คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ท่ามกลางความวุ่นวายในมหานครนิวยอร์ก ถนนย่านไทม์สแควร์ผู้คนเดินกันขวักไขว่ไม่มีใครสนใจใครซึ่งเป็นอุปนิสัยของคนเมือง ห่างจากสี่แยกไม่มากนักเป็นที่ตั้งของตึกสีส้มอ่อน แม้ไม่ใหญ่โตหรือสูงระฟ้าแต่ก็เด่นไปด้วยความแตกต่างของการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีสีส้มที่เด่นสะดุดตา ดูจากภายนอกทำให้คนที่ไม่รู้จักตึกนี้เดาไปต่างๆนานาว่าอาจเป็นอพาทเม๊นท์หรูๆน่ารักๆ หรือบริษัทเล็กๆอะไรซักอย่าง แต่น้อยคนนักที่ไม่รู้จักว่าตึกนี้ที่จริงแล้วเป็นสำนักงานนักสืบชื่อดังคอนเนลลี่ที่มีชื่อเสียงในหมู่ขององค์กรตำรวจสากล ด้วยความสามารถของบุคลากร การปฏิบัติงานที่รวดเร็ว บริการประทับใจ ค่าตอบแทนเหมาะสมตามรูปคดี ดังนั้นลูกค้าของสำนักงานนี้จึงมีตั้งแต่บุคคลธรรมดาทั่วไปจนไปถึงองค์กรตำรวจระดับสูง
นายบิล คอนเนลลี่ เจ้าของสำนักงานนักสืบเป็นถึง CIA ตัวฉกาจ (ตำรวจสืบราชการลับพิเศษ) มากความสามารถที่มีพรสวรรค์อย่างหาตัวจับยาก แต่เนื่องจากมีนิสัยที่รักอิสระ ชอบความสงบจึงแยกตัวมาตั้งสำนักงานนักสืบเป็นของตัวเอง ที่จริงบิลคิดจะขอลาออกจากตำแหน่ง CIA แล้วมาทำงานที่สำนักงานนักสืบของเขาอย่างเต็มตัว แต่ทางผู้ใหญ่ในองค์กรตำรวจเสียดายคนที่มีความสามารถอย่างเขา จึงขอร้องแกมบังคับให้เขาดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป ซึ่งบิลเห็นแก่ผู้ใหญ่ที่เมตตาเขามาตั้งแต่เขายังเป็นตำรวจกิ๊กก๊อกไล่จับผู้ร้ายสนับสนุนให้เขาได้ดิบได้ดีจนมาเป็น CIA จึงยอมดำรงตำแหน่งนี้ต่อ ในสำนักงานมีบุคลากรลูกจ้างประจำอยู่สิบสองคนซึ่งบิลเป็นผู้ฝึกฝนและอบรมเองกับมือ จึงไม่ต้องสงสัยว่าบุคลากรเหล่านั้นจะมีความสามารถพอจะเป็นนักสืบและผู้ช่วยของสำนักงานนักสืบชื่อดังนี้ได้หรือไม่ เมื่อมีคนมาติดต่อให้สืบคดี บิลจะส่งลูกน้องหรือไม่ก็ผู้ช่วยให้ออกปฏิบัติหน้าที่โดยเขาจะคอยฟังรายงานและการสรุป น้อยครั้งนักที่บิลจะออกสืบด้วยตัวเอง นอกจากคดีนั้นจะใหญ่และสำคัญมากจริงๆ
คดีล่าสุดที่เขาออกสืบด้วยตัวเองก็คือคดีลักพาตัวลูกสาวประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว ผู้ก่อการร้ายมือสมัครเล่นอาจหาญมาลักพาตัวลูกสาวประธานาธิบดีของสหรัฐแล้วเรียกค่าไถ่ห้าสิบล้านดอลล่าห์ แต่ใช้เวลาเพียงสองวันบิลก็ติดตามหาแหล่งกบดานของคนร้ายพบ พาตำรวจบุกจับแล้วช่วยลูกสาวประธานาธิบดีออกมาได้อย่างปลอดภัย ภารกิจครั้งนั้นยิ่งสร้างชื่อเสียงของเขาที่โด่งดังอยู่แล้วให้ดังยิ่งขึ้น ประธานาธิบดีพึงพอใจและจะมอบยศและแต่งตั้งตำแหน่งสูงๆในองค์กรตำรวจโลกให้แต่เขาปฏิเสธอย่างอ่อนน้อม เขาทำเพื่อหน้าที่หาได้ต้องการสิ่งตอบแทนนอกจากค่าจ้างในการเรียกใช้บริการแต่อย่างใดไม่ (ที่จริงการรักอิสระ และไม่อยากแบกรักหน้าที่รับผิดชอบที่ใหญ่หลวงก็มีส่วน) ยิ่งสร้างความประทับใจให้แก่ประธานาธิบดีเป็นพิเศษ เมื่อไม่รับการแต่งตั้งตำแหน่งสูงๆ ตำแหน่ง CIA ที่บิลเป็นอยู่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งต่ำต้อยแต่อย่างใด ประธานาธิบดีจึงมอบตราเกียรติคุณ และยกให้เขาเป็น CIA พิเศษที่เข้ารับราชการเมื่อมีงานที่ได้รับมอบหมายในกรณีพิเศษจากองค์กรตำรวจโลกและตำรวจสากลเท่านั้น (ถูกใจคนรักอิสระอย่างเขานักล่ะ)
บิลมีชื่อเสียงโด่งดังกว่าดาราฮอลลิวู้ดบางคนเสียอีก เพราะนอกจากความสามารถที่โดดเด่นแล้วยังมีรูปร่างหน้าตาที่แม้แต่ดาราดังยังชิดซ้าย ด้วยใบหน้าเรียวที่หล่อคม คิ้วที่เข้มได้รูป ริมฝีปากที่สร้างรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์จนหญิงสาวใจเต้นเมื่อได้เห็น ด้วยความโสดและวัยเพียงสามสิบสี่ปีจึงมีทั้งสาวน้อยสาวใหญ่รวมถึงแม่ม่ายมาติดพัน แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยคิดที่จะคบหากับใครจริงจังถึงขั้นแต่งงานนอกเหนือไปจากการออกเดทแล้วจบลงที่เตียงนอนจากนั้นก็แยกย้ายต่างคนต่างไป จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยเนื้อหอมอันดับต้นๆของนิวยอร์คเลยทีเดียว
ถึงแม้บิลจะโสดแต่เขาก็มีหลานสาวนามว่า เจสสิก้า ที่ต้องเลี้ยงดูและรักเหมือนลูก เนื่องจากพี่สาวแท้ๆของเขาและพี่เขยซึ่งเป็นพ่อแม่ของเจสสิก้าประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิตตั้งแต่ที่เจสสิก้ายังเล็ก เขาจึงรับหน้าที่เป็นทั้งพ่อและอาเลี้ยงดูเจสสิก้าตั้งแต่นั้นมา เจสสิก้าเป็นที่รักของบิล เธอเป็นเด็กดี น่ารัก บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ขี้อ้อน และติดเขามาก คนอื่นๆเมื่อแรกที่ได้พบเจสสิก้าน้อยต่างก็หลงใหลในความน่ารัก ชายหนุ่มจึงเอ็นดูและหวงแหนหลานสาวของเขาเป็นพิเศษ แม้แต่สาวๆที่เขาคบด้วยอย่าว่าแต่อุ้มเลย แค่แตะยังไม่ให้แตะเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเด็กสาวอายุหกขวบเติบโตขึ้นเป็นสาวน้อยน่ารักอายุสิบห้า ชายหนุ่มก็ยังไม่ลดความรักความเอ็นดูในตัวเธอลงไปเลยแม้แต่น้อย แต่ความหวงแหนกลับเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยเจสสิก้าเป็นเด็กสาวที่สวย น่ารัก ผิวขาว รูปร่างดีสมส่วน จึงเป็นที่ต้องตาต้องใจของหนุ่มๆ แต่เธอก็ไม่เคยคบหากับใครเพราะอาของเธอทั้งรักทั้งหวงเธอ คอยกันบรรดาหนุ่มๆที่เข้ามาจีบเข้ามาเกาะแกะเธอหมด แต่เธอก็ไม่เคยนึกโกรธอาของเธอเรื่องนี้เลยเพราะเธอเองก็รำคาญพวกผู้ชายพวกนั้นเต็มทน ทั้งตื๊อทั้งตามเอาอกเอาใจสารพัดแต่เธอก็ไม่เคยถูกใจใครเลย เธอคิดว่าตัวเองไม่รู้จักความรักดีพอและไม่พร้อมที่จะมีความรักทั้งๆที่อยู่ในวัยที่สมควร เธอรู้แต่ว่าบุคคลที่เธอรักที่สุดตอนนี้ก็คืออาของเธอที่เลี้ยงเธอมาเพียงเท่านี้เธอก็มีความสุข เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับอา แต่อาของเธอบางครั้งก็สร้างความลำบากใจให้เธออยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการที่ถูกก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวบางเรื่อง ขัดใจในสิ่งที่เธออยากจะทำเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะการไปเที่ยวไกลๆกับเพื่อนฝูง ยิ่งมีเพื่อนผู้ชายไปด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ทำให้เธอไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนนอกเมืองนิวยอร์กเลย เธอคิดว่าอาของเธอห่วงเธอมากเกินไป เรื่องนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอกับอาทะเลาะกันทั้งๆที่ตั้งแต่เด็กยันโตเธอกับอาไม่เคยแม้แต่จะมีเรื่องขัดใจกันเลยซักครั้ง
จนในที่สุดความเศร้าเสียใจของเจสสิก้าก็ทำให้อาของเธอใจอ่อน ยอมลดความห่วงเธอเกินเหตุ แต่มีข้อแม้คือเธอต้องฝึกการใช้ศิลปะการป้องกันตัวทุกชนิดให้ผ่านเกณฑ์พื้นฐานของกรมตำรวจ ไม่ใช่เพราะบิลมีเลือดตำรวจแรง แต่เขาคิดว่ามาตราฐานศิลปะการต่อสู้ของกรมตำรวจสูงเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิง เจสสิก้าคงทำไม่สำเร็จแล้วยอมเลิกลาไปเอง แต่สุดท้ายเขาก็คิดผิดมหันต์ เจสสิก้าซึ่งไม่รู้ทันความเจ้าเล่ห์ของอายอมตกลงตามเงื่อนไขเพื่อแลกกับอิสระที่ไม่ต้องถูกกำหนดกฏเกณฑ์จากอาของเธอมากนัก เธอฝึกฝนการใช้ศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวทุกประเภท ตั้งแต่เทควันโด้ ยูโด คาราเต้ ฟันดาบ มวยสากล หรือแม้กระทั่งการยิงปืน เธอฝึกฝนอย่างหนักด้วยความตั้งอกตั้งใจตลอดหนึ่งปีเต็ม จนเธอผ่านเกณฑ์มาตราฐานระดับสูงของกรมตำรวจ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ชำนาญการต่อสู้ทุกรูปแบบตั้งแต่อายุเพียงแค่สิบหกปี เล่นเอาอาของเขาอึ้งจนแทบอ้าปากค้างเลยทีเดียว (สงสัยบิลคงจะลืมไปว่าเจสสิก้าน่ะมีสายเลือด CIA มือฉกาจอย่างเขา อย่าได้ดูถูกเชียวนะ)
ตั้งแต่นั้นมาเจสสิก้าก็ได้รับอิสระและความไว้วางใจจากอาของเธอมากขึ้น เธอได้ไปเที่ยวในที่ๆเธออยากไป ทำในสิ่งที่เธออยากทำ แม้จะมีความอันตรายเล็กน้อยแต่อาของเธอก็ไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวเธอเสมอ เมื่อตอนที่เจสสิก้าเป็นเด็กบิลต้องคอยดูแล คอยปกป้องอย่าง ทะนุถนอม อย่าว่าแต่ไม่ให้มีรอยขีดข่วนเลย ถึงขนาดยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แต่ปัจจุบันเมื่ออดีตเด็กสาวที่แสนบอบบางคนนั้นกลับมาพร้อมกับรอยแผลเล็กๆน้อยๆเสมอจนเป็นความเคยชินของบิลแล้ว ตั้งแต่ที่เจสสิก้าเริ่มเรียนศิลปะการต่อสู้ จากเด็กสาวที่แสนเรียบร้อยอ่อนหวานเธอก็เริ่มห้าวและแก่นขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยใช้สิ่งที่เธอเรียนมาไปรังแกใครนอกจากป้องกันตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้อาของเธอภาคภูมิใจ แต่ลึกๆเขาก็อดเสียดายเจสสิก้าคนเก่าที่แสนเรียบร้อยน่ารักไม่ได้ บางครั้งบิลก็ถามตัวเองว่าเขาคิดผิดหรือเปล่าที่ยื่นเงื่อนไขให้เธอไปเรียนศิลปะการต่อสู้ในตอนนั้นจนแทบทำให้เธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคนในตอนนี้เลยทีเดียว.....
ความคิดเห็น