ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาภรรยาในเงา (จบแล้ว มี E-book)​

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 ประทับใจ (3)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 64


    หลังจากคุณหมอตรวจอาการและทำแผลเสร็จเรียบร้อยปณาลีก็ถูกเวรเปลเข็นรถเข็นพาตัวมาที่ห้องพิเศษเพื่อพักดูอาการโดยมีชายแปลกหน้าที่เป็นคนช่วยเหลือเดินตามมาไม่ห่าง แม้เธอจะปฏิเสธแต่เขาก็ยืนกรานแกมขอร้องให้เธออยู่อีกสักคืนเพื่อความสบายใจ

    “ขอบคุณมากนะคะที่พาฉันมาโรงพยาบาล”

    “ด้วยความยินดีครับ” เขายิ้มรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น

    “เอ่อ คุณหมอบอกฉันว่าฉันไม่เป็นอะไรมาก” เธอพูดอ๋อมแอ้ม ไม่อยากนอนที่โรงพยาบาลแต่ก็เกรงใจเขาจนไม่กล้าปฏิเสธความหวังดี

    “อยู่ดูอาการสักคืนเถอะนะคุณ”

    “แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ มีแค่แผลถลอกเท่านั้นเอง” เธอไม่ได้ขาหักหรือข้อเท้าแพลงสักหน่อย

    “ถึงอย่างนั้นคุณก็ควรอยู่ ผมขอร้องเพื่อความปลอดภัยของคุณและความสบายใจของผม”

    “แต่...”

    “ไม่มีแต่” เขาจ้องเธอนิ่ง “หรือคุณกังวลเรื่องค่ารักษา”

    “มะ...” ทว่าพูดยังไม่จบเขาก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

    ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช่จ่ายผมจะเป็นคนจัดการให้เองอิษวัติหยุดพูด เขากอดอกจ้องคนตรงหน้าด้วยสีหน้าจริงจังก่อนนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แนะนำตัวให้เธอรู้จัก

    ผมชื่ออิษวัตเสียงทุ้มเอ่ยพร้อมยื่นนามบัตรให้เธอ ปณาลีรับมาถือไว้งงๆ

    เผื่อคุณอยากเอาเรื่องรถคันนั้นผมยินดีช่วยหาหลักฐานและเป็นพยานให้”

    “ขอบคุณค่ะ”

    “คุณโทรหาผมที่เบอร์นี้ได้ตลอดเลยนะ

    “ค่ะ แต่ฉันคงไม่เอาเรื่องเขาหรอกนะคะและอีกอย่างฉันไม่ได้กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายค่ะ”

    “อ้าว...แล้วคุณกังวลเรื่อง?” ใบหน้าคมเต็มไปด้วยคำถาม

    “ฉันกลัวที่บ้านจะเป็นห่วง” น้ำเสียงติดจะกังวล ผิดเวลากลับบ้านมาหลายชั่วโมงไม่รู้ป่านนี้ที่บ้านจะเป็นห่วงแค่ไหน

    “อ๋อ...” อิษวัตยิ้มแห้งที่คิดเองเออเองจนลืมไปว่าเธอก็มีครอบครัวที่คอยเป็นห่วง

     “คุณช่วยหยิบโทรศัพท์ให้ฉันหน่อยสิคะ ฉันจะโทรบอกที่บ้านป่านนี้คงเป็นห่วงแย่แล้ว”

    “คุณบอกเบอร์มาดีกว่า ผมจะโทรให้เอง” เขาอาสา

    “ไม่เป็นไรค่ะ”

    “ทำไมล่ะ” คิ้วเข้มเลิกขึ้น

    “ฉันอยากคุยกับแม่เองค่ะ” คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน หากแม่ได้ยินเสียงของเขาแทนที่จะเป็นลูกสาวอย่างเธอคงจะตกใจไม่น้อย

    “โอเค” เขาไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าส่งให้หญิงสาวตามความต้องการของเธอ

    ปณาลีหยิบโทรศัพท์กดโทรออกไปหามารดาพร้อมหันหลังไปอีกทางด้วยต้องการความเป็นส่วนตัว

              อิษวัตมองแผ่นหลังบางยิ้มๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องพักปล่อยให้เธอได้มีเวลาส่วนตัวด้วยพอรู้ว่ากิริยาที่เธอแสดงออกมานั้นเป็นการไล่ตัวเองอยู่กลายๆ ทว่าเขาก็ไม่คิดถือสา

    ปณาลีคุยกับมารดาเกือบยี่สิบนาทีถึงได้วางสาย เธอมองไปรอบๆ ห้องไม่เห็นเขาอยู่ในนี้ก็คิดว่าเขาคงกลับไปแล้ว แต่เธอคิดผิดเมื่อร่างสูงที่กำลังคิดถึงอยู่นั้นเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี

    “คุณยังไม่กลับอีกหรือคะ” เธอถามออกไปด้วยความแปลกใจ

    “ถ้าผมกลับแล้วคุณจะเห็นผมเหรอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้น “อีกอย่างผมทิ้งคุณไว้คนเดียวไม่ได้”

    “แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ”

    “หิวไหมคุณ” เขาถามไปอีกเรื่อง

    “ยังค่ะ”

    “แต่ผมหิวแล้ว” เขาพูดพลางหยิบซาลาเปาที่ซื้อมาจากร้านสะดวกที่อยู่ชั้นล่างของตึกยื่นให้เธอหนึ่งลูก แล้วจึงหยิบอีกลูกของตัวเองขึ้นมาทาน

     “กินสิคุณเย็นแล้วไม่อร่อยนะ” เขาพูดไปกินไปโดนไม่ทันเห็นว่าคนเจ็บทำหน้าชอบกล

    ปณาลีถอนใจ ทว่าลึกๆ ในใจกลับรู้สึกอบอุ่นและประทับใจในน้ำใจของชายหนุ่มยิ่งนัก

    “ก็ได้ค่ะ ทานหมดแล้วคุณเองก็จะได้กลับไปพักผ่อน”

             “อะไรกันคุณ?...ทำไมชอบไล่จัง” เขานิ่วหน้า

    --------------------------------------------

    ***ขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านและดวงใจทุกดวงนะคะ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×