คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 4 เด็กเส้น (3)
นับดาวมองเขาอย่างชั่งใจก่อนจะเลือกไม่เอ่ยตอบอะไรเพราะไม่รู้ว่าหากตอบออกไปเขาจะว่าเอาหรือเปล่า
“งานแรกของคุณผมเตรียมไว้ให้ที่โต๊ะ”
“ค่ะ”
“หวังว่าจะไม่ร้องไห้ไปฟ้องแม่ตั้งแต่วันแรกหรอกนะ”
เขาเอ่ยดักคอ
“ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ”
ใบหน้าเธอหม่นเศร้า
“อีกอย่าง...เวลาทำงานจะไม่มีคำว่าเด็กเส้น”
“ค่ะ”
“รู้แล้วก็ไปนั่งที่คุณสิ”
เขาปรายตาไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่มุมห้อง
นับดาวยิ้มบางก่อนเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง
กองเอกสารนับสิบถูกวางไว้ก่อนแล้วนับดาวหยิบมันขึ้นมาอ่านโดยไม่คิดจะสนใจใครอีกคนจวบจนเสียงท้องร้องประท้วงเพราะความหิวเธอจึงเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารที่อ่านและทำความเข้าใจจนเกือบครบ นัยน์ตากลมมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ผนังห้องบอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง
“ค่ำแล้วจะกลับพร้อมกันเลยหรือเปล่า”
ศุภณัฐลอบมองหญิงสาวที่ก้มอ่านเอกสารกองโตอยู่บ่อยครั้งก่อนจะเอ่ยถามอย่างมีเลศนัยเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น
“กลับค่ะ” เธอตอบอย่างไม่เสียเวลาคิด
หากต้องกลับเองเธอคงหลงทางแน่ๆ
“กลับก็ลุกขึ้นมาสิ”
เขายิ้มร้าย
นับดาวหยิบกระเป๋าสะพายก่อนจะเดินตามเขาออกจากห้อง
ภายในบริษัทยังมีพนักงานนั่งทำงานอยู่ประปรายต่างก็มองมายังเจ้านายเป็นตาเดียวกัน
นับดาวได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนไปให้
เธอเดินตามเขามาจนถึงลานจอดรถทว่าจู่ๆ
เขากลับหยุดเดินกะทันหันพร้อมทั้งหันมาจองเธอเขม็ง
“คุณ”
“คะ?”
“ผมมีธุระด่วน” เขาเน้นคำพร้อมยิ้มร้าย
“ ! “
“คุณกลับเองแล้วกัน”
เขาบอกหน้าตายไม่สนใจคนตรงหน้า
นับดาวนิ่งงันคิดไม่ถึงว่าเขาจะแกล้งทิ้งเธอให้กลับเองทั้งที่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าเธอไม่คุ้นเคยกับเส้นทางที่นี่
“คุณณัฐฉันกลับไม่ถูก...”
กว่าเธอจะเอ่ยออกมาได้เขาก็ขับออกรถไปไกลแล้ว นับดาวทำได้เพียงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
อย่างยอมรับในโชคชะตาก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปยังสำนักงานเพื่อเดินออกประตูหน้า
เธอเดินมาหยุดที่ป้ายรถเมล์
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาสายรถเมล์ที่ผ่านบ้านของเขา เมื่อเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์รถเมล์ที่รอก็มาถึงพอดี
เธอเดินขึ้นมายืนบนรถเมล์แล้วต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนเมื่อผู้โดยสารต่างแทรกตัวเข้าไปอัดกันจนแน่นขนัด
กว่ารถเมล์จะมาจอดยังป้ายที่เป็นจุดหมายปลายทางก็สามทุ่มตรงเธอจึงเลือกซื้ออาหารเข้าไปทานจะได้ไม่ต้องรบกวนใคร
เมื่อได้อาหารที่สั่งแล้วก็สาวเท้าเดินเข้าไปในซอยประมาณสามร้อยเมตรก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูรั้วบ้านมือเล็กกำลังจะกดกริ่งทว่ากลับมีบางอย่างมาฉุดรั้งข้อมือไว้
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ร้องขอความช่วยเหลือมือหนาก็เอื้อมมาปิดปากเธอไว้จากทางด้านหลังก่อนจะมีเสียงที่คุ้นเคยกระซิบข้างหู
“อย่างส่งเสียงนะนี่ผมเอง”
เขาเอ่ยเสียงเข้ม
ศุภณัฐยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและจิตสำนึกส่วนดีได้ฉุดดึงความรู้สึกห่วงใยที่เขาเก็บไว้ลึกสุดใจออกมา
ทั้งที่ก่อนหน้าเขาตั้งใจจะทิ้งเธอให้กลับเองส่วนตัวเขาตั้งใจจะไปนอนที่คอนโดฯ แต่ด้วยความเป็นห่วงทำให้เขาแอบขับรถตามจนกระทั่งเห็นเธอแวะซื้ออาหารถึงได้เขามาจอดรถสุ่มรออยู่ในซอยบ้าน...
นับดาวพ่นลมหายใจอย่างโล่งอกที่เขาไม่ใช่คนร้ายที่ไหนเธอหมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา
“คุณณัฐทำไม...”
ยังถามไม่จบเสียงทุ้มก็เอ่ยตัดบท
“เดินไปขึ้นรถ”
เขาสั่งเสียงเรียบ พร้อมเดินไปเปิดประตูรถให้เธอเข้ามานั่งก่อนจะปิดประตูและเดินมานั่งฝั่งคนขับไม่ลืมหันมากำชับเธอเสียงเข้ม
“ห้ามบอกใครต่อใครว่าผมปล่อยให้คุณกลับมาเอง”
“ค่ะ”
“ทีหน้าทีหลังค่ำมืดแบบนี้อย่าเดินเข้ามาในซอยบ้านคนเดียวอีกนะ”
“ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง”
เธอยิ้มบางจชื้นขึ้นมา
“ไม่ได้ห่วง”
เขาตอบห้วนสั้น นับดาวหุบยิ้มแทบจะทันทีความดีใจเมื่อครู่มลายหายไปสิ้นได้แต่ข่มความน้อยใจไว้กับตัวเอง
เมื่อประตูรั้วเปิดเขาก็ขับรถเข้ามาจอดในโรงจอดรถจากนั้นก็เดินผิวปากเข้าไปในบ้านอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนปล่อยให้เธอล็อกประตูบ้านตามลำพัง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
***ขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านและดวงใจทุกดวงนะคะ***
|
ความคิดเห็น