ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การพบกันอีกครั้ง
I  tried  to  kil l the  pain
But  only  brought  more
I  lay  dying
And  I’m  pouring  crimson  regret  and  betrayal
I’m  dying  praying  bleeding  and  screaming
Am  I  too  lost  to  be  saved
Am  I  too  lost?
My  god  my  tourniquet
Return  to  my  salvation...
                โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
                ณ ห้องเรียนมัธยมปลาย 6/1 วิทย์ฯ
                หญิงสาวร่างบอบบางระหงเดินเข้ามาในห้องเรียน  เป็นที่รู้กันว่าณัฐถกาผู้ที่มีใบหน้าสวยหวานไม่เคยมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าซักครั้งที่ได้พบ  เหมือนถูกห่อหุ้มด้วยหน้ากากแห่งความเย็นชา  หากมีรอยเศร้าก็แทบจะซ่อนอยู่ลึกสุดของประกายตา  ไม่มีผู้ใดเข้าใกล้  คบหา  ไม่ใช่เพราะไม่ต้องการ  ทุกคนยินดีพร้อมใจเรียกได้ว่าเสนอตัวที่จะผูกมิตรกับหญิงสาวตลอดเวลา  แต่เป็นณัฐถกาเองต่างหากที่ปิดกั้นตัวเองออกจากผู้อื่นด้วยความเมินเฉยและกั้นขอบเขตระยะการติดต่อของตนกับคนอื่นไว้ให้ห่างไกลยิ่ง
             
                ท่าทางเช่นนี้ของเธอนั้นมีทั้งคนเกลียด  หมั่นไส้  และหลงใหลปะปนกันไป  หากจะหนักก็ไปทางหลงใหลซะเป็นส่วนใหญ่  ด้วยเพราะความเย็นชานั้นมันช่างเข้ากับใบหน้างามอย่างประหลาด  แต่คนที่เกลียดเข้ากระดูกดำจนแทบไม่อยากแม้แต่จะย่างกลายใกล้ณัฐถกาเลยก็คือกฤษนะ  เขามีอคติอย่างแรงและไม่ต้องการข้องเกี่ยวใดๆกับหญิงสาวทั้งสิ้น  แต่นั่นแหละ..ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ  สูตรสำเร็จที่ใช้ได้ตลอดกาล  กฤษณะถูกจับให้นั่งคู่กับหล่อนทั้งที่ใจจริงชายผมแดงต้องการนั่งกับอริญญา  คนที่สวยหวานไม่แพ้กันแต่กลับให้ความรู้สึกสดชื่นและสบายใจกว่ามากเมื่อได้อยู่ใกล้  ทั้งสองเป็นคู่ที่เด่นจนทั้งโรงเรียนอิจฉา  หากอริญญากลับถูกส่งให้นั่งห่างจากกฤษณะเรียกว่าคนละมุมห้องเลยทีเดียว
                \"ฉันล่ะรำคาญยัยณัฐถกาเป็นบ้า!  คนอะไรวะนั่งเชิดปั้นหน้าสวยได้ทั้งวัน  พูดด้วยก็ไม่ตอบ  ปัดมือไปโดนนิดโดนหน่อยเขยิบไปซะไกล  คนไม่รู้จะคิดว่าฉันเป็นกิ้งกือไส้เดือน\"  กฤษนะพูดเสียงดังอย่างไม่กลัวว่าหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาจะได้ยิน
                \"หล่อนไม่สนนายล่ะสิถึงได้ทำเป็นหมั่นไส้เธอนัก\"  โยธกา  สาวผมบ๊อบกระเซ้าเพื่อน
                \"ถึงสนสองตาฉันก็ไม่แล  ดูรินเจริญตากว่าเป็นกอง\"
                \"เออ  ใครมันจะไปวิเศษเท่าคุณหนูรินของแกได้อีกวะ\"  ประพฤติพูดอย่างหมั่นไส้
                แต่ก่อนที่กฤษนะจะได้ใช้วาจาทำร้ายณัฐถกาที่เดินมานั่งที่อย่างสงบราวกับบทสนทนาที่ผ่านหูไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตน  เสียงออดก็ดังขึ้น  กฤษนะทำได้เพียงฟุบหน้าลงกับโต๊ะ  หันหลังให้กับหญิงสาว 
                ณัฐถกาชินซะแล้วกับปฏิกิริยาแบบนี้...
                \"รุ่นพี่ครับ  วันนี้ไปทานข้าวกลางวันกับผมนะครับ\"  วิษณุก็ตรงรี่เข้ามาหาณัฐถกาถึงห้องเรียน  เขาเป็นคนๆเดียวที่ยังไม่ถอยห่างออกไปเมื่อถูกเมินเฉยเป็นการตอบสนองทุกครั้งที่เข้าใกล้  หลังจากที่คนอื่นๆค่อยๆละความพยายามและจากไปในที่สุด 
       
                หญิงสาวเคยพูดกับรุ่นน้องคนนี้แล้ว
                \"เข้ามายุ่งกับฉัน  อยากนอนด้วยเหรอไง\" 
                หากแต่สิ่งที่ได้รับตอบมากลับเป็นรอยยิ้มจริงใจ  ตามด้วยเสียงหนักแน่น
                \"ผมอยากเป็นเพื่อนกับพี่นัทด้วยความบริสุทธิ์ใจนะครับ\"
                \"อย่าเข้าใกล้ฉันจะดีกว่า  ฉันเตือนด้วยความหวังดี\"
                แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้รุ่นน้องคนนั้นละทิ้งความพยายามไปได้  ณัฐถการู้สึกถูกชะตากับวิษณุ  หากคำว่าเพื่อนก็ดูห่างไกลเกินความฝันของเธอนัก...
                                                         
                                                          # --------------------------------------------------- #
                หญิงสาวกระพริบตาถี่ก่อนลุกขึ้นล้างหน้า  น้ำเสียงร่าเริงของรุ่นน้องที่ส่งมานั้นยังก้องอยู่ในโสตประสาท  เช่นเดียวกับเสียงเกรี้ยวกราดประชดประชันจากเพื่อนที่มีประกายผมแดงเพลิงและนัยน์ตากร้าวทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้  ทุกอย่างดูชัดเจนในความฝัน  หากแต่เลือนรางและห่างไกลจากความจริงยิ่งนัก  ในเมื่อมันผ่านมากว่าสิบปีแล้ว
                ณัฐถกาสะบัดศีรษะก่อนเดินไปจัดการธุระส่วนตัวเหมือนทุกเช้าก่อนไปทำงาน  วันนี้เป็นวันที่สามที่เธอเข้าทำงานที่บริษัทแห่งใหม่  หากแต่เป็นวันแรกที่จะได้พบเจ้านายของเธอที่เพิ่งกลับจากไปดูงานต่างประเทศ
                                                          # --------------------------------------------------- #
                หญิงสาวเดินตรงไปยังห้องทำงานใหญ่ที่อยู่สุดทางเดิน  เธอเคาะประตูเบาๆก่อนก้าวเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงตอบรับ
                ชายผมแดงนั่งก้มหน้าก้มหน้าขมักเขม้นกับกองเอกสารบนโต๊ะ  ดูคุ้นตาณัฐถกาอย่างประหลาด  รวมทั้งน้ำเสียงที่เปร่งออกมาก็ชินหูราวกับเคยได้ยินมาก่อน
                \"ขอโทษที  ขอจัดเอกสารให้เข้าที่เข้าทางซักเดี๋ยว  เชิญนั่งก่อน\"
                เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเงยหน้าขึ้นเธอก็ได้หายสงสัย
                ทำไมโลกมันกลมได้ขนาดนี้?  ณัฐถกาครางอยู่ในใจ  ชะงักเท้าเล็กน้อยก่อนเดินตรงเข้าไปนั่งเก้าอี้หมุนหน้าชายผมแดงที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายของหล่อน
                \"อืม..ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้นะ\"  เหมือนคนเป็นเจ้านายก็คิดเช่นเดียวกัน  กฤษณะอึ้งไปซักพักและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและท่วงท่าไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมเลย  \"หวังว่าคงไม่ต้องแนะนำตัวกันอีกนะ\"
                \"สวัสดีค่ะ  ไม่ได้พบกันนาน\"  ณัฐถกาตอบเสียงเรียบพอๆกับใบหน้าสงบเฉย
                ชายร่างสูงไม่คาดคิดซักนิดว่าจะได้เจอกับหญิงสาวตรงหน้าอีก  หลังจากที่ณัฐถกาออกจากโรงเรียนไปกลางเทอมสุดท้ายของมัธยมปลายพร้อมกับข่าวลือประหลาดซึ่งเขาไม่ได่ใส่ใจมากนัก  กฤษณะสังเกตผมสีน้ำตาลซอยสั้นที่รับกับใบหน้าสวยที่เพรียวและหวานมากขึ้นพอๆกับความเย็นชาที่เพิ่มขึ้นมากเข่นกัน 
                เขาก็ยอมรับหรอกนะว่าอีกฝ่ายสวยจริงจนแทบไม่อาจห้ามใจไม่ให้ลุ่มหลง  แต่กับไอ้สีหน้าที่ไม่เคยแม่แต่จะแสดงอารมณ์นี่ดูแล้วขัดตาจนพาลหมั่นไส้ทุกครั้งที่มอง
                \"เอาล่ะ  เธอต้องเรียนรู้งานซักพัก  ก็ตั้งใจด้วยละกัน  เพราะบริษัทของเรารับแต่พนักงานที่ทำงานอย่างเต็มที่ให้สมกับค่าจ้างที่เราต้องเสียไป\"  เสียงห้วนกระด้างอย่างช่วยไม่ได้  ชายร่างสูงถือเอาผลประโยชน์ของบริษัทเป็นสำคัญ
                \"ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ\"  อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงคงเดิมราวกับไม่รับรู้อารมณ์ของฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับก้มลงอย่างพิธีรีตอง 
                \"วันนี้เธอเอาแฟ้มพวกนี้ไปอ่านให้ละเอียด  ไม่เข้าใจตรงไหนมาถามฉันได้\"
                เมื่ออกจากห้องณัฐถกาถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างลำบากใจ  ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกอะไร  เพียงแต่ไม่อยากแสดงให้อีกฝ่ายรู้  หญิงสาวรู้ว่าเจ้านายหมาดๆคนนี้รู้สึกกับเธอแต่ก่อนอย่างไรเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน...
                                                          # --------------------------------------------------- #
                ณัฐถกาเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวตรงมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานของเธอซึ่งตั้งอยู่หน้าห้องทำงานของกฤษณะเยื้องไปทางฝั่งขวาของประตูเล็กน้อย
                \"มาหาคุณกฤษณะใช่มั้ยคะ  กรุณานั่งรอซักครู่...\"  ประโยคสุดท้ายกลืนหายลงไปในลำคอ เมื่อเห็นหญิงสาวผมยาวสลวยสีดำสนิทตรงหน้าชัดๆ
                \"อ๊ะ..เธอ  ณัฐถกานี่  จำฉันได้รึเปล่า  ไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะ\" 
                แม้จะตั้งตัวไม่ติด  แต่ณัฐถกาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเอ็นดูกับท่าทางที่อีกฝ่ายกระทำ  ตาที่กลมโตอยู่แล้วกลับขยายกว้างเป็นเท่าตัว  บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงคาดไม่ถึงเอาจริงๆที่มาพบเธอที่นี่
                เธอยิ้มตอบน้อยๆก่อนตอบ  \"อริญญา  ดีใจที่ได้พบกันอีก\"
                \"มาทำงานกับกฤษเหรอ\"  หญิงสาวร่างเล็กถามร่างสูงกว่าเล็กน้อยต่อด้วยน้ำเสียงร่าเริงราวไม่เคยถูกความทุกข์กล้ำกรายแม้แต่น้อย  ณัฐถกาสารภาพกับตัวเองว่าอดอิจฉาความสดใสของหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้
                ณัฐถกาพยักหน้าเป็นคำตอบ  ก่อนเอ่ยขึ้น  \"กรุณารอซักครู่นะคะ  คุณอริญญา\"
                \"ไม่ต้องสุภาพหรอก  เรียกฉันว่ารินดีกว่า  ส่วนฉันขอเรียกเธอว่านัทได้มั๊ย\"
                แต่ยังไม่ทันที่เธอจะตอบ  ชายร่างสูงก็ออกมาจากห้องพอดี
                \"อ้าว..ริน  มาตั้งแต่เมื่อไหร่?\"  ชายหนุ่มกล่าวทักเสียงนุ่ม  ก่อนกลับกลายเป็นสั้นห้วนยามหันมาพูดกับอีกคน  \"ทำไมไม่เข้าไปบอกฉันว่ารินมา\"
                หากคิดว่าณัฐถกาจะน้อยใจก็ผิดถนัด  หญิงสาวตอบกลับไปเสียงห้าวห้วนพอกัน  \"ดิฉันกำลังจะเข้าไปตาม  แต่คุณเดินออกมาก่อนเลยคิดว่าไม่จำเป็น\"  ลากเสียงท้ายประโยคให้ดูไม่ห้วนเกินไป  แต่ในความรู้สึกกฤษณะมันกระด้างสิ้นดี  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าส่งสายตาดุกลับไป  ซึ่งก็ไม่มีผลอะไรกับบุคคลตรงหน้าเช่นเคย
                \"เอาน่า..กฤษ  ฉันเพิ่งมาได้ไม่ถึงห้านาทีเลย  แล้วอีกอย่างฉันก็ชวนนัทคุยเองแหละ\"  อริญญารีบปรามก่อนที่เรื่องจะบานปลายมากกว่านี้  ก่อนพูดเสียงกลั้วหัวเราะ  \"เธอสองคนนี่แต่ก่อนไม่ถูกกันยังไงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม  ฉันคิดไม่ออกเลยว่าทำงานด้วยกันได้ไง  เอางี้ดีกว่า  พักเที่ยงแล้ว  นัทไปทานข้าวกับพวกเรานะ  จะได้คุยกัน\"
                \"ไม่ดีกว่า..ไม่อยากรบกวน\"
                \"รบกวนที่ไหน  ไม่เลย  ไปเถอะนะ  นะ\"
                \"เอาไว้วันหลังเถอะ\"  เธอปฏิเสธ  ก็ในเมื่อชายร่างสูงคอยยืนหน้าบึ้งถลึงตาใส่เธอเป็นเชิงห้ามไม่ให้ไปอยู่ข้างคนชวน  แค่คิดว่าต้องไปนั่งกับกฤษณะหล่อนก็หมดอารมณ์ทานข้าวแล้ว
                \"ไปเถอะริน  ถ้าเค๊าไม่อยากไปก็อย่าเซ้าซี้เลย  ผมเริ่มหิวแล้ว\"  พูดจบก็จูงมือร่างบางเดินออกไปอย่างไม่รอช้า  ไม่แม้จะเหลือบมองอีกคนซักนิด
                \"กฤษ!  ทำไมเสียมารยาทแบบนี้\"  เสียงอริญญาลอยแว่วมาไกลๆ  ทิ้งให้ณัฐถกายืนมองร่างทั้งสองหายลับเข้าไปในลิฟท์ด้วยความรู้สึกหดหู่อย่างที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ
                                                          # --------------------------------------------------- #
                \"ไปสนิทกับยัยนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่  ถึงเรียกเค๊าว่านัทน่ะ\"  กฤษณะบ่นขณะนั่งรออาหาร
                \"นายไม่ชอบอะไรนัทนักหนา  หล่อนสวยจะตาย\"
                \"ไม่ชอบก็คือไอ้หน้าสวยๆที่ไร้อารมณ์ตลอดเวลานั่นแหละ\"  เขากระแทกเสียงตอบ
                ก่อนที่ยูจะได้ทันถียงอะไรก็เหลือบไปมองชายสองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้าน  เขาจึงกวักมือเรียก  \"ไอ้ป่าน,  โย  ทางนี้!\"
                \"รู้มั้ยวันนี้ฉันเจอใครที่บริษัทกฤษ\"  หญิงสาวถามเมื่อเพื่อนทั้งสองนั่งลงเรียบร้อยแล้ว
                \"ใครล่ะ?\"
                \"ณัฐถกาที่เคยเรียนมัธยมปลายกับพวกเราไง\"
                \"หือ?  แล้วไปเจอที่บริษัทของกฤษเขาได้ไง\"  โยธกาถามในขณะที่สีหน้าของประพฤติเคร่งขึ้นโดยที่ไม่มีใครทันสังเกต
                \"หล่อนก็ไปทำงานสิฟะ\"  กฤษณะตอบอย่างอดไม่ได้
                \"ทำงานกับนายเนี่ยนะ  เลิกเกลียดขี้หน้าหล่อนแล้วเรอะ\"
                \"ก็ตอนหล่อนมาสมัครฉันไปต่างประเทศพอดี  ฝ่ายบุคคลเขารับไว้คงเห็นเราขาดเลขาอยู่พอดี\"
                \"ป่าน  เป็นอะไรน่ะนั่งเงียบเชียว\"  อริญญาถามเมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งเงียบไม่พูดไม่จา
                \"ไม่มีอะไร  คิดเรื่องงานนิดหน่อย\"  เมื่อชายหนุ่มรู้ตัวว่าเงียบไปก็รีบยกงานขึ้นอ้าง
                \"เฮ้ย  มาคิดไรตอนนี้ฟะ  วางๆไว้ก่อนก็ได้  คนไข้นายไม่หนีไปตอนนี้หรอก  ไอ้คุณหมอโรคจิต!\"  กฤษณะหยอก
                \"ไอ้..รักษาผู้ป่วยโรคจิตเฟ้ย!  ไม่ใช่หมอโรคจิต  เออช่างเถอะ..ว่าแต่ณัฐถกาเค้าเป็นไงมั่ง  สบายดีมั้ย\"  ประพฤติคร้านที่จะเถียง  ก่อนหันไปถามอริญญา
                \"ก็สบายดี..สวยขึ้นตั้งเยอะ\"
                \"ก็หน้าตายเหมือนเดิมแหละว้า\"
                \"กฤษ!!\"
                \"เหรอ...\"  ประพฤติพยักหน้ารับ  สีหน้าคล้ายครุ่นคิดอะไรซักอย่าง
To be continued...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น