ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักอลวัน หอพักอลเวง

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 13 : ชมรมบาสฯชาย

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 49



                  รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่  แดดทอแสงอ่อนๆลอดผ่านม่านหน้าต่างที่พริ้วไหวแผ่วเบาตามสายลม  ปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากห้วงนิทราที่แสนสบายบนเตียงนุ่ม 

                  เจสสิก้าลืมตาขึ้นช้าๆเพื่อปรับใช้ชินกับแสง  มือเอื้อมสะเปะสะปะควานหานาฬิกาที่หัวเตียง  ขยี้ตาด้วยความงัวเงียก่อนตาจะเบิกโพลงด้วยความตกใจ

                  "เจ็ดโมงครึ่ง!  ตายแล้ว!  ตายแน่!"  เสียงอุทานพร้อมกับตลบผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะลุกพรวดขึ้นในทันที  "โอ๊ย!  สายป่านนี้แล้วหรอเนี่ย  เมื่อคืนก็ดันลืมตั้งนาฬิกาปลุกอีก" 

                  แต่ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำก็หันขวับไปมองอีกเตียงซึ่งว่างเปล่า  ที่นอนถูกเก็บอยู่ในสภาพดีแล้วก็พาลนึกโมโห 

                  หนอย  เจ้าบ้า  ก่อนไปจะช่วยปลุกซักนิดก็ไม่มี  เมื่อคืนที่อุตส่าห์คิดว่าเป็นคนดีมีน้ำใจสงสัยต้องถอนคำพูดซะแล้ว 

                  ฮึ้ย!  น่าโมโหชะมัด


    ......................................................


                  ออดเข้าเรียนดังขึ้น  เจสสิก้าวิ่งมาถึงหน้าห้องเรียนทันเส้นยาแดงผ่าแปดด้วยอาการเหนื่อยหอบ  พอเดินเข้ามาในห้องก็สบตากับชายหนุ่มคู่กรณีที่หันมามองพอดี  รอยยิ้มที่มุมปากกับเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอนั่นดูแล้วเหมือนจงใจเยาะเย้ยชัดๆ  แถมยังหันกลับไปคุยกับเพื่อนต่อเหมือนไม่รู้ไม่ชี้อีก  แบบนี้มันน่าโมโหนัก

                  "อรุณสวัสดิ์คริส"  แมคกิลส่งเสียงทักอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส

                  "อรุณสวัสดิ์  แมค"  เจสสิก้าทักตอบแต่ไม่ได้หันไปมองเพราะตาเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่อีกคน

                  หญิงสาวเดินตรงไปที่โต๊ะของราล์ฟซึ่งอยู่ติดกับเธอ  ก่อนจะหยุดยืนมองหน้าชายหนุ่มอย่างหาเรื่องจนเจ้าตัวหยุดการสนทนากับกลุ่มเพื่อนแล้วหันมามองเธออย่างท้าทาย

                  "นายมันคนไม่มีน้ำใจ  ไหนๆก็อยู่ห้องเดียวกันจะช่วยปลุกซักนิดก็ไม่ได้  ฉันเลยต้องเกือบมาสายแบบนี้"  เจสสิก้าต่อว่าทันที

                  ราล์ฟเลิกคิ้ว  ตอบอย่างไม่ยี่หระ  "เรื่องอะไรฉันต้องปลุกนายล่ะ  ไม่ใช่หน้าที่ฉันซักหน่อย  นาฬิกาปลุกของนายก็มีนี่ทำไมไม่ใช้"

                  "ก็เมื่อคืนฉันลืมตั้งนี่"  เจสสิก้าตอบ  อารมณ์ยังไม่หายขุ่นมัว  "ก่อนนายจะออกไปเห็นฉันยังไม่ตื่นก็แทนที่จะปลุกกลับไม่ปลุก  นายจงใจแกล้งฉันใช่มั้ย"

                  "ใครไปแกล้งนาย  นายทำตัวนายเองนะ  ช่วยไม่ได้"  ราล์ฟยักไหล่ตอบอย่างไม่แคร์

                  "นี่ๆ  นักเรียนใหม่  ยังไงให้ผมไปช่วยปลุกให้ทุกเช้าก็ได้นะ  เอาแบบจูบปลุกอย่างในเรื่องเจ้าหญิงนิทราเป็นไง  เจ้าราล์ฟมันไม่ถนัดเล่นบทเจ้าชายหรอก  แต่ผมนี่สิไม่มีปัญหา"  ลุค  หนึ่งในก๊วนเกลอของราล์ฟพูดหยอกเย้าพลางส่งสายตาเจ้าชู้  เรียกเสียงหัวเราะฮาจากทั้งกลุ่ม

                  "ไม่จำเป็น!"  เจสสิก้าพูดเสียงเย็น  ปรายตามองคนพูดสลับกับราล์ฟอย่างพยายามสงบสติอารมณ์  ยังไม่ทันที่จะมีใครได้พูดอะไรต่ออาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้อง  เจสสิก้าจำต้องล่าถอยไปนั่งที่โต๊ะตัวเองข้างๆราล์ฟอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

                  "คริส  นายมีปัญหาอะไรกับราล์ฟหรอ"  อลิเซีย  หญิงสาวที่นั่งข้างๆเธออีกด้านหนึ่งกระซิบถาม

                  "ไม่มีอะไรหรอก  แค่เรื่องไร้สาระ"  เจสสิก้าตอบด้วยน้ำเสียงขุ่นมัวที่คนถามสังเกตได้ชัดจึงไม่กล้าซักอะไรต่อ

                  การเรียนในช่วงเช้าของวันแรกดำเนินไปอย่างราบรื่น  เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน  แมคกิลและกลุ่มเพื่อนมาชวนเจสสิก้าไปทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารโดยชวนอลิเซียไปด้วย 

                  โรงอาหารของเซนต์มาร์ติเนทกว้างขวางขนาดจุคนได้ไม่ต่ำกว่าหกร้อย  กำแพงเป็นกระจกใส  ติดแอร์  บนเพดานมีทีวีติดตั้งอยู่ตามมุมต่างๆหลายเครื่อง  รอบๆเป็นซุ้มอาหารหลายซุ้ม  มีอาหารให้เลือกนานาชนิด  ส่วนตรงกลางเป็นที่วางโต๊ะตัวยาวสำหรับรับประทานอาหารกว่าร้อยโต๊ะ

                  เจสสิก้าและพรรคพวกเลือกนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ยังว่างอยู่  แม้จะไม่สบอารมณ์นักเมื่อเห็นว่ากลุ่มของราล์ฟนั่งอยู่โต๊ะข้างๆพาลจะทำให้เธอทานอาหารไม่ลง  แต่ก็ต้องจำใจนั่งเพราะโต๊ะอื่นๆดูท่าจะเต็มหมด 

                  ระหว่างรับประทานอาหารเจสสิก้าก็ชำเลืองมองไปที่โต๊ะข้างๆ  กลุ่มชายล้วนของราล์ฟพูดคุยเฮฮากันอย่างสนุกสนาน  ดูท่าแล้วคงจะสนิทสนมกันมาก  หลายคนในกลุ่มหน้าตาดี  แต่ละคนตัวสูงใหญ่  ถ้ามีคนบอกว่าทั้งหมดนั่นเป็นทีมบาสเกตบอลเธอก็คงจะเชื่อ  ส่วนนายราล์ฟ... เธอเผลอมองพิจารณาชายหนุ่มอย่างลืมตัว  ผมสั้นสีทองสว่างดูสลวย  คิ้วเข้มโก่ง  ตาสีเขียวมรกตดึงดูดสายตายากถอดถอนเมื่อได้สบ  จมูกโด่งรั้นนิดๆ  ริมฝีปากบาง  โครงหน้าเรียวไร้ฝ้ากระ  รูปร่างสูงโปร่ง  มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยอย่างคนเล่นกีฬาแต่ไม่ถึงกับบึกบึน  ผิวขาวและใสกว่าเด็กผู้ชายทั่วไป  ลักษณะท่าทางแบบนี้คงทำให้ผู้หญิงหลงเสน่ห์มานักต่อนัก  แล้วเธอล่ะ  เธอหลงเสน่ห์ตานี่ด้วยหรือเปล่า?

                  เจสสิก้าหน้าแดงโดยไม่ทราบสาเหตุ  ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวสมอง  ไม่มีทาง  เธอไม่มีทางไปหลงเสน่ห์คนพรรค์นั้นเด็ดขาด  แต่ใบหน้าหล่อเหลายามหัวเราะยิ้มแย้มนั่นดูดีและน่าคบกว่าตอนกวนโมโหตั้งเยอะ  อย่างน้อยระหว่างเธอกับเขาก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้  แต่มันจะเป็นไปได้รึเปล่านะ

                  "แมคกิล  เย็นนี้มีประชุมสภานักเรียนตอนสี่โมงตรงนะ  อย่าลืมล่ะ"  เจมส์  รองประธานนักเรียนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกับราล์ฟบอกข้ามโต๊ะมายังฝั่งของเจสสิก้า  แม้อยู่คนละฝั่งแต่ไม่ต้องถึงกับตะโกนก็ได้ยินเพราะโต๊ะอยู่ห่างกันไม่มาก

                  "เรื่องอะไรเหรอครับ"  แมคกิลที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนถามกลับ

                  "งบประมาณของชมรม"  เจมส์ตอบ  "แล้วอย่ามาสายล่ะ"

                  "ครับ"  แมคกิลตอบรับ

                  "ชมรมเหรอ  ว่าแต่ที่โรงเรียนนี้มีชมรมอะไรบ้างล่ะ"  เจสสิก้าถามอย่างสนใจ  เนื่องจากเธอเป็นนักเรียนใหม่จึงยังไม่รู้ว่าที่นี่มีชมรมอะไรบ้าง

                  "คริสเป็นนักเรียนใหม่คงยังไม่ทราบ  ที่นี่มีชมรมให้เลือกหลากหลาย  แบ่งเป็นหมวดๆก็มีชมรมสังคม  ชมรมวิชาการ  ชมรมกีฬา  แล้วก็ชมรมนันทนาการ  แล้วแต่ละหมวดก็มีแยกย่อยไปอีก  ยอดล่าสุดตอนนี้รวมทั้งหมดก็ยี่สิบเอ็ดชมรมแล้ว"  แมคกิลบอก 

                  "แล้วถ้าจะตั้งชมรมเองล่ะ  ได้มั้ย"

                  "ได้สิ  ทุกๆปีก็มีคนมาขอตั้งชมรมเพิ่มโดยจะต้องยื่นเรื่องต่อสภานักเรียน  จะต้องนำเสนอแผนการ  ขั้นตอนการดำเนินงาน  จำนวนสมาชิกในชมรมไม่ต่ำกว่าหกคน  แล้วก็ต้องรวบรวมรายชื่อนักเรียนในโรงเรียนที่สนับสนุนการก่อตั้งชมรมนั้นๆให้เกินครึ่งของจำนวนนักเรียนทั้งหมดในโรงเรียน  จากนั้นทางสภานักเรียนก็จะมาประชุมกันอีกทีว่าจะให้ผ่านการอนุมัติหรือไม่"

                  "โอ้โห  ยุ่งยากจังแฮะ  จะตั้งชมรมแต่ละทีเนี่ย"  เจสสิก้าบ่น

                  "ใช่ครับ  กฎระเบียบของที่นี่เข้มงวดมาก  ดังนั้นแต่ละปีจะมีชมรมใหม่ที่ผ่านการอนุมัติจากสภานักเรียนไม่เคยเกินหนึ่งชมรมเลยซักครั้งและบางปีก็ไม่มีชมรมไหนผ่านการอนุมัติเลย"

                  "อะไรจะเข้มงวดขนาดนั้น  เชื่อแล้วล่ะว่าระบบสภานักเรียนของที่นี่ใหญ่และมีความสำคัญมากจริงๆ"  เจสสิก้าเปรย 

                  "แล้วคริสสนใจหมวดไหนล่ะ  ที่นี่เค๊าบังคับนะว่าทุกคนจะต้องมีชมรมอยู่อย่างน้อยหนึ่งชมรม  ยกเว้นพวกคนในสภานักเรียนที่ไม่ต้องเข้าชมรมเพราะมีตำแหน่งในสภานักเรียนอยู่แล้ว"  ลาล่า  เพื่อนสาวอีกคนของแมคกิลเอ่ยถาม

                  "คงจะเป็นหมวดกีฬา  ชมรมบาสฯก็น่าสนใจนะ  แล้วทีมบาสฯของที่นี่ก็มีชื่อเสียงติดหนึ่งในสามประเภททีมโรงเรียนของระดับประเทศด้วย"  เจสสิก้าตอบ

                  "ชมรมบาสฯ?"  ไบรอันทวนถามเหมือนไม่แน่ใจ  "นายจะเข้าชมรมบาสฯชายหรอ"

                  "ใช่  ทำไมเหรอ"

                  "ถ้างั้นนายก็คงจะต้องไปปรึกษาพวกนั้นแล้วล่ะ"  เขาบอกพลางชี้ไปที่โต๊ะข้างๆ

                  "หา!?  หมายความว่า....."  เจสสิก้าเริ่มกังวล  ขอให้ไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเถอะ

                  "ก็พวกนั้นทั้งกลุ่มอยู่ชมรมบาสฯหมดเลยน่ะสิ"  จิมมี่ตอบให้แทน  "อ้อ  ยกเว้นเจมส์คนนึงเพราะเขาเป็นรองประธานนักเรียน  ไม่ต้องมีชมรม"

                  เฮ้อ... คิดแล้วเชียว  ในที่สุดก็หนีไม่พ้นตานั่นจนได้  ก็คิดอยู่หรอกนะว่าตัวสูงใหญ่แบบนั้นคงจะต้องอยู่ชมรมกีฬาไม่ชมรมใดก็ชมรมหนึ่ง  แต่ทำไมมาเฉพาะเจาะจงต้องเป็นชมรมบาสฯด้วยนะ  แถมยังอยู่กันหมดทั้งกลุ่มอีก  ...เจสสิก้าคิดอย่างหนักใจ

                  "อย่างราล์ฟน่ะเป็นหนึ่งในสองของเด็กเกรดสิบที่ได้เป็นตัวจริงไปลงแข่งขันระดับประเทศเชียวนะ  อีกคนก็ริค  หัวส้มๆแดงๆนั่นน่ะ  นอกนั้นก็เป็นเกรดสิบเอ็ดกับสิบสองซะส่วนใหญ่"  จิมมี่บอกพลางชี้ไปที่ชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆราล์ฟ

                  "จริงน่ะ"  เจสสิก้าอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ  "เพิ่งเกรดสิบเนี่ยนะได้เป็นตัวจริงแล้ว"

                  "ราล์ฟเขาซี๊กับรุ่นพี่เกรดสิบสองประธานชมรมด้วยนะ  อย่างหมอนั่นช่วยพานายเข้าชมรมได้สบายๆ"  ไบรอันบอก

                   "แล้วอย่างนี้นายไม่หนักใจแย่เหรอ  เห็นว่านายกับราล์ฟไม่ค่อยกินเส้นกันด้วยนี่"  อลิเซียถาม

                  "ไอ้หนักใจก็หนักใจอยู่หรอก  แต่เรื่องสมัครเข้าชมรมไม่น่ามีปัญหา  ถ้าฉันจะเข้าก็จะสมัครเข้าด้วยตัวเอง  ไม่มีทางพึ่งหมอนั่นโดยใช้เส้นแน่  จะมีปัญหาก็แต่พวกนั้นจะยอมรับฉันในฐานะสมาชิกใหม่รึเปล่านี่สิ"  เจสสิก้าถอนหายใจเฮือกอย่างหนักใจ

                  "ผมว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ  พวกราล์ฟเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร  ถ้าคริสผ่านการคัดเลือกจากประธานชมรมอย่างน้อยพวกเขาก็น่าจะมีน้ำใจนักกีฬา  ยอมรับคริสในฐานะสมาชิกชมรม"  แมคกิลบอกอย่างมีเหตุมีผล

                  "ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีน่ะสิ"  เจสสิก้าเอ่ยอย่างปลงๆ  "จริงสิ  แล้วพวกนายอยู่ชมรมอะไรกันบ้างล่ะ

                  "ฉันกับไบรอันอยู่ชมรมอเมริกันฟุตบอล"  จิมมี่ที่ตัวสูงใหญ่พอๆกับไบรอันบอก  ก่อนจะยีหัวคนข้างๆแล้วพูดต่อ  "เจ้านี่ได้เป็นถึงควอเตอร์แบ็คตัวเต็งของทีมเชียวล่ะ"

                  "เจ๋งนี่  แสดงว่านายต้องเก่งมากเลยล่ะสิ"  เจสสิก้าเอ่ยชม  ระบายยิ้มอย่างจริงใจโดยเจ้าตัวไม่รู้เอาซะเลยว่ารอยยิ้มแบบนี้แหล่ะที่ทำหนุ่มๆหวั่นไหวมานักต่อนักแล้ว  ทำเอาคนถูกชมเขินๆไปเหมือนกัน

                  "ฉันอยู่ชมรมการแสดง"  ลาล่าที่จัดว่าหน้าตาเข้าขั้นสวยบอก

                  "ส่วนฉันอยู่ชมรมหนังสือพิมพ์"  อลิเซียบอกบ้าง

                  สำหรับแมคกิลเจสสิก้าคงไม่ต้องถาม  เพราะเขาเป็นคณะกรรมการนักเรียนที่ไม่ต้องมีชมรม 

                  คนอื่นๆเค๊ามีชมรมเป็นของตัวเองหมดแล้ว  คงเหลือแต่เธอนี่แหล่ะ  จะเข้าชมรมที่อยากเข้าทั้งทีก็ต้องมานั่งหนักใจกับสมาชิกในชมรมที่คิดว่าอาจะเป็นปัญหาสำหรับเธออีก  เฮ้อ... หรือว่าเธอควรจะเลิกทิฐิ  เริ่มญาติดีตีสนิทกับนายราล์ฟนั่นซะทีนะ  แต่คนกวนประสาทพรรค์นั้นคงจะยากหน่อยล่ะ  อย่างน้อยก็อย่ามีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นระหว่างเธอกับนายนั่นก็แล้วกัน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×