ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Pain In Memory ลางรัก แรงอดีต

    ลำดับตอนที่ #5 : นักโทษแหกคุก

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 47




                    หลังจากวันนั้นเหมือนมีสัญญาณซึ่งคนทั้งสองต่างรับรู้อยู่ในใจด้วยกันเงียบๆว่าตกลงสงบศึกกันพร้อมๆกับควรจะรักษาระยะห่างระหว่างกันเอาไว้  ณัฐถกาแน่ใจว่ามันไม่เป็นผลดีแน่ทั้งกับตัวเธอ,  กฤษณะ  และที่สำคัญ..อริญญา!!  หล่อนไม่อยากแม้แต่คิดที่จะทำลายรอยยิ้มและความสดใสของหญิงสาวผู้นั้น  เธอทำลายมามากพอแล้ว...





                    \"นัท  นัท  เฮ้  คุณฟังผมอยู่รึเปล่า\"  เสียงทุ้มของอีกฝ่ายเรียกสติเธอกลับคืนมา





                    \"หือ?  อะไรเหรอคุณกฤษ\"





                    \"ผมพูดว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้ว  คุณอยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษมั้ย\"





                    \"อืม..ฉันอยากพัก...\"





                    \"พักผ่อน?\"  ร่างสูงเลิกคิ้วขวา  พูดขัดก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ทันจบประโยค  \"ผมคิดว่าคุณพักผ่อนจนพอแล้วซะอีก  ตั้งแต่มานี่ก็เอาแต่ทำงานแล้วก็หมกตัวอยู่ในห้อง  ไม่เสียดายรึไงได้มาเที่ยวทั้งที  เอาน่า..ไม่ต้องขมวดคิ้วอย่างนั้นหรอก  เดี๋ยวผมจะพาคุณไปที่พับใต้ดิน  ที่นี่ผมไปประจำ  ป่ะ!!\"  พูดไม่พูดเปล่า  ชายหนุ่มฉวยข้อมืออีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าณัฐถกายังลังเลอยู่





                    ผับใต้ดินแห่งหนึ่งกลางกรุงเบอร์ลิน, เยอรมัน

                



                    \"เดินระวังล่ะ  ข้างในมันมืด\"  กฤษณะหันมาพูดกับหญิงสาวที่เดินลงบันไดตามมาทีหลัง





                    \"คนเยอะเหมือนกันนะ\"  ณัฐถกาเปรย  กวาดตามองไปรอบๆ  





                    บรรยากาศเฉพาะตัวของผับนี้มีความเป็นกันเองอยู่มาก  อาจเป็นเพราะว่าผู้คนในที่นี้ส่วนใหญ่คงเป็นลูกค้าเจ้าประจำ  รวมทั้งกฤษณะด้วย  เธอไม่รู้หรอกว่าชายร่างสูงตรงหน้ามาที่นี่กี่ครั้ง  แต่ดูจากการทักทายเจ้าของร้านคงรู้จักดีไม่ใช่น้อย  ทักทายกันอยู่ซักพักกฤษณะก็ถือเบียร์สองโหลใหญ่ๆตรงมาหาเธอที่นั่งรออยู่มุมห้อง





                    \"ทำไมเอาแก้วใหญ่ขนาดนี้..กินหมดหรอ?\"





                    \"คุณลองมองไปรอบๆห้องสิ  มีใครกินเบียร์แก้วเล็กกว่านี้มั้ย  คนเยอรมันน่ะกินเบียร์แทนน้ำ  เพราะเบียร์ถูกกว่าน้ำเปล่าและอากาศก็หนาวมาก  เบียร์ทำให้ร่างกายอบอุ่น  แล้วไม่ต้องมัวแต่ถูมืออยู่อย่างนั้น  ดื่มเบียร์เข้าไปซะ!!\"





                    ซักพักทุกคนก็หันไปดูกลางห้อง  มีหลายคนที่ลุกขึ้นไปเต้น  คงจะเป็นท่าประจำของคนท้องถิ่น  ก้าวเท้าขวาแตะสลับส้นเท้ากับปลายเท้าอย่างรวดเร็วก่อนสลับเปลี่ยนเป็นเท้าซ้ายพร้อมกับหมุนตัวเตะขาสลับไปโดยรอบ  มือหนึ่งเท้าสะเอว  อีกมือที่ถือโหลเบียร์ก็ยกขึ้นเอามือเกี่ยวกับคนข้างๆและยกซด  ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่เต้นธรรมดาซะแล้วแต่มีการแข่งดวลเบียร์กันด้วย  ทุกคนตบมือให้จังหวะและค่อยๆเร่งให้เร็วขึ้น  ณัฐถกาอดไม่ได้ที่จะตบมือตามไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว  กฤษณะหันไปมองอีกฝ่ายแล้วก็รู้ทันทีว่าเขาคิดถูกแล้วที่ชวนร่างบางออกมาเที่ยว  ไม่เอาแต่อุดอู้อยู่ในห้องอย่างสองสามวันก่อนหน้านี้





                    ซักพักชายหนุ่มผมแดงก็ลุกขึ้น  ถอดแจ็กเก็ตออกแล้วโยนให้อีกฝ่าย  





                    \"ฝากหน่อย\"  





                    เขาเดินเข้าไปกลางห้องพลางคว้าโหลเบียร์หน้าเคาร์เตอร์ที่เตรียมไว้สำหรับผู้ที่อยากลองดวลเบียร์ดู  ณัฐถกาลุกขึ้นยืนให้เห็นได้ถนัด  หล่อนจ้องกฤษณะที่เต้นอย่างชำนาญ  ท่าเต้นดูจะส่งให้ร่างสูงโปร่งดูสง่างามและโดดเด่นกว่าคนอื่นๆหลายเท่า  สาวๆเยอรมันส่งเสียงผิวปากอย่างคึกคักจนตอนนี้จังหวะดนตรีคล้ายกับจะไม่หยุดให้ผู้เต้นได้หายใจ  ในที่สุดก็เหลือกฤษณะกับหญิงร่างท้วมอีกคนที่ยังขับเคี่ยวกันอยู่อย่างไม่มีใครยอมใคร..แก้วแล้วแก้วเล่า





                    \"คุณกฤษ!!\"  ณัฐถกาส่งเสียงเชียร์  แต่นั่นทำให้ชายหนุ่มหันมามองและเสียจังหวะ  สำลักเบียร์และเซไปเล็กน้อย  เปิดโอกาสให้หญิงร่างท้วมซดเบียร์แซงหน้าไปจนหมด  ก่อนคว้ากฤษณะมากอดและหอมแก้มฟอดใหญ่  ตามมาด้วยเสียงผู้คนในห้องเฮลั่น





                    กฤษณะเดินเซๆกลับมาที่โต๊ะ  ใบหน้าแดงระเรื่อจากการออกกำลังและฤทธิ์เบียร์  ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้างให้คนที่เพิ่งส่งเสียงเชียร์จนเขาแพ้





                \"ขอโทษนะ  เพราะเสียงฉันใช่มั้ยที่ทำให้คุณแพ้\"  ร่างบางพูดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายนั่งลง  ใบหน้าซับสีเข้มจากการกระทำของตน





                    \"ช่างเถอะ..ผมเพิ่งเคยได้ยินคุณตะโกนเสียงดังอย่างนั้นครั้งแรกเลยเสียศูนย์ไปหน่อย\"

    ณัฐถกายิ้มตอบคำพูดนั้น





                    \"กลับเถอะ  พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้า\"





                    \"คร้าบบบ..เจ้านาย\"  กฤษณะตอบลากเสียงยาว







                                                              # --------------------------------------------------- #







                    \"ริน  เจ้ากฤษมันจะกลับมาวันไหน\"  ชายหนุ่มถามขึ้น  หางเสียงเจือแววกังวลเล็กๆ  เขาแวะมาหาอริญญาที่บ้านพร้อมกับโยธกาเป็นปกติทุกเย็นวันศุกร์  แม้จะขาดสมาชิกไปหนึ่งก็ตาม





                    \"กลับพรุ่งนี้  ทำไมเหรอป่าน?  มีอะไรรึเปล่าหน้าเครียดเชียว\"  อริญญาถามเมื่อเห็นแววกังวลของอีกฝ่ายพร้อมกันกับเงยหน้าขึ้นมาตั้งใจฟังคำตอบจากชายหนุ่ม  โยธกาก็รู้สึกถึงความเครียดสองสามวันที่ผ่านมาของประพฤติซึ่งดูผิดไปจากปกติเล็กน้อย





                    \"ไม่มีอะไรหรอก  แค่คิดถึงนิดหน่อยน่ะ\"  ประพฤติตอบอ้อมแอ้มพลางยกเหล้าขึ้นจิบ





                    \"คิดถึง?  นายเนี่ยนะคิดถึงกฤษมัน  เชื่อตาย!!\"  โยธกาสวนกลับทันควัน





                    \"ไม่ใช่ไอ้เจ้ากฤษโว้ย  ฉันคิดถึงนัทต่างหาก\"





                    \"อ๊ะ  ใช่ๆ  กฤษยิ่งไม่ค่อยถูกกับนัทอยู่ด้วย  อารมณ์เสียทีไรลงกับคนอื่นทุกที  นัทจะทนไหวมั้ยน้า\"  





                    ดีแล้วที่อริญญาพูดออกมาแบบนั้น  เขาจะได้ไม่ต้องกังวลที่จะแก้ตัวให้คนช่างสงสัยที่นั่งอยู่ข้างๆเขาว่าที่จริงเขาคิดว่าณัฐถกาจะทำร้ายตัวเองหนักขึ้นจากคืนวันนั้นรึเปล่า  ถึงแม้เจ้าตัวจะบอกว่าควบคุมตัวเองได้บ้างแล้วก็ตาม  แต่เวลามีอาการกว่าจะรู้สึกตัวร่างกายก็แต่งแต้มไปด้วยบาดแผลเต็มตัวซะแล้ว  น่าห่วงชะมัด





                    ประพฤติมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ได้สังเกตว่าหญิงสาวร่างเล็กข้างกายนิ่งเงียบไปนาน  จนกระทั่งเห็นว่าดึกพอสมควรทั้งสองจึงลาเจ้าของบ้าน





                    \"โย  เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง\"





                    \"ไม่ต้องหรอก  ดึกมากแล้ว  นายกลับไปเถอะ\"  หญิงสาวเม้มปากแน่น  สะกดกลั้นประโยค \'ไม่ต้องเป็นห่วง\' กลืนกลับลงคอไป  ถึงป่านจะยืนยันไปแล้วว่าณัฐถกาเคยอยู่ในฐานะคนไข้ของโรงพยาบาล  แต่เธอก็อดหงุดหงิดไม่ได้ทุกทีที่ชายหนุ่มแสดงความห่วงใยที่ดูจะไม่สิ้นสุดตามการออกจากโรงพยาบาลของณัฐถกา  มันอะไรกันนักหนา  เธอไม่ควรมีความรู้สึกขุ่นเคืองกับเรื่องเล็กๆน้อยๆไม่เป็นเรื่องอย่างนี้เลย





                    \"เป็นอะไรน่ะโย  ทำไมเงียบๆ\"  ประพฤติถามขึ้นขณะขับรถ  หลังจากเกลี้ยกล่อมจนอีกฝ่ายยอมให้เขาไปส่งเหมือนทุกครั้ง





                    \"ง่วงนอน\"  หญิงสาวตอบเสียงห้วนสั้น





                    \"ไม่พอใจอะไร\"  ประพฤติเงียบไป  ก่อนหาเหตุที่ทำให้หญิงสาวที่นั่งข้างเขาหงุดหงิดแบบนี้  \"อ่ะฮะ  รึเธอไม่พอใจที่ฉันคิดถึงคนอื่นนอกจากเธอ  เธอเนี่ยน้า..ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับนัทเค๊า\"  น้ำเสียงชายหนุ่มหยอกล้อและยียวนอารมณ์อีกฝ่ายไม่น้อย  





                    โยธกาไม่ตอบ  แต่เอื้อมมือไปเปิดโทรทัศน์เครื่องเล็กหน้าคอนโซลรถเพื่อกลบเสียงกวนประสาทของอีกฝ่าย  ประพฤติกลั้วหัวเราะหากแต่ก็ต้องชะงักไป





                    \"รายงานข่าวด่วน  วานนี้คนร้ายคดีอุกฉกรรจ์อายุประมาณ 58 ปี หลบหนีออกจากเรือนจำ  ตำรวจกำลังเร่งตามหา  ขอให้ทุกท่านระวังตัว  และหากใครพบเห็นชายวัยกลางคนลักษณะดังรูป กรุณาแจ้ง...\"





                    ประพฤติชะลอรถพลางพยายามเพ่งมองบุคคลในจอโทรทัศน์อย่างตั้งใจ  ใบหน้าซีกขวาชายวัยกลางคนมีรอยแผลเป็นจากไฟไหม้  ดูจากบาดแผลก็เดาได้ว่าขณะเกิดเหตุคงโดนไหม้ไม่น้อย





                    จากรถที่ค่อยๆช้าลงเปลี่ยนเป็นจอดเข้าข้างทาง





                    \"ป่าน  จอดรถทำไม?\"  โยธกาจ้องหน้าชายหนุ่มสลับกับภาพข่าว





                    \"นัท!\"  เขาอุทานออกมา  เสียงเบาจนแทบไม่พ้นลำคอ





                    \"หือ?  คนร้ายเกี่ยวอะไรกับณัฐถกา\"





                    ประพฤติหันไปสบตาอีกฝ่าย  \"พ่อของนัท!!\"







    To be continued...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×