  ครู่ต่อมาเวนเดอรัสก็ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าของเมเดียสที่ประทับอยู่บนบัลลังก์  เรียกความฉงนให้กับผู้มาเยือนเมื่อเห็นม่านที่กั้นอยู่ระหว่างพระองค์ทั้งสอง  ทำให้มองเห็นบุคคลหลังม่านเพียงเงาเรือนราง



                  \"น่าประหลาดใจนะที่ท่านมาเยือนถึงที่นี่  แล้วยังมาคนเดียว  ช่างกล้านัก\"  เมเดียสตรัสขึ้นก่อน  



                  เวนเดอรัสรู้สึกสะดุดหูเมื่อได้ฟังเสียงที่คุ้นเคยเหมือนกับว่าเคยเจอคนตรงหน้ามาก่อน  แต่พระองค์ต้องเก็บความสงสัยนั้นไว้แล้วทำในสิ่งที่ตั้งใจ



                  \"เปล่า  ข้ามากับผู้ติดตามสองคน\"



                  \"สองคนเท่านั้นรึ\"  เมเดียสตรัสทวน  \"แล้วตอนนี้พวกเขาไปอยู่ไหนซะล่ะ  ท่านไม่กลัวว่าจะถูกพวกเราฆ่าทิ้งรึไง\"



                  \"ข้าให้รออยู่ที่หน้าพระราชฐานชั้นนอก\"  เวนเดอรัสตอบ  \"อีกอย่าง  ข้ารู้ว่าท่านไม่ฆ่าข้าหรอก  ที่ข้ารู้มา  ชาวเดเมี่ยนไม่ไร้ศักดิ์ศรีถึงขนาดฆ่าศัตรูที่ไม่มีอาวุธ\"



                  \"ท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว  และการที่ท่านมาที่นี่อย่างเปิดเผยก็ถือว่าท่านเป็นราชอาคันตุกะของข้า  ราชอาคันตุกะควรได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ์  เว้นเสียแต่ท่านจะไม่ได้มาดี\"



                  \"นับเป็นบุญของข้าแล้วที่ได้รับเกียรติ์จากท่าน\"



                  เมเดียสทอดพระเนตรมองเวนเดอรัสที่ดูเหมือนเป็นคนละคนกับตอนที่อยู่ในสนามรบอย่างแปลกใจ  คนที่พระองค์ลงความเห็นว่าเป็นคนร้ายกาจหยาบคาบตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ  เดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน



                  \"ที่ท่านมาเข้าเฝ้าข้าถึงที่นี่น่ะ  คงไม่ได้แค่มาเยินยอข้าหรอกใช่ไหม\"



                  \"ใช่แล้ว  แต่ก่อนที่ข้าจะพูดธุระของข้า  ข้าอยากให้ทุกคนในที่นี้ออกไปให้หมด  เหลือเพียงท่านกับข้าสองคน\"



                  พระขนงของเมเดียสขมวดขึ้น  \"ทำไมต้องให้ทุกคนออกไปด้วย\"



                  \"ก็เพราะข้าไม่อยากให้คนนอกรู้\"  เวนเดอรัสเลิกพระขนงพลางยิ้มเยาะ  \"หรือว่าท่านกลัวข้า  คิดไม่ถึงเลยว่าท่านจะขี้ขลาดถึงเพียงนี้  ทั้งที่ข้าตัวคนเดียว  อาวุธติดกายซักชิ้นก็ไม่มี  แต่ท่านสิ  องครักษ์ในวังมีเป็นโขยง\"



                  \"ใครบอกว่าข้ากลัวท่าน  ไม่มีทาง!\"  เมเดียสเม้มปากด้วยความเจ็บพระทัย  ก่อนจะหันไปไล่นางกำนัลและองครักษ์ทั้งหมดออกไป  จึงเหลือเพียงพระองค์กับเวนเดอรัสที่เผชิญหน้ากันอยู่โดยมีผ้าม่านกั้นเพียงแค่ผืนเดียว  \"ทีนี้พอใจรึยัง\"



                  เวนเดอรัสลอบยิ้มอย่างสมใจ  \"ขอบพระทัย\"



                  \"ท่านว่าธุระของท่านมาเลยดีกว่า  มาที่นี่มีจุดประสงค์อะไรกันแน่\"  เมเดียสตรัสถามก่อนยิ้มเยาะที่อีกฝ่ายไม่สามารถเห็น  \"ถ้าให้ข้าเดา  หลังจากที่พ่ายแพ้กลับไปท่านจึงคิดจะมาเจรจาสงบศึกใช่ไหม\"



                  เวนเดอรัสสลวลเสียงเบา  \"เมเดียส  ท่านไม่คิดว่าหลงตัวเองไปหน่อยหรือ\"



                  \"ท่านหมายความว่ายังไง\"



                  \"ศึกครั้งนี้ข้าแพ้ก็จริง  แต่เพราะข้าประมาทพวกท่านไปหน่อยเท่านั้น  แล้ววิธีของท่านก็เหมือนหมาลอบกัดไม่มีผิด  แม้จะชนะแต่ก็ชนะแบบไม่มีศักดิ์ศรี  ไม่เห็นน่าภูมิใจซักนิด\"



                  \"บังอาจ!\"  เมเดียสลุกขึ้นยืนทันที  \"แพ้ก็คือแพ้  ชนะก็คือชนะ  ท่านแพ้แล้วยังมีหน้ามาพูดจาถากถางถึงถิ่นศัตรู  เวนเดอรัส  ท่านมันน่าสมเพช\"



                  \"น่าสมเพช?  ท่านคิดเช่นนั้นหรือ\"  เวนเดอรัสพูดพลางเสด็จดำเนินเข้าไปใกล้  \"ท่านคิดผิดแล้ว  แล้วก็ผิดในการเดาจุดประสงค์ของข้าในการมาที่นี่อีกด้วย\"



                  \"นี่ท่านคิดจะทำอะไร\"  เมเดียสเริ่มกังวลเมื่อเห็นอีกฝ่ายก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ  แล้วไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดิน  \"หยุดอยู่ตรงนั้นแหล่ะ  ไม่อย่างนั้นข้าจะเรียกทหาร\"



                  \"เหตุใดท่านถึงกลัวข้าจะเข้าใกล้  เหตุใดถึงต้องมีผ้าม่านนี่คอยกั้นไว้ไม่ให้มีใครเห็นท่านตรงๆ  แล้วถ้าข้าคิดจะเดินผ่านม่านนี่เข้าไปล่ะท่านจะว่ายังไง\"



                  \"หยุดนะ!  ทหาร......!\"



                  สายไปเสียแล้วเมื่อเวนเดอรัสกระชากผ้าม่านที่กั้นอยู่ออกแล้วกระโจนเข้ามาด้านใน  ทำให้ทั้งสองพระองค์เผชิญหน้ากันโดยไร้สิ่งกีดขวาง  พระพักตร์ของเมเดียสซีดเผือดเมื่อรู้สภาพของตัวเองที่นั่งอยู่บนบัลลังก์โดยมีเวนเดอรัสยืนเท้าแขนคร่อมอยู่  ใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงสามนิ้ว  ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันอย่างตกตะลึง  



                  \"ผู้หญิง?\"  เวนเดอรัสพึมพำออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา  คนที่อยู่เบื้องหน้าเป็นผู้หญิง  แม้จะแต่งกายด้วยอาภรณ์ของบุรุษเพศแต่ไม่อาจลบความเป็นสาวงามไปได้เลย  ความงดงามหมดจดที่ชวนให้หลงใหล  พระเนตรกลมโตสีฟ้าใสกับน้ำเสียงที่คุ้นหูทำให้พระองค์ฉุกคิดได้  ผู้หญิงตรงหน้าคือคนๆเดียวกับแม่ทัพหลวงที่พระองค์เจอในสนามรบ



                  เมเดียสนั่งตัวแข็ง  ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้  หัวใจของพระองค์เต้นแรงเสียจนคิดว่าอีกฝ่ายคงได้ยิน  ความใกล้ชิดที่สร้างทั้งความรู้สึกวาบหวามและหวาดกลัว



                  คำสาป!?



                  คำๆเดียวที่ผุดขึ้นมาในความคิดของเมเดียสขณะนี้



                  แย่แล้ว  ร่างของเรากำลังจะเปลี่ยน  กำลังจะเปลี่ยน..........



                  ไม่เปลี่ยน?



                  น่าประหลาดที่พระองค์ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆกับตัวพระองค์เลย  เมื่อก้มมองสำรวจตนเองก็ไม่มีส่วนไหนผิดปกติ



                  ทำไม?  ทำไมคำสาปถึงไม่แผลงฤทธิ์ในเมื่อตอนนี้เวนเดอรัสได้เห็นใบหน้าของพระองค์เต็มๆและใกล้มากขนาดนี้  แต่ความสงสัยก็ต้องถูกสลัดทิ้งไปเมื่อตระหนักได้ว่าทั้งสองพระองค์กำลังอยู่ในสภาพไหน



                  เมเดียสผลักอีกฝ่ายเต็มแรงให้ออกห่างไป  \"เจ้าคนไร้มารยาท  สิ่งที่เจ้าทำมันดูหมิ่นข้าเกินไปแล้ว  ข้าจะลงโทษอย่างสาสมต่อความหยาบคายของเจ้า  ทหาร!\"



                  ยามปกติเมื่อเมเดียสมีเหตุฉุกเฉินอะไรถ้าเอ่ยเรียกคำเดียวองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูก็จะเข้ามาทันที  แต่ครั้งนี้กลับไร้วี่แวว



                  \"ใครที่อยู่ข้างนอกนั่นมาจับเจ้าคนถ่อยนี่ไปขังที!\"  เมเดียสตะโกนเรียกอีกครั้ง  แต่ผลคือเหมือนเดิม  ไม่มีใครเข้ามาเลยซักคน



                  เวนเดอรัสหลังจากที่หายตกตะลึงแล้วก็สรวลออกมาเสียงดัง  \"เรียกไปก็เปล่าประโยชน์  ไม่มีใครเข้ามาหรอก  หรือจะพูดอีกอย่างว่าไม่มีใครได้ยินเสียงของเจ้า\"



                  พระเนตรของเมเดียสเบิ่งกว้าง  \"เกิดอะไรขึ้นข้างนอก  เจ้าทำอะไรกับพวกทหาร\"



                  \"ไม่ต้องห่วง  คนของข้าไม่ฆ่าพวกนั้นหรอก  ก็แค่ทำให้สลบ\"



                  \"นี่เจ้ากล้าดียังไง!\"  เมเดียสตรัสด้วยความโกรธ  \"เจ้าต้องการอะไรกันแน่  คิดจะฆ่าข้างั้นเหรอ  คงไม่ง่ายอย่างนั้นล่ะมั้ง  ถึงเจ้าจะฆ่าข้าได้  แต่ทหารในวังมีเป็นร้อยเป็นพันคงไม่ปล่อยให้เจ้าเดินออกไปง่ายๆหรอก\"



                  \"วางใจได้  ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก  จุดประสงค์จริงๆที่ข้ามาในครั้งนี้คือการเตือน\"  เวนเดอรัสตรัสออกไป  แต่มีความจริงเพียงครึ่งเดียว



                  \"เตือน?\"



                  \"ใช่  เดอเพนเทียสและข้าไม่ใช่คนที่จะยอมศิโรราบให้ใครง่ายๆ  และไม่ยอมรับในความพ่ายแพ้ครั้งนี้ด้วย  ถึงแม้เล่ห์กลของเจ้าจะทำให้ข้าตกหลุมพลาง  แต่คราวหน้าข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าได้เห็นว่าสงครามจริงๆน่ะเป็นยังไง  เจ้าจะต้องพบกับความทรมานและการสูญเสียมากกว่าที่ข้าเป็น  จงจำไว้ให้ดี\"



                  เวนเดอรัสเดินออกไปจากห้อง  พบคาลและเคอร์เทียสยืนรออยู่หน้าประตู



                  \"เสร็จธุระของข้าแล้ว  กลับ\"



                  ทั้งสามเดินจากไปได้ครู่หนึ่งเมเดียสก็เปิดประตูพรวดออกมา  พบร่างของทหารที่นอนหมดสติอยู่หน้าประตูเพราะฝีมือใครบางคน



                  เมเดียสกำพระหัตถ์แน่นด้วยความโกรธและความเจ็บพระทัยที่ถูกอีกฝ่ายหยามถึงถิ่นโดยที่พระองค์ทำอะไรไม่ได้เลย  แถมยังเดินจากไปอย่างหน้าตาเฉยโดยที่ทหารองครักษ์ไม่อาจทำอะไรได้เพราะถูกเล่นงานเสียจนสลบ  และถ้าจะเรียกทหารที่อยู่บริเวณอื่นในตัวพระราชวังก็คงสายไปแล้ว  ป่านนี้เวนเดอรัสกับผู้ติดตามที่มาด้วยคงจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างลอยนวล  



                  เมเดียสสบถด้วยความเจ็บพระทัย  ตั้งมั่นแน่วแน่ว่าความแค้นครั้งนี้พระองค์จะต้องสะสาง  ไม่ยอมปล่อยให้คนถ่อยอย่างเวนเดอรัสมาดูถูกเหยียดหยามพระองค์ได้อีก



                  ระหว่างนั้นเวนเดอรัสกับองครักษ์ทั้งสองก็ควบม้าห่างออกมาไกลจากกำแพงวังได้พอสมควร  พระองค์ชะลอฝีเท้าม้าลงเปลี่ยนเป็นควบเหยาะๆเพราะแน่ใจว่าไม่มีคนของทางเดเมี่ยนตามมา



                  \"ฝ่าบาทว่าแผนของฝ่าบาทจะได้ผลจริงหรือ\"  คาลเอ่ยถาม



                  \"ต้องได้ผลสิ  ว่าแต่พวกเจ้าเถอะ  ทำงานที่ข้าสั่งเรียบร้อยดีรึเปล่า\"



                  \"มือชั้นนี้แล้วฝ่าบาท  ทางเข้านอกออกในทั้งหมดของพระราชฐานชั้นในพวกหม่อมฉันรู้ทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว  ไม่เว้นแม้แต่ห้องบรรทมขององค์เมเดียส\"  เคอร์เทียสตอบอย่างภาคภูมิ



                  ระหว่างที่เวนเดอรัสกำลังเข้าเฝ้าเมเดียสในท้องพระโรงอยู่นั้น  คาลและเคอร์เทียสก็จัดการกับทหารองครักษ์ด้านนอกแล้วเดินลาดตระเวณดูทางเดินทั้งหมดในตัวพระราชวังเพื่อหาห้องบรรทมของเมเดียสและทางเข้าออกที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด



                  เวนเดอรัสยิ้มอย่างถูกใจ  \"ดีมาก  ทีนี้ก็เหลือแต่รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม\"



                  \"แล้วเราจะลงมือกันเมื่อไหร่  ฝ่าบาท  คืนนี้เลยดีไหม\"



                  \"ยังก่อน  ตอนนี้พวกมันคงเริ่มระแวงและการรักษาความปลอดภัยคงเข้มงวดมากขึ้น  รอให้ผ่านไปซักพักแล้วเราค่อยลงมือ  ยังไงเมเดียสก็ไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว\"



                  \"จริงสิ  ที่ฝ่าบาทได้เข้าเฝ้าองค์เมเดียสเมื่อครู่นี้  ฝ่าบาทได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพระองค์รึเปล่า\"



                  เวนเดอรัสนิ่งไปครู่หนึ่ง  ก่อนตรัสตอบ  \"เห็น\"



                  \"แล้วเป็นยังไงบ้างฝ่าบาท  องค์เมเดียสรูปงามอย่างที่ใครๆล่ำลือกันไหม\"



                  เวนเดอรัสพยักพระพักตร์



                  \"ว่าแล้วมั้ยล่ะ  อย่างงี้องค์เมเดียสก็เป็นคู่แข่งของฝ่าบาททั้งสองทางเลยสิเนี่ย\"  เคอร์เทียสพูดติดตลก  \"แล้วฝ่าบาทว่าองค์เมเดียสรูปหล่อพอสูสีกับฝ่าบาทได้หรือไม่\"



                  \"เมเดียสเป็นผู้หญิง\"



                  \"หา!?\"  



                  คำตรัสสั้นๆของเวนเดอรัสสร้างความตื่นตะลึงให้กับองครักษ์สองเกลอได้อย่างสิ้นเชิง







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×