ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับปีสุดท้ายในฮอกวอตส์

    ลำดับตอนที่ #17 : กลับบัลแกเรีย

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 48




                  กลางดึกของคืนวันเดียวกันนั้น  แฮร์รี่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด  เขาหยิบแว่นตาขึ้นมาสวมแล้วมองไปที่เตียงของรอนซึ่งอยู่ข้างๆ  เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่ารอนยังคงหลับสนิทเขาก็จุดตะเกียงที่หัวเตียงแล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่เขาเก็บไว้ใต้หมอนขึ้นมา  มันคือสมุดบันทึกที่ซีเรียสให้เขาเป็นของขวัญคริสมาสต์  หลังจากวันที่เขาได้หนังสือเล่มนี้ก็มีเรื่องต่างๆเกิดขึ้นมากมายจนทำให้เขาเกือบจะลืมหนังสือเล่มนี้ซะสนิท  และวันนี้โอกาสของเขาก็มาถึง  โอกาสที่เขาจะได้ทดลองใช้สมุดบันทึกเล่มนี้ตามลำพังระหว่างที่ทุกคนกำลังหลับสนิท



                  แฮร์รี่กางสมุดบันทึกออกเผยให้เห็นถึงหน้ากระดาษที่ว่างเปล่า  เขาเอาปากกาขนนกจุ่มที่ขวดหมึกและเริ่มเขียนคำว่า  \"สวัสดีฮะ\"  ลงไปเป็นคำแรก  เขานั่งลุ้นเพื่อให้ข้อความใหม่ปรากฏขึ้นอย่างตื่นเต้น  แต่แล้วเวลาผ่านไป  แฮร์รี่รอแล้วรออีกก็ไม่มีคำตอบใดๆปรากฏขึ้นเลย  เขาจึงตัดสินใจเขียนลงไปใหม่อีกครั้ง



                  \"สวัสดีฮะ  คุณคือเจมส์ พอตเตอร์ใช่ไหมฮะ\"



                  แฮร์รี่นั่งลุ้นด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง  และในที่สุดข้อความของแฮร์รี่ก็หายไปและมีข้อความใหม่ปรากฏขึ้นแทนที่



                  \"ใช่  ฉันคือเจมส์ พอตเตอร์  เธอคือใคร\"



                  แฮร์รี่ดีใจอย่างที่สุดที่มีข้อความตอบกลับมาจากพ่อของเขา  เขาจุ่มปากกาลงในขวดหมึกอีกครั้งแล้วลงมือเขียนตอบกลับไป  พ่อจะแปลกใจไหมนะถ้าเราบอกไปว่าเราคือแฮร์รี่ พอตเตอร์ลูกของเขาเอง  แล้วเขาจะเชื่อเราหรือเปล่า



                  \"ผมชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์\"  



                  เวลาผ่านไปข้อความของแฮร์รี่ก็ยังคงอยู่อย่างนั้น  แต่แฮร์รี่ก็ยังเฝ้ารอคำตอบจากพ่อของเขา  และข้อความของแฮร์รี่ก็หายไปในที่สุด  ต่อด้วยข้อความใหม่ที่ปรากฏขึ้นมา



                  \"แฮร์รี่..เธอคือแฮร์รี่ลูกของฉันจริงๆเหรอ\"



                  หลังจากที่ข้อความนั้นหายไปแฮร์รี่ก็เขียนตอบกลับไปในทันที  \"จริงฮะ\"



                  \"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย  เธอได้สมุดบันทึกเล่มนี้มาได้ยังไง\"  ข้อความใหม่ปรากฏขึ้น



                  \"คุณซีเรียสให้ผมเป็นของขวัญวันคริสมาสต์ฮะ  เขาบอกผมทุกอย่างเกี่ยวกับสมุดบันทึกเล่มนี้\"



                  \"ฉันไม่นึกเลยว่าฉันจะได้มีโอกาสได้พูดคุยกับลูกของตัวเองหลังจากที่ฉันตายแล้ว\"



                  \"ผมก็เหมือนกันฮะ  ผมไม่นึกไม่ฝันเลยว่าผมจะมีโอกาสได้คุยกับพ่ออีกครั้งหลังจากที่ผมพบพ่อเมื่อสามปีก่อนตอนที่พ่อกับแม่ออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของโวลเดอมอร์\"



                  \"ฉันจำได้  ตอนนั้นเรามีโอกาสได้พบกันในช่วงระยะเวลาสั้นๆก่อนที่เธอจะหนีไป  พอฉันเห็นเธอครั้งแรกฉันก็คิดว่าเธอเหมือนกับฉันตอนสมัยยังเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์มาก  ไม่เว้นแม้แต่หน้าตาหรือทรงผม  ยกเว้นตาของเธอที่เหมือนกับลิลลี่\"



                  แฮร์รี่บังคับน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลออกมาก่อนที่เขาจะระบายความรู้สึกที่อัดอั้นตันใจเขาอยู่ตลอดระยะเวลา 17 ปีให้พ่อของตัวเองรับรู้



                  \"พ่อกับแม่เสียตั้งแต่ผมยังเล็กผมเลยไม่มีโอกาสได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากับพ่อและแม่  ผมต้องถูกส่งไปอยู่กับลุงและป้าที่เกลียดผม  ผมต้องอดทนอยู่ในบ้านหลังนั้นมาตลอดจนถึงเดี๋ยวนี้  ผมอยากจะไปจากบ้านพวกเดอร์สลีย์เต็มทีแล้ว   ผมเกลียดโวลเดอมอร์  เขาเป็นคนทำให้ผมกำพร้าพ่อและแม่  เขาฆ่าพ่อกับแม่  ผม..เกลียดมัน\"



                  \"แฮร์รี่..ฉันเสียใจ  ลิลลี่กับฉันก็รู้สึกไม่ต่างกับเธอมากนัก  ฉันเสียใจที่ฉันไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ของพ่อที่ดีให้กับเธอได้  ฉันเสียใจที่ไม่สามารถทำให้เธอได้รับความรักและความอบอุ่นจากครอบครัวในขณะที่เธออยู่บ้านพวกเดอร์สลีย์  ถ้าฉันย้อนเวลากลับไปได้ฉันก็อยากจะกลับไปมีชีวิตอีกครั้งเพื่อทำหน้าที่พ่อในตอนนี้ให้ดีที่สุดเพื่อชดเชยกับเวลาที่ฉันต้องปล่อยให้เธอทนทุกข์มาตลอด 17 ปี  แต่ฉันอยากให้เธอรับรู้ว่าลิลลี่กับฉันก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเธอเลย  เราสองคนใฝ่ฝันอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น  มีลูกน่ารักๆอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุข  แต่ฝันนั้นก็ไม่สามารถเป็นจริงได้อีกแล้ว  แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด  ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงอดีตที่ผ่านมาได้  เราได้แต่เผชิญหน้ายอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น\"



                  \"แบบนั้นมันไม่ยุติธรรม  ทำไมเรื่องนี้ต้องมาเกิดกับเราด้วย\"



                  \"เธออย่าเสียใจไปเลยแฮร์รี่  ถึงแม้เธอจะไม่มีฉันแต่เธอก็มีซีเรียส  ฉันรับรองว่าซีเรียสต้องทำหน้าที่พ่อแทนฉันได้ดีไม่ด้อยไปกว่าฉันแน่นอน  ซีเรียสเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังผ่านบันทึกเล่มนี้เสมอๆ  เขาเล่าถึงวีรกรรมของเธอในฮอกวอตส์ให้ฟังด้วย  ฉันอดขำไม่ได้เพราะมันทำให้ฉันย้อนนึกถึงสมัยที่ฉันยังเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์  เธอไม่ต่างกับฉันเลยแฮร์รี่  ถึงแม้เธอจะซนไปบ้างแต่ฉันก็รู้ว่าเธอเป็นเด็กดี  เป็นลูกที่ฉันสามารถภาคภูมิใจได้\"



                  น้ำตาของแฮร์รี่หยดลงบนสมุดบันทึก  เขารีบปาดน้ำตาทันทีเพราะกลัวว่าเจมส์จะรู้ว่าเขาร้องไห้เป็นเด็กๆถึงแม้เจมส์จะไม่เห็นเขาก็ตาม  \"ขอบคุณมากฮะ  พ่อทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น  ผมไม่นึกเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมาอีกแล้ว  แล้วตอนนี้ผมก็มีความสุขที่ได้พูดคุยกับพ่อแบบนี้  และมีพ่อบุญธรรมอย่างคุณซีเรียส  พ่อพูดถูก  คุณซีเรียสดีกับผมมาก  และผมก็รักและเคารพเขามากฮะ\"



                  \"ดีแล้ว..แฮร์รี่  ซีเรียสจะช่วยเติมเต็มความรักที่ขาดหายไปให้กับเธอ  และตอนนี้เธอก็โตพอที่จะดูแลและรับผิดชอบตัวเองได้  ฉันคงไม่มีอะไรต้องห่วงเรื่องของเธออีกแล้ว  แต่ถ้าเธอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือมีความทุกข์ที่จะระบายให้ฉันฟังฉันก็ยินดีรับฟังและช่วยเธอแก้ปัญหาด้วยความเต็มใจ  ฉันจะคอยเฝ้าดูเธอและอยู่เคียงข้างเธอผ่านสมุดบันทึกเล่มนี้  เธอกับฉันจะสามารถคุยกันอย่างนี้ได้อีกเมื่อไหร่ก็ได้ยามที่เธอต้องการเพียงแค่เปิดสมุดบันทึกเล่มนี้เท่านั้น  เอาล่ะแฮร์รี่  ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว  เธอควรจะนอนพักผ่อนซะนะ  แล้วเราค่อยคุยกันใหม่วันหน้า\"



                  \"ฮะ  ผมต้องกลับมาคุยกับพ่อแบบนี้อีกแน่นอนฮะ  ราตรีสวัสดิ์ฮะ\"



                  \"ราตรีสวัสดิ์แฮร์รี่\"  ข้อความสุดท้ายผุดขึ้นมาก่อนจะจางหายไปเหลือแต่หน้ากระดาษสีขาวสะอาด  แฮร์รี่ปิดสมุดบันทึกแล้วนำไปสอดไว้ใต้หมอน  เขามองดูนาฬิกาข้อมือที่วางไว้ข้างตะเกียง  ตีสองแล้วหรือนี่ - - แฮร์รี่คิด - - เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน  แฮร์รี่ถอดแว่นตาวางไว้ข้างๆนาฬิกาข้อมือแล้วดับไฟที่ตะเกียงก่อนจะล้มตัวลงนอนเอามือทั้งสองข้างหนุนศรีษะและยิ้มอย่างมีความสุข...



                  หลายวันต่อมา  แฮร์รี่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพบว่าในห้องนอนที่เคยเงียบเหงากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง  เนวิล  ดีน  และเชมัสกล่าวทักทายอรุณสวัสดิ์เขาอย่างร่าเริง  จริงสินะ..วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกนี่ - - แฮร์รี่คิด - - เมื่อวานบรรดานักเรียนฮอกวอตส์ต่างทยอยกันกลับมาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันเปิดเทอมในวันรุ่งขึ้นซึ่งรวมถึงเนวิลล์  ดีน  และโทมัสด้วย  



                  แฮร์รี่ปลุกรอน  จากนั้นก็จัดแจงใส่เสื้อผ้า  และเมื่อรอจนรอนแต่งตัวเสร็จทั้งสองก็เดินลงมาพบเฮอร์ไมโอนี่ที่ห้องนั่งเล่นรวม  เมื่อลงมาถึงแฮร์รี่ก็ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นจินนี่นั่งคุยอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่  เขาไม่ได้เห็นหน้าจินนี่มาหลายวันแล้ว  และการที่พบกันเธอซึ่งๆหน้าแบบนี้ทำให้เขาวางตัวไม่ถูก



                  เมื่อจินนี่เงยหน้าขึ้นมาพบแฮร์รี่ยืนอยู่เธอก็ตกใจลุกพรวดจากโซฟา  ใบหน้าของเธอแดงก่ำ  \"อะ..อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่รอน  พี่แฮ..แฮร์รี่\"  เธอทักทายทั้งสองอย่างตะกุกตะกักก่อนจะหันไปพูดกับเฮอร์ไมโอนี่  \"ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ  พี่เฮอร์ไมโอนี่  แล้วค่อยคุยกันใหม่\"  เมื่อจินนี่พูดจบเธอก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่นรวม  รอนและเฮอร์ไมโอนี่มองตามเธอด้วยความแปลกใจ  ส่วนแฮร์รี่ก็รู้สึกสับสนว่าเขาควรจะโล่งใจหรือไม่พอใจดีที่จินนี่จงใจหลบหน้าเขาอย่างเห็นได้ชัด



                  \"ยัยจินนี่เป็นอะไรไปนะ  ทำอย่างกับจะหนีใครงั้นแหล่ะ\"  รอนพูด



                  \"ฉันก็รู้สึกว่าจินนี่ดูแปลกๆไปตั้งแต่เมื่อตอนปิดเทอมแล้ว\"  เฮอร์ไมโอนี่สงสัย  \"ไม่รู้มีเรื่องกลุ้มใจอะไรหรือเปล่า  ระยะหลังมานี่เห็นชอบเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว\"



                  \"ชักน่าเป็นห่วงแฮะ\"  รอนบอก  



                  \"เมื่อกี๊ก่อนที่ฉันกับรอนจะลงมาจินนี่พูดอะไรกับเธอบ้างเหรอ\"  แฮร์รี่ถามเสียงค่อย  เขาคิดว่าจินนี่จะเล่าเรื่องเมื่อวันก่อนในห้องสมุดให้เฮอร์ไมโอนี่ฟังรึเปล่า



                  \"ก็ไม่มีอะไรนี่  เธอก็แค่ถามเรื่องการเรียนน่ะ\"  เฮอร์ไมโอนี่ตอบ  \"เธอถามทำไมเหรอ  หรือว่าเธอรู้ว่าจินนี่เป็นอะไร\"



                  \"ฉะ..ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ  ก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง\"  แฮร์รี่รีบตอบ



                  \"อือฮึ...\"  รอนพยักหน้า  \"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ  ฉันว่าเรารีบไปที่ห้องโถงเถอะ  ฉันหิวแล้ว\"



                  \"ก็ได้\"  เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเดินนำทั้งสองไปที่ห้องโถงใหญ่



                  ทั้งสามเดินมาถึงหน้าห้องโถงพร้อมๆกับครัม  ทั้งสี่จึงเดินเข้าไปรับประทานอาหารเช้าที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ด้วยกัน  และระหว่างรับประทานอาหารกันอยู่นั้นครัมก็พูดขึ้น  



                  \"เย็นวันนี้ฉันต้องกลับบัลแกเรียแล้วล่ะ\"



                  \"จริงเหรอ...\"  เฮอร์ไมโอนี่พูด



                  \"เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านไปสองเดือนแล้ว  เร็วจังนะ\"  แฮร์รี่สมทบ



                  \"แล้วนายจะกลับยังไงล่ะ  รถไฟเหรอ\"  รอนถาม



                  \"เปล่า  ฉันจะหายตัวไป\"  ครัมตอบ



                  \"อ้อ..จริงสิ  ฉันลืมไป\"  รอนนึกขึ้นได้ว่าครัมเรียนจบตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้วและสอบใบอนุญาตหายตัวได้แล้ว



                  \"งั้นแสดงว่าตอนมานายก็หายตัวมาน่ะสิ\"  แฮร์รี่ถามบ้าง



                  \"ใช่แล้ว\"



                  \"แต่ไม่มีใครหายตัวได้ที่ฮอดวอตส์นะ\"  เฮอร์ไมโอนี่ท้วง



                  \"ใช่  แต่ฉันไม่ได้หายตัวมาที่ฮอกวอตส์หรอก  ฉันหายตัวมาที่ฮอกมี้ดส์ก่อนแล้วค่อยเดินเข้ามา\"  ครัมบอก  \"แล้วเย็นนี้ฉันก็ต้องไปฮอกมี้ดส์เพื่อไปหายตัวที่นั่น\"



                  \"ถ้างั้นเย็นนี้เราจะไปส่งเธอนะ  แต่พวกเราคงไปส่งเธอได้ถึงแค่หน้าประตูทางเข้าฮอกวอตส์\"  เฮอร์ไมโอนี่พูด



                  \"ไม่เป็นไร  ขอบใจมาก  แต่ที่จริงไม่ต้องไปส่งฉันก็ได้  จะยุ่งยากเปล่าๆ\"



                  \"ไม่เลย  พวกเราเต็มใจ\"  แฮร์รี่บอก



                  \"ใช่ๆ  ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันแล้วนี่\"  รอนพูดบ้าง



                  ครัมยิ้มและพูด  \"ขอบใจมาก\"



                  เมื่อถึงเวลาเย็น  บรรดานักเรียนฮอกวอตส์รับประทานอาหารเย็นเสร็จก็กลับห้องนั่งเล่นรวม  ยกเว้นแฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินไปที่หน้าประตูปราสาทพร้อมกับครัมและดัมเบิลดอร์  ก่อนหน้านี้พวกแฮร์รี่จะไปขออนุญาตศาสตราจารย์มักกอนนากัลเพื่อไปส่งครัมที่หน้าประตูทางเข้าฮอกวอตส์  แต่เมื่อพวกเขาไปถึงห้องทำงานของเธอก็พบว่าศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์กลับมาแล้ว (ดัมเบิลดอร์ไปกับมัลฟอยเมื่อหลายวันก่อน) และกำลังนั่งคุยอยู่กับเธอด้วยท่าทางเคร่งเครียด  มักกอนนากัลอนุญาต  และพวกเขาก็ได้รู้ว่าดัมเบิลดอร์ก็จะไปส่งครัมเช่นกัน



                  แฮร์รี่คิดว่าเขาควรจะถามดัมเบิลดอร์เรื่องมัลฟอยดีไหม  แต่มาคิดๆดูแล้วเรื่องของมัลฟอยก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา  แฮร์รี่จึงตัดสินใจที่จะไม่ถาม  แต่ที่แฮร์รี่ประหลาดใจก็คือดูเหมือนว่าดัมเบิลดอร์จะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เพราะจู่ๆเขาก็พูดออกมาว่า  



                  \"เรื่องของเดรโก มัลฟอยเธอจะได้รู้พร้อมกับนักเรียนคนอื่นๆในเช้าวันรุ่งขึ้น\"  



                  เมื่อเดินไปถึงหน้าประตูปราสาท  ทั้งสี่คนก็กล่าวอำลากัน  ดัมเบิลดอร์อวยพรให้ครัมเดินทางอย่างมีสวัสดิภาพพร้อมทั้งยื่นห่ออาหารและขนมจำนวนหนึ่งให้  ดัมเบิลดอร์ยังบอกอีกว่าถ้าครัมอยากจะมาเที่ยวเมื่อไหร่ก็มาได้  ฮอกวอตส์ยินดีต้อนรับทุกเมื่อ  ครัมกล่าวของคุณและรับของมาอย่างเกรงใจ  หลังจากนั้นครัมก็เดินออกจากประตูเพื่อตรงไปยังหมู่บ้านฮอกมี้ดส์  



                  \"ช่วงนี้มีอะไรผิดปกติกับเธอบ้างหรือเปล่า  แฮร์รี่\"  ดัมเบิลดอร์ถามขึ้นเมื่อครัมเดินลับตาไป



                  \"เอ๊ะ..ไม่นี่ฮะ\"  แฮร์รี่ตามอย่างงุนงง



                  \"งั้นหรือ...\"  ดัมเบิลดอร์ทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะพูดต่อ  \"แล้วในชั่วโมงวิชาปรุงยาล่ะ  มีปัญหาอะไรไหม\"



                  \"ไม่มีนี่ฮะ...\"  แฮร์รี่ยิ่งงงและสงสัยยิ่งกว่าเดิม  \"อาจารย์ถามทำไมเหรอฮะ\"



                  ดัมเบิลดอร์เงียบไปซักพักก่อนจะพูดขึ้น  \"ฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้...\"



                  \"เรื่องอะไรเหรอฮะ\"  แฮร์รี่ถามต่ออย่างสงสัย



                  \"ถ้ามีเรื่องผิดสังเกตหรือผิดปกติอะไรให้รีบบอกฉันทันทีเลยนะ  หรือไม่ก็บอกซีเรียสก็ได้  เพราะยังไงซีเรียสก็ต้องมาบอกฉันอยู่ดี\"  ดัมเบิลดอร์พูด  \"เอาล่ะ  พวกเธอทั้งสามก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่มรวมเถอะ  ฉันก็จะกลับห้องทำงานของฉันเหมือนกัน  มีงานที่ต้องทำอีกเยอะ\"  



                  ดัมเบิลดอร์เดินนำทั้งสามคนเข้าไปในปราสาท  แฮร์รี่สังเกตว่าดัมเบิลดอร์ถามอะไรแปลกๆซ้ำยังไม่ตอบคำถามของเขาอีกทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย  แต่เขาก็ไม่พูดอะไรออกไป  จนกระทั่งทั้งสี่กล่าวราตรีสวัสดิ์และดัมเบิลดอร์ก็เดินแยกไปทางห้องทำงานของเขาเอง  ส่วนพวกแฮร์รี่ก็เดินตรงไปทางห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์  



                  \"เมื่อกี๊อาจารย์ใหญ่เค๊าพูดถึงอะไรน่ะ  แฮร์รี่\"  เฮอร์ไมโอนี่ถามระหว่างที่พวกเขาขึ้นบันไดกลที่จะเปลี่ยนทิศทางเองตลอดเวลา



                  \"ฉันก็ไม่รู้  เขาถามอะไรแปลกๆแล้วฉันก็ไม่เข้าใจ  พอฉันถามก็ดูเหมือนว่าดัมเบิลดอร์จะเลี่ยงที่จะตอบคำถามฉัน\"  แฮร์รี่ตั้งข้อสังเกต



                  \"แล้ววิชาปรุงยาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ  เมื่อกี๊ดัมเบิลดอร์ก็พูดถึง\"  รอนถามบ้าง



                  \"ฉันไม่รู้...\"  แฮร์รี่เงียบไปพักหนึ่งและเขาก็นึกขึ้นได้  ความผิดปกติเกี่ยวกับสเนปที่เขาสังเกตเห็นเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน  เริ่มตั้งแต่เขาเห็นสเนปยืนพูดคุยอยู่กับลูเซียส มัลฟอยที่ฮอกมี้ดส์  ไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาก็เห็นดวงตาของสเนปเป็นสีแดงระหว่างการแข่งขันควิดดิช  กระทั่งเขามีอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าผากจนทำให้เขาต้องตกจากไม้กวาด  และล่าสุดในคืนวันคริสมาสต์ที่เขาเห็นสเนปรีบร้อนลงไปทางคุกใต้ดินทั้งๆที่เขาบอกกับดัมเบิลดอร์ว่าป่วยหนักจนไม่สามารถมาร่วมงานเลี้ยงได้  หรือดัมเบิลดอร์จะหมายถึงเรื่องนี้ - - แฮร์รี่คิด - - ดัมเบิลดอร์ก็สงสัยเรื่องสเนปเหมือนกันหรอ  เขาจะสังเกตได้ถึงอาการผิดปกติของสเนปด้วยงั้นเหรอ  นอกจากรอนและเฮอร์ไมโอนี่แล้วเขายังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังแม้แต่ซีเรียส  เขาคิดว่ามันอาจจะทำให้ซีเรียสต้องไม่สบายใจ  และเขาก็อาจจะวิตกกังวลมากเกินไปก็ได้  เพราะจนเดี๋ยวนี้นอกจากจะตกจากไม้กวาดแล้วก็ยังไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขาเลย  ดังนั้นแฮร์รี่จึงตัดสินใจที่จะยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้ดัมเบิลดอร์หรือซีเรียสฟัง  จนกว่าเขาจะแน่ใจว่ามีเรื่องอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเขาเองจริงๆ







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×