ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้ายซ่อน...รัก

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8 แค่อยากอธิบาย (40%)

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 59






    “เรามีเรื่องต้องคุยกันยัยตัวแสบ”

    คนที่ตีหน้ายักษ์อยู่ตอนนี้ได้แต่บ่นเสียงลอดไรฟันกับตัวเอง ระหว่างที่เดินอ้อมไปฝั่งคนขับ เมื่อเข้านั่งประจำที่ก็ออกตัวเต็มสมรรถภาพของเครื่องยนต์

    ชาริกาจับสายเบลท์แน่น เมื่อความเร็วที่ชายหนุ่มใช้ตอนนี้มันเกินที่กฎหมายกำหนดแล้ว ด้วยเหตุการณ์ที่เคยพบเห็นมาต่อหน้าต่อตา ทำให้หญิงสาวกลัวการขับรถเร็วไปโดยปริยาย

    รวมถึงลูกแมวที่ตนเคยรักเคยชอบ ทว่าบัดนี้ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้ เพราะคิดมาตลอดหากว่าวันนั้นตนเองไม่ลงไปช่วยเจ้าลูกแมวพวกนั้น บุพการีทั้งสองคงไม่ต้องด่วนจากไปแบบนี้

    คนที่ระบายอารมณ์โมโหของตัวเองลงบนคันเร่งของรถยนต์สมรรถภาพสูงค่อยๆ ผ่อนความเร็วรถลง เมื่อเห็นหน้าซีดเผือดของคนที่นั่งข้างกาย ก่อนจะถอนลมหายใจออกมาอย่างระงับอารมณ์โมโหเมื่อครู่นี้ให้คงที่ ไม่เช่นนั้นชาริกาได้ช็อกตายคาเบาะ เพราะกลัวความเร็วแน่

    นี่แกโมโหเรื่องอะไรวะไอ้นนท์ แกคงไม่ได้โมโหที่มีผู้ชายมาสนใจชาริกาหรอกนะ

    ชายหนุ่มได้แต่ถามตัวเองกับอารมณ์โมโหที่เกิดขึ้นนี้มาจากสาเหตุใด แม้เขาจะไม่อยากยอมรับเสียเท่าไหร่ว่าสาเหตุมันก็มาจากคนข้างๆ ที่ไปยิ้มหวานเรี่ยราดให้ไอ้ผู้ชายหน้าม่อคนนั้น ทีกับเขาล่ะชอบทำหน้านิ่งใส่

    “แล้วแกจะโมโหทำไมวะ” นนทพัทธ์เผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะคิดว่าตัวเองกำลังพูดในใจ

    “คุณว่าอะไรนะคะ” หญิงสาวถามออกไป เพราะจับใจความที่ชายหนุ่มพูดไม่ได้ เนื่องจากคิดว่านนทพัทธ์พูดกับตน แต่เขากลับหันมาทำหน้างงใส่นี่สิ

    “ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างมั่นใจ ทว่าก็ได้แต่มองคนตรงหน้าอย่างระแวงๆ เพราะคิดว่าเจ้าหล่อนได้ยินแม้แต่สิ่งที่เขาพูดในใจ

    “แต่เมื่อกี้นี้ แต่ก็ช่างเถอะค่ะ” ชาริกาเอ่ยตัดบท เพราะไม่อยากเซ้าซี้อะไรให้เขารำคาญ “คุณจะพาฉันไปไหน ทางนี้ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่คะ”

    หญิงสาวถามออกไปอย่างร้อนรน เพราะกลัวว่าลูกชายผู้มีพระคุณจะคิดทำอะไรแผลงๆ อีก ขนาดผสมนมถั่วเหลืองกับนมวัวให้ดื่ม ทั้งที่รู้ว่าเธอแพ้เขายังทำมาแล้ว นับภาษาอะไรกับการที่เขาคิดจะแกล้งเธออีก

    “ผมไม่พาคุณไปฆ่าหรอกน่า นั่งเงียบๆ ไปเถอะน่า” เขาพูดออกมาเสียงติดจะรำคาญ เพราะอารมณ์เมื่อครู่ยังไม่มอดดับดี

    เมื่อรู้ว่าตนเองทำให้คนหน้าบึ้งโมโหอีกแล้ว หญิงสาวจึงเลือกที่จะนั่งเงียบๆ ไม่กวนเขาอีก แม้จะยังกังวลว่าเขาจะพาตนเองไปไหนก็ตาม

    รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้ามาในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยที่หญิงสาวศึกษาอยู่ และนั่นยิ่งทำให้คนคิดมากเกิดข้อสงสัย

    “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”

    “มากินข้าว ยังไม่กินตั้งแต่เมื่อกลางวัน เพราะต้องรีบเคลียร์งานแล้วมารับคน !” นนทพัทธ์พูดเสียงค่อนข้างดัง เนื่องจากหญิงสาวเอาแต่ถามโน่นถามนี่อย่างกับไม่ไว้ใจเขา

    “ทำไมคุณต้องมาขึ้นเสียงกับฉันด้วยล่ะ” ชาริกาเองก็ตอบเสียงแข็งกลับ เพราะอยู่ๆ ก็ถูกตะคอกใส่ ทว่าคำพูดที่เขาพูดเมื่อครู่ แม้จะเป็นการตะคอก แต่มันก็ทำให้เธอยิ้มออกมาที่คนหน้ายักษ์รักษาสัญญา

    “ก็คุณไปยิ้มให้คนอะ

    คำว่า คนอื่น’ ชะงักลง เมื่อเขาเห็นหญิงสาวลอบยิ้มอย่างน่ารัก และนั่นทำให้อารมณ์เมื่อครู่เย็นลงได้อย่างน่าประหลาดใจ

    “ผมหิวข้าว คุณไม่สงสารผมหรือชาม ผมตั้งใจทำงานให้เสร็จไวๆ เพื่อมารับคุณกลับบ้านเลยนะครับ”

    ชายหนุ่มพูดเสียงนุ่ม พร้อมกับอ้อนหญิงสาวไปด้วย ก่อนจะรู้สึกแปลกใจกับการกระทำของตัวเองเพราะแม้แต่อดีตคนรักเขายังไม่เคยทำเช่นนี้กับเธอเลย

    นี่แกถึงขนาดกับอ้อนเลยเหรอวะไอ้นนท์

    คนถูกอ้อนไม่รู้ตัวได้แต่นั่งตัวแข็ง พร้อมกับหัวใจที่กระหน่ำเต้นรัว เมื่อได้ยินเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยอ้อน เพราะนี่คือครั้งแรกที่ได้ยินผู้ชายเย็นชาอย่างนนทพัทธ์พูด ถ้าหากเป็นพี่ชายจอมกะล่อนอย่างนันทพัทธ์ที่เป็นคนพูดประโยคเมื่อครู่ยังจะน่าเชื่อยิ่งกว่า

    “ว่ายังไงครับ คุณไม่สงสารผมเหรอ”

    ไม่ใช่เสียงเพียงอย่างเดียวที่ดูอ้อน แต่มันรวมไปถึงใบหน้าหล่อและสายตาคม แล้วแบบนี้จะไม่ทำให้เห็นใจได้อย่างไร

    “ก็ได้ค่ะ ฉันจะทานข้าวเป็นเพื่อนคุณ แต่ฉันไม่หิวหรอกนะ แค่ทานเป็นเพื่อนเฉยๆ”

    ทันทีที่หญิงสาวตอบตกลง ใบหน้าหล่อก็ฉีกยิ้มกว้าง “เราไปกันเถอะครับ”

    นนทพัทธ์พูดจบก็เปิดประตูรถลงมาเมื่อหาที่จอดได้ ก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร กลับไม่ทันเสียแล้ว เพราะหญิงสาวลงมายืนรอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    “ทำไมคุณไม่รอให้ผมมาเปิดให้ล่ะครับ” ชายหนุ่มตำหนิ เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษควรจะเป็นฝ่ายเปิดประตูให้

    “ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ”

    ชาริกาพูดจบก็เดินนำหน้าคนตัวโตไป เพราะไม่อยากเสียเวลา ที่สำคัญเธอเองก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน

    นนทพัทธ์มองร่างบางทว่าสมส่วนที่เดินล่วงหน้าไปก่อนด้วยรอยยิ้ม ถ้าหากผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่ชาริกา แต่เป็นนางแบบหรือสาวสวยคนอื่น ไม่มีทางที่พวกหล่อนจะเปิดประตูลงมายืนรอเช่นนี้แน่ เพราะพวกเธอเหล่านั้นต่างก็ต้องการให้เขาปฏิบัติด้วยเยี่ยงเจ้าหญิงก็ไม่ปาน แต่กลับไม่ใช่กับผู้หญิงคนนี้ ชาริกา สุทธิการณ์

    “รอผมด้วยสิชาม” ชายหนุ่มตะโกนออกไป ทำให้ร่างบางที่กำลังก้าวเดินอย่างมั่นคงหันหลังกลับมาตะโกนตอบ

    “คุณก็รีบตามมาไวๆ สิ”

    “คร้าบคุณผู้หญิง”

    พูดจบชายหนุ่มก็วิ่งเข้าไปหาเป้าหมายที่หยุดยืนรอ แต่ทุกก้าวการวิ่งก็ยังคงมีรอยยิ้มหวานประดับอยู่บนใบหน้าตลอด


    ฝากติดตามด้วยค่าาา




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×