คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 ประทับใจ (3)
หลังจากคุณหมอตรวจอาการและทำแผลเสร็จเรียบร้อยปณาลีก็ถูกเวรเปลเข็นรถเข็นพาตัวมาที่ห้องพิเศษเพื่อพักดูอาการโดยมีชายแปลกหน้าที่เป็นคนช่วยเหลือเดินตามมาไม่ห่าง
แม้เธอจะปฏิเสธแต่เขาก็ยืนกรานแกมขอร้องให้เธออยู่อีกสักคืนเพื่อความสบายใจ
“ขอบคุณมากนะคะที่พาฉันมาโรงพยาบาล”
“ด้วยความยินดีครับ”
เขายิ้มรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น
“เอ่อ
คุณหมอบอกฉันว่าฉันไม่เป็นอะไรมาก” เธอพูดอ๋อมแอ้ม
ไม่อยากนอนที่โรงพยาบาลแต่ก็เกรงใจเขาจนไม่กล้าปฏิเสธความหวังดี
“อยู่ดูอาการสักคืนเถอะนะคุณ”
“แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ
มีแค่แผลถลอกเท่านั้นเอง” เธอไม่ได้ขาหักหรือข้อเท้าแพลงสักหน่อย
“ถึงอย่างนั้นคุณก็ควรอยู่
ผมขอร้องเพื่อความปลอดภัยของคุณและความสบายใจของผม”
“แต่...”
“ไม่มีแต่”
เขาจ้องเธอนิ่ง “หรือคุณกังวลเรื่องค่ารักษา”
“มะ...” ทว่าพูดยังไม่จบเขาก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช่จ่ายผมจะเป็นคนจัดการให้เอง”
อิษวัติหยุดพูด เขากอดอกจ้องคนตรงหน้าด้วยสีหน้าจริงจังก่อนนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แนะนำตัวให้เธอรู้จัก
“ผมชื่ออิษวัต”
เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมยื่นนามบัตรให้เธอ ปณาลีรับมาถือไว้งงๆ
“เผื่อคุณอยากเอาเรื่องรถคันนั้นผมยินดีช่วยหาหลักฐานและเป็นพยานให้”
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณโทรหาผมที่เบอร์นี้ได้ตลอดเลยนะ”
“ค่ะ แต่ฉันคงไม่เอาเรื่องเขาหรอกนะคะและอีกอย่างฉันไม่ได้กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายค่ะ”
“อ้าว...แล้วคุณกังวลเรื่อง?”
ใบหน้าคมเต็มไปด้วยคำถาม
“ฉันกลัวที่บ้านจะเป็นห่วง”
น้ำเสียงติดจะกังวล ผิดเวลากลับบ้านมาหลายชั่วโมงไม่รู้ป่านนี้ที่บ้านจะเป็นห่วงแค่ไหน
“อ๋อ...”
อิษวัตยิ้มแห้งที่คิดเองเออเองจนลืมไปว่าเธอก็มีครอบครัวที่คอยเป็นห่วง
“คุณช่วยหยิบโทรศัพท์ให้ฉันหน่อยสิคะ
ฉันจะโทรบอกที่บ้านป่านนี้คงเป็นห่วงแย่แล้ว”
“คุณบอกเบอร์มาดีกว่า
ผมจะโทรให้เอง” เขาอาสา
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ทำไมล่ะ” คิ้วเข้มเลิกขึ้น
“ฉันอยากคุยกับแม่เองค่ะ”
คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน หากแม่ได้ยินเสียงของเขาแทนที่จะเป็นลูกสาวอย่างเธอคงจะตกใจไม่น้อย
“โอเค” เขาไหวไหล่เล็กน้อย
ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าส่งให้หญิงสาวตามความต้องการของเธอ
ปณาลีหยิบโทรศัพท์กดโทรออกไปหามารดาพร้อมหันหลังไปอีกทางด้วยต้องการความเป็นส่วนตัว
อิษวัตมองแผ่นหลังบางยิ้มๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องพักปล่อยให้เธอได้มีเวลาส่วนตัวด้วยพอรู้ว่ากิริยาที่เธอแสดงออกมานั้นเป็นการไล่ตัวเองอยู่กลายๆ
ทว่าเขาก็ไม่คิดถือสา
ปณาลีคุยกับมารดาเกือบยี่สิบนาทีถึงได้วางสาย
เธอมองไปรอบๆ ห้องไม่เห็นเขาอยู่ในนี้ก็คิดว่าเขาคงกลับไปแล้ว
แต่เธอคิดผิดเมื่อร่างสูงที่กำลังคิดถึงอยู่นั้นเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี
“คุณยังไม่กลับอีกหรือคะ” เธอถามออกไปด้วยความแปลกใจ
“ถ้าผมกลับแล้วคุณจะเห็นผมเหรอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้น
“อีกอย่างผมทิ้งคุณไว้คนเดียวไม่ได้”
“แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ”
“หิวไหมคุณ” เขาถามไปอีกเรื่อง
“ยังค่ะ”
“แต่ผมหิวแล้ว” เขาพูดพลางหยิบซาลาเปาที่ซื้อมาจากร้านสะดวกที่อยู่ชั้นล่างของตึกยื่นให้เธอหนึ่งลูก
แล้วจึงหยิบอีกลูกของตัวเองขึ้นมาทาน
“กินสิคุณเย็นแล้วไม่อร่อยนะ” เขาพูดไปกินไปโดนไม่ทันเห็นว่าคนเจ็บทำหน้าชอบกล
ปณาลีถอนใจ ทว่าลึกๆ ในใจกลับรู้สึกอบอุ่นและประทับใจในน้ำใจของชายหนุ่มยิ่งนัก
“ก็ได้ค่ะ
ทานหมดแล้วคุณเองก็จะได้กลับไปพักผ่อน”
“อะไรกันคุณ?...ทำไมชอบไล่จัง” เขานิ่วหน้า
--------------------------------------------
***ขอบพระคุณนักอ่านทุกท่านและดวงใจทุกดวงนะคะ***
ความคิดเห็น