คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 11 คิดหนัก (50%)
บทที่ 11
คิดหนัก
ชาริกาที่เข้ามาพบผู้มีพระคุณในห้องส่วนตัว เมื่อท่านให้ป้านวลตามเข้ามาพบหลังกลับมาจากนำอาหารไปส่งให้นนทพัทธ์ถึงบริษัทเมื่อวานนี้ เพราะเกรงว่าท่านจะรู้เรื่องและกล่าวตำหนิเอาถึงความไม่เหมาะสม
เนื่องจากเธอก็เป็นเพียงเด็กในบ้านที่ท่านใจดีนำมาอุปการะทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งท่านอาจจะมองว่ามันไม่ควรเกิดเรื่องนี้ขึ้นก่อนจะเอ่ยถามอย่างหวาดระแวง
“คุณท่านเรียกชามมาพบมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“หนูชามใกล้จะเรียนจบแล้วใช่ไหมจ๊ะ” ภีรตาเอ่ยถามในสิ่งที่ตนอยากรู้ทันที
“ค่ะคุณท่าน” หญิงสาวตอบ เนื่องจากอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะสอบปลายภาคแล้ว ช่วงนี้เธอเองก็กำลังมองหางานเพื่อรองรับหลักจากตัวเองเรียนจบ
“ตอนนี้หนูชามได้งานทำรึยังจ๊ะ”
นายหญิงของบ้านถามพร้อมกับแสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เหมือนกับลูกชายคนเล็กไม่มีผิดเพี้ยน
“ตอนนี้ยังค่ะคุณท่าน”
“เรื่องที่เราตกลงกันไว้ หนูยังจะเหมือนเดิมรึเปล่า”
ภีรตาเอ่ยถามถึงเรื่องที่หญิงสาวเคยบอกไว้ว่าหลักจากที่เรียนจบจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ทันที เพราะไม่อยากรบกวนกันไปมากกว่านี้ ซึ่งเจ้าของบ้านเองก็เอ่ยตกลง เนื่องจากไม่มีทางเลือก
หากมีหนทางที่จะทำให้ชาริกาอยู่ในบ้านหลังนี้ตลอดไปก็พร้อมจะทำ เช่นสิ่งที่กำลังจะเกิดต่อไปจากนี้ แม้จะต้องบังคับกันก็ยอม
“เอ่อ…ถ้าหมายถึงเรื่องที่ชามจะย้ายออกจากที่นี่หลังเรียนจบ ชามยังยืนยันคำเดิมค่ะ”
หลังจากความเปลี่ยนแปลงของนนทพัทธ์ที่เปลี่ยนไปเสียจนน่าแปลกใจ ทำให้ชาริกาลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท ทั้งที่เมื่อก่อนคิดจะออกจากบ้านหลังนี้แทบทุกเวลาทว่าก็ทำตามที่ใจอยากไม่ได้เพราะบุญคุณที่ค้ำคออยู่ แต่ตอนนี้คงถึงเวลานั้นแล้วสินะ
“อยู่ที่นี่ต่อไม่ได้หรือหนูชาม” ภีรตาถามอย่างลองเชิงดู ซึ่งแน่นอนว่าชาริกาต้องปฏิเสธและก็จริงอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
“ชามตัดสินใจแล้วค่ะคุณท่าน” หญิงสาวยังคงยืนยันคำเดิม แล้วให้เหตุผล “ชามเองก็อยู่ที่นี่นานแล้ว ชามไม่อยากรบกวนคุณท่านไปมากกว่านี้อีกแล้วค่ะ สิ่งที่คุณท่านและคนที่บ้านพิมพ์พิลาวัลย์ทำให้ชามตลอดมา มันมากเสียจนชามละอายใจ”
นอกจากลูกชายคนโตของบ้านอย่างนนทพัทธ์แล้ว ทุกคนในบ้านล้วนแต่ดีต่อเธอ ทั้งที่ก็เป็นเพียงเด็กในบ้านที่คุณท่านเก็บมาเลี้ยง ทว่าทุกคนก็ให้เกียรติเทียบเท่ากับลูกๆ ของท่าน
“ถ้าอย่างนั้นแม่ขออะไรหนูชามสักอย่างได้ไหมจ๊ะ ถือว่าเป็นคำขอสุดท้ายจากผู้มีพระคุณก็ได้นะหนูชาม”
ภีรตาเอ่ยอย่างอ้อนวอน จนคนที่เด็กกว่ามีสีหน้าลำบากใจ เนื่องจากตนยกนำเอาเรื่องบุญคุณที่ชาริกาให้ความสำคัญมากขึ้นมาอ้าง
“อะไรคะคุณท่าน”
ชาริกาหัวใจเต้นแรงกับคำขอของผู้มีพระคุณ ประกอบกับใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์นั่นแล้ว มันต้องมีอะไรสักอย่างเป็นแน่
“หนูชามรับปากแม่มาก่อนสิจ๊ะว่าหนูจะยอมทำตามอย่างที่แม่ขอ”ภีรตาดักทางไว้เผื่อว่าหญิงสาวจะปฏิเสธ ซึ่งคนขี้เกรงใจอย่างชาริกาหาทางบ่ายเบี่ยงลำบากแน่
“ค่ะ ชามรับปาก”
เมื่อคิดดีแล้วจึงรับปากในที่สุด ไม่ว่าผู้มีพระคุณต้องการจะขออะไรกับตน ถ้าสิ่งนั้นมันสามารถตอบแทนสิ่งที่ท่านมอบให้ตลอดมาได้ก็ยินดีที่จะทำมัน
“แม่อยากให้หนูชามเข้าไปทำงานที่บริษัทพี.พี.แอลกรุ๊ป”
ภีรตาเอ่ยสิ่งที่ตนเองต้องการ พร้อมกับลอบสังเกตปฏิกิริยาของคนฟังไปด้วย ทว่าชาริกาก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงเช่นเดิม ก่อนจะเอ่ยต่อ
“ได้ไหมจ๊ะหนูชาม”
“เอ่อ…” คนถูกขอร้องอ้ำอึ้งไม่กล้าจะตัดสินใจ
แม้ว่าจะรับปากท่านเป็นดิบดีแล้วว่าจะตกลง ทว่าเมื่อได้ฟังคำขอของคุณท่านก็คิดหนัก ในเมื่อเธอพยายามจะหนีไปให้ไกลจากคนใจร้ายอย่างนนทพัทธ์ แต่ท่านกลับอยากให้ไปอยู่ใกล้ๆ กับเขาคนนั้น
ถึงแม้ตอนนี้ชายหนุ่มจะดูเปลี่ยนไปทุกอย่าง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะใจร้ายอีกครั้งเมื่อไหร่ อาจจะอีกหนึ่งเดือน หนึ่งสัปดาห์ หรืออาจจะเป็นพรุ่งนี้ จึงไม่อยากเสี่ยงที่จะนำหัวใจตัวเองไปใกล้เขาอีกต่อไป เพราะไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายตัวเธอก็เป็นคนเจ็บอยู่ดี
“แม่จะอนุญาตให้หนูชามย้ายออกจากบ้านหลังนี้ได้ก็ต่อเมื่อหนูเข้าไปทำงานที่บริษัท”
ภีรตายื่นข้อเสนอให้โดยชาริกาไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากจะตอบตกลงหรือไม่ก็ไม่ย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้ ถ้าหากอยากจะทำงานที่อื่น
“ชามตกลงจะเข้าไปทำงานที่ พี.พี.แอล ค่ะ” หญิงสาวตอบเมื่อตัดสินใจแล้ว
ไม่ว่าอย่างไรตนเองก็หนีนนทพัทธ์ไม่พ้นไม่ว่าจะเลือกทางไหน แต่เมื่อตัดสินใจตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะออกจากบ้านพิมพ์พิลาวัลย์ ก็คงต้องออกไปอย่างที่ตั้งใจ
ส่วนเรื่องงานที่บริษัทคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะช่วงนี้ก็ยังไม่ได้งานทำ คงไม่บังเอิญทำงานใกล้ชิดกับนนทพัทธ์ซึ่งเป็นประธานบริษัทแน่ เนื่องจากบริษัท พี.พี.แอลกรุ๊ป นั้นใหญ่โตและมีหลายสาขา ถ้าโชคดีหน่อยเธออาจจะได้ไปประจำอยู่ที่สาขาต่างจังหวัดก็ได้
“เอาเป็นว่าตามนั้นนะจ๊ะ” ภีรตาเอ่ยสรุป พร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้เด็กในปกครอง
“ค่ะคุณท่าน”
“แล้วหนูชามจะย้ายออกวันไหน” ภีรตาถามออกไปอย่างใจหาย เมื่อคิดว่าคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดห้าปีจะไม่ได้อยู่ในบ้านหลังเดียวกันแล้ว
“หลังจัดการทุกอย่างที่มหา’ลัยเรียบร้อย ชามว่าจะย้ายออกค่ะ”
หญิงสาวตั้งใจจะเรียนนายหญิงของบ้านไว้ล่วงหน้าเช่นเดียวกัน ทว่าท่านก็เรียกเข้ามาพบด้วยเรื่องนี้เสียก่อน จึงเป็นโอกาสดีที่จะบอกท่านไปด้วย
“ให้แม่ช่วยหาที่อยู่ใหม่ให้ไหม”
นางถามเพราะอยากจะช่วยเหลือจริงๆ ชาริกาเองก็เหมือนลูกสาวอีกคน เมื่อหญิงสาวจะออกจากบ้านไปนางก็อดจะห่วงไม่ได้ อยากให้ทุกอย่างราบรื่นไปได้ด้วยดี
“ขอบคุณคุณท่านมากค่ะ” หญิงสาวกล่าว พร้อมกับยกมือไหว้อย่างซาบซึ้งกับความมีน้ำใจของท่าน “แต่ชามคุยกับเพื่อนว่าจะแชร์ห้องอยู่ด้วยกันหลังจากเรียนจบ คงไม่รบกวนคุณท่าน”
“ถ้าเป็นแบบนั้นแม่ก็สบายใจ” ภีรตาเอ่ยออกมาอย่างสบายใจขึ้น อย่างน้อยชาริกาก็มีเพื่อนคอยอยู่ข้างๆ ยามป่วยไข้จะได้มีคนดูแล
“ชามขอตัวไปช่วยป้านวลทำอาหารเย็นขึ้นโต๊ะนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขออนุญาตเมื่อคิดว่าคุณท่านหมดเรื่องที่จะคุยกับตนแล้ว ซึ่งท่านเองก็เอ่ยอนุญาต
เรื่องแชร์ห้องกับเพื่อนอยู่ชาริกาได้ปดออกไป เพราะหากภีรตารู้ว่าหญิงสาวยังไม่คิดถึงเรื่องนี้ ท่านต้องเป็นธุระจัดการให้ ซึ่งชาริกาเองก็ไม่อยากจะรบกวนท่านไปมากกว่านี้ สิ่งที่ท่านมอบให้ตลอดมาก็มากจนไม่รู้จะทดแทนอย่างไรได้หมดแล้ว
ภีรตามองดูคุณรุ่นลูกที่ลุกเดินออกจากห้องไปอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ที่เรื่องเป็นไปตามที่ตนเองต้องการ
“แม่ขอโทษที่ไม่ให้ทางเลือกหนูนะหนูชาม” นางได้แต่เอ่ยขอโทษหญิงสาวที่ตนสร้างความลำบากใจให้ ทว่าก็ไม่มีทางเลือกอื่น
หลังจากที่รู้จากแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของบ้านว่าชาริกาทำอาหารไปส่งให้นนทพัทธ์ถึงที่ทำงาน นางก็แปลกใจว่าทั้งสองคนไปปรองดองกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงกับทำอาหารไปส่งกันเลยทีเดียว เนื่องจากปกติสองคนนี้แทบจะไม่คุยกันเลยทีเดียว
ถ้าเรื่องราวของทั้งสองไปในทิศทางที่ดีขึ้นแบบนี้ก็ดีใจ นนทพัทธ์จะได้หลุดพ้นบ่วงของความแค้นเสียที ชาริกาเองก็เป็นเด็กน่ารักนิสัยดี หากลูกชายนางจะมองหญิงสาวในแง่ใหม่ก็เป็นการดี เพราะตนเองอาจจะได้ลูกสะใภ้ที่ถูกใจตามที่เคยคาดหวังไว้
ด้วยเหตุนี้นางจึงเอ่ยขอในสิ่งที่ชาริกาลำบากใจทว่าก็ต้องทำ เพราะห่วงที่ผู้หญิงตัวคนเดียวย้ายออกไปอยู่เอง แม้จะมีเพื่อนร่วมห้อง แต่ก็อดห่วงถึงความปลอดภัยไม่ได้ ที่สำคัญอยากให้ทั้งสองคนอยู่ใกล้กัน ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เผื่อบางทีบาดแผลในใจที่เคยมีจะลบเลือนไปบ้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็กลัวใจนนทพัทธ์ยิ่งนัก เพราะเป็นคนเลี้ยงเองมากับมือ หวังว่าเรื่องที่นางกลัวจะไม่เกิดขึ้นกับทั้งสองคน แต่ก็คงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง เผื่อบางทีสิ่งที่ต้องการให้เกิดอาจจะเกิดขึ้นอย่างที่หวัง
ขอโทษที่หายไปนะคะ ช่วงนี้กำลังเตรียมตัวสอบค่า เลยอาจจะมาน้อยหน่อย
ปล. พรุ่งนี้มีใครไปดูสามีไรท์ไหมคะ บิ๊กบอสอ่ะๆ
ไรท์ฝากดูแลจุงกิของไรท์ด้วยนะคะ 555555 คนนี้ไรท์รักมากกกกกกก
ฝากติดตามด้วยจ้าา
ความคิดเห็น