คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องไร้สาระของ 'ซุส'
“ท่านฮาเดส มีสารจากบนสววรค์ถึงท่านขอรับ”
เสียงเรียกของข้ารับใช้นามว่าทีส ชายหลังค่อมผู้ทำหน้าที่เป็นข้ารับใช้ของฮาเดสมายาวนานเอ่ยเรียก
ฮาเดส หรือ มหาเทพฮาเดส เทพแห่งความตาย ผู้ปกครองนครใต้บาดาล อันซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่คิดจะมาอันดับต้นๆของเหล่าเทพทั้งหลายในโอลิมปัส อากาศเย็นเฉียบ หวังเหวง มีเพียงเสียงสายน้ำไหลไม่คาดสายดังต่อเนื่องไม่หยุด หากหยุดฟังดีๆจะได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังมาตามแม่น้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ แม่น้ำสายนี้คือแม่น้ำที่เหล่าวิญญาณทั้งหลายถูกนำพาให้ไปทนทุกข์ทรมานจากบาปที่ก่อไว้บนโลกมนุษย์ที่ใต้ปรภพ มีไอหมอกจางๆอยู่เรื่อยๆตามแม่น้ำ แสงสว่างที่หาได้จากคบเพลิงเป็นระยะๆมีเพียงน้อยนิด สถานที่แห่งนี้ประกอบไว้ด้วยความเงียบ เหงา อ้างว้างจนสุดขั้วหัวใจ ผู้ที่อาศัยหากไม่มีจิตใจเย็นชา ก็ไม่สามารถจะทนกับบรรยากาศแสนหวังเหวงนี้ได้เป็นแน่
ฮาเดสรับกระดาษที่ม้วนไว้คลี่ออกมาอ่าน สายตาของเขากวาดอ่านตัวอักษรอย่างรวดเร็ว
เรียกข้าไปอีกแล้วน่ะซุส หวังว่าคงไม่ไร้สาระอีก
“ข้าจะไปพบซุส” กล่าวบอกจบพร้อมกับก้าวเดินไปทางประตูทางออกของประสาท ทันใดนั้นพาหนะประจำตัวของเขา รถเกวียนแบบยืนคนเดียวก็ปรากฏอยู่พร้อมกับม้าสองตัวตัวสีดำดุจรัตติกาล
ฮาเดสก้าวขึ้นไปยืนบนเกวียนพร้อมขยับแส่สะกิดเบาๆเป็นเชิงบอกให้สัตว์พาหนะของตนรับรู้ว่าพร้อมจะออกเดินทางแล้ว
ม้าสองตัวขยับวิ่ง ลอยขึ้นไปบนอากาศ ทันใดนั้นแผ่นพสุธาก็แยกออกจากกัน แสงสว่างลอดลงมายังนครบาดาลเพียงชั่ววินาทีก็ปิดกลับดั่งเดิม
ณ เทือกเขาโอลิมปัส
“ฮาเดส
น้องรักข้องข้า โอลิมปัสยินดีต้อนรับเจ้าอีกครั้ง” มหาเทพซุสผู้ปกครองเทพทั้งปวง กล่าวต้อนรับฮาเดสด้วยร้อยยิ้มเปี่ยมไปด้วยไมตรี
“เจ้ามีอะไรถึงเรียกข้ามา ซุส” กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบติดเย็นชา อันเป็นปกติของเขา
“ก็แหม ไม่มีอะไรมากหรอกน่า นานๆครั้งข้าก็แค่อยากจะคุยกับเจ้าบ้าง” เทพซุสผู้น่าเกรงขามของเทพทั้งปวงหายวับไปกับตา เหลือแต่เพียงชายหนุ่มขี้เล่น
“ข้าไม่เชื่อ เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรให้อีกล่ะ” ฮาเดสกล่าวอย่างเบื่อหน่ายในน้ำเสียงเต็มที่
“ก็แค่ ช่วยข้านิดๆหน่อยๆ” ซุสยิ้มประจบ
“ข้าอยากจะขอเส้นด้ายชีวิตของมนุษย์ผู้นึงได้หรือไม่” นิ้วชี้ประกบนิ้วโป้งบ่งบอกว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
“เจ้าจะเอาไปทำอะไร” ตาคมหรี่ลงมองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้วางใจ
“ข้าแค่จะเอามาช่วยเจ้ามนุษย์คนนึงเท่านั้นเอง” ซุสฉีกยิ้มที่คิดว่าดูจริงใจที่สุดออกไป
“ไม่ได้!!” เสียงตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ข้ารู้ สายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นไม่ได้แค่ช่วยธรรมดาแน่ แต่.. ช่วยให้มนุษย์คนนั้นถึงอายุขัยเร็วเกินไปน่ะสิ!
“ซุส!! เจ้าเป็นคนให้ข้ากำหนดความตายให้พวกเขาเองน่ะ เจ้าจะมาใช้อำนาจแกล้งมนุษย์ไม่ได้”
แต่เดิมในอดีตนั้น หลังจากมหาเทพซุสทรงยึดเขาโอลิมปัสและตั้งตัวเองเป็นเทพปกครองเทพทั้งปวงนั้น เขาก็ได้มอบหมายหน้าที่ตัดสินความตายของมนุษย์ให้กับ ฮาเดส น้องชายผู้แสนจะเย็นชาของเขา
“แต่แค่คนเดียวเองน่ะ ฮาเดส เจ้าละเว้นไม่ได้หรือไง” ซุสเริ่มโมโหตามประสาคนเอาแต่ใจ
“กฏย่อมเป็นกฏ หาไม่แล้วจะหาความยุติธรรมจากที่ไหน” ฮาเดสเริ่มรู้แล้วว่าพี่ชายของเขากำลังจะโกรธ แต่เขาจะไม่ยอมให้หน้าที่ของเขาต้องบกพร่องเพราะความริษยาในตัวมนุษย์ผู้ชายของมหาเทพซุส ผู้ที่น่าเกรงขามสำหรับผู้อื่น แต่สำหรับผู้ที่ชิดใกล้ย่อมรู้ว่าซุสนั้นนิสัยเหมือนเด็กเล็กๆ เอาแต่ใจ เพราะงั้นถึงได้มีลูกทั้งเทพ ทั้งครึ่งเทพครึ่งมนุษย์เกลือนโลกให้วุ่นไง
“ข้าไปล่ะ” ฮาเดสเดินหนีเสียงเรียกตะโกนอย่างโมโหของซุสออกมา เขาตรงไปที่รถม้าแล้วเตรียมตัวจะออกรถ แต่เสียงของซุสก็ขัดเขาไว้
“เดี่ยวก่อน! ข้าไม่เอาแล้วก็ได้ ถึงยังไงข้าก็จะต้องได้ร่วมรักกับนางมนุษย์อยู่ดี ฆ่ามันตายไปก็เปล่าประโยชน์” ซุสพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆ
ฮาเดสกลอกตาขึ้นอย่างเบื่อหน่าย
เมื่อไหรจะพอซักทีว่ะ ไอ้เรื่องรักๆใคร่ๆเนี่ย ไม่เห็นมันจะน่าสนใจตรงไหน
“แต่จำไว้ฮาเดส เมื่อไหรที่เจ้ามีความรัก ข้าจะไม่ช่วยเจ้าเลยสักนิด คอยดู” น้ำเสียงปั่นปึ้งของซุสถูกส่งมาหา
“ข้าไม่มีทางให้เจ้าช่วยแน่ ซุส” เพราะข้าไม่คิดจะมีความรักไร้สาระนั้นแน่
ฮาเดสกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาตามปกติ เขาสะกิดม้าเบาๆ แล้วรถม้าที่ใครเห็นเป็นต้องรู้สึกหนาวยะเยือก แถมพ่วงเอารังสีแห่งความมืดปกคลุมไปทั่วทั้งม้าและรถ ก็ทะยานจากไปจากเขาโอลิมปัส
ความคิดเห็น