ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักอลวัน หอพักอลเวง

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 49



                  ท่ามกลางความวุ่นวายในมหานครนิวยอร์ก  ถนนย่านไทม์สแควร์ผู้คนเดินกันขวักไขว่ไม่มีใครสนใจใครซึ่งเป็นอุปนิสัยของคนเมือง  ห่างจากสี่แยกไม่มากนักเป็นที่ตั้งของตึกสีส้มอ่อน  แม้ไม่ใหญ่โตหรือสูงระฟ้าแต่ก็เด่นไปด้วยความแตกต่างของการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร  อีกทั้งยังมีสีส้มที่เด่นสะดุดตา  ดูจากภายนอกทำให้คนที่ไม่รู้จักตึกนี้เดาไปต่างๆนานาว่าอาจเป็นอพาทเม๊นท์หรูๆน่ารักๆ  หรือบริษัทเล็กๆอะไรซักอย่าง  แต่น้อยคนนักที่ไม่รู้จักว่าตึกนี้ที่จริงแล้วเป็นสำนักงานนักสืบชื่อดังคอนเนลลี่ที่มีชื่อเสียงในหมู่ขององค์กรตำรวจสากล  ด้วยความสามารถของบุคลากร  การปฏิบัติงานที่รวดเร็ว  บริการประทับใจ  ค่าตอบแทนเหมาะสมตามรูปคดี  ดังนั้นลูกค้าของสำนักงานนี้จึงมีตั้งแต่บุคคลธรรมดาทั่วไปจนไปถึงองค์กรตำรวจระดับสูง 
                 
                  นายบิล คอนเนลลี่  เจ้าของสำนักงานนักสืบเป็นถึง CIA ตัวฉกาจ (ตำรวจสืบราชการลับพิเศษ)  มากความสามารถที่มีพรสวรรค์อย่างหาตัวจับยาก  แต่เนื่องจากมีนิสัยที่รักอิสระ  ชอบความสงบจึงแยกตัวมาตั้งสำนักงานนักสืบเป็นของตัวเอง  ที่จริงบิลคิดจะขอลาออกจากตำแหน่ง CIA แล้วมาทำงานที่สำนักงานนักสืบของเขาอย่างเต็มตัว  แต่ทางผู้ใหญ่ในองค์กรตำรวจเสียดายคนที่มีความสามารถอย่างเขา  จึงขอร้องแกมบังคับให้เขาดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป  ซึ่งบิลเห็นแก่ผู้ใหญ่ที่เมตตาเขามาตั้งแต่เขายังเป็นตำรวจกิ๊กก๊อกไล่จับผู้ร้ายสนับสนุนให้เขาได้ดิบได้ดีจนมาเป็น CIA จึงยอมดำรงตำแหน่งนี้ต่อ  ในสำนักงานมีบุคลากรลูกจ้างประจำอยู่สิบสองคนซึ่งบิลเป็นผู้ฝึกฝนและอบรมเองกับมือ  จึงไม่ต้องสงสัยว่าบุคลากรเหล่านั้นจะมีความสามารถพอจะเป็นนักสืบและผู้ช่วยของสำนักงานนักสืบชื่อดังนี้ได้หรือไม่  เมื่อมีคนมาติดต่อให้สืบคดี  บิลจะส่งลูกน้องหรือไม่ก็ผู้ช่วยให้ออกปฏิบัติหน้าที่โดยเขาจะคอยฟังรายงานและการสรุป  น้อยครั้งนักที่บิลจะออกสืบด้วยตัวเอง  นอกจากคดีนั้นจะใหญ่และสำคัญมากจริงๆ 

                   คดีล่าสุดที่เขาออกสืบด้วยตัวเองก็คือคดีลักพาตัวลูกสาวประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว  ผู้ก่อการร้ายมือสมัครเล่นอาจหาญมาลักพาตัวลูกสาวประธานาธิบดีของสหรัฐแล้วเรียกค่าไถ่ห้าสิบล้านดอลล่าห์  แต่ใช้เวลาเพียงสองวันบิลก็ติดตามหาแหล่งกบดานของคนร้ายพบ  พาตำรวจบุกจับแล้วช่วยลูกสาวประธานาธิบดีออกมาได้อย่างปลอดภัย  ภารกิจครั้งนั้นยิ่งสร้างชื่อเสียงของเขาที่โด่งดังอยู่แล้วให้ดังยิ่งขึ้น  ประธานาธิบดีพึงพอใจและจะมอบยศและแต่งตั้งตำแหน่งสูงๆในองค์กรตำรวจโลกให้แต่เขาปฏิเสธอย่างอ่อนน้อม  เขาทำเพื่อหน้าที่หาได้ต้องการสิ่งตอบแทนนอกจากค่าจ้างในการเรียกใช้บริการแต่อย่างใดไม่ (ที่จริงการรักอิสระ และไม่อยากแบกรักหน้าที่รับผิดชอบที่ใหญ่หลวงก็มีส่วน)  ยิ่งสร้างความประทับใจให้แก่ประธานาธิบดีเป็นพิเศษ  เมื่อไม่รับการแต่งตั้งตำแหน่งสูงๆ  ตำแหน่ง CIA ที่บิลเป็นอยู่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งต่ำต้อยแต่อย่างใด  ประธานาธิบดีจึงมอบตราเกียรติคุณ  และยกให้เขาเป็น CIA พิเศษที่เข้ารับราชการเมื่อมีงานที่ได้รับมอบหมายในกรณีพิเศษจากองค์กรตำรวจโลกและตำรวจสากลเท่านั้น (ถูกใจคนรักอิสระอย่างเขานักล่ะ)

                   บิลมีชื่อเสียงโด่งดังกว่าดาราฮอลลิวู้ดบางคนเสียอีก  เพราะนอกจากความสามารถที่โดดเด่นแล้วยังมีรูปร่างหน้าตาที่แม้แต่ดาราดังยังชิดซ้าย  ด้วยใบหน้าเรียวที่หล่อคม  คิ้วที่เข้มได้รูป  ริมฝีปากที่สร้างรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์จนหญิงสาวใจเต้นเมื่อได้เห็น  ด้วยความโสดและวัยเพียงสามสิบสี่ปีจึงมีทั้งสาวน้อยสาวใหญ่รวมถึงแม่ม่ายมาติดพัน  แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยคิดที่จะคบหากับใครจริงจังถึงขั้นแต่งงานนอกเหนือไปจากการออกเดทแล้วจบลงที่เตียงนอนจากนั้นก็แยกย้ายต่างคนต่างไป  จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยเนื้อหอมอันดับต้นๆของนิวยอร์คเลยทีเดียว 

                   ถึงแม้บิลจะโสดแต่เขาก็มีหลานสาวนามว่า เจสสิก้า ที่ต้องเลี้ยงดูและรักเหมือนลูก  เนื่องจากพี่สาวแท้ๆของเขาและพี่เขยซึ่งเป็นพ่อแม่ของเจสสิก้าประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิตตั้งแต่ที่เจสสิก้ายังเล็ก  เขาจึงรับหน้าที่เป็นทั้งพ่อและอาเลี้ยงดูเจสสิก้าตั้งแต่นั้นมา  เจสสิก้าเป็นที่รักของบิล  เธอเป็นเด็กดี  น่ารัก  บริสุทธิ์  ไร้เดียงสา  ขี้อ้อน  และติดเขามาก  คนอื่นๆเมื่อแรกที่ได้พบเจสสิก้าน้อยต่างก็หลงใหลในความน่ารัก  ชายหนุ่มจึงเอ็นดูและหวงแหนหลานสาวของเขาเป็นพิเศษ  แม้แต่สาวๆที่เขาคบด้วยอย่าว่าแต่อุ้มเลย  แค่แตะยังไม่ให้แตะเลยด้วยซ้ำ

                   เมื่อเด็กสาวอายุหกขวบเติบโตขึ้นเป็นสาวน้อยน่ารักอายุสิบห้า  ชายหนุ่มก็ยังไม่ลดความรักความเอ็นดูในตัวเธอลงไปเลยแม้แต่น้อย  แต่ความหวงแหนกลับเพิ่มขึ้น  เนื่องด้วยเจสสิก้าเป็นเด็กสาวที่สวย  น่ารัก  ผิวขาว  รูปร่างดีสมส่วน  จึงเป็นที่ต้องตาต้องใจของหนุ่มๆ  แต่เธอก็ไม่เคยคบหากับใครเพราะอาของเธอทั้งรักทั้งหวงเธอ  คอยกันบรรดาหนุ่มๆที่เข้ามาจีบเข้ามาเกาะแกะเธอหมด  แต่เธอก็ไม่เคยนึกโกรธอาของเธอเรื่องนี้เลยเพราะเธอเองก็รำคาญพวกผู้ชายพวกนั้นเต็มทน  ทั้งตื๊อทั้งตามเอาอกเอาใจสารพัดแต่เธอก็ไม่เคยถูกใจใครเลย  เธอคิดว่าตัวเองไม่รู้จักความรักดีพอและไม่พร้อมที่จะมีความรักทั้งๆที่อยู่ในวัยที่สมควร  เธอรู้แต่ว่าบุคคลที่เธอรักที่สุดตอนนี้ก็คืออาของเธอที่เลี้ยงเธอมาเพียงเท่านี้เธอก็มีความสุข  เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับอา  แต่อาของเธอบางครั้งก็สร้างความลำบากใจให้เธออยู่ไม่น้อย  โดยเฉพาะการที่ถูกก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวบางเรื่อง  ขัดใจในสิ่งที่เธออยากจะทำเป็นบางครั้ง  โดยเฉพาะการไปเที่ยวไกลๆกับเพื่อนฝูง  ยิ่งมีเพื่อนผู้ชายไปด้วยยิ่งแล้วใหญ่  ทำให้เธอไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนนอกเมืองนิวยอร์กเลย  เธอคิดว่าอาของเธอห่วงเธอมากเกินไป  เรื่องนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอกับอาทะเลาะกันทั้งๆที่ตั้งแต่เด็กยันโตเธอกับอาไม่เคยแม้แต่จะมีเรื่องขัดใจกันเลยซักครั้ง

                   จนในที่สุดความเศร้าเสียใจของเจสสิก้าก็ทำให้อาของเธอใจอ่อน  ยอมลดความห่วงเธอเกินเหตุ  แต่มีข้อแม้คือเธอต้องฝึกการใช้ศิลปะการป้องกันตัวทุกชนิดให้ผ่านเกณฑ์พื้นฐานของกรมตำรวจ  ไม่ใช่เพราะบิลมีเลือดตำรวจแรง   แต่เขาคิดว่ามาตราฐานศิลปะการต่อสู้ของกรมตำรวจสูงเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิง  เจสสิก้าคงทำไม่สำเร็จแล้วยอมเลิกลาไปเอง  แต่สุดท้ายเขาก็คิดผิดมหันต์  เจสสิก้าซึ่งไม่รู้ทันความเจ้าเล่ห์ของอายอมตกลงตามเงื่อนไขเพื่อแลกกับอิสระที่ไม่ต้องถูกกำหนดกฏเกณฑ์จากอาของเธอมากนัก  เธอฝึกฝนการใช้ศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวทุกประเภท  ตั้งแต่เทควันโด้  ยูโด  คาราเต้  ฟันดาบ  มวยสากล  หรือแม้กระทั่งการยิงปืน  เธอฝึกฝนอย่างหนักด้วยความตั้งอกตั้งใจตลอดหนึ่งปีเต็ม  จนเธอผ่านเกณฑ์มาตราฐานระดับสูงของกรมตำรวจ  และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ชำนาญการต่อสู้ทุกรูปแบบตั้งแต่อายุเพียงแค่สิบหกปี  เล่นเอาอาของเขาอึ้งจนแทบอ้าปากค้างเลยทีเดียว (สงสัยบิลคงจะลืมไปว่าเจสสิก้าน่ะมีสายเลือด CIA มือฉกาจอย่างเขา  อย่าได้ดูถูกเชียวนะ)

                   ตั้งแต่นั้นมาเจสสิก้าก็ได้รับอิสระและความไว้วางใจจากอาของเธอมากขึ้น  เธอได้ไปเที่ยวในที่ๆเธออยากไป  ทำในสิ่งที่เธออยากทำ  แม้จะมีความอันตรายเล็กน้อยแต่อาของเธอก็ไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวเธอเสมอ  เมื่อตอนที่เจสสิก้าเป็นเด็กบิลต้องคอยดูแล  คอยปกป้องอย่าง ทะนุถนอม  อย่าว่าแต่ไม่ให้มีรอยขีดข่วนเลย  ถึงขนาดยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม  แต่ปัจจุบันเมื่ออดีตเด็กสาวที่แสนบอบบางคนนั้นกลับมาพร้อมกับรอยแผลเล็กๆน้อยๆเสมอจนเป็นความเคยชินของบิลแล้ว  ตั้งแต่ที่เจสสิก้าเริ่มเรียนศิลปะการต่อสู้  จากเด็กสาวที่แสนเรียบร้อยอ่อนหวานเธอก็เริ่มห้าวและแก่นขึ้น  แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยใช้สิ่งที่เธอเรียนมาไปรังแกใครนอกจากป้องกันตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่น  ทำให้อาของเธอภาคภูมิใจ  แต่ลึกๆเขาก็อดเสียดายเจสสิก้าคนเก่าที่แสนเรียบร้อยน่ารักไม่ได้  บางครั้งบิลก็ถามตัวเองว่าเขาคิดผิดหรือเปล่าที่ยื่นเงื่อนไขให้เธอไปเรียนศิลปะการต่อสู้ในตอนนั้นจนแทบทำให้เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนในตอนนี้เลยทีเดียว.....


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×