ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักอลวัน หอพักอลเวง

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 : อุบัติเหตุในห้องนอน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 49



                  R..R..R..R.....

                  "อืม....."

                  R..R..R..R.....

                  เสียงโทรศัพท์มือถือปลุกให้หญิงสาวที่นอนหลับไหลอยู่ในห้อง 406 ตื่นขึ้น  ทันทีที่ลืมตาก็ควานหาโทรศัพท์ต้นเสียงในกระเป๋าเสื้อสูทแล้วกดรับ

                  "ฮัลโหล....."

                  "ฮัลโหล  เจส  ผมเรย์เองนะ"

                  ทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสายเจสสิก้าก็กระเด้งตัวขึ้นจากที่นอนลุกขึ้นนั่งทันที  "เรย์!"

                  "ทำอะไรอยู่เหรอ  รบกวนรึเปล่า"  ชายหนุ่มถาม

                  "ไม่หรอกค่ะ  เจสจัดของเสร็จตั้งนานแล้วก็เลยนอนเล่นอยู่ในห้องน่ะ"  เจสสิก้าบอก  "แล้วเรย์ล่ะคะ  ทำอะไรอยู่"

                  "อยู่เตรียมเอกสารน่ะ  แต่ใกล้จะเสร็จแล้ว  แล้วเดี๋ยวก็จะกลับเลย"

                  "ตอนนี้เรย์อยู่ไหนเหรอคะ  เจสไปหาได้รึเปล่า  มันเหงาๆเบื่อๆอ่ะไม่มีอะไรทำ"  หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนนิดๆ

                  ชายหนุ่มหัวเราะ  "ได้สิ  ตอนนี้ผมอยู่ห้องพยาบาล  มาถูกรึเปล่าล่ะ"

                  "ห้องพยาบาล?  เรย์ไปทำอะไรที่ห้องพยาบาลคะ  หรือว่าเรย์เป็นอะไรหรือเปล่า"  เจสสิก้าถามด้วยความเป็นห่วง

                  "เปล่า  ผมไม่ได้เป็นอะไร"  ชายหนุ่มรีบบอก  "เป็นห่วงเหรอ?"

                  "แหม...ก็เป็นห่วงน่ะสิ"  เจสสิก้าพูดอย่างเขินๆ

                  ชายหนุ่มยิ้มกว้างด้วยความยินดีแม้หญิงสาวจะมองไม่เห็นก็เถอะ

                  "แล้วตกลงเรย์ไปทำอะไรที่ห้องพยาบาลล่ะ"  เจสสิก้าซักต่อ  รีบเปลี่ยนเรื่อง

                  "ก็ผมเป็นอาจารย์ประจำห้องพยาบาลไง  แต่ระหว่างนั้นก็ปฏิบัติหน้าที่ไปด้วย"  เรย์แลนด์ตอบ

                  "อาจารย์ห้องพยาบาล!?  เจสคิดว่าเรย์ปลอมตัวมาเป็นอาจารย์สอนหนังสือซะอีก  คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ย"

                  "ทำไมล่ะ  ผมมาดไม่ให้เหรอ  หรือว่าอย่างผมดูไม่เหมาะที่จะเป็นหมอ"  เรย์แลนด์พูดกลั้วหัวเราะอย่างหยอกเย้า

                  "เจสไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นซะหน่อย"

                  "ผมคงยังไม่เคยเล่าให้เจสฟังสินะว่าเมื่อสมัยเรียนมหา'ลัยผมเคยไปเป็นแพทย์อาสาที่ค่ายทหารชายแดนมาก่อน  เลยพอมีความรู้เรื่องนี้มาบ้าง"

                  "จริงเหรอคะ  เจสชักอยากเห็นเรย์ในมากคุณหมอแล้วสิ  งั้นเจสไปหาตอนนี้เลยนะคะ"

                  "ได้สิ  ผมจะรอนะ"  เรย์แลนด์บอกยิ้มๆ

                  "งั้นแค่นี้นะคะ  แล้วเจอกันค่ะ"

                  "แล้วเจอกันครับ"

                   เจสสิก้ากดวางสายก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือลงที่เดิม  ลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าและผมเผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป  ระหว่างทางก็เจอคนรู้จักที่เป็นเพื่อนร่วมห้องเลยถามทางไปห้องพยาบาล  เมื่อได้รับคำตอบจึงเดินต่อไปยังจุดมุ่งหมาย 

                  เจสสิก้าเดินมาตามทาง  ระหว่างทางก็ผ่านอาคารพละกับโรงยิมที่ค่อนข้างใหญ่โตจนเจสสิก้าอดตื่นเต้นไม่ได้  ประตูที่เปิดแง้มอยู่ทำให้เห็นสนามบาสเกตบอลภายใน  กว้างขวางโอ่อ่าสมกับเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเรื่องทีมบาสเกตบอลของโรงเรียนที่ได้อันดับสองของประเทศ  แต่ในเวลานี้สนามยังคงว่างเปล่าไร้ผู้คน  เจสสิก้าคิดไว้ว่าจะหาโอกาสมาดูทีมบาสเกตบอลชายของโรงเรียนนี้ให้ได้  แล้วถ้าให้ดีเธออาจจะสมัครเข้าชมรมบาสฯด้วย

                  ((**ทีมบาสเกตบอลของโรงเรียนเซนต์มาร์ติดเนทได้ที่สองของการแข่งขันระดับสถาบัน  คือการแข่งขันกันระหว่างทีมบาสเกตบอลของแต่ละโรงเรียนทั่วประเทศ))

                  ในที่สุดเธอก็เดินมาถึงหน้าห้องพยาบาล  เคาะประตูเบาๆก่อนจะเปิดเข้าไป  พบชายหนุ่มผมดำยาวแต่ถูกรวบไว้ดูไม่คุ้นตายืนหันหลังให้เธออยู่ตรงริมหน้าต่าง  ทันทีที่เธอก้าวเข้ามาชายหนุ่มก็หันมายิ้มให้  แม้ทรงผมกับสีผมและสีตาจะไม่เหมือนเดิม  แต่เจสสิก้าก็จำรอยยิ้มนั่นได้

                  "เรย์?  นั่นเรย์เหรอคะ"  เจสสิก้าถามพลางเดินเข้าไปสังเกตใกล้ๆ

                  "แล้วคิดว่าใครล่ะครับ"  ชายหนุ่มยิ้ม  ทั้งเสียงและรอยยิ้มนั่นทำให้เจสสิก้ามั่นใจ

                  "โอ้โห!  เจสแทบจำไม่ได้แน่ะค่ะ  สีตากับสีผมก็เปลี่ยนไป  แถมยาวถึงกลางหลังแน่ะ"  หญิงสาวพูดด้วยความทึ่ง

                  "ไปต่อเอาน่ะครับ จากนั้นก็ค่อยไปย้อมเป็นสีดำ  ส่วนตานี่ก็ใส่คอนแทคเลนส์สีน้ำเงิน  แล้วก็ใส่แว่นตาทับอีกที"  ชายหนุ่มอธิบาย  (แว่นธรรมดาไม่ใช่แว่นสายตา)

                  "เรย์อยู่ในชุดแบบนี้เจสว่าดูดีไปอีกแบบนะคะ"  เจสสิก้าบอกพลางพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตั้งใจ  เล่นเอาเรย์แลนด์เขินไปเหมือนกัน

                  "ขอบคุณครับ  ส่วนเจสก็เท่ห์ไม่หยอกนะ  ระวังล่ะจะเนื้อหอมจนตั้งตัวไม่ทัน"  ชายหนุ่มล้อ

                  "แหม  เรย์ก็พูดเกินไป"

                  "ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว  ผมว่าได้เวลาต้องกลับซะที  แต่ว่าก่อนกลับจะแวะหาอะไรทานก่อน  เจสหิวรึยังครับ  ไปทานด้วยกันมั้ย"

                  "ดีเหมือนกันค่ะ  เจสก็หิวด้วย  ยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่กลางวันแล้ว"

                  "อ้าว  จริงเหรอ  งั้นไปกันเลยนะครับ  เดี๋ยวผมขอเก็บของก่อนนะ"  เรย์แลนด์บอกก่อนจะหันหลังเดินไปเก็บเอกสารบางอย่างบนโต๊ะเข้ากระเป๋า  แล้วเคลียร์ของบนโต๊ะให้เรียบร้อยก่อนจะพาเจสสิก้าเดินออกไป


    ......................................................


                  กว่าเจสสิก้าจะกลับเข้าหอก็เป็นเวลามืดแล้ว  เมื่อเข้าไปในห้องก็พบรูมเมทที่เธอแสนจะไม่ชอบหน้านั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ  หันหลังให้ทางประตูห้อง  ชายหนุ่มหันมามองเธอแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปสนใจหนังสือตรงหน้าต่อ 

                  เมื่อตอนที่ชายหนุ่มหันมาเจสสิก้าชะงักเล็กน้อยเพราะเห็นชายหนุ่มใส่แว่นอยู่  เจสสิก้าแอบชำเลืองมองอย่างพิจารณา  ใบหน้าที่สวมแว่นท่าทางตั้งอกตั้งใจก็ดูดีไปอีกแบบ  ดูๆไปแล้วก็ท่าทางจะหัวดีเหมือนกันแฮะ  แต่ถึงแม้เธอจะแค่ชำเลืองมองเพียงชั่วครู่ก็ยังไม่รอดพ้นสายตาของชายหนุ่มไปได้ 

                  "มองอะไร"  ราล์ฟรู้ตัวว่าถูกมองจึงหันมาถามเสียงห้วน

                  "เปล่า"  เจสสิก้ายักไหล่อย่างไม่ยอมรับ  ก่อนจะหยิบชุดนอนปาจามาลายทางสีขาวออกจากตู้แล้วตรงเข้าห้องน้ำ

                  หลายนาทีต่อมาเจสสิก้าก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย  เดินเช็ดผมที่เปียกชื้นด้วยผ้าขนหนูแล้วมานั่งที่โซฟากลางห้องก่อนจะเปิดทีวีดูรายการต่างๆเพื่อแก้เซ็งจนหลับไปในที่สุดโดยไม่รู้ตัว 

                  ส่วนทางชายหนุ่มเมื่อนั่งอ่านหนังสือจนเริ่มง่วงแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาซึ่งบ่งบอกเวลา 4 ทุ่มกว่า  จึงปิดหนังสือแล้วถอดแว่นวางบนโต๊ะ  ก่อนลุกขึ้นบิดขี้เกียจ  เมื่อหันหลังก็ต้องชะงักเพราะหนุ่มหน้าสวยที่เป็นรูมเมทของตนนั่งหลับคาโซฟาโดยที่โทรทัศน์ยังเปิดทิ้งไว้อยู่  ราล์ฟเดินมาปิดโทรทัศน์  ก่อนจะหยุดยืนนิ่งตรงหน้าร่างบางที่นั่งหลับตาพริ้มอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว 

                  ราล์ฟมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา  ใบหน้าเรียวสวยใส  ขนตางอนยาว  ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ  ผิวขาวเนียน  รูปร่างบอบบางอย่างหญิงสาว  ดูๆแล้วน่าเหมาะที่จะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเสียอีก  จัดว่าเป็นคนที่สวยมากทีเดียว  แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ราล์ฟรู้สึกหวั่นไหวซักนิดเพราะยังระลึกไว้ว่าเจ้าตัวเป็นผู้ชาย  แต่ยอมรับว่าตอนเห็นหน้าครั้งแรกก็รู้สึกสะดุดเหมือนกัน  ทำให้เขานึกไปถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาเคยพบ  เป็นการพบกันแค่ช่วงเวลาสั้นๆเขาจึงจำหน้าไม่ค่อยได้  จำได้แต่ว่าเธอจัดเป็นคนสวยคนหนึ่งเท่าที่เขาเคยเห็นมา  หญิงสาวคนนั้นทำให้เขารู้สึกสนใจ  ไม่ใช่แค่เพราะความสวย  แต่นิสัยที่ดูหยิ่งนิดๆ  ดื้อรั้น  ไม่ยอมใคร  กับใบหน้าที่มุ่ยหงิกงออยู่ตลอดเวลาที่คุยกันทำให้เขารู้สึกอยากแกล้งขึ้นมาซะเฉยๆ 

                  นิสัยคล้ายๆหมอนี่เลยแฮะ  จะว่าไป...หน้าตาก็เหมือนจะประมาณนี้  คงไม่ใช่หรอกมั๊ง  นั่นผู้หญิงส่วนนี่มันผู้ชายนี่นา 

                  ราล์ฟคิดแต่ไม่ได้ติดใจอะไร

                  ราล์ฟเรียกความคิดของตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน  หนักใจกับคนตรงหน้า  ลังเลอยู่ว่าจะปลุกให้ไปนอนที่เตียงดีหรือไม่  เขาเองก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำถึงขนาดปล่อยให้ชายหนุ่มที่แลดูบอบบางคนนี้นั่งตากแอร์ทั้งคืนจนเป็นหวัด  สุดท้ายก็ตัดสินใจปลุกคนตรงหน้า

                  "นี่นาย  เฮ้!  ตื่นสิ  นี่!"  ชายหนุ่มเรียกร่างบางพร้อมสะกิดเบาๆ  แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมตื่น  จนเขาต้องก้มลงไปใกล้ก่อนจะตะโกนเรียกชื่อพร้อมเขย่าแขนแรงๆ  "คริสโตเฟอร์!  ตื่น!"

                  "เฮ้ย!"

                  พลั่ก!

                  "โอ๊ย!"

                  ต้นเหตุของเสียงต่างๆเริ่มต้นจากเมื่อเจสสิก้าสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยเสียงตะโกนกรอกหูและแรงเขย่าที่แขน  ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็เห็นหน้าชายหนุ่มคู่กรณีอยู่ห่างจากใบหน้าเธอไม่ถึงคืบ  ทำให้เธอตกใจจนลืมตัวเผลอปล่อยหมัดใส่หน้าชายหนุ่มแบบเต็มๆ  ราล์ฟซึ่งไม่ทันตั้งตัวถูกหมัดเล็กๆแต่หนักพอสมควรกระแทกหน้าเข้าอย่างจังจนถลาล้มลงไปกับพื้น  แต่ยังดีที่เจ้าของหมัดไม่ออกแรงจริงจังมากนักจึงไม่ทำให้ถึงกับเลือดตกยางออก

                  "นายทำอะไรของนายเนี่ย!"  ราล์ฟตะคอกถามอย่างไม่พอใจทันทีที่ตั้งตัวได้

                  "ฉันควรจะถามนายมากกว่าว่าทำอะไร!"  เจสสิก้าตะคอกกลับ  ยืนมองชายหนุ่มอย่างหาเรื่อง

                  "ทำอะไร?  ก็ปลุกนายน่ะสิ"  ราล์ฟตอบอย่างเหลืออด  "คนอุตส่าห์ปลุกเพราะหวังดีแท้ๆ  กลัวว่าจะเป็นหวัดเพราะนั่งตากแอร์  กลับตอบแทนด้วยหมัดแบบนี้เหรอเนี่ย"

                  เจสสิก้านิ่งฟังไปซักพักก็คิดได้ว่าเธอคงเข้าใจผิด  แต่ก็ยังคงแก้ตัวให้ตัวเอง  "กะ...ก็นายยื่นหน้ามาซะใกล้นี่นา  ฉันก็ตกใจน่ะสิ  คิดว่า....."  พูดได้เท่านั้นก็หยุดเพราะใบหน้าที่เริ่มร้อนนิดๆแต่เจ้าตัวไม่รู้ว่ามันเริ่มขึ้นสีชมพูระเรื่อ

                  ราล์ฟหรี่ตามองอย่างรู้ทัน  "ทำไม  คิดว่าฉันจะปล้ำนายงั้นสิ  หึ  ขอโทษนะที่ทำให้ผิดหวัง  ถึงนายจะหน้าสวยแค่ไหนฉันก็ปล้ำไม่ลงหรอก  วางใจได้"

                  "นาย!"  เจสสิก้าหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห  เดินเข้าไปประชิดตัวชายหนุ่มแล้วดึงคอเสื้อขึ้น  "หนอย...นายจะสบประมาทฉันมากเกินไปแล้วนะนายราล์ฟ!"

                  ด้วยแรงดันที่เจสสิก้าเป็นคนทำจนชายหนุ่มก้าวถอยหลังไปเหยียบรีโมทโทรทัศน์ที่ตกอยู่ที่พื้นทำให้เขาลื่นล้มในขณะที่เจสสิก้าเองก็ไม่ทันตั้งตัว  ด้วยสองมือที่ยังไม่ปล่อยจากปกเสื้อบวกกับน้ำหนักที่โถมไปข้างหน้าเต็มที่ทำให้ล้มตามร่างสูงลงไปด้วย 

                  โครม!

                  โป๊ก!

                  "โอ๊ย!"

                  ราล์ฟเจ็บตัวเป็นครั้งที่สองของวันนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันเพราะเขาเป็นฝ่ายที่อยู่ด้านล่างแถมยังรับน้ำหนักของอีกคนเต็มๆ  ศีรษะกระแทกเข้ากับพื้นจนต้องยกมือขึ้นคลำป้อยๆก่อนจะชะงักกับสภาพของพวกเขาทั้งสอง  ส่วนเจสสิก้าไม่รู้สึกเจ็บเลยเพราะล้มลงมาบนตัวชายหนุ่ม  เมื่อเธอลืมตาขึ้นพอเงยหน้าก็สบตากับชายหนุ่มเต็มๆ  ก่อนจะรู้สึกตัวรีบถอยหลังออกมาทันทีด้วยความตกใจ  ใบหน้าแดงก่ำ  ทำอะไรไม่ถูก

                  ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ  ไม่มีใครพูดอะไรออกมา  ผ่านไปครู่หนึ่งจนกระทั่งราล์ฟเป็นฝ่ายพูดก่อนพร้อมกับลุกขึ้นยืน

                  "ให้ตายสิ  วันนี้ฉันต้องมาเจ็บตัวเพราะนายตั้งสองครั้งสองหน  ซวยจริงๆ"

                  เจสสิก้าตั้งสติได้  ก่อนจะกลับเข้าสู่อารมณ์โมโหอีกครั้ง  "นายเป็นคนเริ่มก่อนเองนะ  ช่วยไม่ได้"  สมน้ำหน้า!  ว่าต่อในใจ

                  "เออ!  ฉันมันยุ่งไม่เข้าเรื่อง  พอใจรึยัง"  ชายหนุ่มตัดปัญหา  ถอนหายใจก่อนเดินไปที่เตียงเพื่อเตรียมตัวเข้านอน

                  เจสสิก้ามองตามหลังชายหนุ่มไปด้วยความรู้สึกผิด  ลุกขึ้นยืนก่อนตัดสินใจเอ่ยเสียงเบาออกมา  "เอ่อ...ขอโทษ  แล้วก็...ขอบใจที่ปลุก"

                  ราล์ฟชะงัก  หันมามองร่างบาง  ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความแปลกใจและคาดไม่ถึงก่อนหันกลับไปโดยไม่พูดอะไรอีกเลย

                  ทันทีที่ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหันหลังให้  เจสสิก้าก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก  แม้เขาไม่พูดอะไรแต่ท่าทางแบบนั้นแสดงว่าคงไม่ได้ติดใจเอาความอะไรอีกต่อไป  เธอคิดก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วลงไปนอนที่เตียงของตัวเองบ้าง 

                  ท่ามกลางความมืดและเงียบสงัด  เจสสิก้านอนครุ่นคิดอยู่ในใจเพราะอาการใจเต้นแปลกๆทำให้นอนไม่หลับ 

                  เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจะต้องไปขอโทษหรือขอบใจเจ้าคนกวนโมโหนั่นด้วย  แต่คิดไปคิดมาอย่างน้อยเขาก็ท่าทางจะเป็นคนดี  อุตส่าห์ปลุกเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นหวัด  แล้วเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ยิ่งทำให้ใจเต้นแรงขึ้นมาอีก 

                  เธอรีบสะบัดความคิดไล่ความฟุ้งซ่านที่วนเวียนอยู่ในหัวสมอง  พยายามข่มตาให้หลับด้วยความยากเย็น

                  ส่วนทางด้านชายหนุ่มก็ยังนอนไม่หลับเช่นกัน  เขาอดที่จะนึกถึงความรู้สึกเมื่อตอนนั้นไม่ได้  กลิ่นหอมของแชมพูที่ลอยมากระทบจมูก  สัมผัสที่แนบชิดทำให้รู้สึกถึงความนุ่มเนียนของผิวเนื้อต่างจากชายหนุ่มทั่วไป  ใบหน้าที่แดงจัดแสดงถึงความเขินอายอย่างเป็นธรรมชาติของหญิงสาว  ทั้งหมดนั่นทำให้เขาอดที่จะรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมานิดๆไม่ได้ 

                 โว๊ย!  นายเป็นอะไรของนายวะไอ้ราล์ฟ  นั่นผู้ชายนะโว้ย  ไปหวั่นไหวได้ไง  นายไม่ใช่โฮโมไม่ใช่เกย์ซักหน่อยถึงมีความรู้สึกกับเจ้านั่นน่ะ  ไม่เอาๆ  เลิกคิด  นอน  แค่คิดว่าหวั่นไหวกับผู้ชายแม้แต่เพียงนิดเดียวก็รู้สึกขนลุกแล้ว

                  เขาพึมพำกับตัวเองในใจ  ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นคลุมโปงแล้วพยายามข่มตาให้หลับเช่นกัน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×