SEX & friends ชิบหาย....เมื่อผมกลายเป็นเเฟนเพื่อน - นิยาย SEX & friends ชิบหาย....เมื่อผมกลายเป็นเเฟนเพื่อน : Dek-D.com - Writer
×

    SEX & friends ชิบหาย....เมื่อผมกลายเป็นเเฟนเพื่อน

    หืมมม จ้องซะขนาดนั้นเดียวก็อดใจไม่ไหวซะหรอก ผมสะดุ้งโหยง เมื่อรู้ตัวว่าเผลอจ้องมันมากเกินไปด้วยความเจ็บใจบวกความอายผมเลยเอาหัวตัวเองไปกระแทกกับคางไอ้ยักษ์ตรงหน้าอย่างจังผลัวะ! โอ้ยยยยยยยยยยยยย มันปล่อยมือจากผมแล้วไปเอามือกุมคางตัวเองแล้วดิ้นโอดโอยไปม

    ผู้เข้าชมรวม

    262

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    262

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    7
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  9 ต.ค. 56 / 12:28 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทที่ 1

    ท่ามกลางเสียงออดบอกหมดเวลาพักที่ดังสนั่นไปทั่วโรงเรียนเหล่านักเรียนทั้งหลาย ที่ต่างวิ่งวุ่นแยกย้ายกันไปเข้าเรียนแต่ก็ยังมีบางส่วนที่เฉยเมยกับเสียงนั้น ยกตัวอย่างเช่นวัยรุ่นสองคนที่ยังคงนอนหลับสบายอยู่บนดาดฟ้าหาได้คิดไปเรียนเหมือนเช่นคนอื่นเขา............................

    “เฮ้ย! แม็ค ออดแล้วนะเว้ย แกจะไม่ไปเรียนจริงๆเหรอว่ะ”เสียงนัททิวตะโกนกรอกหูผมที่นอนเบียดอยู่ข้างมัน

    “จะตะโกนหาพระแสงหอยแครงอะไนนักหนาว่ะไอ้ทิวตูจะนอนแกจะไปก็ไปเหอะ” ผมตะโกนตอบมันทั้งๆที่หลับตาอยู่

    “โหยยยย ไม่เอาอ่ะ ใครจะกล้าทิ้งที่รักให้นอนหลับอยู่คนเดียวขาวๆบางๆหน้าสวยๆอย่างนี้น่าเป็นห่วง ให้ทิวอยู่ด้วยนี้เหละดีแล้ว จริงไหมครับดาร์ลิงค์?( -3-)”ไม่พูดเปล่าไอ้ทิวยังเนียนเอามือมาโอบรอบเอวผมที่นอนอยู่ข้างๆมัน เหอะๆ เนียนเลยนะมึง

    “พอๆๆไอ้ทิว ถ้ามึงไม่หยุดพูดกูจะอ้วกใส่หน้ามึงเดียวนี้เหละ” ผมพูดแล้วหันมาแกะมือปลาหมึกที่ตอนนี้กำลังลูบหน้าท้องผมอยู่ แต่มันดันทะลึ่งกอดผมแน่นกว่าเดิม เฮ้ย! ไอ้ห่านเล่นแบบนี้ฟ้าได้ผ่ากันพอดี.......--* ผมก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้นนะ สูงตั้ง 175 แต่ดันสะเอาะตัวบางเกินเหตุ ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนที่ขนตายาวเป็นแพปากบางสีชมพูสด หน้าเรียวรูปไข่ คิ้วสีน้ำตาลเข้ม กับผมเส้นเล็กนุ่มสีน้ำตาลแล้วทุกคนก็ให้นิยามผมว่า ผมไม่ใช่หนุ่มแนวน่ารักตัวเล็กน่าปกป้องแต่เป็นหนุ่มหน้าสวย แก่นห้าวน่าปราบพยตมากกว่า พอได้ยินแค่นั้นเหละผมเดินไปอ้วกทันที- -ชิบหาย เอาคำพวกนั้นมาใช้กับตัวผู้ไม่รู้สึกแปลกๆกันรึไงว่ะ

    “อิอิอิ เขินเหรอมึงว่าแต่งานพิเศษน่ะ อย่าทำหนักจนไม่เป็นอันกินอันนอนได้ไหมว่ะ ดูสิผอมลงอีกแล้วเกิดเป็นลมขึ้นมาจะทำยังไงฮ่ะ”นัททิวพูดพลางมองตาผมแล้วแสดงสีหน้าเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด

    “เขินบ้านฟาเธอร์แกดิน่าๆเป็นลมมาตูก็ไม่ให้มึงมาคอยปรนนิบัติหรอก ยุ่งมากปั้ดโดดเสยก้านคอ”

    “เฮ้ย!! คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง ใช่ซี่~คนมันไม่สำคัญยุ่งมากไปก็ผิดห่วงมากไปก็ผิด เชอะ” มันพูดเสียงงอลๆพลางหันหน้าหนีผม อ้าวเชี่ยสรุปตูต้องง้อมึงอีกแล้วเหรอ ให้ตายเหอะ- -

    “นัททิว......”ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งและหันไปสะกิดเรียกมันแต่มันก็นอนกอดอกแล้วหันหน้าหนีผม....................................ไอ้สัสตด!- -*

    “ทิวคร้าบแม็คขอโทษโอเครๆขอบคุณนะที่เป็นห่วงแต่มันต้องทำจริงๆทิวก็รู้นี้ว่าพ่อแม็คขยันหาหนี้มาให้เยอะขนาดไหน?แต่ถ้ายังไงแม็คจะไม่หักโหมเหมือนเดิมนะ โอเค๊ะ?” ผมพูดแล้วยิ้มกว้างให้ทิวทิวรีบลุกพรึ่บมานั่งข้างๆผมพลางมองด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม เหอะเหอะเป็นยังงี้ทุกทีถ้ามันงอลผมเมื่อไร ผมต้องทำเสียงอ่อนเสียงหวานง้อมัน มันถึงจะหายแม่ง.......มึงเป็นเมียกูรึไงว่ะ(-_-^^^)

    “อ่า โอเคร^^ แต่แม็คต้องสัญญานะว่าถ้ามีอะไรต้องปรึกษาทิว แล้วอีกอย่างต้องดูแลตัวเองด้วย พวกของกินที่ทิวซื้อไว้ให้ก็กินให้เยอะๆอย่าดองไว้หมดแล้วทิวจะซื้อไปให้อีก โอเครไหม”

    “โหยยยยแค่ที่โรงเรียนยังขุนตูไม่พออีกเหรอทิวเอ่ยยยย” ผมหันกลับมาใช้ภาษาพ่อขุนตามเดิมเมือเห็นว่ามันกลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิมแล้วเฮ้อ ถ้าให้พูดถึงเรื่องการอยู่การกิน ก็ไอ้ทิวนี้เหละ เลี้ยงผมอย่างกับอาเสี่ยเลี้ยงอีหนูเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้ามันก็ซื้อมาให้ ผมบอกว่าไม่เอามันก็จะโยนๆกองทิ้งไว้ที่บ้านผมจนผมต้องเก็บมาใช้อย่างช่วยไม่ได้- - แม้แต่ค่าเทอมบางส่วนมันก็อาสาออกให้ เพราะแค่เงินของทุนการศึกษาก็ยังไม่พอจ่ายกับค่าใช้จ่ายบางส่วนของโรงเรียนนี้  ขนมนมเนยก็ซื้อมาคอยเทใส่ปากผมไม่ขาดแถมอาหงอาหารที่บ้านก็มันอีกล่ะที่เป็นคนซื้อไปไว้เข้าออกบ้านผมจนแม่ผมจะรับมันเป็นลูกอีกคนได้แล้วมั้งตอนแรกมันยืนกรานว่าจะใช้หนี้พ่อผมให้แทนผมถึงต้องใช้ขั้นขู่เลิกเป็นเพื่อนมันถึงจะยอมถอย เพราะผมไม่อยากจะรู้สึกเหมือนคบกับมันเพื่อความสบายของตัวเอง

    “โหย พูดหยาบอีกแล้วโกรธอีกได้ไหมว่ะ ฮ่าๆๆ แต่แค่ขุนแค่นี้ยังไม่พอหรอก ดูสิบางจนจะปลิ้วแล้วเนี้ยเฮ้อ เอาเถอะๆยังไงก็ดูแลตัวเองบ้าง พักผ่อนเยอะๆ”

    “คร้าบๆๆ คุณพ่อว่าแต่ตูจะได้นอนสักทีไหม จะคางเหลืองตายเพราะแกกวนนี้เหละ แง่ง”ผมพูดแล้วค่อยๆล้มตัวลงนอน

    “ฮ่าๆๆๆ โอเครๆๆๆนอนได้แล้วไม่กวนแล้ว” ทิวพูดแล้วก็ล้มตัวนอนข้างๆผมในขณะที่สติเริ่มหลุดลอยไอ้ทิวก็คว้าตัวผมให้ไปนอนหนุนแขนมัน พลางเอาเสื้อแขนยาวตัวเองมาห่อตัวผมไว้แล้วใช้มืออีกข้างโอบผมอีกทีแล้วนอนยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ถ้าสติผมยังครบถ้วน ป่านนี้ผมโดดเหยียบหน้ามันแล้วแต่ทว่าความง่วงที่คุกคามเต็มที่ผมเลยต้องปล่อยมันไป ZZZzzz

    ……………………………………………………………………………

    “อืมมมมมมม” ลมหนาวที่พัดมากระทบตัวผมจนความหนาวแผ่ซ่านไปทั่วตัวจนผมต้องเอาตัวเข้าเบียดและซุกหน้าลงไปกับความอบอุ่นที่ทาบทามอยู่ตรงหน้าให้แนบชิดกว่าเดิมกลิ่มหอมที่แสนจะอบอุ่นและคุ้นเคยจนผมอดที่เอาหน้าเบียดแนบลงไปอย่างเสียไม่ได้

    “อุ่นจัง”ผมละเมอครางออกไปอย่างไม่รู้ตัว

    “คิก” หือออ! หูผมกระตุกวูบ สติเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่แสนจะคุ้นหูและยิ่งอ้อมแขนที่เริ่มกอดกระชับร่างของผมให้แนบแน่นกับไอ้คนตรงหน้ายิ่งกว่าเดิม

    “เฮ้ย!!!”ผมลืมตาโพลงมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ เป็นภาพที่ผมนอนหนุนแขนไอ้ทิวแล้วเอาหน้าซุกหน้าอกมันอยู่แล้วไอ้ทิวก็เอาแขนอีกข้างของมันโอบรอบเอวผมไว้จนผมกับมันแทบจะรวมร่างกันเลยก็ว่าได้

    “สัสทิว!ปล่อยเดียวนี้เลยนะมึง-///////-“ หน้าผมเริ่มเห่อร้อนพูดเสียงอู้อี้แล้วพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนมัน กรี๊ดดดดดด ปล่อยกู!T[]T

    “อ้าวววก็เห็นมึงท่าทางจะหนาวกูก็เลยกอดเพื่อให้ความอบอุ่นไง จุ๊ๆอย่าดิ้นสิเกิดไปถูกอะไรต่อมิอะไรขึ้นมากูห้ามไม่อยู่นะเว้ย-..-“ มันพูดพลางทำหน้าหื่น

    “เชี่ยยยยยยยยยยย-////////////-ห้ามไม่อยู่ก็เรื่องของมึง ปล่อยกูนะเว้ยย”ผมพยายามดิ้นและแงะมือมันที่เกาะเอวผมอยู่ แต่แรงมดดำอย่างผมรึจะสู้ไอ้เปรตแรงควายที่นอนอยู่ตรงหน้าแง บ้านมึงเขาให้นมลูกด้วยปุ๋ยตราวัวคันไถรึไงว่ะ ถึงได้โตมาตัวใหญ่อย่างกับเปรตแรงเยอะอย่างกับควายแบบนี้T____T

    “แหมมมมมมมเรื่องแบบนี้มันต้องเป็นเรื่องของคนสองคนสิ จริงไหมจ๊ะยาหยี”มันพูดแล้วยิ้มโชว์ฟันเขี้ยวมาให้ผม ถึงมันจะน่ารักแต่กูก็ไม่ใจอ่อนหรอกเว้ย-///-

    “ฟาร์เธอออออออร์มึงสิปล่อยยยย-//////////////////////////////////-“มันมองหน้าผมแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิม ยะ....ยิ้มหาป้าแกเหรอ(-//-*)

    “แหมมมมมหน้าแดงเชียวเขินรึไง หุหุหุหุ” มันจ้องหน้าผมเขม็งและถือโอกาสแซวให้ผมหน้าร้อนเล่นๆ

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก ฟาเธอร์มาเธอร์แอน แกรนมาเธอร์มึงดิ ปล่อยกูได้แล้ว ปล่อยกู๊ววววว(-0-/////*)”ผมก้มหน้าหลบตามันแล้วพยายามแกะมือมันอีกที ทั้งแกะ ทั้งแงะ ทั้งหยิก ทั้งตีก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุด เหยดดดดดด มือมึงติดกาวรึไงฟ่ะแน่นชิบ- -*

    “อ้าวๆๆๆ อย่าหลบสิ ไหนๆเอาหน้ามาให้ดูอีกสิยังดูไม่เต็มอิ่มเลย” มันพูดแล้วจับหน้าผมให้เงยขึ้นไปสบตามันตาเรียวคมสีเขียวมรกต  บวกกับคิ้วหนาสีดำสวยที่พาดเรียงกันอย่างลงตัวจมูกที่โด่งสวยได้รูป หน้าเรียมคมสวย ปากบางสีชมพูออกส้มนิดๆ ผมสีดำซอยระบ่ากับผิวขาวๆทุกอย่างที่ลงตัวและดันมารวมกับหุ่นสูง 188 ราวนายแบบของมันอีกถึงจะเจ็บใจแค่ไหนแต่ก็ต้องยอมรับว่า มันหล่อจริงๆว่ะ-*-////

    “หืมมม จ้องซะขนาดนั้นเดียวก็อดใจไม่ไหวซะหรอก” ผมสะดุ้งโหยง เมื่อรู้ตัวว่าเผลอจ้องมันมากเกินไปด้วยความเจ็บใจบวกความอายผมเลยเอาหัวตัวเองไปกระแทกกับคางไอ้ยักษ์ตรงหน้าอย่างจังผลัวะ!

    “โอ้ยยยยยยยยยยยยย” มันปล่อยมือจากผมแล้วไปเอามือกุมคางตัวเองแล้วดิ้นโอดโอยไปมา

    “สมน้ำหน้า ทะลึ่งดีนัก- -เอ้า!เลิกสำออย ลุกขึ้นได้แล้วจะเลิกเรียนแล้วเดี่ยวกูไปทำงานพิเศษไม่ทัน”ผมพูดแล้วลุกขึ้นปั้ดเนื้อปัดตัวจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่

    “แงๆๆๆ โหดร้ายชะมัดจำไว้เลยมี ‘โอกาส’ เมือไรจะทบคืนทั้งต้นทั้งดอก” มันลุกขึ้นยืนแล้วพูดพลางมองผมด้วยสายตาแปลกๆแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมัวแต่เก็บของเตรียมตัวออกไปนอกโรงเรียนที่ผมต้องทำงานพิเศษหนักจนไม่เป็นอันเรียนอันกินอันนอนขนาดนี้เพราะพ่อผมเป็นขาพนันชั้นเซียนครับคอยหาหนี้มาให้ผมกับแม่ปวดหัวตลอดและพอแม่ไม่ยอมเอาเงินให้เขาก็จะคอยทุบตีแม่จนผมอดไม่ได้ต้องคอยออกมาหางานทำแทนเพราะแม่ผมร่างกายก็ไม่แข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไรจะให้ทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้ ในเมื่อผมโตแล้วจึงออกอาสาหางานใช้หนี้แทนเองแต่ลำพังตัวผมเองก็คงจะดูแลไม่ไหวนอกจากหนี้ของพ่อก็ยังมี ทั้งค่าเรียน ค่าอาหารค่าอะไรต่างๆ และแม่ผมที่ไม่ค่อยสบายต้องไปหาหมอบ่อยๆแน่นอนค่าใช้จ่ายพวกนี้ก็ไอ้คุณชายนัททิวนี้เหละที่เป็นคนเสนอออกให้ก่อนจนไม่รู้ป่านนี้ผมติดหนี้มันเท่าไรต่อเท่าไรแล้ว(- -;;;) บ้านนัททิวมันรวยครับแต่ดูเหมือนพ่อแม่มันจะไม่ค่อยมีเวลาให้ ก็มีผมนี้เหละที่จะคอยอยู่เล่นกับมันและบางครั้งมันก็จะหนีมาค้างมานอนบ้านผมบ่อยๆจนถือเป็นเรื่องปกติที่เราสองคนจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆผมกับนัททิวก็เดินออกมาจนเกือบจะถึงประตูทางออกก็มีเด็กผู้หญิงน่าตาน่ารักเดิมตรงมาที่พวกเรายืนอยู่

    “ พะ....พี่นัททิวค่ะคือหนูมีเรื่องจะคุยด้วย ขะ....ขอเวลาสักแปปได้ไหมค่ะ” เด็กนั้นพูดไปหน้าแดงไปดูก็รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไรกันผมที่ยืนอยู่ตรงนั้นดูสถานการณ์แล้วผมจึงหันเตรียมเดินนำไปก่อน ปล่อยให้เขาสองคนพูดกัน.....................หมับ!!ผมเดินไปได้สองเก้าเท่านั้นเหละมือไอ้ทิวดันคว้าหมับที่แขนผมไว้ก่อน เฮ้ย- -กูอุตส่าห์จะหลบให้พวกแกสองคนคุยกันแบบส่วนตัวแล้วจะจับกูไว้หาป้าแกเหรอไอ้ทิว

    “อืมมีอะไรก็รับๆพูดมาตรงนี้เหละ ผมรีบ” ทิวพูดด้วยท่าทางไร้เยื่อไย

    “อ่ะ นะ....หนูชอบพี่ค่ะถ้าไม่รังกียจ เอ่อ...” เด็กคนนั้นพูดไม่ทันจบก็รีบก้มหน้าหลบหน้าแดงๆของเธอ

    “ขอโทษนะตอนนี้ผมมีคนที่ชอบอยู่คงคบด้วยไม่ได้หรอก ขอโทษด้วยนะ”พูดจบทิวก็เดินคว้าแขนผมออกมาจากตรงนั้นโดยเร็ว.............คนที่ชอบ ใครว่ะ! - -*)

    “เฮ้ย ทิวแกแอบไปชอบใครทำไหมไม่บอกกูเลยว่ะบอกมาเดียวนี้นะเว้ย-0-*” ผมหันไปเขย่าแขนมันเพื่อล้วงเอาความลับเพราะปกติผมมีอะไรก็ไม่เคยปิดมันอยู่แล้วแต่มันมามีความลับกับผมแบบนี้มันไม่แฟร์เลยไม่ยอมเว้ย!!

    “หึหึหึหึ เดียวสักวันแกก็รู้เองเหละเป็นคนที่แกรู้จักนั้นเหละ รู้จักแบบโครตดีเลยด้วย”มันพูดแล้วมองผมด้วยสายตามีเลศนัย- - ใครว่ะ อย่าบอกนะว่ามึงแอบชอบแม่กู? ผมพยายามนึกตามที่มันพูดพลางสายตาก็เลือบไปมองที่นาฬิกาข้อมือของไอ้ทิว

    “เฮ้ยยยยยยยยย งานพิเศษ!สายอีกแล้วกู อ้ากกกกกกกเฮ้ย ทิวกูไปก่อนนะ” พูดจบผมก็รีบวิ่งไปที่ร้านที่ผมทำงานอยู่ทันที

    “อ้าว เฮ้ย ระวังล้มนะนั้นฮ่าๆ ตอนเลิกงานเดี่ยวกูออกมารับนะเว้ย” เสียงไอ้ทิวตะโกนตามหลังผมมาผมก็ได้แต่หันไปแลบลิ้นใส่มันแล้ววิ่งต่อ  อ้ากกกกกกกกกกก โดนเทศหูชาอีกแน่เลยกู เวรกรรมของกระทิ.........T[]T!

    ..............................................................................................................................

    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น