ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับปีสุดท้ายในฮอกวอตส์

    ลำดับตอนที่ #1 : ของขวัญวันเกิดจากโช แชง

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 48




                  ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว.. แฮร์รี่ พอตเตอร์นั่งอยู่บนเก้าอี้ในสวนหลังบ้านด้วยท่าทีเหม่อลอย ในใจของเขาครุ่นคิดอยู่แต่เรื่องราวที่โรงเรียนฮอกวอตส์ เขาคิดถึงกีฬาควิดดิชซึ่งเป็นกีฬาของพ่อมดโดยเฉพาะการแข่งขันควิดดิชชิงชนะเลิศเมื่อปีที่แล้ว ทีมกริฟฟินดอร์แข่งกับสลิธีลิน ซึ่งแฮร์รี่สามารถจับลูกสนิชได้ภายในเวลาสามสิบวินาที (นับเป็นการจับลูกสนิชได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของฮอกวอตส์) ส่งผลให้กริฟฟินดอร์ชนะไปอย่างขาดลอยด้วยคะแนนหนึ่งร้อยห้าสิบต่อศูนย์และได้ถ้วยควิดดิชไปครองอีกสมัย



                  เมื่อแฮร์รี่นึกภาพถึงตอนที่ผู้เล่นในทีมจับเขาโยนขึ้นลงไปในอากาศ แฮร์รี่ก็อมยิ้มอย่างพอใจ นอกจากควิดดิชแล้ว เขายังคิดถึงเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขาที่ฮอกวอตส์ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ (ซึ่งระยะหลังสองคนนี้มีท่าทีแปลกๆต่อกัน) นั่นคงจะเป็นเพราะพวกเราโตพอที่จะเข้าใจเรื่องความรักแล้วสินะ..แฮร์รี่คิด..เขาสนับสนุนเต็มที่ถ้าเพื่อนทั้งสองคนจะลงเอยกันได้ แม้พวกเขาจะยังทำปากแข็งต่อกันและทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อยบ่อยครั้งก็ตาม



                  เมื่อพูดถึงความรักของเพื่อนแล้ว การพูดถึงความรักของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แน่นอน..ผู้หญิงที่เขารักก็คือโช แชง เด็กผู้หญิงหน้าตาสะสวยอดีตซีกเกอร์ทีมเรเวนคลอ โชอายุมากกว่าแฮร์รี่หนึ่งปี ดังนั้น เมื่อแฮร์รี่ขึ้นปีสุดท้ายที่ฮอกวอตส์ โชก็ต้องจบการศึกษาแล้วออกไปใช้ชีวิตตามแบบพ่อมดแม่มดทั่วไป (เพราะที่โลกเวทมนต์ไม่มีมหาวิทยาลัยสำหรับพ่อมด) เมื่อแฮร์รี่คิดว่าในปีสุดท้ายของเขาที่ฮอกวอตส์จะไม่มีโชอีกต่อไปแล้วนั้นทำให้เขาเศร้าเล็กน้อย แต่ก็นับว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโชก็ก้าวหน้าขึ้นกว่าเก่ามาก แม้แฮร์รี่จะยังไม่ได้บอกความในใจกับโชก็ตาม แล้วเขาก็ไม่แน่ใจด้วยว่าโชคิดยังไงกับเขา



                  ก่อนวันปิดภาคเรียนครั้งที่ผ่านมา แฮร์รี่รวบรวมความกล้าเข้าไปคุยกับโช อวยพรให้เธอโชคดีด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก แฮร์รี่ตัดสินใจบอกเธอว่าเขาขอเขียนจดหมายหาเธอบ้างได้ไหม ระหว่างที่พูดใบหน้าของแฮร์รี่ก็เป็นสีชมพูระเรื่อ โชก็เช่นกัน เธอก้มหน้าลงต่ำซ่อนอาการหน้าแดงเอาไว้แล้วพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า \"อื้อ..ได้สิ\" ออกมาเบาๆจนแฮร์รี่แทบจะไม่ได้ยิน จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้แฮร์รี่ก่อนที่จะขอตัวไปเข้าชั้นเรียนวิชา \'การแปลงร่างขั้นสูง\' ของศาสตราจารย์มักกอนนากัล แฮร์รี่ปลื้มใจจนแทบจะกระโดดลอยตัวซะตรงนั้นถ้ารอนไม่เข้ามาทักเขาเสียก่อน...



                  ในช่วงปิดเทอมที่แฮร์รี่พักอยู่กับลุงและป้าที่บ้านเลขที่สี่ ซอยพรีเว็ต เขาได้รับอนุญาติให้ปล่อยเฮ็ดวิกออกจากกรงในตอนกลางคืนได้ (เพราะลุงเวอร์นอนรำคาญที่มันส่งเสียงร้องแหลมสูงตลอดคืนจนทำให้ครอบครัวเดอร์สลีย์นอนไม่หลับ) แฮร์รี่จึงได้มีโอกาสเขียนจดหมายถึงโชและเพื่อนๆ (เขาเขียนถึงโชไม่บ่อยนักเพราะคิดว่าเธออาจจะรำคาญได้) แฮร์รี่ก็ได้รับจดหมายตอบจากเธอที่ส่งกลับมาพร้อมกับเฮ็ดวิก ถึงแม้จะตอบกลับมาน้อยกว่าที่แฮร์รี่เขียนส่งไปก็เถอะ



                  \"เอาเหอะ..ยังไงก็ยังดีกว่าไม่ตอบกลับมาเลยล่ะน่า\" แฮร์รี่มักปลอบใจตัวเองอย่างนั้นเสมอเมื่อได้รับจดหมายตอบจากโชที่เขาเฝ้ารอแล้วรออีก



                  ฉบับล่าสุดที่โชเขียนมาก็เมื่อสองอาทิตย์ก่อน เธอเล่าว่าเธอกำลังขะมักเขม่นกับการฝึกซ้อมหายตัวเพราะเธอจะไปสอบใบอนุญาติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เธอยังบอกอีกว่าระหว่างที่เธอกำลังซ้อมหายตัวให้ไปโผล่ที่ร้านฮันนี่ดุ๊กส์ซึ่งเป็นร้านขายขนมหวานที่ฮอกมี้ดส์ ปรากฏว่าเธอกลับไปโผล่ที่เพิงโหยหวนแทน เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็รีบวิ่งออกมาให้ไกลจากที่นั่นทันทีจนแทบจะสะดุดหกล้ม ทำให้แฮร์รี่นึกขำ เขาคิดว่าโชคงจะขอลุกขนพองไม่หายที่ไปโผล่ในสถานที่ที่ชื่อว่ามีผีดุที่สุดในอังกฤษ มีเพียงแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ ซีเรียส ลูปิน และดัมเบิลดอร์เท่านั้นที่รู้ดีว่าแท้จริงแล้วที่นั่นไม่มีผีหรอก แต่มันเป็นเสียงร้องของลูปินเมื่อตอนกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า (เมื่อตอนแฮร์รี่อยู่ปี 3 ลูปินเป็นอาจารย์สอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด) เขาเป็นมนุษย์หมาป่าและเป็นเพื่อนรักของเจมส์ พอตเตอร์พ่อของแฮร์รี่เอง ทุกๆคืนเมื่อพระจันทร์เต็มดวง ลูปินจะเข้าไปในกระท่อมร้างที่อยู่ในเพิงโหยหวนเพื่อไปแปลงร่าง โดยมีปากทางเข้าอยู่ที่ต้นวิลโลว์จอมหวด และจะออกมาเมื่อกลับคืนร่างเดิม ระหว่างที่ลูปินอยู่ในกระท่อมร้างเขาจะอาละวาดและทำร้ายตัวเองจนทำให้ชาวบ้านได้ยินเสียงโหยหวนและคิดกันไปเองว่าเป็นเสียงร้องของภูติผีปีศาจ แม้ระยะหลังมานี้จะไม่มีเสียงโหยหวนออกมาจากกระท่อมหลังนั้นแล้ว แต่ผู้คนก็ยังกลัวและไม่กล้าเฉียดเข้าไปใกล้อยู่ดี



                  แฮร์รี่ได้แต่ภาวนาว่าระหว่างที่โชหายตัวอย่าได้เกิดทำตัวเอง \"ค้างครึ่ง\" เชียว (ค้างครึ่ง : การหายตัวไปได้แค่ครึ่งเดียวโดยทิ้งร่างครึ่งหนึ่งไว้ต้นทาง อีกครึ่งหนึ่งอยู่ปลายทาง)



                ในวันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดครบรอบสิบเจ็ดปีของแฮร์รี่ เขาสูงขึ้นอีกหลายนิ้วและโตเป็นหนุ่มขึ้นมาก (หล่อขึ้นอีกต่างหาก) เสียงของเขาก็ทุ้มขึ้นเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของแฮร์รี่สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับครอบครัวเดอร์สลีย์โดยเฉพาะดัดลีย์ ลูกพี่ลูกน้องอ้วนฉุของเขา ซึ่งดูจะอิจฉาริษยาในรูปร่างสูงสมส่วนของแฮร์รี่ รูปร่างของดัดลีย์ตอนนี้ดูใหญ่ยักษ์กว่ากับลุงเวอร์นอนเสียแล้ว พักหลังมานี่ดูเหมือนดัดลีย์จะขี้หงุดหงิดและดูจะหงุดหงิดยิ่งขึ้นเมื่อเห็นแฮร์รี่ (แฮร์รี่คิดว่าดัดลีย์คงจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขาอ้วนเกินไป) จนดัดลีย์ต้องหาเรื่องเขาบ่อยขึ้นเมื่อมีโอกาส



                  ระหว่างที่แฮร์รี่นั่งเหม่อลอยอยู่ในโลกส่วนตัวเขาก็ถูกดึงกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยเสียงหนึ่งที่ฟังดูคุ้นหู ไม่ใช่ใครที่ไหนดัดลีย์นั่นเอง...



                  \"นายนั่งเหม่อลอยคิดอะไรอยู่น่ะ..\" ดัดลีย์พูดขึ้นพร้อมเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาหาแฮร์รี่ \"คิดถึงโรงเรียนกับเพื่อนบ๊องๆของนายรึไง\"



                  แฮร์รี่หงุดหงิดขึ้นมาทันที \"แล้วมันเรื่องอะไรของนายล่ะ\"



                  \"พ่อบอกฉันว่า..นายจะได้เรียนที่นั่นเป็นปีสุดท้าย เพราะที่นั่นไม่มีมหาวิทยาลัยสำหรับ..เอ่อ..พวกผิดปกติอย่างนาย\" ดัดลีย์ชะงักเล็กน้อยก่อนที่เกือบจะหลุดคำว่าพ่อมดซึ่งเป็นคำต้องห้ามของครอบครัววีสลีย์ออกมา รอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของดัดลีย์ฉายแววเจ้าเล่ห์เหมือนกับรอยยิ้มเย้ยหยันของมัลฟอยคู่อริของแฮร์รี่ที่ฮอกวอตส์ไม่มีผิดเพี้ยน



                  \"นายจบแล้วนายจะทำอะไรต่อ\" ดัดลีย์ยังคงพูดต่อไป \"พ่อเคยบอกว่าจะให้นายออกจากบ้านเมื่อนายเรียนจบและโตพอที่จะทำอะไรๆได้เอง ฉันยังนึกไม่ออกเลยว่าอย่างนายจะทำงานอะไรได้ หรือจะมีใครยอมรับคนผิดปกติไปอยู่ด้วย\"



                  แฮร์รี่อ้าปากจะเถียง แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ จริงอย่างที่ดัดลีย์พูด..เขาไม่เคยคิดไว้เลยว่าเมื่อเรียนจบแล้วเขาจะทำอะไร คิดแต่ว่าจะออกจากบ้านเดอร์สลีย์ แต่เขาจะไปอยู่ไหนล่ะ นอกจากครอบครัวนี้แล้วเขาก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก แล้วเขาจะทำงานอะไร (แฮร์รี่ไม่คิดที่จะทำงานของพวกมักเกิ้ลเพราะเขาตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกของพ่อมด) แฮร์รี่ครุ่นคิด..แต่เขาก็ไม่มีบ้านซักหลังในโลกพ่อมด แม้แฮร์รี่มีเงินที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้มากเพียงพอในธนาคารที่จะซื้อบ้านซักหลัง แต่จำนวนเงินก็ต้องร่อยเหรอลงอยู่ดี แล้วเขาก็เกรงใจเกินกว่าที่จะอาศัยอยู่กับครอบครัววีสลีย์ที่บ้านโพรงกระต่ายไปตลอดอีกด้วย จริงสิ..โง่จริงๆเลยเรา!..แฮร์รี่ด่าตัวเองในใจ เรามีคุณซีเรียสพ่อทูนหัวของเราอยู่ทั้งคนนี่นา คุณซีเรียสต้องรับเราไปอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้อย่างนี้แฮร์รี่ค่อยใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง



                  ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืด อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว แฮร์รี่จึงตัดสินใจจะกลับเข้าบ้าน



                  \"เดี๋ยว!\" ดัดลีย์โพล่งขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด แฮร์รี่ลืมซะสนิทเลยว่าดัดลีย์ก็อยู่ตรงนี้ด้วย \"นายยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลยนะ!\"



                  แฮร์รี่แกล้งทำเป็นลืม \"เรื่องอะไรหรอ\"



                  \"ก็เรื่องที่นายเรียนจบแล้วจะไปอยู่ไหนน่ะสิ!\" ดัดลีย์เริ่มโมโห

      

                  \"อ๋อออ...\" แฮร์รี่ลากเสียงเพราะต้องการยั่วโมโหดัดลีย์ \"ที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีนายอยู่ ฉันจะได้ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะเผลอสาปนายให้เป็นคางคกเข้าวันใดวันหนึ่ง\"



                  ดัดลีย์ถอยหลังโดยอัตโนมัติแต่ก็ฝืนทำสีหน้าให้เป็นปกติ \"ฉะ..ฉันไม่กลัวนายหรอก นายไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้วะ..เวทมนตร์นอกโรงเรียน\" น้ำเสียงของเขาสั่นจนแฮร์รี่สังเกตได้



                  \"แปลกนี่ที่คำว่าเวทมนตร์หลุดออกมาจากปากของนาย\" แฮร์รี่พูดพลางนึกขันกับท่าทีของดัดลีย์ \"ที่นายพูดก็ถูก แต่ถึงฉันจะใช้เวทมนตร์ได้ก็คงไม่จำเป็น ฉันแค่วิ่งหนีซะเวลาที่นายนึกอยากจะทำร้ายฉันขึ้นมา เพราะยังไงนายก็วิ่งไล่ตามฉันไม่ทันอยู่ดี\"



                  ดัดลีย์หน้าแดงจัดด้วยความโกรธขึ้นมาทันที เขารู้ว่าแฮร์รี่หมายถึงรูปร่างที่เหมือนลูกปลาวาฬเพรชฆาตของเขานั่นเอง ยังไงรูปร่างของดัดลีย์ตอนนี้ก็คงวิ่งไล่แฮร์รี่ไม่ทันอยู่แล้ว นอกเสียจากว่าแฮร์รี่นึกอยากจะเล่นมวยปล้ำหรือซูโม่ขึ้นมาและนั่นก็คงหมายถึงจุดจบของแฮร์รี่...



                  เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้วหลังจากที่แฮร์รี่ผล็อยหลับไป เขาต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกุกกักที่หน้าต่าง เขาคลำหาแว่นตาในความมืดแล้วเปิดไฟที่หัวเตียง มีนกฮูกประมาณสี่ถึงห้าตัวอยู่ด้านนอก หนึ่งในจำนวนนั้นคือเฮ็ดวิกนกฮูกหิมะของเขาเอง ทันทีที่แฮร์รี่เปิดหน้าต่างเจ้าพิกวิดเจี้ยนนกฮูกตัวจิ๋วของรอนก็โฉบเข้ามาพร้อมเสียงร้องขณะที่บินวนไปรอบๆห้อง จากนั้นนกฮูกตัวอื่นๆก็ทยอยเข้ามา



                  \"เงียบน่า..เจ้าพิก\" แฮร์รี่ดุพิกวิดเจี้ยน



                  พิกวิดเจี้ยนหยุดส่งเสียง แต่มันยังคงบินวนไปวนมาอยู่ในห้องหลังจากที่มันทิ้งจดหมายและของขวัญจากรอนลงบนเตียงแล้ว ท่าทางของมันดูพึงพอใจในตัวเองอย่างมากที่มาส่งจดหมายให้ถึงมือผู้รับ



                  แฮร์รี่เลิกสนใจพิกจี้ยนแล้วหันมาหาเฮ็ดวิกซึ่งมีของขวัญของเฮอร์ไมโอนี่ มันช่างแสนรู้นัก มันรู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ต้องการให้ของขวัญเขาและเธอก็ไม่มีนกฮูก ดังนั้นมันจึงไปหาเฮอร์ไมโอนี่ก่อนวันเกิดของแฮร์รี่หนึ่งวันและกลับมาพร้อมกับของขวัญของเฮอร์ไมโอนี่ทุกๆปี



                  แฮร์รี่ลูบขนมันเบาๆเป็นเชิงรักใคร่ \"ขอบใจนะ\"



                  นกฮูกสามตัวที่เหลือหนึ่งในนั้นคือนกฮูกนาสีน้ำตาล แฮร์รี่รู้ทันทีเลยว่าเป็นนกฮูกของโรงเรียน แล้วมันก็มีจดหมายของแฮกริดมาด้วย



                  \"ขอบใจ...\" แฮร์รี่พูดก่อนที่มันจะบินโฉบออกไปโดยไม่พักดื่มน้ำเลย



                  นกฮูกอีกตัวเป็นนกฮูกสีเทาตัวโตที่แฮร์รี่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันนำจดหมายและของขวัญจากซีเรียสมาให้และแวะดื่มน้ำพักหนึ่งแล้วจึงบินออกไป



                  นกฮูกตัวสุดท้ายแฮร์รี่เคยเห็นแล้ว มันเป็นนกฮูกเหยี่ยวตัวผู้ขนสีน้ำตาลแซมขาวท่าทางสง่างาม มันเป็นนกฮูกของโชและมันก็มีจดหมายและของขวัญขนาดใหญ่มาด้วย



                  \"เธอจำวันเกิดฉันได้ด้วย\" แฮร์รี่อุทาน \"ขอบใจนะ\" เขาหันไปทางนกฮูกเหยี่ยว \"แกจะพักดื่มน้ำก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้\"



                  แล้วมันก็ไม่รีรอ นกฮูกหนุ่มบินมาเกาะที่คอนข้างกับเฮ็ดวิกแล้วก้มลงดื่มน้ำ เฮ็ดวิกส่งเสียงเบาๆเป็นเชิงเต็มใจ แฮร์รี่จ้องมองนกฮูกของเขาอย่างรู้ดี หลังจากนั้นนกฮูกหนุ่มก็ส่งเสียงเป็นเชิงลาเฮ็ดวิกแล้วบินจากไป



                  \"แม้แต่แกก็มีความรักรึเนี่ย\" แฮร์รี่ล้อเลียน เขาหันไปสนใจจดหมายและกองของขวัญขนาดย่อมที่อยู่บนเตียง เขาเก็บจดหมายของโชไว้ดูท้ายสุดแล้วเริ่มแกะจดหมายของรอนออกอ่าน...





                                      แฮร์รี่เพื่อนรัก...



                                                    สุขสันต์วันเกิด เป็นนี้เป็นปีสุดท้ายที่ฮอกวอตส์แล้ว ฉันล่ะหวัง

                                      ว่าคงไม่มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นอีกนะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่อียิปต์ เรามีโอกาสได้

                                      มาเที่ยวที่นี่อีกครั้งเพราะร้านขายของตลกของเฟร็ดกับจอร์ดมีรายได้ดี

                                      อย่างเหลือเชื่อ แม่บอกว่าปลื้มในตัวพวกเขาสองคนมาก (ทั้งที่เมื่อก่อน

                                      คัดค้านอย่างเอาเป็นเอาตาย) ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ฮอกวอตส์เราค่อย

                                      ไปที่ร้านของเฟร็ดกับจอร์ดด้วยกันนะ ฉันจะกลับก่อนโรงเรียนเปิดเทอม

                                      หนึ่งวันเพราะฉันกับจินนี่ซื้อหนังสือใหม่เรียบร้อยแล้ว ส่วนนายน่าจะไป

                                       กับเฮอร์ไมโอนี่นะ เธอคงจะเขียนมาบอกนายอีกที แล้วเจอกันบนรถไฟนะ



                                                    ป.ล. ของขวัญที่ฉันให้ก็เอามาจากร้านของเฟร็ดกับจอร์ดล่ะ

                                      มันคือลูกอมล่องหน พอนายกินแล้วจะล่องหนได้หนึ่งนาที (เฟร็ดบอกว่า

                                      อยากจะทำให้มันนานหนึ่งชั่วโมงแต่กฏหมายว่าด้วยการประดิษฐ์สิ่งของ

                                      วิเศษสำหรับพ่ดมดไม่อนุญาตเพราะกลัวจะมีคนนำไปใช้ในทางที่ผิด)

                                      หวังว่านายคงจะชอบ



                                                                                                                                    รอน





                  แฮร์รี่พับจดหมายแล้วหยิบกล่องเล็กๆที่มีสีสันแปลกตาขึ้นมาเปิดดูอย่างสนใจ ข้างในมีลูกอมสีต่างๆอยู่สิบเม็ดด้วยกัน เขาปิดกล่องแล้ววางลงข้างตัว แฮร์รี่ยังไม่คิดจะล่องหนตอนนี้หรอก.. แล้วเขาก็หยิบจดหมายของเฮอร์ไมโอนี่มาเปิดอ่านเป็นฉบับต่อไป





                                      แฮร์รี่เพื่อนรัก...



                                                    สุขสันต์วันเกิดครบรอบสิบเจ็ดปีจ้ะ หวังว่าเธอคงมีความสุขดี

                                      เมื่ออยู่กับญาติของเธอ แม้ปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่ฮอกวอตส์แต่ก็ชะล่าใจไม่

                                      ได้นะ เพราะนั่นหมายความว่าเราต้องเรียนหนักขึ้นเพื่อเตรียมสอบ ส.พ.

                                      บ.ส. (การสอบวัดความรู้พ่อมดเบ็ดเสร็จสมบรูณ์ : เป็นวุฒิการศึกษาขั้น

                                      สูงสุดของโรงเรียนฮอกวอตส์) การสอบ ว.พ.ร.ส. (การสอบวัดความรู้พ่อ

                                      มดระดับสามัญ) เมื่อตอนปีห้าของเธอกับรอนได้คะแนนไม่ค่อยน่าพอใจ

                                      เท่าไหร่นะ ฉันคงจะต้องติวเข้มให้เธอสองคนซะแล้ว



                                                    รอนบอกฉันว่าเขากับครอบครัวไปเยี่ยมบิลที่อียิปต์ เธอก็เลย

                                     ต้องอยู่กับญาติของเธอจนถึงเปิดเทอม ฉันเห็นใจเธอนะแต่ฉันก็รับเธอมา

                                     อยู่ด้วยไม่ได้หรอกเพราะฉันเป็นผู้หญิง หวังว่าเธอคงเข้าใจนะ



                                                    วันเสาร์ก่อนเปิดเทอมฉันกับพ่อแม่จะไปรับเธอที่บ้านตอนสิบ

                                     โมงเช้าแล้วเราจะไปตรอกไดแอกอนด้วยกัน พ่อฉันจะขับรถมารับนะ หลัง

                                     จากนั้นเรามาส่งเธอที่บ้าน แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 30 สิงหานะ



                                                                                                                          ด้วยรัก



                                                                                                                       เฮอร์ไมโอนี่





                  แฮร์รี่ปิดจดหมายลงแล้วยิ้มกับตัวเอง พวกเขาสองคนช่างเป็นห่วงฉันเสียเหลือเกิน..แฮร์รี่คิด..เขาไม่เคยมีเพื่อนคนไหนที่วิเศษสุดเท่ารอนและเฮอร์ไมโอนี่อีกแล้ว แฮร์รี่วางจดหมายของเฮอร์ไมโอนี่ลงแล้วหยิบหนังสือเล่มหนาที่เฮอร์ไมโอนี่ให้ขึ้นมา แวบแรก..แฮร์รี่คิดว่าคงเป็นหนังสือเกี่ยวกับกีฬาควิดดิช แต่เมื่อเขาพลิกหนังสือขึ้นมาเขาก็ต้องทำหน้าแหย..ที่แท้มันก็เป็นหนังสือ \"คู่มือเตรียมสอบ ส.พ.บ.ส.\" นั่นเอง



                  \"โธ่..\" แฮร์รี่อุทานด้วยความผิดหวังแล้วก็วางหนังสือลงบนเตียงทันที ในหนังสือมีโน็ตแผ่นเล็กๆสอดอยู่ด้วย แฮร์รี่หยิบขึ้นมาอ่าน มีข้อความเขียนไว้ว่า...





                                                          ฉันหวังว่าหนังสือเล่มนี้คงมีประโยชน์กับเธออย่างมาก

                                                ฉันก็มีอยู่เล่มหนึ่งที่บ้าน ฉันอ่านมันจบภายในหนึ่งอาทิตย์และ

                                                กำลังจะอ่านอีกเป็นรอบที่สี่...





                  แฮร์รี่เหลือบไปมองหนังสือที่อยู่ข้างๆตัว มันเป็นหนังสือที่หนามากพอๆกับหนังสือ \'ฮอกวอตส์ : ประวัติศาสตร์น่ารู้\' อย่าว่าแต่หนึ่งอาทิตย์เลย..สำหรับเขาหนึ่งเดือนหรือหนึ่งปีจะอ่านจบรึเปล่าก็ไม่รู้



                  แฮร์รี่นึกถึงการสอบ ว.พ.ร.ส. ที่ผ่านมาอย่างยากลำบาก แม้เขากับรอนได้คะแนนไม่มากแต่ก็เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง (ไม่ค่อยน่าพอใจในความคิดเห็นของเฮอร์ไมโอนี่) แน่นอน สำหรับเฮอร์ไมโอนี่ที่เป็นไปตามคาดหมายเธอได้คะแนนเต็ม นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้รอนดูหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ลึกๆแล้วในใจของรอนก็ดูจะสมเพชตัวเองอยู่เหมือนกัน



                  หลังจากแฮร์รี่วางโน็ตแผ่นนั้นลง เขาก็หยิบจดหมายลายมือหวัดๆที่ดูเร่งรีบของแฮกริดขึ้นมาเปิดอ่าน...





                                      แฮร์รี่...



                                                    สุขสันต์วันเกิดนะ ทุกอย่างราบรื่นดีใช่ไหม ระยะหลังนี้ฉันยุ่ง

                                      มากเลย ก็เป็นงานเดิมๆที่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์มอบหมายให้ทำนั่น

                                      แหละ แต่ฉันก็เต็มใจทำนะ ขอโทษด้วยที่ไม่มีเวลาเตรียมของขวัญไว้ให้

                                      แล้วพบกันที่ฮอกวอตส์



                                                                                                                            คิดถึง



                                                                                                                           แฮกริด





                  แฮร์รี่คิดว่าคงจะเป็นมาตราการป้องกันของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์แน่ๆ แฮกริดก็คงจะตระเวณตามหาพวกยักษ์ไปทั่วโลกระหว่างที่ปิดเทอม แต่ก็น่าแปลก..แฮร์รี่คิดอย่างอดสงสัยไม่ได้ สองปีที่ผ่านมาไม่มีใครได้ข่าวการเคลื่อนไหวจากโวลเดอมอร์เลยนับตั้งแต่วันที่คุกอัซคาบันแตก ผู้เสพความตายที่อยู่ในคุกเป็นอิสระ ส่วนพวกผู้คุมวิญญาณก็เข้าพวกกับโวลเดอมอร์ เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเดือนเดียวหลังจากที่โวลเดอมอร์ฟื้นคืนชีพโดยที่กระทรวงไม่สามารถป้องกันไว้ได้ แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นโวลเดอมอร์ก็เงียบหายไป บางทีเขาอาจจะกำลังวางแผนทำอะไรซักอย่างในปีนี้ก็ได้ แฮร์รี่คิด นานๆครั้งเขาก็รู้สึกเจ็บที่รอยแผลเป็นบ้าง นั่นทำให้แฮร์รี่มั่นใจว่าโวลเดอมอร์ยังมีชีวิตอยู่และยังคงอาฆาตพยาบาทเขาอย่างแน่นอน



                  แฮร์รี่หยุดคิดเรื่องโวลเดอมอร์แล้วหันมาสนใจจดหมายฉบับต่อไปซึ่งเป็นจดหมายจากซีเรียส







                                      แฮร์รี่ที่รัก...



                                                   สุขสันต์วันเกิด เธอคงสบายดีนะ มีเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นซึ่งฉันคิดว่า

                                      คงเป็นข่าวดีสำหรับเธอ แต่ฉันยังไม่บอกเธอตอนนี้หรอก ฉันคิดว่าควรจะ

                                      บอกเธอด้วยตัวเองดีกว่าบอกทางจดหมายนะ แล้วพบกันเร็วๆนี้



                                                                                                                      ซีเรียส



                                                                                                               พ่อทูนหัวของเธอ





                  ซีเรียสส่งเค้กช็อกโกแล็ตชิ้นใหญ่ที่ดูน่ากินมาให้ แฮร์รี่สงสัยว่าซีเรียสมีข่าวอะไรจะบอกเขา แต่ก็รู้สึกโล่งใจที่พ่อทูนหัวของเขายังปลอดภัยดี เขารู้สึกกังวลใจอยู่ตลอดเวลาว่าซีเรียสจะถูกจับได้ในวันใดวันหนึ่ง แล้วแฮร์รี่ก็หยุดคิดเมื่อสายตาของเขาไปหยุดที่จดหมายของโช แฮร์รี่หยิบขึ้นมาอ่านด้วยความตื่นเต้น





                                        แฮร์รี่...



                                                       สุขสันต์วันเกิดนะ ปีนี้เธอก็จะจบการศึกษาที่ฮอกวอตส์แล้ว

                                        ยินดีด้วยนะจ๊ะ ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอด้วยล่ะ ฉันสอบใบอนุญาติการ

                                        หายตัวผ่านแล้ว พ่อแม่ของฉันลุ้นแทบแย่เลย ฉันสอบผ่านภายในครั้ง

                                        เดียวด้วยนะ ขอให้เธอก็ทำได้เหมือนกันนะ

                                

                                                                                                                         โช แชง





                  แฮร์รี่ยิ้มเมื่ออ่านจดหมายของโชจบ แล้วเขาก็หยิบของขวัญจากเธอขึ้นมา ภายนอกมันเป็นกล่องกำมะหยี่สีดำขนาดใหญ่ที่ดูหรู ขนาดของมันประมาณ 25 X 30 เซนติเมตร แฮร์รี่สงสัยว่าข้างในเป็นอะไร เพราะดูจากภายนอกแล้วมันต้องเป็นของที่ใหญ่พอสมควร แต่เมื่อเขาเปิดมันออกเขาก็ต้องอ้าปากค้าง มันเป็นสนามควิดดิชจำลองซึ่งมีเสาห่วงทำประตูข้างละ 3 ห่วงเหมือนสนามจริง มีกล่องใบเล็กๆอีกกล่องหนึ่งซึ่งข้างในมีการ์ดสีทองแผ่นเล็กอยู่ปึกหนึ่ง แฮร์รี่คลี่ออกดู 2 ใบแรกมีตัวหนังสือสีดำเขียวว่า \"ฝึกฝน\" และ \"แข่งขัน\" ส่วนที่เหลืออีก 13 ใบเป็นชื่อทีมควิดดิช ตรา และสีเสื้อคลุมประจำทีมทั้งหมด 13 ทีมในเกาะอังกฤษและไอร์แลนด์ที่เข้าร่วมในการแข้งขันควิดดิชลีก ได้แก่



                  แอปเปิ้ลปิ้ แอร์โรว์ส : เสื้อคลุมสีน้ำเงิน มีตรารูปลูกธนูสีเงินประดับที่เสื้อ

                  บัลลี่แคสเซิล แบตส์ : เสื้อคลุมสีดำ มีรูปค้างคาวสีแดงเข้มประดับที่หน้าอก

                  คาร์ฟิลลี่ แคททะพัลส์ : เสื้อคลุมลายทางสีเขียวอ่อนสลับแดงเลือดหมู

                  ชัดลี่ย์ แคนนอนส์ : เสื้อคลุมสีส้มสด มีครารูปลูกปืนใหญ่กำลังพ่นอย่างเร็วจี๋

                  ฟัลมัท ฟอลคอนส์ : เสื้อคลุมสีเทาเข้มสลับขาว มีรูปหัวนกเหยี่ยวประดับที่หน้าอก

                  โฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์ : เสื้อคลุมสีเขียวแก่ มีรูปเล็บสัตว์ประดับที่หน้าอก

                  เคนแมร์ เคสเตรลส์ : เสื้อคลุมสีเขียวมรกต ที่หน้าอกมีตัวอักษร ค สีเหลืองสองตัวหันหลังชนกัน

                  มอนโทรส แมกไพส์ : เสื้อคลุมสีดำขาว มีรูปนกแมกไพส์หรือนกกางเขนที่หน้าอกและด้านหลัง

                  ไพรด์ ออฟ พอร์ตทรี : เสื้อคลุมสีม่วงเข้ม มีรูปดาวสีทองประดับที่หน้าอก

                  พัดเดิ้ลเมียร์ ยูไนเต็ด : เสื้อคลุมสีน้ำเงินแก่ มีตราประจำสโมสร รูปหญ้าแฝกสีทองสองมัดไขว้กัน

                  ทัดชิล ทอร์เนโดส์ : เสื้อคลุมสีฟ้า มีตัวอักษร ท สีน้ำเงินเข้มสองตัวอยู่บนหน้าอกและด้านหลัง

                  วิกทาวน์ วันเดอเรอส์ : เสื้อคลุมสีแดงเหมือนเลือด มีรูปมีดปังตอสีเงินที่หน้าอก

                  วิมบอร์น วอพน์ : เสื้อคลุมลายขวางสีเหลืองสลับดำ มีรูปตัวต่ออยู่บนหน้าอก



                  แฮร์รี่ตรวจดูการ์ดทั้งหมดแล้ววางลงบนเตียง เขาหันกลับไปดูสนามจำลองควิดดิชอีกครั้งแล้วหยิบขึ้นมาสำรวจดูอีกรอบเพื่อให้รู้ว่ามันใช้งานยังไง การ์ดพวกนั้นจะใช้กับสนามควิดดิชจำลองนี้ยังไงล่ะ..แฮร์รี่คิด แล้วเขาก็สังเกตเห็นช่องเล็กๆตรงด้านข้างของสนาม 3 ช่องที่มีขนาดเท่ากับช่องเสียบการ์ดในตู้เอทีเอ็มของพวกมักเกิ้ล ก่อนที่เขาจะตัดสินใจสอดการ์ดใบใดใบหนึ่งเข้าไป เขาก็สังเกตเห็นโน็ตแผ่นเล็กๆแนบมาในกล่องด้วย เขาจึงหยิบขึ้นมาอ่าน...





                                                 นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันให้ของขวัญเธอฉันเลยไม่รู้ว่าจะให้อะไรดี แล้ว

                                   ฉันก็พบสิ่งนี้เข้าที่ร้าน \"อุปกรณ์ควิดดิชชั้นเยี่ยม\" ที่ตรอกไดแอกอน เป็นของ

                                   ออกใหม่น่ะ ฉันคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับเธออย่างมากในฐานะกัปตันทีม

                                   ควิดดิช มันช่วยให้เธอทำไปใช้วางแผนและฝึกซ้อมการเล่นควิดดิชในทีมของ

                                   เธอได้ เธอแค่สอดการ์ด \"ฝึกซ้อม\" หรือ \"แข่งขัน\" ลงไปในช่องแรกที่อยู่ข้างๆ

                                   ของสนาม จากนั้นเธอต้องการดูวิธีการเล่นของทีมไหนก็สอดการ์ดทีมนั้นลง

                                   ไปในช่องที่สอง ถ้าเธอเลือกการ์ด \"ฝึกซ้อม\" ลงไปในช่องแรก เธอสามารถ

                                   เลือกการ์ดทีมควิดดิชได้ใบเดียวเพื่อดูการฝึกซ้อมของทีมนั้น แต่ถ้าเธอเลือก

                                   การ์ด \"แข่งขัน\" เธอจะต้องเลือกการ์ดทีมขึ้นมาสองใบแล้วสอดลงไปในช่อง

                                   ที่สองและสาม เธอจะสามารถชมการแข่งขันควิดดิชของทั้งสองทีมที่เธอเลือก

                                   เสมือนไปดูการแข่งขันจริง และเธอจะสามารถนำกลยุทธ์การเล่นของทีมนั้น

                                   มาใช้ได้จริง หวังว่าเธอคงชอบ





                  \"โอ้โห..ยอดเลย!\" แฮร์รี่อุทานออกมาเมื่อเขาอ่านโน็ตแผ่นนั้นจบ แน่นอน เขาชอบมันมากเลย แล้วแฮร์รี่ก็ไม่รีรอ เขาทดลองนำการ์ด \"ฝึกซ้อม\" สอดลงไปในช่องแรก แล้วเลือกทีมชัดลีย์ แคนนอนทีมโปรดของรอนลงไปในช่องที่สอง ไม่กี่วินาทีต่อมา บนสนามควิดดิชก็ปรากฎผู้เล่นตัวจิ๋วเจ็ดคนใส่เสื้อทีมสีส้มสดขึ่ไม้กวาดขนาดจิ๋ว แล้วต่อมาก็มีลูกควัฟเฟิล 1 ลูก บลัดเจอร์ 2 ลูก และลูกสนิชสีทอง 1 ลูกปรากฎขึ้นพร้อมกัน บรรดาผู้เล่นจิ๋วทั้งหมดเริ่มทำหน้าที่ของตัวเอง มี 3 คนในตำแหน่งเชสเซอร์โยนลูกควัฟเฟิลให้กันเพื่อจะโยนลูกให้เข้าห่วงซึงมีคีปเปอร์คอยทำหน้าที่ป้องกันห่วงไว้ บีตเตอร์ 2 คนช่วยกันตีลูกบลัดเจอร์ให้พ้นจากผู้เล่นทั้งหมด ส่วนคนสุดท้ายที่เป็นซีกเกอร์ก็เหาะไปมาเพื่อมองหาลูกสนิช แฮร์รี่เฝ้ามองเชสเซอร์คนหนึ่งโยนลูกควัฟเฟิลข้ามไหล่ของตนไปให้เชสเซอร์อีกคนที่อยู่ข้างหลังอย่างแม่นยำ วินาทีต่อมาก็มีตัวอักษรสีทองปรากฏขึ้นบนอากาศเหนือสนามและผู้เล่นทั้ง 7 คนว่า \"กลยุทธ์รีเวิร์ส พาส\" แฮร์รี่เข้าใจทันทีว่ามันเป็นกลยุทธ์ในการเล่นอีกอย่างหนึ่งนอกเหนือจาก \"มุขหลอกรอนสกี้\" ที่แฮร์รี่เคยเห็นวิกเตอร์ ครัมซีกเกอร์ของทีมชาติบัลแกเรียใช้ในการแข่งขันควิดดิชรอบชิงขนะเลิศเมื่อ 3 ปีก่อน เมื่อแฮร์รี่นำการ์ดออก ผู้เล่นและลูกบอลทั้งหมดก็หายไป เหลือแต่สนามควิดดิชว่างเปล่า



                  แฮร์รี่หันไปดูนาฬิกาซึ่งเป็นเวลาตี 2 กว่าแล้ว เขาจึงเก็บของทั้งหมดใส่ลงหิบก่อนจะถอดแว่นตาออกแล้วล้มตัวลงนอน แฮร์รี่ลองจินตนาการสีหน้าของรอนถ้าได้เห็นควิดดิชจำลองนี้ รอนคงจะตื่นเต้นมากเลยทีเดียว (รอนเข้ามาเล่นในตำแหน่งคีปเปอร์เมื่อตอนปี 5 หลังจากที่โอลิเวอร์ วู้ดจบการศึกษา) แฮร์รี่อดนึกถึงสีหน้าอิจฉาของมัลฟอยไม่ได้แม้มัลฟอยจะเป็นคนสุดท้ายที่เขาอยากนึกถึง เขานึกถึงเฮอร์ไมโอนี่ที่จะพูดประ โยคแรกเมื่อพบกับเขาว่า \"แฮร์รี่..เธออ่านคู่มือการสอบ ส.พ.บ.ส. ไปถึงไหนแล้ว\" เขานึกถึงใบหน้าของโชเวลายิ้ม และนึกถึงฮอกวอตส์ที่เขาอยากจะกลับไปให้เร็วที่สุด แฮร์รี่หาว..ก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่าตัวเองผลอยหลับไปตอนไหน...







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×