ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนพิเศษ 2
Special talk : มีเรื่องจะแจ้งเกี่ยวกับตอนตอนที่ 2 ค่ะ เนื่องจากตอนนี้มีฉากเลิฟซีนซึ่งฉบับที่แต่งไว้ดั้งเดิมค่อนข้างเรทสำหรับเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 15-18 ปี (แต่งสนองความหื่นของตัวเอง ฮ่าๆ) ซึ่งไม่เหมาะจะนำมาเผยแพร่ที่เวบ dek-d ซึ่งเป็บเวบสาธารณะและมีเด็กเยอะ (ใครที่เคยอ่านฉากโจนาธานกับอาจารย์สาวห้องพยาบาลในเรื่อง \'รักอลวน หอพักอลเวง\' ของเราแล้ว ขอบอกว่าฉากนี้ชิดซ้ายค่ะถ้าเทียบกับคู่ณัฐถกากับกฤษณะในตอนพิเศษนี้ >////<) ดังนั้นเวอร์ชั่นที่เอามาลงเป็นแบบที่ตัดแล้วให้เหลือแต่ที่เห็นว่าสมควร พอรับได้ แต่สำหรับคนที่ต้องการอ่านฉบับ no cut ก็สามารถลง e-mail address ทิ้งไว้ที่บอร์ดได้ โดยเราจะส่งไปให้ทาง e-mail ค่ะ บอกไว้ก่อนนะคะว่าเป็นฉากเลิฟซีนนี้ไม่เรทมากเกินไปนัก ใครที่คาดหวังจะได้อ่านฉบับ no cut เป็นแบบดุเดือด เลือดกำดากระฉูดคงต้องขอโทษล่วงหน้าที่ทำให้ผิดหวังค่ะ เพราะเราแต่งนิยายรักไม่ใช่นิยายอีโรติก ^^\" แต่ถึงยังไงเมื่อได้รับทางเมลล์แล้วก็เตรียมทิชชู่ก่อนอ่านไว้ซักผืนสองผืนก็ไม่เสียหายนะคะ ฮ่าๆ
                              ======================================================
                โยธกานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินอยู่เพียงลำพังบนชายหาดด้วยอาการหงอยเหงา  นึกน้อยใจประพฤติที่ดูไม่สนใจใยดีเธอซักนิด  ขณะที่กำลังนั่งตัดพ้อต่อว่าอีกฝ่ายนั้นเองเบื้องหลังก็มีเงาร่างสูงซ้อนทับขึ้นมา  ด้วยความที่คิดว่าเจ้าของเงาเป็นบุคคลที่เธอนึกถึงจึงหันไปด้วยความดีใจ  แต่รอยยิ้มกลับจางลงเมื่อพบว่าไม่ใช่
              \"โย?  โยธกาใช่มั้ย?\"  ชายแปลกหน้าเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
                เจ้าตัวลุกขึ้นบัดทรายออกจากตัวแล้วถามกลับ  \"คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง\"
                \"ใช่โยจริงๆด้วย  จำผมได้มั้ย  โป้งไง\"
                \"โป้ง?\"
                \"ว้า..จำไม่ได้หรอ  โป้ง  อุดมศักดิ์  ที่บ้านใกล้กันและเคยเรียนห้องเดียวกันจนถึงป.6ไง\"
                \"โป้ง!?  ไอ้โป้ง!  นายจริงๆหรอ!!\"  หญิงสาวตะโกนด้วยความนึกไม่ถึง  โผเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงตามประสาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน  \"จำได้ว่าสมัยนั้นนายตุ้ยนุ้ยกว่านี้นี่  แล้วทำไมถึงผอมสูงเท่ห์ขนาดนี้ได้ล่ะ\"
                \"ฮะๆ  ไม่ได้สิ  ขืนยังปล่อยให้ตัวเองอ้วนแบบเดิมสาวที่ไหนจะมาแลล่ะ\"
                โป้ง หรือ อุดมศักดิ์ ชัยสิทธิ์ คือเพื่อนสนิทของโยธกาและพื่อนบ้านมาตั้งแต่ประถม 1 ถึงประถม 6 หลังจากจบประถม 6 โป้งก็ย้ายบ้านตามพ่อกับแม่ไปอยู่ต่างจังหวัดเป็นเหตุให้ต้องย้ายโรงเรียนด้วย  ทั้งสองติดต่อกันทางจพหมาย  แต่ต่อมาการติดต่อของทั้งคุ่ก็เริ่มซาลงจนในที่สุดก็หยุกการติดต่อไปเลย
                \"ไปไงมาไงถึงมาอยู่ที่นี่ได้เนี่ย  ไหนว่าย้ายไปเชียงรายไม่ใช่หรอ\"
                \"มาเที่ยวกับทางบ้านน่ะ  ว่าแต่โยล่ะ  ทำไมมานั่งแถวนี้คนเดียว  อย่าบอกนะว่ามาเที่ยวที่นี่ตามลำพังน่ะ\"
                โยธกาหน้าเศร้าลงเล็กน้อยจนอีกฝ่ายสังเกตได้  \"เปล่าหรอก  มากับเพื่อนน่ะ\"   
                \"มากับเพื่อน?  แต่ดูโยเหงาๆนะ  เป็นอะไรรึเปล่า\"
                แม้แต่เพื่อนที่ไม่ได้พบกันนานยังดูออกเลยว่าเธอกำลังรู้สึกยังไง  แต่ประสาอะไรกับคนที่เห็นหน้าค่าตากันมาตลอดเป็นเวลากว่า 10 ปี
                \"ก็..เหงานิดหน่อยน่ะ  พอดีเพื่อนที่มาด้วยเค๊าเป็นคู่รักกัน\"
                \"งั้นหรอ...\"  ร่างสูงเอ่ยอย่างเห็นใจ  \"งั้นมาเที่ยวกับครอบครัวฉันมั้ย  เมื่อก่อนเธอกับพ่อแม่ฉันก็สนิทกันดีนี่  พรุ่งนี้ว่างรึเปล่า\"
                \"จะดีหรอ?  รบกวนนายกับครอบครัวเปล่าๆ\"  เอ่ยอย่างลังเล
                \"ไม่หรอก  ดีซะอีกจะได้มีเพื่อนเที่ยวเพิ่มอีกคน  ยิ่งหลายคนยิ่งสนุกนะ\"
                โยธกาเงียบไปพักหนึ่งก่อนตอบ  \"งั้นฉันจะลองไปถามเพื่อนดูก่อนนะว่าพรุ่งนี้มีโปรแกรมอะไรรึเปล่าถ้ายังไงพรุ่งนี้จะมาให้คำตอบนะ\"
                \"ได้สิ  เธอมีเบอร์ติดต่อรึเปล่า  ฉันจะได้โทรถาม  ถ้าไปก็จะได้บอกสถานที่กับเวลานัดพบด้วย\"  ถามพร้อมกับล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อโปโล
                โยธกาบอกหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองให้ชายหนุ่ม  หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกัน  หญิงสาวเดินกลับที่พักพลางคิดว่าชายหนุ่มอีกคนจะว่ายังไงถ้าเธอเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง  จะไม่ห้ามไม่คัดค้านรึเปล่า  และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเธอจะทำยังไง...
                และก็เป็นไปตามที่โยธกาคาดไว้ไม่มีผิด  นอกจากจะไม่ค้ดค้านไม่รั้งเธอแล้วยังเห็นดีด้วยอีกต่างหาก
                \"เพื่อนสมัยเด็กงั้นหรอ  ไม่น่าเชื่อเลยนะ  ไม่ได้เจอกันมาตั้ง 16 ปียังจำโยได้อีก\"  ณัฐถกาออกความเห็น
                \"นั่นสิ  ขนาดฉันยังจำเขาไม่ค่อยได้เลย\"
                \"ก็ดีนี่  อุตส่าห์ได้เจอเพื่อนเก่าทั้งที  ไปกับเขาก็ได้  จะได้ไปสวัสดีพ่อแม่ของฝ่ายนั้นตามมารยาทด้วย  อีกอย่างเธอก็จะได้ไม่เบื่อ  ยังไงพรุ่งนี้พวกเราก็ไม่ได้ไปไหนกันอยู่แล้ว\"  ประพฤติบอกด้วยใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมซักนิด
                \"งั้นก็ได้  พรุ่งนี้ฉันจะไป\"  โยธกาก้มหน้าซ่อนความผิดหวังและน้อยใจ  \"แล้วนัทกับกฤษล่ะจะว่าอะไรมั้ย\"
                \"ฉันกับกฤษยังไงก็ได้\"  ณัฐถกาหันไปถามความเห็นกับอีกคนแล้วเอ่ยตอบ  \"ถือว่าโยไปเปลี่ยนบรรยากาศก็แล้วกัน  นั่งๆนอนๆอยู่แต่กับพวกเราโยอาจจะจะเบื่อ\"
                \"งั้นฉันไปนอนก่อนนะ  พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า\"  โยธกาลุกขึ้นจากเบาะรองนั่งบนพื้นกลางห้องโถงที่พวกเขาทั้งสี่นั่งคุย  \"ราตรีสวัสดิ์นะ  ทุกคน\"
                \"ราตรีสวัสดิ์\"  ทั้งสามพูดพร้อมกัน
                หลังจากโยธกาเข้าห้องไปได้ไม่นานประพฤติก็ขอตัวไปนอนบ้าง  ชายหนุ่มเดินเข้าห้องตนเองที่อยู่ติดกับห้องของโยธกาทางฝั่งขวา  พอประตูถูกปิดลงณัฐถกาก็ลุกขึ้นแล้วดึงคนรักเข้าไปในห้องของตนเองทางฝั่งซ้ายทันที
                \"เฮ้ๆ  ใจเย็นๆ  ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนี้ก็ได้  กลางคืนยังอีกยาวน่า\"  ร่างสูงกระเซ้า
                \"จะบ้ารึไง!!\"  ร่างบางถลึงตาใส่  \"ฉันจะถามเรื่องเพื่อนคุณต่างหาก  นี่..ถามจริงๆเถอะ  ป่านกับโยเป็นแฟนกันหรือไม่ใช่กันแน่  ป่านเค๊าท่าทางเฉยๆดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย  คนรักของตัวเองจะออกไปกับชายอื่นทั้งทีนะ\"
              \"ไม่หรอกน่า  อีกอย่างฝ่ายนั้นก็เป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กของโยเค๊านี่  ไม่ใช่ใครที่ไหน\"
                \"เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว  แต่ฉันไม่เข้าใจป่านเลยว่าคิดยังไงกับโยกันแน่  ดูท่าทางเขาเหมือนไม่ค่อยเอาใจใส่โยเท่าที่ควรเลยนะ\"
                \"ความจริงสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอไปหรอกนะ  พวกนั้นคบกันมาตั้งสิบกว่าปีแล้วไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน  จะทะเลาะกันบ้างก็เป็นเรื่องเล็กน้อย  ผมรู้จักป่านมันดีนะ  มันก็เป็นคนแบบนี้แหล่ะ  ความรู้สึกช้า  ไม่โรแมนติก  บางทีก็จริงจังกับชีวิตมากเกินไป  อาจเป็นเพราะมันคือหมอโรคจิตก็ได้มั๊ง\"  ประโยคหลังชายหนุ่มพูดติดตลก
                \"แต่ฉันเป็นห่วงความรู้สึกของโยนี่  ท่าทางเธอไม่ค่อยร่าเริงเลย\"
                \"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า  โยมันรู้จักป่านดีมากกว่าผมซะอีก  ถึงแม้จะสับสนไปบ้างแต่โยก็คงต้องเข้าใจป่านในที่สุด  ไม่งั้นไม่คบกันมาจนถึงป่านนี้หรอก\"  ถึงแม้จะก้าวหน้าช้าไปหน่อยก็เถอะ  ...ประโยคหลังพูดกับตัวเองในใจ
                \"แต่...\"
                \"เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมจะลองพูดกับป่านมันดูก็แล้วกัน  นอกนั้นก็ปล่อยให้เป็นปัญหาของสองคนนั้น  ให้ทั้งคู่จัดการกันเอาเอง  เท่านี้พอใจรึยัง\"  กฤษณะตัดบท
                \"เอางั้นก็ได้  ฉันเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องพวกเขาสองคนมากนักเหมือนกัน\"
                \"เอาแต่สนใจเรื่องของคนอื่น  แล้วเรื่องของเราล่ะ\"  กฤษณะถามเสียงหวาน  โอบเอวอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด
                ร่างบางใจเต้น  หลบสายตาร้อนแรง  \"ระ..เรื่องของเราอะไร?\"
                \"อย่าบอกนะว่าไม่รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน\"  ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์  ดันตัวหญิงสาวจนถอยหลังไปประชิดเตียง
                ณัฐถกาสะดุ้งเมื่อขาชนขอบเตียง  ไปไหนไม่รอด  ด้านหน้าก็เป็นชายหนุ่มด้านหลังก็เป็นเตียงกว้าง  ยังไม่ทันจะเอ่ยปากต่อว่าริมฝีปากของร่างสูงก็ทาบลงมาปิดริมฝีปากอิ่มโดยไม่ทันตั้งตัว
                \"อื้อ...!!\"  ร่างบางได้แต่ร้องประท้วงในลำคอ  ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดที่รัดแน่นราวคีมเหล็ก  พอเผยอปากเพื่อหายใจก็กลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ลิ้นอุ่นซ่านเข้าซอกซอนกวาดลึกภายใน  ณัฐถกาเข่าอ่อน  แทบล้มลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ใช่เพราะร่างสูงประคองเอาไว้
                ชายหนุ่มได้ใจเมื่ออีกฝ่ายขัดขืนไม่จริงจังนัก  แค่ออกแรงดันเพียงน้อยนิดทั้งคู่ก็ล้มลงไปบนเตียงกว้าง 
                \"เอาแต่สนใจเรื่องของคนอื่น  แล้วเรื่องของเราล่ะ\"  กฤษณะถามเสียงหวาน  โอบเอวอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด
                ร่างบางใจเต้น  หลบสายตาร้อนแรง  \"ระ..เรื่องของเราอะไร?\"
                \"อย่าบอกนะว่าไม่รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน\"  ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์  ดันตัวหญิงสาวจนถอยหลังไปประชิดเตียง
                ณัฐถกาสะดุ้งเมื่อขาชนขอบเตียง  ไปไหนไม่รอด  ด้านหน้าก็เป็นชายหนุ่มด้านหลังก็เป็นเตียงกว้าง  ยังไม่ทันจะเอ่ยปากต่อว่าริมฝีปากของร่างสูงก็ทาบลงมาปิดริมฝีปากอิ่มโดยไม่ทันตั้งตัว
                \"อื้อ...!!\"  ร่างบางได้แต่ร้องประท้วงในลำคอ  ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดที่รัดแน่นราวคีมเหล็ก  พอเผยอปากเพื่อหายใจก็กลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ลิ้นอุ่นซ่านเข้าซอกซอนกวาดลึกภายใน  ณัฐถกาเข่าอ่อน  แทบล้มลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ใช่เพราะร่างสูงประคองเอาไว้
                ชายหนุ่มได้ใจเมื่ออีกฝ่ายขัดขืนไม่จริงจังนัก  แค่ออกแรงดันเพียงน้อยนิดทั้งคู่ก็ล้มลงไปบนเตียงกว้าง 
                ณัฐถกาอยากห้ามแต่ร่างกายไม่เป็นไปอย่างใจนึก  อ้อมกอดของร่างสูงฉุดสติให้ดำดิ่งลงจนมองเห็นภาพเบื้องหน้าเลือนลางในที่สุด  เธอคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของร่างสูง...
                                                          # --------------------------------------------------- #
To be continued...
                              ======================================================
                โยธกานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินอยู่เพียงลำพังบนชายหาดด้วยอาการหงอยเหงา  นึกน้อยใจประพฤติที่ดูไม่สนใจใยดีเธอซักนิด  ขณะที่กำลังนั่งตัดพ้อต่อว่าอีกฝ่ายนั้นเองเบื้องหลังก็มีเงาร่างสูงซ้อนทับขึ้นมา  ด้วยความที่คิดว่าเจ้าของเงาเป็นบุคคลที่เธอนึกถึงจึงหันไปด้วยความดีใจ  แต่รอยยิ้มกลับจางลงเมื่อพบว่าไม่ใช่
              \"โย?  โยธกาใช่มั้ย?\"  ชายแปลกหน้าเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
                เจ้าตัวลุกขึ้นบัดทรายออกจากตัวแล้วถามกลับ  \"คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง\"
                \"ใช่โยจริงๆด้วย  จำผมได้มั้ย  โป้งไง\"
                \"โป้ง?\"
                \"ว้า..จำไม่ได้หรอ  โป้ง  อุดมศักดิ์  ที่บ้านใกล้กันและเคยเรียนห้องเดียวกันจนถึงป.6ไง\"
                \"โป้ง!?  ไอ้โป้ง!  นายจริงๆหรอ!!\"  หญิงสาวตะโกนด้วยความนึกไม่ถึง  โผเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงตามประสาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน  \"จำได้ว่าสมัยนั้นนายตุ้ยนุ้ยกว่านี้นี่  แล้วทำไมถึงผอมสูงเท่ห์ขนาดนี้ได้ล่ะ\"
                \"ฮะๆ  ไม่ได้สิ  ขืนยังปล่อยให้ตัวเองอ้วนแบบเดิมสาวที่ไหนจะมาแลล่ะ\"
                โป้ง หรือ อุดมศักดิ์ ชัยสิทธิ์ คือเพื่อนสนิทของโยธกาและพื่อนบ้านมาตั้งแต่ประถม 1 ถึงประถม 6 หลังจากจบประถม 6 โป้งก็ย้ายบ้านตามพ่อกับแม่ไปอยู่ต่างจังหวัดเป็นเหตุให้ต้องย้ายโรงเรียนด้วย  ทั้งสองติดต่อกันทางจพหมาย  แต่ต่อมาการติดต่อของทั้งคุ่ก็เริ่มซาลงจนในที่สุดก็หยุกการติดต่อไปเลย
                \"ไปไงมาไงถึงมาอยู่ที่นี่ได้เนี่ย  ไหนว่าย้ายไปเชียงรายไม่ใช่หรอ\"
                \"มาเที่ยวกับทางบ้านน่ะ  ว่าแต่โยล่ะ  ทำไมมานั่งแถวนี้คนเดียว  อย่าบอกนะว่ามาเที่ยวที่นี่ตามลำพังน่ะ\"
                โยธกาหน้าเศร้าลงเล็กน้อยจนอีกฝ่ายสังเกตได้  \"เปล่าหรอก  มากับเพื่อนน่ะ\"   
                \"มากับเพื่อน?  แต่ดูโยเหงาๆนะ  เป็นอะไรรึเปล่า\"
                แม้แต่เพื่อนที่ไม่ได้พบกันนานยังดูออกเลยว่าเธอกำลังรู้สึกยังไง  แต่ประสาอะไรกับคนที่เห็นหน้าค่าตากันมาตลอดเป็นเวลากว่า 10 ปี
                \"ก็..เหงานิดหน่อยน่ะ  พอดีเพื่อนที่มาด้วยเค๊าเป็นคู่รักกัน\"
                \"งั้นหรอ...\"  ร่างสูงเอ่ยอย่างเห็นใจ  \"งั้นมาเที่ยวกับครอบครัวฉันมั้ย  เมื่อก่อนเธอกับพ่อแม่ฉันก็สนิทกันดีนี่  พรุ่งนี้ว่างรึเปล่า\"
                \"จะดีหรอ?  รบกวนนายกับครอบครัวเปล่าๆ\"  เอ่ยอย่างลังเล
                \"ไม่หรอก  ดีซะอีกจะได้มีเพื่อนเที่ยวเพิ่มอีกคน  ยิ่งหลายคนยิ่งสนุกนะ\"
                โยธกาเงียบไปพักหนึ่งก่อนตอบ  \"งั้นฉันจะลองไปถามเพื่อนดูก่อนนะว่าพรุ่งนี้มีโปรแกรมอะไรรึเปล่าถ้ายังไงพรุ่งนี้จะมาให้คำตอบนะ\"
                \"ได้สิ  เธอมีเบอร์ติดต่อรึเปล่า  ฉันจะได้โทรถาม  ถ้าไปก็จะได้บอกสถานที่กับเวลานัดพบด้วย\"  ถามพร้อมกับล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อโปโล
                โยธกาบอกหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองให้ชายหนุ่ม  หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกัน  หญิงสาวเดินกลับที่พักพลางคิดว่าชายหนุ่มอีกคนจะว่ายังไงถ้าเธอเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง  จะไม่ห้ามไม่คัดค้านรึเปล่า  และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเธอจะทำยังไง...
                และก็เป็นไปตามที่โยธกาคาดไว้ไม่มีผิด  นอกจากจะไม่ค้ดค้านไม่รั้งเธอแล้วยังเห็นดีด้วยอีกต่างหาก
                \"เพื่อนสมัยเด็กงั้นหรอ  ไม่น่าเชื่อเลยนะ  ไม่ได้เจอกันมาตั้ง 16 ปียังจำโยได้อีก\"  ณัฐถกาออกความเห็น
                \"นั่นสิ  ขนาดฉันยังจำเขาไม่ค่อยได้เลย\"
                \"ก็ดีนี่  อุตส่าห์ได้เจอเพื่อนเก่าทั้งที  ไปกับเขาก็ได้  จะได้ไปสวัสดีพ่อแม่ของฝ่ายนั้นตามมารยาทด้วย  อีกอย่างเธอก็จะได้ไม่เบื่อ  ยังไงพรุ่งนี้พวกเราก็ไม่ได้ไปไหนกันอยู่แล้ว\"  ประพฤติบอกด้วยใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมซักนิด
                \"งั้นก็ได้  พรุ่งนี้ฉันจะไป\"  โยธกาก้มหน้าซ่อนความผิดหวังและน้อยใจ  \"แล้วนัทกับกฤษล่ะจะว่าอะไรมั้ย\"
                \"ฉันกับกฤษยังไงก็ได้\"  ณัฐถกาหันไปถามความเห็นกับอีกคนแล้วเอ่ยตอบ  \"ถือว่าโยไปเปลี่ยนบรรยากาศก็แล้วกัน  นั่งๆนอนๆอยู่แต่กับพวกเราโยอาจจะจะเบื่อ\"
                \"งั้นฉันไปนอนก่อนนะ  พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า\"  โยธกาลุกขึ้นจากเบาะรองนั่งบนพื้นกลางห้องโถงที่พวกเขาทั้งสี่นั่งคุย  \"ราตรีสวัสดิ์นะ  ทุกคน\"
                \"ราตรีสวัสดิ์\"  ทั้งสามพูดพร้อมกัน
                หลังจากโยธกาเข้าห้องไปได้ไม่นานประพฤติก็ขอตัวไปนอนบ้าง  ชายหนุ่มเดินเข้าห้องตนเองที่อยู่ติดกับห้องของโยธกาทางฝั่งขวา  พอประตูถูกปิดลงณัฐถกาก็ลุกขึ้นแล้วดึงคนรักเข้าไปในห้องของตนเองทางฝั่งซ้ายทันที
                \"เฮ้ๆ  ใจเย็นๆ  ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนี้ก็ได้  กลางคืนยังอีกยาวน่า\"  ร่างสูงกระเซ้า
                \"จะบ้ารึไง!!\"  ร่างบางถลึงตาใส่  \"ฉันจะถามเรื่องเพื่อนคุณต่างหาก  นี่..ถามจริงๆเถอะ  ป่านกับโยเป็นแฟนกันหรือไม่ใช่กันแน่  ป่านเค๊าท่าทางเฉยๆดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย  คนรักของตัวเองจะออกไปกับชายอื่นทั้งทีนะ\"
              \"ไม่หรอกน่า  อีกอย่างฝ่ายนั้นก็เป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กของโยเค๊านี่  ไม่ใช่ใครที่ไหน\"
                \"เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว  แต่ฉันไม่เข้าใจป่านเลยว่าคิดยังไงกับโยกันแน่  ดูท่าทางเขาเหมือนไม่ค่อยเอาใจใส่โยเท่าที่ควรเลยนะ\"
                \"ความจริงสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอไปหรอกนะ  พวกนั้นคบกันมาตั้งสิบกว่าปีแล้วไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน  จะทะเลาะกันบ้างก็เป็นเรื่องเล็กน้อย  ผมรู้จักป่านมันดีนะ  มันก็เป็นคนแบบนี้แหล่ะ  ความรู้สึกช้า  ไม่โรแมนติก  บางทีก็จริงจังกับชีวิตมากเกินไป  อาจเป็นเพราะมันคือหมอโรคจิตก็ได้มั๊ง\"  ประโยคหลังชายหนุ่มพูดติดตลก
                \"แต่ฉันเป็นห่วงความรู้สึกของโยนี่  ท่าทางเธอไม่ค่อยร่าเริงเลย\"
                \"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า  โยมันรู้จักป่านดีมากกว่าผมซะอีก  ถึงแม้จะสับสนไปบ้างแต่โยก็คงต้องเข้าใจป่านในที่สุด  ไม่งั้นไม่คบกันมาจนถึงป่านนี้หรอก\"  ถึงแม้จะก้าวหน้าช้าไปหน่อยก็เถอะ  ...ประโยคหลังพูดกับตัวเองในใจ
                \"แต่...\"
                \"เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมจะลองพูดกับป่านมันดูก็แล้วกัน  นอกนั้นก็ปล่อยให้เป็นปัญหาของสองคนนั้น  ให้ทั้งคู่จัดการกันเอาเอง  เท่านี้พอใจรึยัง\"  กฤษณะตัดบท
                \"เอางั้นก็ได้  ฉันเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องพวกเขาสองคนมากนักเหมือนกัน\"
                \"เอาแต่สนใจเรื่องของคนอื่น  แล้วเรื่องของเราล่ะ\"  กฤษณะถามเสียงหวาน  โอบเอวอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด
                ร่างบางใจเต้น  หลบสายตาร้อนแรง  \"ระ..เรื่องของเราอะไร?\"
                \"อย่าบอกนะว่าไม่รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน\"  ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์  ดันตัวหญิงสาวจนถอยหลังไปประชิดเตียง
                ณัฐถกาสะดุ้งเมื่อขาชนขอบเตียง  ไปไหนไม่รอด  ด้านหน้าก็เป็นชายหนุ่มด้านหลังก็เป็นเตียงกว้าง  ยังไม่ทันจะเอ่ยปากต่อว่าริมฝีปากของร่างสูงก็ทาบลงมาปิดริมฝีปากอิ่มโดยไม่ทันตั้งตัว
                \"อื้อ...!!\"  ร่างบางได้แต่ร้องประท้วงในลำคอ  ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดที่รัดแน่นราวคีมเหล็ก  พอเผยอปากเพื่อหายใจก็กลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ลิ้นอุ่นซ่านเข้าซอกซอนกวาดลึกภายใน  ณัฐถกาเข่าอ่อน  แทบล้มลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ใช่เพราะร่างสูงประคองเอาไว้
                ชายหนุ่มได้ใจเมื่ออีกฝ่ายขัดขืนไม่จริงจังนัก  แค่ออกแรงดันเพียงน้อยนิดทั้งคู่ก็ล้มลงไปบนเตียงกว้าง 
                \"เอาแต่สนใจเรื่องของคนอื่น  แล้วเรื่องของเราล่ะ\"  กฤษณะถามเสียงหวาน  โอบเอวอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด
                ร่างบางใจเต้น  หลบสายตาร้อนแรง  \"ระ..เรื่องของเราอะไร?\"
                \"อย่าบอกนะว่าไม่รู้ตัวว่าตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน\"  ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์  ดันตัวหญิงสาวจนถอยหลังไปประชิดเตียง
                ณัฐถกาสะดุ้งเมื่อขาชนขอบเตียง  ไปไหนไม่รอด  ด้านหน้าก็เป็นชายหนุ่มด้านหลังก็เป็นเตียงกว้าง  ยังไม่ทันจะเอ่ยปากต่อว่าริมฝีปากของร่างสูงก็ทาบลงมาปิดริมฝีปากอิ่มโดยไม่ทันตั้งตัว
                \"อื้อ...!!\"  ร่างบางได้แต่ร้องประท้วงในลำคอ  ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดที่รัดแน่นราวคีมเหล็ก  พอเผยอปากเพื่อหายใจก็กลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ลิ้นอุ่นซ่านเข้าซอกซอนกวาดลึกภายใน  ณัฐถกาเข่าอ่อน  แทบล้มลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ใช่เพราะร่างสูงประคองเอาไว้
                ชายหนุ่มได้ใจเมื่ออีกฝ่ายขัดขืนไม่จริงจังนัก  แค่ออกแรงดันเพียงน้อยนิดทั้งคู่ก็ล้มลงไปบนเตียงกว้าง 
                ณัฐถกาอยากห้ามแต่ร่างกายไม่เป็นไปอย่างใจนึก  อ้อมกอดของร่างสูงฉุดสติให้ดำดิ่งลงจนมองเห็นภาพเบื้องหน้าเลือนลางในที่สุด  เธอคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของร่างสูง...
                                                          # --------------------------------------------------- #
To be continued...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น