คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 : คาสโนว่า
บิลและเรย์แลนด์มาถึงโรงพยาบาลแฮมมิ่งเซนส์ก็ตรงเข้าไปถามห้องของผู้ป่วยชื่อจอร์จ แม็กคลินกับนางพยาบาลที่หน้าเค๊าเตอร์ เมื่อได้คำตอบแล้วก็เดินเข้าลิฟท์ไปโดยมีสายตาของนางพยาบาลหน้าเค๊าเตอร์สามคนเหลียวมองตามด้วยความรู้สึกเดียวกัน
"เธอ เธอว่าสองคนนั้นเป็นยังไง หล่อเท่ห์ทั้งคู่เลยใช่มะ" นางพยาบาลคนหนึ่งหันมาพูดกับเพื่อนพลางทำสายตาหยาดเยิ้ม
"ใช่ๆ คนอะไรดูดีซะไม่มี ทั้งหล่อ สูง เท่ห์ โอ๊ย ท่าได้คนแบบนั้นเป็นแฟนนะฉันรักตายเลย" นางพยาบาลอีกคนเห็นด้วยพลางทำสายตาแบบเดียวกัน
"แต่...ดูดีด้วยกันทั้งคู่แบบเนี๊ยะอันตรายนะยะ"
"อันตรายยังไงยะ"
"ก็สมัยนี้เกย์เยอะจะตายไป ยั้วเยี้ยไปหมด แล้วยังควงกันเปิดเผยเกลื่อนบ้านเกลื่นเมือง โดยเฉพาะคนที่หน้าตาดีทั้งคู่ไปไหนมาไหนด้วยกันน่ะ น่าสงสัย"
"ต๊าย...จริงหรอ" คู่สนทนาทำตาโต อุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ
"พอเลยๆพวกเธอ ไม่รู้อะไรแล้วอย่าพูด ทำให้คนอื่นเขาเสียหายหมด" นางพยาบาลอีกคนที่อดทนฟังเพื่อนสาวทั้งสองนินทาชายหนุ่มอยู่นานขัดขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ "พวกเธอคงไม่รู้จักสองคนนั้น นั่นน่ะนักสืบบิล คอนเนลลี่ชื่อดังกับผู้ช่วยนะยะ เกย์บ้าเกย์บออะไรกัน"
"บิล คอนเนลลี่!"
"ใช่ บิล คอนเนลลี่ ชายหนุ่มที่สาวๆแทบทุกคนใฝ่ฝันคนนั้นแหล่ะ"
"ต๊าย โชคดีจริงๆ ได้ยินชื่อเสียงมานานเพิ่งจะเคยพบเห็นตัวจริง ดูดีกว่าที่เคยได้ยินอีกนะเนี่ย"
"แต่เห็นว่าตอนนี้ยังโสดสนิทอยู่นี่นา อีกฝ่ายก็เป็นถึงผู้ช่วย หน้าตาดีพอๆกัน อาจจะไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้องกันก็ได้นา"
"คุณคอนเนลลี่ไม่มีทางเป็นเกย์หรอกย่ะ ถึงตอนนี้เขายังโสดก็จริงแต่คบสาวมาแล้วนับไม่ถ้วน นอนกับสาวมาก็เยอะ ขึ้นชื่อว่าเป็นคาสโนว่าอันดับต้นๆเลยนะจะบอกให้ มีทั้งสาวน้อยสาวใหญ่เสนอตัวประเคนให้ถึงที่จนแทบจะล้นคิว"
"ต๊าย ขนาดนั้นเลยหรอ" หนึ่งในนั้นอุทาน "อืม...ก็น่าจะจริงอยู่หรอก หล่อรวยขนาดนั้นแค่ได้เป็นคู่ควงแค่วันเดียวก็ยอม"
"ว่าแต่ทำไมเธอถึงรู้เรื่องนี้ดีจังเลยล่ะยะ" อีกคนถามอย่างสงสัย
"ก็...เอ่อ...ที่จริงชั้นก็เคยเป็นหนึ่งในผู้หญิงพวกนั้นน่ะสิ"
"อะไรนะ!" สองคนตะโกนขึ้นพร้อมกันเสียงดัง
"ชู่ว... เบาๆหน่อยสิพวกเธอ เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก ที่นี่มันโรงพยาบาลนะยะ" หล่อนกระซิบบอกอย่างอายๆ
"เออๆ โทษที ว่าแต่เรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่ เธอไปควงกับคุณคอนเนลลี่ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ใช่ รีบๆเล่ามาเลยนะยะ"
"ก็ได้ๆ เอ่อ...ก็แค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้นแหล่ะ" พยาบาลสาวเล่าด้วยความจนใจ "อย่างที่เธอรู้ แม่ฉันเป็นถึงหนึ่งในผู้บริหารบริษัทส่งออกเสื้อผ้าแบรนเนมชื่อดัง เป็นที่รู้จักในวงการไฮโซ ฉันก็เลยมีโอกาสได้ไปงานของสังคมนั้นบ้างเป็นบางครั้ง แล้วมีครั้งนึงเป็นงานแฟชั่นโชว์ ฉันได้มีโอกาสไปเดินแบบให้งานนั้นแล้วได้เจอกับคุณคอนเนลลี่โดยบังเอิญ เราคุยกันถูกคอ จากนั้นเขาก็ชวนฉันไปดริ๊งต่อกันสองต่อสองแล้วก็จบลงที่เตียง แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปด้วยดี ไม่มีข้อผูกมัดอะไรต่อกัน หลังจากนั้นเราก็เจอกันในงานสังคมบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็พูดคุยกันตามปกติตามประสาคนเคยรู้จักกัน ไม่มีเรื่องอย่างว่าเกิดขึ้นอีกเลย"
"ต๊าย น่าเสียดายนะยะ อย่างน้อยก็อุตส่าห์มีโอกาสแล้วทำไมไม่รีบคว้าซะเลยล่ะ เอาเรื่องที่ได้เสียกันแล้วมาอ้างเป็นข้อผูกมัดก็ได้"
"นั่นสิ นอนด้วยกันแล้วแต่กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างนี้มันเข้าข่ายฟันแล้วทิ้งนะยะ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก มันเป็นกติกาที่รู้กันดีในหมู่ผู้หญิงของคุณคอนเนลลี่น่ะ ว่าในเมื่อยอมเสนอตัวให้เขาเองด้วยความเต็มใจก็ไม่มีสิทธ์เรียกร้องข้อผูกมัดอะไรทั้งสิ้น ส่วนมากผู้หญิงพวกนั้นก็เป็นพวกที่รักสนุกหรือไม่ก็พวกฟรีเซ็กซ์" หล่อนอธิบายด้วยเสียงแผ่วเบาเกือบจะเป็นกระซิบ
"เอ๋ อย่าบอกนะว่าเธอก็เป็นแบบนั้น"
"เอ่อ...ก็...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ก็แค่ความพอใจส่วนตัวน่ะ ได้ควงกับเขาแค่วันเดียวฉันก็มีความสุขแล้ว" หญิงสาวบอกพลางทำใบหน้าเคลิ้มฝันเมื่อนึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขเพียงชั่วข้ามคืนที่เคยผ่านมา ก่อนจะทำสีหน้าสลดลงเมื่อนึกขึ้นได้บางอย่าง "แต่ดูท่าทางตอนที่เขาเข้ามาถามห้องผู้ป่วยเมื่อกี๊เขาคงจะจำฉันไม่ได้ด้วยซ้ำไป"
"เอ่อ...นี่...แล้วเรื่อง...เรื่อง...เอ่อ....."
"เธอจะพูดอะไรก็พูดสิยะ มัวอ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้" หญิงสาวอีกคนขัดขึ้นเพราะหงุดหงิดรำคาญกับอาการอ้ำอึ้งของเพื่อน
หญิงสาวเอามือป้องปากแล้วโน้มตัวมาหาเพื่อนทั้งสอง ก่อนเอ่ยเสียงกระซิบ "เรื่อง...บนเตียงน่ะ กับคุณคอนเนลลี่เป็นยังไงบ้าง ดีมั๊ย"
นางพยาบาลอีกสองคนที่เหลือทำตาโตทันทีที่ได้ยิน ผู้ถูกถามหน้าแดงแป๊ดเป็นลูกตำลึง ส่วนอีกคนอ้าปากจะอุทานอะไรออกมาแต่ยังดีที่เพื่อนของเธอรีบปิดปากไว้ทันก่อนที่จะส่งเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามอง
"ว่าไงล่ะ" หล่อนถามย้ำหลังจากเอามือที่ปิดปากเพื่อนออก
"อยากฟังจริงๆหรอ" ถามอย่างเขินอาย
"ก็อยากน่ะสิ" ผู้ถูกถามตอบกลับเสียงหนักแน่น อีกคนพยักหน้าหงึกเป็นเชิงสนับสนุนคำพูดของอีกฝ่าย (กลัวจะโดนปิดปากอีกเลยเงียบไว้จะดีกว่า)
หญิงสาวหน้าแดงไปยิ้มไป ก่อนจะเริ่มเล่าด้วยเสียงที่คิดว่าเบาที่สุด "คือว่า...เมื่อคืนนั้น....."
......................................................
"คุณนายแม็กคลินไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลนะครับ ผมจะออกให้เอง เป็นสวัสดิการของทางบริษัทน่ะครับ" บิลพูดกับผู้เป็นแม่ของนายจอร์จ แม็กคลินหลังจากที่ทั้งสามเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย โดยจอร์จยังคงนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง ตามลำตัวและแขนขวาถูกเข้าเฝือก
"ขอบคุณมากนะคะ คุณคอนเนลลี่" นางแม็กคลินกล่าวขอบคุณอย่างใจจริง ใบหน้านางดูอิดโรย ซีดเซียว ฉายแววกังวลและเป็นทุกข์เรื่องลูกคนเดียวของตน
"ตอนนี้อาการแม็กคลินก็พ้นขีดอันตรายแล้ว ผมว่าคุณนายน่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนซักหน่อยนะครับ เกิดไม่สบายเป็นอะไรไปอีกคนจะแย่เปล่าๆ ยังไงก็จ้างพยาบาลพิเศษให้มาดูแลอยู่แล้ว ไม่น่าต้องเป็นห่วงทางนี้มากนัก" บิลเตือนด้วยความเป็นห่วง
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ ดิฉันก็ว่าจะกลับไปพักผ่อนซักหน่อยแล้วเย็นๆค่อยมาใหม่ ว่าจะเอาเสื้อผ้ามาค้างที่นี่เลย ยังไงดิฉันก็ขอบคุณคุณคอนเนลลี่กับคุณโกลเบิร์กมากนะคะที่อุตส่าห์มาเยี่ยม" นางพูด
"ไม่เป็นไรครับ คนกันเอง" เรย์แลนด์พูดขึ้นบ้าง
"ใช่ครับ ยังไงแม็กคลินก็เป็นลูกน้องผม ถึงจะเป็นลูกจ้างผมก็ต้องให้ความสำคัญอยู่แล้วครับ" บิลบอกพลางยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน
นางยิ้มตอบให้ทั้งสองด้วยความซาบซึ้งใจ
"ถ้างั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนก็แล้วกันนะครับ พอดีมีงานต้องทำต่อที่บริษัท แล้ววันหลังพวกเราจะมาเยี่ยมใหม่นะครับ" บิลพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่ต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
"โชคดีนะครับ"
"แล้วเจอกันครับ"
หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกจากโรงพยาบาล ขณะที่เดินผ่านหน้าเค๊าเตอร์ที่ผ่านมาในตอนแรกบิลก็สังเกตเห็นสายตาร้อนแรงสามคู่ที่กำลังจับจ้องเขาอยู่ บิลจึงจงใจที่จะหันไปยิ้มหว่านสเน่ห์ แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าคุ้นเคยของหญิงสาวที่กำลังก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย เขาแตะไหล่ผู้ช่วยหนุ่มเบาๆเป็นเชิงให้หยุดเดินก่อนจะตรงเข้าไปที่หน้าเค๊าเตอร์ทันทีโดยไม่ลืมที่จะส่งสายตาเจ้าชู้ โดยที่เรย์แลนด์มองตามอย่างพอจะเดาการกระทำของเจ้านายตนเองได้ จึงได้แต่ลอบถอนหายใจด้วยความระอาเพราะความเคยชิน
"คุณมาเรียใช่มั๊ยครับ" บิลเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ แต่เมื่อเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตอบรับเขาก็แน่ใจทันที "ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอคุณที่นี่ ไม่เจอกันซะนานเลยนะครับ"
"เอ่อ...ใช่ค่ะ คุณจำฉันได้ด้วยเหรอคะ" เธอตะกุกตะกักถามอย่างเขินอาย
"แหม จำได้สิครับ ทำไมผมจะจำคนสวยอย่างคุณไม่ได้ล่ะ" บิลพูดพลางทำตาหวานทำให้อีกฝ่ายยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ "ไม่รู้มาก่อนเลยนะครับว่าคุณทำงานเป็นนางพยาบาล ยิ่งคุณอยู่ในชุดขาวแบบนี้ยิ่งน่าหลงใหลเข้าไปใหญ่"
"ฮะแฮ่ม!" เรย์แลนด์แกล้งกระแอมเป็นเชิงเตือนคนที่กำลังแสดงบทจีบสาวให้รู้ถึงเวลาและงานที่ต้องทำ
บิลหันไปตามเสียง ไหวไหล่อย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก ก่อนจะหันกลับไปทางหญิงสาว "น่าเสียดายจริงที่ผมต้องรีบไปเพราะมีธุระ ผมคงต้องขอตัวก่อน ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ" เขาพูดจบก็ยื่นมือไปจับกับหญิงสาวเป็นการบอกลา
"เช่นกันค่ะ"
หลังจากที่หญิงสาวยื่นมือมาจับด้วยเธอจึงดึงมือออก แต่ก็ถูกชายหนุ่มรั้งไว้ไม่ยอมปล่อยพร้อมทั้งเอ่ยถาม "ปกติคุณเลิกงานกี่โมงครับ มาเรีย"
"เอ่อ...ประมาณหกโมงเย็นค่ะ" หญิงสาวตอบเสียงแหบพร่า ก้อมหน้าหลบสายตาที่มองมาอย่างร้อนแรง
"ดีเลยครับ ถ้าอย่างงั้นไว้วันไหนผมว่างจะมารับไปดินเนอร์นะครับ" ไม่พูดเปล่า ยกมือหญิงสาวที่ยังจับอยู่ขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบาที่หลังมือ "แล้วพบกันครับ มาเรีย" จากนั้นจึงปล่อยมืออย่างเชื่องช้าแล้วหันไปยิ้มให้หญิงสาวอีกสองคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล "ลาก่อนครับ"
บิลเดินออกมาจากหน้าเค๊าเตอร์แล้วเดินนำเรย์แลนด์ออกไปที่ประตูทางเข้า เรย์แลนด์หันไปมองปฏิกิริยาของหญิงสาวทั้งสามที่บ่งบอกความรู้สึกตอนนั้นอย่างชัดเจนแล้วนึกขันในใจก่อนจะเดินตามผู้เป็นเจ้านายออกไป
ความคิดเห็น