ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักอลวัน หอพักอลเวง

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 14 : คนที่ควรหลีกเลี่ยง

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 49



                  ตั้งแต่วันเปิดเทอมเป็นต้นมา  เจสสิก้าพยายามปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนและเพื่อนๆ  จนตอนนี้เธอเริ่มคุ้นเคยและสนิทสนมกับเพื่อนๆในห้องมากขึ้น  ยกเว้นก็แต่กลุ่มของนายราล์ฟที่เธอพยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวและข้องแวะ  ระยะนี้เธอกับเขาไม่ได้ทะเลาะกันอีกเลย  ตอนอยู่ที่โรงเรียนแทบจะไม่ได้พูดกันด้วยซ้ำ  นอกจากอยู่ที่หอก็มีพูดกันบ้างไม่กี่คำแม้จะเจอหน้ากันทุกวันก็ตาม  เพราะหลังเลิกเรียนเจสสิก้าก็ใช้เวลาอยู่กับพวกแมคกิลบ้าง  เดินสำรวจรอบๆโรงเรียนบ้าง  จนตอนนี้เจสสิก้าพอจะรู้จักแทบทุกซอกทุกมุมของโรงเรียน 

                  ส่วนราล์ฟหลังเลิกเรียนก็ซ้อมบาสฯ  กว่าจะกลับก็ช่วงหัวค่ำ  กลับมาถึงก็ทำการบ้าน  อาบน้ำ  แล้วก็นอน  วันที่ไม่มีซ้อมหลังเลิกเรียนก็จะขลุกอยู่กับกลุ่มเพื่อนตามบริเวณโรงเรียนหรือไม่ก็ห้องเพื่อน  ตอนเช้าตื่นนอนต่างคนก็ต่างไปโรงเรียน  ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันเท่าไหร่  และโอกาสที่จะทำความสนิทสนมในฐานะรูมเมทก็แทบจะไม่มีเลย  แต่นั่นก็อาจเป็นผลดีกับตัวเธอเองก็ได้.....

                  หลังเลิกเรียนในวันศุกร์  เจสสิก้าไปหาเรย์แลนด์ที่ห้องพยาบาลตามแมสเสจเรียกที่ได้รับจากชายหนุ่ม  เมื่อถึงหน้าห้องพยาบาลก็เปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะเนื่องจากคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว  แต่ทันทีที่เปิดเข้าไปก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเรย์แลนด์อยู่กับสาวสวยผมบรอนซ์หยักโศกนางหนึ่ง  ดูจากการแต่งตัวน่าจะเป็นอาจารย์  แต่ภาพที่เห็นเมื่อครู่  ฝ่ายหญิงที่กำลังไล้นิ้วยาวเรียวของหล่อนตามท่อนแขนของชายหนุ่มเหมือนจงใจทอดสะพาน  ก่อนจะหดมือกลับเมื่อเจสสิก้าโผล่เข้ามา  อาการตกใจของหญิงสาวปรากฏให้เห็นอยู่ชั่วพริบตาเดียวก่อนที่ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดจะคลี่ยิ้มให้เจสสิก้า  หล่อนหันไปล่ำลาชายที่สนทนาด้วยแล้วเยื้องย่างออกจากห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                  เจสสิก้ามองตามหลังหญิงสาวสลับกับชายหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกไม่พอใจนิดๆ  ดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทอดสะพานให้เรย์แลนด์ 

                  คงเป็นอาจารย์ล่ะสิท่า  แต่แต่งหน้าซะเข้มเชียว  นี่มันโรงเรียนนะ  ไม่ใช่โฮสต์คลับ!  เจสสิก้าอดที่จะเขม่นเข่นเขี้ยวไม่ได้  รู้สึกไม่ชอบใจตะหงิดๆแฮะ 

                  เดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่ยิ้มน้อยๆ  เห็นแล้วก็อดน่าหมั่นไส้ไม่ได้

                  "ผู้หญิงเมื่อกี๊ใครคะ"  เจสสิก้าถามขึ้นทันที  น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดจนเรย์แลนด์อดที่จะปลื้มไม่ได้

                  แต่ชายหนุ่มไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองมากนักว่าเจสสิก้าหึงเขา  เพราะเขาเคยดีใจเก้อมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสมัยตอนที่เขายังเรียนอยู่ที่ CULA 

                  ตอนนั้นเขายังไม่ได้มาทำงานกับบิลแต่ก็ไปมาหาสู่กันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง  วันนั้นบิลกับเจสสิก้าพาเรย์แลนด์ไปเที่ยวทะเลที่ฟลอริดาเพื่อฉลองสอบเสร็จ  โดยมีแคทรีนแฟนสาวของเรย์แลนด์ที่เรียนที่เดียวกันขอตามไปด้วย (แม้เรย์แลนด์จะรักเจสสิก้าแต่เขาก็คบผู้หญิงมาบ้างตามประสาผู้ชาย)

                  ตอนนั้นเขาสังเกตว่าเจสสิก้ามีท่าทางไม่พอใจนิดเวลาที่เห็นเขาอยู่กับแคทรีน  บางทีก็จะคอยมาจับผิดเธออยู่เรื่อยๆจนเขาอดที่จะคิดไม่ได้ว่าเจสสิก้าหึงเขา  ในที่สุดเขาก็ลองแกล้งๆถามเธอถึงเรื่องที่เขาสงสัย  ซึ่งเจสสิก้าก็ตอบมาตามตรงว่า 

                  "ก็ใช่น่ะสิคะ  ก็เรย์เป็นเหมือนพี่ชายของเจสนี่  แล้วแฟนของเรย์ในอนาคตก็อาจจะมาเป็นพี่สะใภ้ของเจสด้วย  ดังนั้นเจสต้องพิสูจน์ให้แน่ใจว่าผู้หญิงที่เรย์เลือกเป็นคนดีและเหมาะสมกับเรย์รึเปล่า  ที่สำคัญเธอต้องรักเรย์และจริงใจกับเรย์ด้วย" 

                  เพียงเท่านั้นเขาก็รู้ว่าเป็นการหึงหวงเขาในฐานะพี่ชายเท่านั้น  แต่ก็รู้สึกยินดีลึกๆที่อย่างน้อยเขาก็มีความสำคัญกับเธอ  และอดที่จะหวังไม่ได้ว่าซักวันหนึ่งความหึงหวงของเจสสิก้าที่มีต่อเขาในฐานะพี่ชายจะแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น.....

                  "อาจารย์สอนสังคมน่ะครับ  เธอชื่อจีน่า  สวยดีนะครับ"  เรย์แลนด์ตอบ  ยังคงยิ้มน้อยๆ

                  เจสสิก้าถลึงตาใส่กับประโยคหลัง  "แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่"

                  "เธอก็แค่เข้ามาทำความรู้จักน่ะครับ  ไม่มีอะไรหรอก"  เรย์แลนด์ตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

                  "ท่าทางเธอจะชอบเรย์นะ  เห็นทอดสะพานให้อย่างจงใจเลยนี่"  เจสสิก้าประชด

                   เรย์แลนด์หัวเราะเบาๆ  หยอกกลับด้วยคำพูดทีเล่นทีจริง  "นั่นสินะครับ  ดีนะที่เจสมาทันเวลา  ไม่งั้นผมคงเผลอข้ามสะพานนั่นไปแล้ว"

                  "เจสคงจะมาขัดจังหวะล่ะมากกว่า"  เธอตอบพลางสะบัดหน้าไปอีกทาง  สร้างความเอ็นดูให้เรย์แลนด์

                  "โธ่  ไม่มีอะไรหรอกครับ  ผมแค่พูดไปอย่างงั้นเองแหล่ะ"  เขาบอก  "ที่จริงเมื่อกี๊มันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานน่ะครับ"

                  "งาน?  นั่งคุยกับสาวนี่นะคะ?"  เจสสิก้าขมวดคิ้วมองเรย์แลนด์อย่างไม่อยากเชื่อ

                  "ใช่แล้วครับ"  เรย์แลนด์แกล้งตอบ  แต่พอเห็นเจสสิก้าตีหน้ายักษ์ใส่ก็หัวเราะก่อนเข้าเรื่อง  "ผู้หญิงคนนั้นเป็นอาจารย์สอนสังคมของระดับจูเนียรฯในช่วงก่อนที่นายโรเจอร์ แคมเบลจะถูกฆาตกรรมไงครับ"

                  เมื่อได้ฟังที่เรย์แลนด์พูดเจสสิก้าก็หายขุ่นเคืองทันที  เข้ามานั่งเก้าอี้ตัวที่อาจารย์สาวนั่งเมื่อครู่แล้วฟังอย่างตั้งใจ

                  "ผมลองแกล้งๆซักถามเธอเรื่องโรเจอร์  เอ่อ...มันก็ต้องมีอะไรนิดๆหน่อยๆอย่างเหตุการณ์ที่เจสเห็นเมื่อครู่เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ  เธอจะได้ไม่สงสัยแล้วก็ไม่คิดว่าเป็นการจงใจเกินไปในการถามถึงเรื่องนั้น"

                  "ค่ะ  เจสเข้าใจ"  แต่หญิงสาวก็ไม่วายประชด  "แต่เรย์กับอาบิลใช้วิธีเดียวกันเลยนะคะเวลาจะหลอกล่อเหยื่อให้ตายใจเนี่ย"

                  "อ๊ะๆ  แต่ผมเป็นประเภทหว่านพืชแล้วไม่หวังผลนะครับ  ได้ข้อมูลแล้วก็จบ  แต่บิลนี่สิ  รายนั้นจบง่ายๆซะที่ไหน  พอหลอกถามจนได้ข้อมูลมาแล้วก็สาวต่อทุกที  แล้วหลังจากนั้นก็จะแก้ตัวว่า....."

                  "นั่นมันแค่ผลพลอยได้ต่างหาก"  เจสสิก้าช่วยเสริมให้  ก่อนที่จะพากันหัวเราะร่วนเมื่อได้นินทาถึงความกะล่อนของบุคคลที่สาม

                  "ฮะแฮ่ม  เข้าเรื่องต่อดีกว่าครับ"  เรย์แลนด์กระแอมก่อนกลับมาจริงจังเหมือนเดิม  "เท่าที่รู้มาจากอาจารย์จีน่า  นายโรเจอร์คนนั้นเป็นเด็กเรียน  ค่อนข้างเรียบร้อย  ชอบอยู่คนเดียวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร  ไม่เคยมีเรื่องหรือมีศัตรูที่ไหน  นอกจากนั้นก็...เคยมีข่าวลือว่าเป็นเกย์  แล้วก็เคยคบกับประธานนักเรียน....."

                  "ประธานนักเรียน!"  เจสสิก้าอุทาน  "รุ่นพี่โจนาธานน่ะหรอ"

                  "เจสรู้จักหรอ" เรย์แลนด์ถามอย่างแปลกใจ

                  "เปล่าหรอกค่ะ  เพื่อนใหม่เคยพูดถึงน่ะ  แต่เท่าที่รู้มาจากเพื่อน  รุ่นพี่โจนาธานคนนี้ก็มีข่าวว่าเป็นเสือไบฯด้วย"  เจสสิก้าบอก

                  "เสือไบฯ?"  เรย์แลนด์ทวน  ทำหน้าแปลกๆ  "ถ้างั้นข่าวลือก็มีมูลความจริง" 

                  "บางทีข่าวลืออาจจะไม่ใช่แค่ข่าวลือก็ได้"  เจสสิก้าเปรย

                  "งั้นที่บิลเคยพูดก็ถูก  คดีนี้อาจจะมีเรื่องชู้สาวมาพัวพันด้วย  เพื่อให้แน่ใจเราควรจะต้องสืบพฤติกรรมของประธานนักเรียนคนนั้นด้วยว่าเป็นไบเซ็กช่วลจริงหรือเปล่า  แล้วตอนนี้และก่อนหน้านั้นเคยคบใครมาบ้าง" 

                  "เรื่องนี้เจสจัดการเองค่ะ  เจสมีเพื่อนอยู่ในสภานักเรียน  เขาน่าจะพอรู้เรื่องรุ่นพี่โจนาธานบ้าง"  เจสสิก้าอาสา

                  "ถ้างั้นก็ดีเลย  เอาเป็นว่าเรื่องประธานนักเรียนเจสจัดการก็แล้วกัน"  เรย์แลนด์สรุป  "แต่ถ้าเขาเป็นไบฯจริงเจสก็ต้องระวังตัวหน่อยล่ะ  อย่าไปเข้าใกล้หมอนั่นมากนัก  เพราะตอนนี้เจสอยู่ในร่างเด็กหนุ่ม  แล้วหน้าสวยๆแบบนี้สะดุดตาพวกคนประเภทนั้นไม่น้อยเลยล่ะ"

                  เจสสิก้าหัวเราะขำ  "เรย์ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ  เจสจะระวังตัว  ว่าแต่เรย์เถอะ  น่าเป็นห่วงเหมือนกันน้า"

                  "ผมน่ะเหรอ?  น่าเป็นห่วงตรงไหนกัน"  เรย์แลนด์ทำหน้างง

                  "ก็ตอนนี้ในบรรดานักเรียนหญิงกำลังฮือฮาเรื่องอาจารย์ห้องพยาบาลคนใหม่ว่าหล่ออย่างงั้นหล่ออย่างงี้  ระวังน้า...จะถูกรุมจีบ  ห้องพยาบาลจะมีแต่สาวๆเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสายจนเรย์ไม่เป็นอันทำงานทำการ  แล้วตอนนี้เจสก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะกันสาวๆพวกนั้นให้เรย์ได้ด้วย"  เจสสิก้าพูดพลางหลิ่วตาอย่างล้อๆ

                  เรย์แลนด์หัวเราะขัน  เอื้อมมือไปดึงจมูกหญิงสาวอย่างเอ็นดูแกมหมั่นเขี้ยวอย่างที่เคยทำมาตั้งแต่เธอยังเด็ก  เจสสิก้าเองก็หัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ 

                  แต่ระหว่างนั้นเองอยู่ๆประตูห้องพยาบาลก็เปิดออกโดยที่ทั้งคู่ไม่ทันตั้งตัว  เรย์แลนด์รีบหดมือกลับแต่ก็ไม่พ้นสายตาของผู้เข้ามาใหม่ทั้งสอง  เมื่อรู้ว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาเป็นใครเจสสิก้าก็นั่งตัวแข็ง

                  ริคพยุงราล์ฟที่บาดเจ็บที่หัวเข่าเข้ามา  ทั้งคู่อยู่ในชุดฟอร์มของชมรมบาสฯแสดงว่าอยู่ในระหว่างการฝึกซ้อมหลังเลิกเรียน  เรย์แลนด์เมื่อเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปช่วยพยุงคนเจ็บเข้ามานั่งที่เตียง 

                  ราล์ฟมองเจสสิก้าสลับกับเรย์แลนด์ด้วยความสงสัย  แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

                  "แค่ฉีกน่ะ  แผลลึกแต่ไม่ร้ายแรงเท่าไหร่  โชคดีที่ไม่ถึงกับเข่าแตก  ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดมารึยัง"  เรย์แลนด์ถามคนเจ็บ  เขากำลังแสดงบทหมอหนุ่มอย่างสมบทบาท

                  "ล้างแล้วฮะ"  ริคตอบแทน

                  เรย์แลนด์พยักหน้าแล้วเดินไปหยิบขวดแอลกอฮอล์ในตู้เพื่อนำมาเช็ดแผล  ระหว่างนั้นสายตาของสองหนุ่มก็ยังมองมาที่เธออย่างสงสัยจนเจสสิก้ารู้สึกอึดอัด  เธออยากจะหนีจากสายตาจับผิดนั่นจึงลุกขึ้นทันที

                  "เอ่อ...อาจารย์ฮะ  ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะฮะ"  เธอพูดกับเรย์แลนด์

                  "เชิญครับ"  ชายหนุ่มหันมาบอก

                  แล้วเจสสิก้าก็เดินออกจากห้องพยาบาลทันที  เมื่อออกมาแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก  แต่ก็ยังวิตกกังวลกับเรื่องเมื่อครู่ 

                  หมอนั่นจะเห็นตอนที่เธอกับเรย์หยอกเล่นกันรึเปล่านะ  คงจะเห็นอยู่แล้ว  ไม่งั้นคงไม่มองเธอด้วยสายตาแปลกๆเหมือนจ้องจับผิดอย่างนั้นหรอก  แล้วจะทำไงดีล่ะเนี่ย  หมอนั่นต้องสงสัยแน่ๆเลย  หวังว่าเรย์คงจะช่วยแก้ปัญหาได้นะ.....

                  ทางด้านเรย์แลนด์  หลังจากเช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์แล้วก็ใส่ยาและปิดแผลให้คนเจ็บอย่างคล่องแคล่ว  โดยมีสายตาของราล์ฟคอยลอบมองตลอด

                  "ภายในวันสองวันนี้แผลจะตึงๆซักหน่อย  พยายามอย่าให้โดนน้ำก็แล้วกัน  แล้วก็งดทำกิจกรรมหนักๆซักสองสามวันด้วย  ไม่อย่างงั้นแผลจะฉีกได้"  ชายหนุ่มบอกหลังทำแผลเสร็จ

                  "ขอบคุณฮะ"  ราล์ฟพยักหน้าตอบรับ

                  "อาจารย์ฮะ"  ริคเอ่ยเรียกระหว่างที่เรย์แลนด์เก็บอุปกรณ์ทำแผลเข้าตู้

                  "หือม์?"  เขาหันมามอง

                  "อาจารย์กับนักเรียนใหม่คนนั้นเป็นอะไรกันเหรอครับ"

                  "เอ่อ...ลูกพี่ลูกน้องน่ะ  ทำไมหรอ"  เรย์แลนด์แสร้งตอบพลางถามกลับ

                  "อ๋อ... เมื่อกี๊พวกผมเห็นพวกอาจารย์คุยกันท่าทางสนิทสนมก็เลยสงสัย  ไม่มีอะไรหรอกครับ"  ริคหายข้องใจ  แต่ราล์ฟไม่

                  "หน้าตาไม่ยักเหมือนกันซักนิดนะฮะ"  ราล์ฟเปรยขึ้นมา

                  เรย์แลนด์หยักยิ้มที่มุมปากในความขี้สงสัยของเด็กหนุ่ม  "ก็แค่ญาติห่างๆ  หน้าตาก็เลยไม่เหมือนกัน"

                  ราล์ฟพยักหน้ารับ  ก่อนจะเอ่ยถามต่อ  "อาจารย์สายตาสั้นหรือสายตายาวหรือฮะ"

                  เรย์แลนด์มองราล์ฟนิ่งอยู่ครู่หนึ่งด้วยความแปลกใจในคำถาม  ก่อนตอบ  "สายตาสั้นสิครับ  ผมยังไม่แก่ซักหน่อยถึงต้องสายตายาว"  เขาพูดติดตลก

                  ราล์ฟแย้มยิ้มน้อยๆ  "แต่ดูจากเลนส์แว่นแล้วมันบางเรียบเกินไปไม่เหมือนแว่นสายตาเลยนะฮะ"

                  เรย์แลนด์ชะงักกึก  แต่ไม่ออกอาการมากพอที่จะถูกสังเกต  ก่อนจะแสร้งหัวเราะในลำคอ  "นายนี่ช่างสังเกตจริงนะ  แว่นสายตาสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องมีเว้ามีนูนมากนักก็ได้  เลนส์บางๆก็มีเยอะแยะไป  เลนส์หนาๆก็ไม่ค่อยมีใครใช้แล้วนี่  อีกอย่างความหนาของเลนส์ก็ขึ้นอยู่กับสายตาด้วยว่าสั้นมากหรือสั้นน้อย  อย่างอาจารย์สั้นไม่มากก็เลยเลือกใช้แบบบางพิเศษ  จะได้ไม่หนักไม่เกะกะไง"

                  "จริงสินะฮะ"  ราล์ฟพยักหน้ารับแต่ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก  "แผลก็ทำเสร็จแล้วงั้นผมขอตัวกลับเลยดีกว่า  ขอบคุณอีกครั้งนะฮะ  อาจารย์"

                  "ไม่เป็นไร"  เรย์แลนด์ยิ้มรับ

                  "ลาก่อนฮะ"  ริคเอ่ยลา  เดินเข้าไปพยุงราล์ฟที่กำลังลงจากเตียง  แล้วพากันเดินออกไปจากห้องพยาบาล

                  ทันทีที่ประตูห้องพยาบาลถูกปิดลงเรย์แลนด์ก็ถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก

                  "เกือบไปแล้วเรา... ฉลาดไม่ใช่เล่นแฮะเด็กคนนี้  ช่างสังเกต  ช่างจับผิด  ขี้สงสัยอีกต่างหาก  คุณสมบัติของนักสืบที่ดีเลยนะเนี่ย  ประมาทไม่ได้เลยเด็กคนนี้  หวังว่าคงไม่เป็นปัญหาต่อการทำงานหรอกนะ  อ้อ  ต้องเตือนให้เจสหลีกเลี่ยงเด็กนั่นไว้ด้วย"  เรย์แลนด์เปรยอย่างนึกชื่นชม  แต่ก็อดกังวลไม่ได้  แล้วที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นคือ  ถ้าเด็กหนุ่มคนนั้นใกล้ชิดกับเจสสิก้าเขาจะสงสัยเธอรึเปล่า

                  แน่นอน... เรย์แลนด์ไม่รู้เลยว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นรูมเมทของเจสสิก้า  คนที่จะกลายมาเป็นคนใกล้ตัวเธอที่สุดในอนาคตข้างหน้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×