คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : THREE HEART - CHAPTER ONE
CHANYEOL VER.
“นี้ครับ ถึงแล้ว^^” ผมจอดไอ้แดงลูกรักให้คุณชายน้อยบยอนแบคฮยอนคนส๊วยสวยของผม(?)ลงมาที่หมู่บ้านโซลี่…..แหม โชคชะตาฟ้าลิขวิค เอ้ย ลิขิต
ให้ผมกับแบคฮยอนอยู่หมู่บ้านเดียวกัน บ้านของผม(ที่มีพี่น้อง2คนอาศัยด้วย)กลับบ้านของแบคฮยอนไม่ไกลเท่าไร แค่บ้านแบคฮยอนอยู่หน้าสุด
บ้านผมอยู่ท้ายหมู่บ้าน==
“ทะ….เท่าไรครับ” คนตัวเล็กที่ใส่เสื้อพนักงานเซเว่นยังขวยเขินตั้งแต่สี่แยกไฟแดงตรงนั้น
“เก้าร้อยโครตมหาล้านล้านสิบบาท” จริงๆแค่40แหละครับ
เกรียนสิครับรอไร
“อ้าว….แล้วแบคจะเอาเงินมาจากไหนอ่ะ==” จากขวยเขินได้10ชาติ(?) กลับมาทำสีหน้าช็อก เงิบ อารมณ์แบบว่า พ่อคลอดลูก แม่เป็นเกย์
พี่เป็นกระเทย น้องเป็นตุ๊ด บ้านขาดแคลนอาหาร(?)
“งั้นคุณแบคให้ผมเรียกว่าน้องแบค ต้องให้ผมไปส่งทุกเช้าทุกเย็น
แล้วน้องแบคจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินเก้าร้อยโครตล้านล้านสิบบาท” ง่อวววว์ ใครก็คิดเท่าชานยอลคนหล่อแบบนี้ไม่ได้
“ว้าว!!ดีจัง
ไม่ต้องเสียเงินค่าแท็กซี่แพงๆกับเงินเก้าร้อยโครตล้านล้านสิบบาทนั่นแล้วสินะ
แถมมีคนไปส่งฟรีด้วย……งั้นน้องแบคก็จะเรียกคุณว่าพี่ชานยอลได้รึป่าวครับ” คนตัวเล็กร่ายยาว เหมือนพูดคน
เดียวแล้วแบคฮยอนค่อยๆเผยความน่ารักของตัวเองมาให้ผมได้ฟินทีละนิดละหน่อย
โอ้ยยย อยากเรียกไรก็เรียกเถอะครับ พี่ชานยอลคนนี้จะไม่ทน เดี๋ยวปั๊ดจับทำเมียเลย(?)
“น้องแบคคร๊าบบบ~~” ผมลองเรียกสรรพนามในการเรียกอีกคนที่กำลังยิ้มและมองผมด้วยสายตาลูกหมาขี้อ้อน
“ครับ พี่ชานยอล” แบคคือหวานเย็น~ดับร้อนข้างในหัวใจที่ชานมี~~ อยากจะร้องเพลงนี้ให้น้องแบคฟังจริงๆ น่ารัก
น่าฟัด(?)
จากนั้นผมและน้องแบคสุดโครตน่ารักต่างก็โบกมือลากัน
ผมรอให้พนักงานเซเว่นตัวน้อยเข้าไปในบ้านก่อนที่จะขับรถไป……
“เดี๋ยวๆกี่โมงละว่ะ”ผมบ่นกับตัวเองก่อนที่จะจอดไอ้แดงแถวๆข้างถนน…..แล้วก็เอาข้อมือขางซ้ายที่มีนาฬิกาข้อมือราคาหลายพันขึ้นมาระดับหน้าอกแล้วก้มมองลงไป…..
“เชี้ยยย หกโมงครึ่ง ห่า!! อีฮุนรอเฮียก่อนนน” อิกระผม(เสือก)พึ่งนึกได้ว่าต้องไปรับเซฮุนทุกวันสี่โมง
เซฮุนแม่งต้องด่าเป็นภาษาสะบาเลเก้(?)เป็นชั่วโมงแน่ๆ
เพราะเมื่อก่อนเคยไปรับห้าโมง หูนี้แทบจะอือ==
รอพี่ก่อนนะ ฮุนนี่~~~~
SEHUN VER.
“จะมาป่ะว่ะชาตินี้==” ผมได้แต่บ่นกับตัวเองซ้ำๆตอนนี้ผมนั่งรอตรงที่ม้านั่งหน้าโรงเรียน
ตอนนี้ก็เหลือผมคนเดียวที่นั่งหงอยเหมือนหมาถูกทิ้ง พูดแล้วเศร้า มาเด้ากันดีกว่า(?)
ผมไม่มีอะไรทำ
แทบจะเป็นง่อย ปกติแฟนคลับของผม ต้องมาเสริฟน้ำเสริฟท่า ขนมนมเนย และบลาๆ
แต่วันนี้โรงเรียนผมฝ่ายหญิงได้ไปทัศนศึกษาที่ต่างจังหวัด2วัน ฝ่ายชายไปอาทิตย์หน้า ผมเบื่อจนต้องเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คเงิน
มันโครตจะยอดเยี่ยม ตังเหลือ0บาท==
แต่ผมยังเหลือเน็ตที่จะสื่อสารได้….แต่เฮียชานแม่งใช้โนเกีย3310เพราะเฮียบอกว่ามันอึดดี==…ผมละอยากจะบ้าตาย
พอผ่านไปซัก10นาที
ผมกลับมาเบื่ออีกครั้งผมลองไปดูเพจ ‘คิมจงอินนน์’ ซึ่งใครก็ไม่รู้ตั้ง แต่ที่แน่ๆ
เพจนี้เป็นเพจรวมรูปหลุด กิน นอน เที่ยว กิจกรรมของจงอิน รวมมาอยู่ในเพจนี้หมดเลย
เรื่องอะไรที่‘อู๋เซฮุน’คนนี้จะไม่กดไลค์เพจละ>///< เพราะหลังจากที่ซื้อไก่ทอดตอนนั้นผมก็ไปซื้อไก่ทอดทุกวัน
ทักทายกันบ้างแต่ผมไม่ได้บอกชื่อตัวเองและผมก็ไปสืบประวัติ แบบโครตพ่อโครตแม่ จนผมรู้ว่า เขาชื่อคิมจงอิน(ชื่อนี้เขาบอก)อายุ18ปี โรงเรียนเดียวกับผม ม.6 แต่ผมอยู่ม.5
ฐานะร่ำรวย แต่ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมต้องมาขายไก่ทอด? สงสัยอาจจะมาหาประสบการณ์?
“ขอโทษนะครับ ขอนั่งด้วยคนนะครับ” เสียงเข้มๆ
เอ่ยในขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องของพี่จงอินและพนักหน้าโดยไม่มองหน้า…เหตุที่ผมไม่มองก็คือกำลังดูรูปพี่จงอินกำลังถอดเสื้อ=.,=
จะนั่งไหนก็นั่งครับ ณ จุดนี้ขอเสพรูปพี่จงอินก่อน…
“คนเดี๋ยวนี้นะ ชอบถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตเลยเนอะ….ว่ามั้ย?” คนที่ขอผมนั่งเมื่อกี้เอ่ยขึ้นและถาม
คุณกูอยากจะบอกว่า ‘เสือก’ แต่ผมขอฟังประโยคให้ดีๆแป๊ป…. หืม?
ผมเลือกที่จะหันหน้าไปบอกคนที่เอ่ยและถามเมื่อกี้……. อิห่า ชิบหอยหลอด พี่คิมจงอินเว้ยยยย
ผมนี้แทบจะเก็บมือถือไม่ทัน….
“คึ..คือ
ผมไม่ได้ทำหอยไรเลยนะครับ อย่าด่าผมเลย><” ผมยกมือไหว้แทบจะระนาบไปกับพื้นแล้ว ชิบหอยหลอด
พี่จงอินต้องมองกูเป็นคนอย่างงั้นแน่ๆเลย ==
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมยังไม่ได้บอกคุณเลยว่าผมจะด่าคุณนะ
อู๋เซฮุน” พี่จงอินกดเสียงให้ต่ำลง เหมือนจะฆ่าตูปานนั้น
โด่ววว เฮียชานมารับไวไว ยำยำ มาม่า ดิสัสสสส ……….เฮ้ย!! เดี๋ยวๆ พี่จงอินรู้ชื่อเราได้ไงว่ะ==
“เฮ้ยพี่จง….คุณจงอินคุณรู้ชื่อผมได้ไง-_-*” เกือบหลุดสรรพนามที่ใช้เวลาเสพรูปจงอิน เกือบไป==
“เรื่องนั้นไม่ต้องรู้หรอก…..แต่คุณว่างไหมครับ? ” พี่จงอินไม่ยอมบอกผม แต่กลับชวนไปเที่ยว…เดทอ่ะป่าว>///<
แต่ว่าเฮียชานจะมารับมิใช่
แล้วพึ่งคุยได้อยู่3นาที……….เออช่างแม่ง
เฮียชานไม่ยอมมารับสักที…. เดี๋ยวเฮียอี้ฟานด่าว่าไม่ยอมกลับบ้าน เฮียอี้ฟานยิ่งใหญ่ที่สุดในบ้านอยู่ด้วย…….
“ว่างครับ^^” ถึงเฮียอี้ฟานจะใหญ่มาจากไหนก็ไม่สามารถทำลายความรักของอู๋เซฮุนคนนี้ได้หรอก!! ง่อวววว์
ผมได้แต่ขวยเขินก้มหน้าก้มตา คิดเองเออเองว่า
คิมจงอินพาตัวเองไปเดท….ง่อววว์ จะทำไงดี><ไปสวนสนุกก็ดี ห้างก็เยี่ยม ป้อนไอติมงี้ กรี๊ดดด(?) ฮุนปลื้มมม><
“ที่ผมชวนนี้ไม่ได้ไปเดทนะครับ ไม่ต้องเขิน
ผมชวนคุณไปชิมไก่สูตรใหม่ของผม^^” อิพี่จงอินเชี้ย== ทำฝันของฮุนคนนี้สลายT T ถ้าพี่จงอินขายดิลโด้ พี่จะชวนฮุนไปลองดิลโด้ขนาดใหม่งี้อ่อ?==
“ครับๆ== แต่ไม่มีใครพาผมกลับบ้านอ่ะดิ่
คงไปไม่ได้” ผมตอบทั้งๆที่นึกถึงเรื่องลองดิลโด้อยู่
จะเจ็บตูดป่ะว่ะ=^=
“เดี๋ยวผมไปส่งคุณกลับบ้านก็ได้ครับ” นี้แหละ คนที่ ‘อู๋เซฮุน’ คอยมานานแสนนาน ฮุนอยากกรี๊ด!!(?)
พี่จงอินไม่พูดอะไรได้แต่หัวเราะในลำคอ
เหมือนกับตัวร้ายในละครน้ำเน่างั้นเถอะ……พี่จงอินขี่มอเตอร์ไซด์มารับผม ก่อนที่ผมจะนั่งซ้อนท้ายมอเจอร์ไซด์ของพี่คิมจงอินไป…….
KRIS VER.
“อ่า ได้ป็นหมอสักที….”
ผมบ่นกับตัวเองพร้อมกับยืดเส้นยืดเส้นเพื่อคลายความเหนื่อยที่มีอยู่…..ใช่
วันนี้เป็นวันที่อู๋อี้ฟานคนนี้ได้มาทำงานที่โรงพยาบาลโซลครั้งแรก……แรงบัลดาลใจที่ทำให้ผมได้เป็นหมอคงจะเป็นพ่อแม่
เซฮุน ชานยอล และ ‘จางอี้ชิง’ละมั้ง….
ใช่….ตั้งแต่ที่พี่อี้ชิงไปจากผมโดยไม่ได้บอกลาอะไรเลย
มันทำให้อี้ฟานจากที่เด็กติดเกม ไม่ตั้งใจเรียน เกรดออกมาแย่
กลายมาเป็นเด็กที่มุ่งมั่นเอาแต่เรียน ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อเกรด เกรดออกมาดี ที่ผมยอมปรับตัวให้ดีขึ้น เพราะ ‘พี่อี้ชิง’คนเดียว…..
แต่ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะตั้งใจเรียนไปทำไม มาเรียนหมอทำไม
เพราะยังไง………ก็คงไม่ได้รักษาเขาอยู่แล้ว…….
“เฮ้ย!!!อี้ฟาน
เหยดดด กูไม่ต้องเหงาละเว้ยยย” ซูโฮ เพื่อนตัวเล็กผิวขาวของผม
ทักก่อนที่จะกระโดดขึ้นมาบนหลังผม ทำเอาพยาบาลที่อยู่ข้างๆตกใจ เตี้ยแล้วยังซ่าอีก==
“เออ….มึงลงก่อนได้ไหมครับ==” ผมบอกพื่อนผิวขาวให้ลงจากหลังสักที……..ถึงจะเตี้ยตัวเล็ก แต่หนักชิบหายนะครับ ณจุดจุดนี้
“โด่ววว รู้ป่ะคิดถึ๊งคิดถึง” ซูโฮทำท่าทางเป็นตุ๊ดกระโปกแถมมาเกาะแขนผมอีก
“ไปคิดถึงกับอากงมึงเถอะ” ผมด่ามันไปหนึ่งดอก
โทษฐานทำตัวเป็นตุ๊ดกระโปกให้ดู
หลังจากนั้นไอ้ตุ๊ดกระโปกก็งอนสะบัดตูดมาทางผมแถมทำปากสระอิแบบรัวๆใส่ผม
ผมเลยหยุดที่จะหัวเราะไม่ได้
สักพัก ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลโซลประกาศให้แพทย์มือใหม่มารวมตัวเพื่อรับตำแหน่งในการดูแลรักษาผู้ป่วย…….
ใช่ผมเป็นแพทย์ที่รักษาโรคกล้ามเนื้อ….ผมอยากรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ให้หาย…..ผมไม่อยากให้ใครต้องทรมาน ท้อแท้ ไม่มีอนาคต และ ‘เสียใจ’
“อือ…..นายอู๋อี้ฟานได้เคสรักษาผู้ป่วยที่ห้อง208นะ….คงรู้ทางใช่ไหม” ผู้อำนวยการบอกกล่าวผม
“ครับผมรู้ดี…..” ผมรู้ดี
เพราะมันเคยเป็นห้องที่พี่อี้ชิงกับผมอยู่ด้วยกันนะสิ……
“รู้ดีงั้นสินะ…..เชิญ” พอผู้อำนวยการพูดจบ ผมก็เดินไปที่ตึก2 ชั้นที่3 ผมก็คิดไปคิดมา
ก็ภาวนาขอให้เจอจางอี้ชิง…..ผมรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้…..
ผมยืนอยู่หน้าประตูที่มีป้ายหมายเลย208ไว้ ผมก็ขอให้คนที่ผมรักษาไม่เลือกมาก
เพราะผมไม่ชอบคนประเภทนี้ สักเท่าไร... ผมถอนหายใจออกมายาวๆ
ก่อนที่จะผลักประตูให้เห็นสิ่งที่อยู่หลังประตูแผ่นนี้…………
“สวัสดีครับคุณหมอ” คนตัวเล็กที่นั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำอาหารในชุดคนไข้หันมาส่งยิ้มให้กับผม
อยู่ๆกล้ามเนื้อตรงหัวใจก็เต้นเป็นจังหวะเร็วๆ กลิ่นอายที่คุ้นเคยตลบความหอมเข้ามา
ใช่ คนที่ผมรักที่สุดกับนอนอยู่ตรงนี้ไง
“พะ..พี่อี้ชิง!!”
“ครับ?”
“พี่มะ..มาได้ไง” ด้วยความดีใจและตกใจทำให้ผมพูดตะกุกตะกัก คนที่ผมรอคอยมาตลอด
เขามาอยู่ตรงหน้าผม และรอยยิ้มหวานๆนี้อีก หัวใจสั่นจนไม่อยู่เลย...
“ผมเป็นอัมพาตนิครับ ลืมไปแล้วหรอ ‘อี้ฟาน’ ” เจ้าตัวยิ้มก่อนจะปิดหนังสือแล้ววางลงกับโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆกับเตียง
ก่อนจะหยิบรีโมทและเปิดทีวีดู
“อะ..อืม ผมเป็นหมอรักษาคุณครับคุณจางอี้ชิง” ผมรู้สึกประหม่าสุดๆ
เคสนี้เป็นเคสแรกที่ผมต้องทำและคนที่เป็นคนแรกของผมก็คือคนที่ผมชอบนี้แหละ
จางอี้ชิงไม่พูดอะไรแต่กลับหัวเราะของการพูดของอีกคน
เด็กเล็กที่ชอบมาคุยกับเขาตัวโตขึ้นเยอะมากเลยนะเนี้ย
เมื่อก่อนยังน่ารักตอนนี้หล่อซะแล้ว...
“เรียกพี่อี้ชิงก็ได้ แบบนั้นมันดูห่างเหินยังไงไม่รู้”
“อ่า ครับพี่อี้ชิง”
Rrrrrrrrr
ผมมองโทรศัพท์ในกระเป๋าตัวเองก่อนจะไปมองพี่อี้ชิง
แต่พี่อี้ชิงกลับยิ้มเชิงประมาณว่า ‘รับเถอะ ไม่เป็นไร’ ผมหยิบโทรศัพท์ เห็นเบอร์แปลกๆที่เขาไม่รู้จักโทรมา ผมเลยลองรับดู....
[ฟานนนนนนน ฮุนหายอ่ะ] เสียงเข้มๆของน้องชายตัวเองที่คุ้นเคยโทรมา
ยิ่งทำเสียงแบ้วๆแม่งเหมือนกระเทยหัวโป๊ก ทุเรศจริง
“ทำไม”
[โทรไปไม่รับว่ะฟาน ทำไงดีว่ะ]
“ไปหาที่โรงเรียนยังละ?”
[ไม่เจอว่ะฟาน กูมารับช้าอ่ะหายเลย]
“ทำงานบ้านเพื่อนมั้ง”
[เฮียฟานอย่าโง่ ฮุนมันไม่มีเพื่อน]
“เดี๋ยวก็กลับบ้านแหละมั้ง”
[ทำไมฟานใจเย็น ปกติโมโหต้องขึ้นไม่ใช่? ฮุนหายไปนะเว้ยฟานนนนน]
“รู้แล้ว มันอยากเที่ยวก็ให้มันเที่ยวไป”
[ฟานไม่ห่วงน้อง นรกแตก ว๊ากกกกก
ไอ้หรรมเกือบชนกูซั้ซซซ!!!]
เสียงของน้องชายที่กำลังแหกปากด่าคนที่ขับรถเฉี่ยว ในขณะนั้นผมเลยตัดสายมันไป
รู้สึกรำคาญเหมือนกัน มีน้องเอ๋อเป็นนี้ กะว่าจะฝากมันไว้กับหมอที่จิตแพทย์สักหน่อย
“ชานยอลสินะครับ” คนที่นอนอยู่บนเตียงเหมือนรู้ทัน จะไม่ให้รู้ได้ไงละ
ก็เหมือนก่อนผมชอบโม้เรื่อง มีน้องชายสองตัว คนนึงก็ชอบทำอะไรเอ๋อ อีกคนก็สาวออก
มีผมเนี้ยแหละมีสติสุดและหล่อที่สุด(?)
“คริสสสสสสสสสสสสสสสสสส
ช่วยกูด้วยยยยยยยยอ้ากกกกกกกกกกกก” เสียงดังมาจากข้างนอกทำให้ผมกับพี่อี้ชิงต้องหันไปมองตามหาต้นเสียง
ซึ่งผมจำได้ เสียงไอ้ตุ๊ดกระโป๊กนั่นเอง ผมเลยรีบออกไปข้างนอกเพื่อไปดูมัน
อ๋อแล้วที่มันเรียกว่า ‘คริส’ เนี้ย
เหมือนก่อนผมเรียนอยู่แล้วมีเพื่อนต่างประเทศเรียกคริสกันก็เลยตามนั้นครับ
พอออกไปตามเพื่อนตุ๊ดหัวกระโป๊ก ก็เห็นอไรบางอย่าง....
“เฮ้ย!!! ไอ้ตุ๊ดดดดดดดดดด!!”
ความคิดเห็น