คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 14 : คนที่ควรหลีกเลี่ยง
ตั้งแต่วันเปิดเทอมเป็นต้นมา เจสสิก้าพยายามปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนและเพื่อนๆ จนตอนนี้เธอเริ่มคุ้นเคยและสนิทสนมกับเพื่อนๆในห้องมากขึ้น ยกเว้นก็แต่กลุ่มของนายราล์ฟที่เธอพยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวและข้องแวะ ระยะนี้เธอกับเขาไม่ได้ทะเลาะกันอีกเลย ตอนอยู่ที่โรงเรียนแทบจะไม่ได้พูดกันด้วยซ้ำ นอกจากอยู่ที่หอก็มีพูดกันบ้างไม่กี่คำแม้จะเจอหน้ากันทุกวันก็ตาม เพราะหลังเลิกเรียนเจสสิก้าก็ใช้เวลาอยู่กับพวกแมคกิลบ้าง เดินสำรวจรอบๆโรงเรียนบ้าง จนตอนนี้เจสสิก้าพอจะรู้จักแทบทุกซอกทุกมุมของโรงเรียน
ส่วนราล์ฟหลังเลิกเรียนก็ซ้อมบาสฯ กว่าจะกลับก็ช่วงหัวค่ำ กลับมาถึงก็ทำการบ้าน อาบน้ำ แล้วก็นอน วันที่ไม่มีซ้อมหลังเลิกเรียนก็จะขลุกอยู่กับกลุ่มเพื่อนตามบริเวณโรงเรียนหรือไม่ก็ห้องเพื่อน ตอนเช้าตื่นนอนต่างคนก็ต่างไปโรงเรียน ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันเท่าไหร่ และโอกาสที่จะทำความสนิทสนมในฐานะรูมเมทก็แทบจะไม่มีเลย แต่นั่นก็อาจเป็นผลดีกับตัวเธอเองก็ได้.....
หลังเลิกเรียนในวันศุกร์ เจสสิก้าไปหาเรย์แลนด์ที่ห้องพยาบาลตามแมสเสจเรียกที่ได้รับจากชายหนุ่ม เมื่อถึงหน้าห้องพยาบาลก็เปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะเนื่องจากคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ทันทีที่เปิดเข้าไปก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเรย์แลนด์อยู่กับสาวสวยผมบรอนซ์หยักโศกนางหนึ่ง ดูจากการแต่งตัวน่าจะเป็นอาจารย์ แต่ภาพที่เห็นเมื่อครู่ ฝ่ายหญิงที่กำลังไล้นิ้วยาวเรียวของหล่อนตามท่อนแขนของชายหนุ่มเหมือนจงใจทอดสะพาน ก่อนจะหดมือกลับเมื่อเจสสิก้าโผล่เข้ามา อาการตกใจของหญิงสาวปรากฏให้เห็นอยู่ชั่วพริบตาเดียวก่อนที่ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดจะคลี่ยิ้มให้เจสสิก้า หล่อนหันไปล่ำลาชายที่สนทนาด้วยแล้วเยื้องย่างออกจากห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจสสิก้ามองตามหลังหญิงสาวสลับกับชายหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกไม่พอใจนิดๆ ดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทอดสะพานให้เรย์แลนด์
คงเป็นอาจารย์ล่ะสิท่า แต่แต่งหน้าซะเข้มเชียว นี่มันโรงเรียนนะ ไม่ใช่โฮสต์คลับ! เจสสิก้าอดที่จะเขม่นเข่นเขี้ยวไม่ได้ รู้สึกไม่ชอบใจตะหงิดๆแฮะ
เดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่ยิ้มน้อยๆ เห็นแล้วก็อดน่าหมั่นไส้ไม่ได้
"ผู้หญิงเมื่อกี๊ใครคะ" เจสสิก้าถามขึ้นทันที น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดจนเรย์แลนด์อดที่จะปลื้มไม่ได้
แต่ชายหนุ่มไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองมากนักว่าเจสสิก้าหึงเขา เพราะเขาเคยดีใจเก้อมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสมัยตอนที่เขายังเรียนอยู่ที่ CULA
ตอนนั้นเขายังไม่ได้มาทำงานกับบิลแต่ก็ไปมาหาสู่กันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง วันนั้นบิลกับเจสสิก้าพาเรย์แลนด์ไปเที่ยวทะเลที่ฟลอริดาเพื่อฉลองสอบเสร็จ โดยมีแคทรีนแฟนสาวของเรย์แลนด์ที่เรียนที่เดียวกันขอตามไปด้วย (แม้เรย์แลนด์จะรักเจสสิก้าแต่เขาก็คบผู้หญิงมาบ้างตามประสาผู้ชาย)
ตอนนั้นเขาสังเกตว่าเจสสิก้ามีท่าทางไม่พอใจนิดเวลาที่เห็นเขาอยู่กับแคทรีน บางทีก็จะคอยมาจับผิดเธออยู่เรื่อยๆจนเขาอดที่จะคิดไม่ได้ว่าเจสสิก้าหึงเขา ในที่สุดเขาก็ลองแกล้งๆถามเธอถึงเรื่องที่เขาสงสัย ซึ่งเจสสิก้าก็ตอบมาตามตรงว่า
"ก็ใช่น่ะสิคะ ก็เรย์เป็นเหมือนพี่ชายของเจสนี่ แล้วแฟนของเรย์ในอนาคตก็อาจจะมาเป็นพี่สะใภ้ของเจสด้วย ดังนั้นเจสต้องพิสูจน์ให้แน่ใจว่าผู้หญิงที่เรย์เลือกเป็นคนดีและเหมาะสมกับเรย์รึเปล่า ที่สำคัญเธอต้องรักเรย์และจริงใจกับเรย์ด้วย"
เพียงเท่านั้นเขาก็รู้ว่าเป็นการหึงหวงเขาในฐานะพี่ชายเท่านั้น แต่ก็รู้สึกยินดีลึกๆที่อย่างน้อยเขาก็มีความสำคัญกับเธอ และอดที่จะหวังไม่ได้ว่าซักวันหนึ่งความหึงหวงของเจสสิก้าที่มีต่อเขาในฐานะพี่ชายจะแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น.....
"อาจารย์สอนสังคมน่ะครับ เธอชื่อจีน่า สวยดีนะครับ" เรย์แลนด์ตอบ ยังคงยิ้มน้อยๆ
เจสสิก้าถลึงตาใส่กับประโยคหลัง "แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่"
"เธอก็แค่เข้ามาทำความรู้จักน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก" เรย์แลนด์ตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
"ท่าทางเธอจะชอบเรย์นะ เห็นทอดสะพานให้อย่างจงใจเลยนี่" เจสสิก้าประชด
เรย์แลนด์หัวเราะเบาๆ หยอกกลับด้วยคำพูดทีเล่นทีจริง "นั่นสินะครับ ดีนะที่เจสมาทันเวลา ไม่งั้นผมคงเผลอข้ามสะพานนั่นไปแล้ว"
"เจสคงจะมาขัดจังหวะล่ะมากกว่า" เธอตอบพลางสะบัดหน้าไปอีกทาง สร้างความเอ็นดูให้เรย์แลนด์
"โธ่ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่พูดไปอย่างงั้นเองแหล่ะ" เขาบอก "ที่จริงเมื่อกี๊มันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานน่ะครับ"
"งาน? นั่งคุยกับสาวนี่นะคะ?" เจสสิก้าขมวดคิ้วมองเรย์แลนด์อย่างไม่อยากเชื่อ
"ใช่แล้วครับ" เรย์แลนด์แกล้งตอบ แต่พอเห็นเจสสิก้าตีหน้ายักษ์ใส่ก็หัวเราะก่อนเข้าเรื่อง "ผู้หญิงคนนั้นเป็นอาจารย์สอนสังคมของระดับจูเนียรฯในช่วงก่อนที่นายโรเจอร์ แคมเบลจะถูกฆาตกรรมไงครับ"
เมื่อได้ฟังที่เรย์แลนด์พูดเจสสิก้าก็หายขุ่นเคืองทันที เข้ามานั่งเก้าอี้ตัวที่อาจารย์สาวนั่งเมื่อครู่แล้วฟังอย่างตั้งใจ
"ผมลองแกล้งๆซักถามเธอเรื่องโรเจอร์ เอ่อ...มันก็ต้องมีอะไรนิดๆหน่อยๆอย่างเหตุการณ์ที่เจสเห็นเมื่อครู่เพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ เธอจะได้ไม่สงสัยแล้วก็ไม่คิดว่าเป็นการจงใจเกินไปในการถามถึงเรื่องนั้น"
"ค่ะ เจสเข้าใจ" แต่หญิงสาวก็ไม่วายประชด "แต่เรย์กับอาบิลใช้วิธีเดียวกันเลยนะคะเวลาจะหลอกล่อเหยื่อให้ตายใจเนี่ย"
"อ๊ะๆ แต่ผมเป็นประเภทหว่านพืชแล้วไม่หวังผลนะครับ ได้ข้อมูลแล้วก็จบ แต่บิลนี่สิ รายนั้นจบง่ายๆซะที่ไหน พอหลอกถามจนได้ข้อมูลมาแล้วก็สาวต่อทุกที แล้วหลังจากนั้นก็จะแก้ตัวว่า....."
"นั่นมันแค่ผลพลอยได้ต่างหาก" เจสสิก้าช่วยเสริมให้ ก่อนที่จะพากันหัวเราะร่วนเมื่อได้นินทาถึงความกะล่อนของบุคคลที่สาม
"ฮะแฮ่ม เข้าเรื่องต่อดีกว่าครับ" เรย์แลนด์กระแอมก่อนกลับมาจริงจังเหมือนเดิม "เท่าที่รู้มาจากอาจารย์จีน่า นายโรเจอร์คนนั้นเป็นเด็กเรียน ค่อนข้างเรียบร้อย ชอบอยู่คนเดียวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่เคยมีเรื่องหรือมีศัตรูที่ไหน นอกจากนั้นก็...เคยมีข่าวลือว่าเป็นเกย์ แล้วก็เคยคบกับประธานนักเรียน....."
"ประธานนักเรียน!" เจสสิก้าอุทาน "รุ่นพี่โจนาธานน่ะหรอ"
"เจสรู้จักหรอ" เรย์แลนด์ถามอย่างแปลกใจ
"เปล่าหรอกค่ะ เพื่อนใหม่เคยพูดถึงน่ะ แต่เท่าที่รู้มาจากเพื่อน รุ่นพี่โจนาธานคนนี้ก็มีข่าวว่าเป็นเสือไบฯด้วย" เจสสิก้าบอก
"เสือไบฯ?" เรย์แลนด์ทวน ทำหน้าแปลกๆ "ถ้างั้นข่าวลือก็มีมูลความจริง"
"บางทีข่าวลืออาจจะไม่ใช่แค่ข่าวลือก็ได้" เจสสิก้าเปรย
"งั้นที่บิลเคยพูดก็ถูก คดีนี้อาจจะมีเรื่องชู้สาวมาพัวพันด้วย เพื่อให้แน่ใจเราควรจะต้องสืบพฤติกรรมของประธานนักเรียนคนนั้นด้วยว่าเป็นไบเซ็กช่วลจริงหรือเปล่า แล้วตอนนี้และก่อนหน้านั้นเคยคบใครมาบ้าง"
"เรื่องนี้เจสจัดการเองค่ะ เจสมีเพื่อนอยู่ในสภานักเรียน เขาน่าจะพอรู้เรื่องรุ่นพี่โจนาธานบ้าง" เจสสิก้าอาสา
"ถ้างั้นก็ดีเลย เอาเป็นว่าเรื่องประธานนักเรียนเจสจัดการก็แล้วกัน" เรย์แลนด์สรุป "แต่ถ้าเขาเป็นไบฯจริงเจสก็ต้องระวังตัวหน่อยล่ะ อย่าไปเข้าใกล้หมอนั่นมากนัก เพราะตอนนี้เจสอยู่ในร่างเด็กหนุ่ม แล้วหน้าสวยๆแบบนี้สะดุดตาพวกคนประเภทนั้นไม่น้อยเลยล่ะ"
เจสสิก้าหัวเราะขำ "เรย์ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เจสจะระวังตัว ว่าแต่เรย์เถอะ น่าเป็นห่วงเหมือนกันน้า"
"ผมน่ะเหรอ? น่าเป็นห่วงตรงไหนกัน" เรย์แลนด์ทำหน้างง
"ก็ตอนนี้ในบรรดานักเรียนหญิงกำลังฮือฮาเรื่องอาจารย์ห้องพยาบาลคนใหม่ว่าหล่ออย่างงั้นหล่ออย่างงี้ ระวังน้า...จะถูกรุมจีบ ห้องพยาบาลจะมีแต่สาวๆเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสายจนเรย์ไม่เป็นอันทำงานทำการ แล้วตอนนี้เจสก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะกันสาวๆพวกนั้นให้เรย์ได้ด้วย" เจสสิก้าพูดพลางหลิ่วตาอย่างล้อๆ
เรย์แลนด์หัวเราะขัน เอื้อมมือไปดึงจมูกหญิงสาวอย่างเอ็นดูแกมหมั่นเขี้ยวอย่างที่เคยทำมาตั้งแต่เธอยังเด็ก เจสสิก้าเองก็หัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ
แต่ระหว่างนั้นเองอยู่ๆประตูห้องพยาบาลก็เปิดออกโดยที่ทั้งคู่ไม่ทันตั้งตัว เรย์แลนด์รีบหดมือกลับแต่ก็ไม่พ้นสายตาของผู้เข้ามาใหม่ทั้งสอง เมื่อรู้ว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาเป็นใครเจสสิก้าก็นั่งตัวแข็ง
ริคพยุงราล์ฟที่บาดเจ็บที่หัวเข่าเข้ามา ทั้งคู่อยู่ในชุดฟอร์มของชมรมบาสฯแสดงว่าอยู่ในระหว่างการฝึกซ้อมหลังเลิกเรียน เรย์แลนด์เมื่อเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปช่วยพยุงคนเจ็บเข้ามานั่งที่เตียง
ราล์ฟมองเจสสิก้าสลับกับเรย์แลนด์ด้วยความสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
"แค่ฉีกน่ะ แผลลึกแต่ไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ โชคดีที่ไม่ถึงกับเข่าแตก ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดมารึยัง" เรย์แลนด์ถามคนเจ็บ เขากำลังแสดงบทหมอหนุ่มอย่างสมบทบาท
"ล้างแล้วฮะ" ริคตอบแทน
เรย์แลนด์พยักหน้าแล้วเดินไปหยิบขวดแอลกอฮอล์ในตู้เพื่อนำมาเช็ดแผล ระหว่างนั้นสายตาของสองหนุ่มก็ยังมองมาที่เธออย่างสงสัยจนเจสสิก้ารู้สึกอึดอัด เธออยากจะหนีจากสายตาจับผิดนั่นจึงลุกขึ้นทันที
"เอ่อ...อาจารย์ฮะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะฮะ" เธอพูดกับเรย์แลนด์
"เชิญครับ" ชายหนุ่มหันมาบอก
แล้วเจสสิก้าก็เดินออกจากห้องพยาบาลทันที เมื่อออกมาแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ยังวิตกกังวลกับเรื่องเมื่อครู่
หมอนั่นจะเห็นตอนที่เธอกับเรย์หยอกเล่นกันรึเปล่านะ คงจะเห็นอยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่มองเธอด้วยสายตาแปลกๆเหมือนจ้องจับผิดอย่างนั้นหรอก แล้วจะทำไงดีล่ะเนี่ย หมอนั่นต้องสงสัยแน่ๆเลย หวังว่าเรย์คงจะช่วยแก้ปัญหาได้นะ.....
ทางด้านเรย์แลนด์ หลังจากเช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์แล้วก็ใส่ยาและปิดแผลให้คนเจ็บอย่างคล่องแคล่ว โดยมีสายตาของราล์ฟคอยลอบมองตลอด
"ภายในวันสองวันนี้แผลจะตึงๆซักหน่อย พยายามอย่าให้โดนน้ำก็แล้วกัน แล้วก็งดทำกิจกรรมหนักๆซักสองสามวันด้วย ไม่อย่างงั้นแผลจะฉีกได้" ชายหนุ่มบอกหลังทำแผลเสร็จ
"ขอบคุณฮะ" ราล์ฟพยักหน้าตอบรับ
"อาจารย์ฮะ" ริคเอ่ยเรียกระหว่างที่เรย์แลนด์เก็บอุปกรณ์ทำแผลเข้าตู้
"หือม์?" เขาหันมามอง
"อาจารย์กับนักเรียนใหม่คนนั้นเป็นอะไรกันเหรอครับ"
"เอ่อ...ลูกพี่ลูกน้องน่ะ ทำไมหรอ" เรย์แลนด์แสร้งตอบพลางถามกลับ
"อ๋อ... เมื่อกี๊พวกผมเห็นพวกอาจารย์คุยกันท่าทางสนิทสนมก็เลยสงสัย ไม่มีอะไรหรอกครับ" ริคหายข้องใจ แต่ราล์ฟไม่
"หน้าตาไม่ยักเหมือนกันซักนิดนะฮะ" ราล์ฟเปรยขึ้นมา
เรย์แลนด์หยักยิ้มที่มุมปากในความขี้สงสัยของเด็กหนุ่ม "ก็แค่ญาติห่างๆ หน้าตาก็เลยไม่เหมือนกัน"
ราล์ฟพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยถามต่อ "อาจารย์สายตาสั้นหรือสายตายาวหรือฮะ"
เรย์แลนด์มองราล์ฟนิ่งอยู่ครู่หนึ่งด้วยความแปลกใจในคำถาม ก่อนตอบ "สายตาสั้นสิครับ ผมยังไม่แก่ซักหน่อยถึงต้องสายตายาว" เขาพูดติดตลก
ราล์ฟแย้มยิ้มน้อยๆ "แต่ดูจากเลนส์แว่นแล้วมันบางเรียบเกินไปไม่เหมือนแว่นสายตาเลยนะฮะ"
เรย์แลนด์ชะงักกึก แต่ไม่ออกอาการมากพอที่จะถูกสังเกต ก่อนจะแสร้งหัวเราะในลำคอ "นายนี่ช่างสังเกตจริงนะ แว่นสายตาสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องมีเว้ามีนูนมากนักก็ได้ เลนส์บางๆก็มีเยอะแยะไป เลนส์หนาๆก็ไม่ค่อยมีใครใช้แล้วนี่ อีกอย่างความหนาของเลนส์ก็ขึ้นอยู่กับสายตาด้วยว่าสั้นมากหรือสั้นน้อย อย่างอาจารย์สั้นไม่มากก็เลยเลือกใช้แบบบางพิเศษ จะได้ไม่หนักไม่เกะกะไง"
"จริงสินะฮะ" ราล์ฟพยักหน้ารับแต่ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก "แผลก็ทำเสร็จแล้วงั้นผมขอตัวกลับเลยดีกว่า ขอบคุณอีกครั้งนะฮะ อาจารย์"
"ไม่เป็นไร" เรย์แลนด์ยิ้มรับ
"ลาก่อนฮะ" ริคเอ่ยลา เดินเข้าไปพยุงราล์ฟที่กำลังลงจากเตียง แล้วพากันเดินออกไปจากห้องพยาบาล
ทันทีที่ประตูห้องพยาบาลถูกปิดลงเรย์แลนด์ก็ถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก
"เกือบไปแล้วเรา... ฉลาดไม่ใช่เล่นแฮะเด็กคนนี้ ช่างสังเกต ช่างจับผิด ขี้สงสัยอีกต่างหาก คุณสมบัติของนักสืบที่ดีเลยนะเนี่ย ประมาทไม่ได้เลยเด็กคนนี้ หวังว่าคงไม่เป็นปัญหาต่อการทำงานหรอกนะ อ้อ ต้องเตือนให้เจสหลีกเลี่ยงเด็กนั่นไว้ด้วย" เรย์แลนด์เปรยอย่างนึกชื่นชม แต่ก็อดกังวลไม่ได้ แล้วที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นคือ ถ้าเด็กหนุ่มคนนั้นใกล้ชิดกับเจสสิก้าเขาจะสงสัยเธอรึเปล่า
แน่นอน... เรย์แลนด์ไม่รู้เลยว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นรูมเมทของเจสสิก้า คนที่จะกลายมาเป็นคนใกล้ตัวเธอที่สุดในอนาคตข้างหน้า
ความคิดเห็น