คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 ฆาตกร !!! (100%)
ภายในห้องนอนที่ตกแต่งในโทนสีหวานสำหรับผู้หญิง พบคนสองคนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่บนเตียงนุ่มหลังใหญ่ โดยมีเจ้าของห้องนอนพิงหัวเตียงยิ้มหวานส่งไปให้คนมาเยี่ยม ซึ่งน้อยครั้งนักที่จะได้พบรอยยิ้มหวานจากชาริกาเช่นนี้ จนนันทพัทธ์อดจะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
“พรุ่งนี้มีเรียนรึเปล่าเรา” คนมาเยี่ยมถามขึ้น พร้อมกับเอื้อมมือไปทาบหน้าผากมนวัดไข้ให้คนป่วยด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีค่ะ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะพาไปหาหมอนะ ดูสิตัวยังร้อนอยู่เลย” นันทพัทธ์พูดขึ้นทั้งที่มือยังทาบอยู่ที่หน้าผากมน
ชาริกามองหน้าลูกชายผู้มีพระคุณอย่างซาบซึ้ง เพราะตลอดเวลาที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ก็มีนันทพัทธ์คอยช่วยเหลือหลายอย่างและคอยให้คำปรึกษาเรื่องการเรียน เนื่องจากตนเรียนช้ากว่าคนอื่น เพราะช่วงที่กำลังสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยก็มาเกิดเรื่องสะเทือนขวัญขึ้นเสียก่อน กว่าจะตั้งหลักและยอมรับได้ก็เสียเวลาไปนาน จึงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่การอ่านหนังสือเตรียมสอบ
“แต่ชามไม่เป็นอะไรแล้วค่ะพี่นันท์” เสียงหวานติดแหบเอ่ยขึ้น เพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มต้องมาลำบากเพราะตน
“เสียงพูดยังจะไม่มี ยังจะมาดื้ออีกนะ” มือหนาเปลี่ยนจากวางทาบที่หน้าฝากมนมาเป็นบีบจมูกเล็กของคนป่วยอย่างไม่จริงจังนักเป็นการลงโทษในครั้งนี้
“โอ๊ย ชามเจ็บนะพี่นันท์” เจ้าของจมูกเล็กประท้วง พร้อมกับพยายามดึงมือหนาออก ทว่าก็ไม่สำเร็จและจะยิ่งทำให้ตัวเองเจ็บเข้าไปอีก จึงได้แต่นิ่งให้คนเป็นพี่บีบอยู่แบบนั้น
“ชามเจ็บนะพี่นันท์ ที่สำคัญชามไม่สบายด้วย”
เสียงหวานตอบเสียงอู้อี้หน้างอ เพราะถูกบีบจมูกไว้กั้นทางลมหายใจ ดังนั้นจึงต้องใช้ปากในการกลืนออกซิเจนเข้าไปแทน
“ตัวเองยังรู้ตัวแล้วยังจะมาดื้อกับพี่ทำไม” นันทพัทธ์ย้อนกลับ ทว่าก็ยังไม่ยอมปล่อยจมูกเล็กให้เป็นอิสระ จนคนไม่สบายได้แต่แสดงสีหน้างอนๆ เพราะไม่รู้จะหาอะไรมาแย้งอีก
“และนี่คือบทลงโทษของคนดื้อ”
นันทพัทธ์บีบจมูกเล็กอีกครั้ง ทว่าก็ไม่แรง เพราะรู้ว่าน้องสาวยังป่วยอยู่ ก่อนจะปล่อยให้เป็นอิสระ
“โอ๊ย ไอ้พี่นันท์บ้า”
เมื่อจมูกตนเองเป็นอิสระ คนถูกลงโทษได้แต่ต่อว่าผู้กระทำ แม้นันทพัทธ์จะไม่ได้ทำอะไรรุนแรง ทว่าคนผิวขาวและช้ำง่ายแบบเธอก็ทำให้จมูกเล็กนั้นแดงเถือกขึ้นมาได้ทันตา ทว่าคนทำกลับไม่รู้สึกผิดเสียนี่ แถมยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะอีก
“จมูกแดงเหมือนโดนผึ้งต่อยเลยอ่ะ ฮ่าๆ” คนแกล้งก็ยังไม่มีความรู้สึกผิด แถมยังชื่นชมผลงานของตัวเองอย่างภาคภูมิใจอีกด้วย
“ไอ้พี่นันท์ ทำคนอื่นเขาเจ็บแล้วยังไม่สำนึกอีกนะ” ชาริกากล่าวโทษ ก่อนจะออกแรงเหวี่ยงหมอนใบโตไปที่พี่ชายทันที ทว่ากลับพลาดเป้าเมื่อนันทพัทธ์หลบได้ทัน
“น้องชามป่วยจริงรึเปล่าเนี่ย ดูสิแรงอย่างกับกระบือ” นันทพัทธ์ไม่สำนึก ทว่าก็ยังเย้าคนป่วยเล่นอย่างเป็นเรื่องสนุก
“พี่นันท์ !”
หญิงสาวตะโกนกลับและกำลังจะเหวี่ยงหมอนใบที่สองออกไป ทว่านันทพัทธ์กลับวิ่งไปอยู่ที่หน้าประตูห้องเสียแล้วนี่
“พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าพี่จะพาไปหาหมอนะ พักผ่อนให้เยอะๆ แล้วกัน”
นันทพัทธ์เกาะขอบประตูเอาตัวออกไปข้างนอกห้อง เหลือเพียงส่วนหัวที่โผล่มาคุยกับน้องสาว ไม่เช่นนั้นได้เจ็บตัวแน่ เพราะเมื่อครู่ถ้าหลบไม่ทันก็คงเจ็บอยู่พอตัว เขาจึงไม่อยากเสี่ยงอยู่ใกล้คนป่วยมากนัก ก่อนจะต่อท้ายประโยคที่ทำให้คนป่วยปรี๊ดแตกได้
“เผื่อพลังกระบือของน้องชามจะลดลงบ้าง” พูดจบนันทพัทธ์ก็เผ่นแล็บทันที เพราะหากอยู่นานแม่คนป่วยได้ลงจากเตียงมาฆ่าเขาแน่
“ไอ้พี่นันท์กลับมาให้ด่าเดี๋ยวนี้นะ !” คนถูกกล่าวหาตะโกนสุดเสียง ทว่าก็ไม่ทันเสียแล้ว ก่อนจะค่อยๆ นอนลงบนเตียงเพราะเริ่มปวดหัวมาอีกครั้ง เพราะออกแรงเปล่งเสียงตะโกนดังไป
“ไอ้พี่นันท์นะไอ้พี่นันท์ ไม่รู้ว่ามาเยี่ยมหรือมาทำให้อาการแย่ลงกันแน่”
คนป่วยได้แต่เอ่ยถึงคนมาเยี่ยมเมื่อครู่อย่างขบขัน เพราะอาการที่กำเริบขึ้นตอนนี้ก็เป็นเพราะคนจอมยั่วโมโหอย่างนันทพัทธ์จอมกะล่อน เมื่อนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้อาการปวดหัวกำเริบขึ้นก็ได้แต่ยิ้ม จนทำให้คนที่แอบมองคนทั้งคู่อยู่นานกำหมัดแน่น
“สำออย”
นนทพัทธ์พูดออกมาเบาๆ ทว่าก็ดังพอเพื่อให้คนป่วยได้ยิน พร้อมกับปิดประตูห้องนอนสีหวานและกดล็อค ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนป่วยด้วยความสมเพชที่แสดงออกมาทั้งทางสีหน้าและสายตา
“คุณเข้ามาทำไม” เจ้าของห้องถามออกไปอย่างหวั่นๆ ทว่าเมื่อเห็นสายตาที่ผู้บุกรุกกวาดตามองตนด้วยสายตาแสดงความสมเพชอย่างไม่ปิดบังก็เลือดขึ้นหน้า
“อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนี้นะ !”
ชาริกาเอ่ยเสียงแข็ง แม้จะเริ่มรู้สึกปวดหัวมาอีกครั้งแล้วก็ตาม ทว่าเธอจะไม่แสดงความอ่อนแอให้คนตรงหน้าได้เห็นแน่
“สายตาแบบไหนเหรอ” นนทพัทธ์แกล้งถามออกไปอย่างพาซื่อ ก่อนจะร้องอ๋อขึ้นมา “อ้อ แบบ ‘สมเพช’ น่ะเหรอ”
ชายหนุ่มเน้นที่คำว่า ‘สมเพช’พร้อมกับจ้องมองไปที่หน้าหวานอย่างโกรธแค้น ก่อนจะรีบกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มหวานที่แสนไม่จริงใจสักนิด
“ผมขอโทษ ผมคงพูดตรงเกินไป”
น้ำเสียงแสดงความสำนึกผิด ทว่าแววตาและรอยยิ้มที่นนทพัทธ์ส่งมากลับแสดงความสมเพชอย่างที่เขาว่า จนคนถูกดูหมิ่นได้แต่กำหมัดแน่น ก่อนจะค่อยๆ ตั้งสติและยิ้มเย็นกลับไป
“ว่าแต่คนที่ไม่น่า ‘สมเพช’ แบบคุณ มีธุระอะไรกับคนน่าสมเพชแบบฉันล่ะคะ” ชาริกาเน้นคำว่า ‘สมเพช’แบบเดียวกับนนทพัทธ์ ก่อนจะยิ้มในแบบเดียวที่เขายิ้มให้เธอกลับไป
นนทพัทธ์กำหมัดแน่นมองดูผู้หญิงร้ายกาจตรงหน้าด้วยความแค้นใจ
“หึ ปากเก่งดีนี่”
“ขอบคุณที่ชมค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องตากลับอย่างไม่เกรงกลัว
“หึ เก่งให้ได้ตลอดก็แล้วกัน”
“คุณจะทำอะไร” ชาริกาถามออกไปเสียงสั่น พร้อมกับขยับถอยหลังอย่างอัตโนมัติ เมื่อนนทพัทธ์เดินตรงมาที่เตียงนอนที่ตนนอนอยู่อย่างคุกคาม
“หึๆ”
หนุ่มผู้บุกรุกหัวเราะในลำคออย่างสมเพชกับภาพตรงหน้า เมื่อคนที่เคยต่อปากต่อคำกับตนตอนนี้กำลังกลัวจนลนลาน ทว่าก็ยังเดินตรงเข้าไปหาเป้าหมายอย่างแน่วแน่
“อะ…ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
ชาริกาพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ทว่าก็ทำได้ไม่ดีนัก เพราะกว่าจะเอ่ยได้จบประโยคคนบุกรุกก็ยืนประชิดเตียงเรียบร้อยแล้ว
“ฉันเป็นเจ้าของบ้าน กาฝากอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉัน กรุณาจำให้ขึ้นใจด้วย” นนทพัทธ์เอ่ยเสียงแข็ง เมื่อถูกออกคำสั่งจากคนที่ไม่ชอบหน้า
“แต่นี่มันห้องส่วนตัวของฉัน” หญิงสาวเถียง ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าของบ้าน ทว่าก็ไม่มีสิทธิ์เดินเข้าห้องคนอื่นตามอำเภอใจเช่นนี้
“ห้องส่วนตัวของเธอมันก็คือบ้านของฉัน”
“บ้านของคุณแล้วยังไง ในเมื่อคุณแม่ท่านยกห้องนี้ให้ฉันแล้ว ก็ถือว่าฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในห้องนี้โดยชอบธรรม ไม่ใช่คุณ !” หญิงสาวยกผู้มีพระคุณมาอ้าง และนั่นยิ่งทำให้นนทพัทธ์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า
“‘คุณแม่’หึ พูดมาได้เต็มปากเต็มคำ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างนึกสมเพช “ถึงแม่ฉันจะเอ็นดูเธอแค่ไหน แต่เธอคงหนีความจริงที่ว่าเป็นแค่กาฝากไม่มีพ่อมีแม่สั่งสอนไม่พ้น โปรดทำความเข้าใจด้วยชาริกา”
ชาริกากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เมื่อคนตรงหน้าเอ่ยถึงบุพการีที่ล่วงลับไปแล้ว หญิงสาวรู้ว่านนทพัทธ์โกรธเกลียดตนมากแค่ไหน ทว่าก็ยอมไม่ได้ที่ชายหนุ่มเอ่ยพาทพิงถึงบิดามารดาเช่นนี้ จึงเลือกที่จะตอบโต้กลับไปด้วยคำพูดแรงๆ เช่นเดียวกัน
“หึ เหมือนคุณที่เป็นพ่อหม้ายขันหมากที่เจ้าสาวชิงตายไปก่อนอย่างนั้นหรือ”
ชาริกายิ้มเยาะเช่นเดียวกันกลับ แม้จะรู้สึกผิดที่เอ่ยถึงคนที่ล่วงลับแล้วในทางที่ไม่ดี ทว่าถ้าเขาไม่เริ่มก่อน เธอเองก็จะไม่ตอบโต้กลับแรงเช่นนี้
รอยยิ้มที่ถือชัยเหนือกว่าหุบลุงอย่างฉับพลัน เมื่อคนที่แสนเกลียดชังเตรงหน้าพูดถึงมีนาคนรักของเขาที่ล่วงลับไป ก่อนจะกำหมัดแน่นด้วยความโกรธที่ชาริกาล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว
“ชาริกา !”
นนทพัทธ์ตะคอกใส่หน้าหญิงสาวเสียงดังลั่น และมันยิ่งทำให้ชายหนุ่มหวนนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้ว่าที่เจ้าสาวของเขาต้องจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน
“กรี๊ด !!! ปล่อยฉันนะ”
ชาริกากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเจ้าของบ้านกระโจนใส่และคร่อมร่างตนอย่างไม่ทันให้ได้ตั้งตัวก่อนจะดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลังเมื่อตั้งสติได้ ทว่าก็ไม่สามารถสู้แรงผู้ชายอกสามศอกได้ แถมร่างกายตนก็ยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์จากอาการป่วย ก็ยิ่งทำให้แรงที่มีอยู่น้อยนิดไม่สามารถต้านทานแรงช้างสารได้
“เธอกล้ามากที่พูดถึงมีนาแบบนี้” นนทพัทธ์พูดเสียงรอดไรฟัน พร้อมกับจับแขนเล็กทั้งสองกดลงบนที่นอน เพื่อไม่ให้สาวเจ้าหนีได้
“แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าพ่อแม่ฉัน” คนที่เสียเปรียบทุกอย่างก็ยังตอบโต้กลับไปอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันไม่ได้ว่าพ่อแม่เธอ แต่ฉันว่าเธอต่างหากชาริกา” ชายหนุ่มพูดขณะยังคร่อมร่างคนป่วยอยู่
“แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันคุณนนทพัทธ์”
“ก็เพราะเธอเป็นฆาตกรฆ่าแฟนฉันยังไงล่ะ !”
ชายหนุ่มตะคอกคนใต้ร่าง เมื่อชาริกาไม่มีท่าทีสำนึกแต่อย่างใด
“แฟนคุณต่างหากที่เป็นฆาตกรฆ่าพ่อแม่ฉัน ทำให้พ่อแม่ฉันต้องตาย ฆาตกรก็คือคุณมีนา ! ไม่ใช่ฉัน !”
ชาริกาตะคอกกลับไปพร้อมกับน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แม้จะรู้ว่าตนเองก็มีส่วนที่ทำให้คนทั้งสามต้องตาย ทว่าส่วนหนึ่งมันก็เป็นความประมาทของมีนาที่ขับรถไม่ระวังจนเกิดอุบัติเหตุสะเทือนใจนี้ขึ้น
“ถ้าเธอไม่บอกให้พ่อจอดรถเพื่อลงไปเอาลูกแมวข้างถนน จนมันตกใจวิ่งตัดรถมีนา เรื่องทั้งหมดมันก็ไม่เกิดขึ้น ! ความผิดทั้งหมดก็มาจากเธอยัยฆาตกร !”
“ก็เพราะเธอเป็นฆาตกรฆ่าแฟนฉันยังไงล่ะ !”
ชายหนุ่มตะคอกคนใต้ร่าง เมื่อชาริกาไม่มีท่าทีสำนึกแต่อย่างใด
“แฟนคุณต่างหากที่เป็นฆาตกรฆ่าพ่อแม่ฉัน ทำให้พ่อแม่ฉันต้องตาย ฆาตกรก็คือคุณมีนา ! ไม่ใช่ฉัน !”
ชาริกาตะคอกกลับไปพร้อมกับน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แม้จะรู้ว่าตนเองก็มีส่วนที่ทำให้คนทั้งสามต้องตาย ทว่าส่วนหนึ่งมันก็เป็นความประมาทของมีนาที่ขับรถไม่ระวังจนเกิดอุบัติเหตุสะเทือนใจนี้ขึ้น
“ถ้าเธอไม่บอกให้พ่อจอดรถเพื่อลงไปเอาลูกแมวข้างถนน จนมันตกใจวิ่งตัดรถมีนา เรื่องทั้งหมดมันก็ไม่เกิดขึ้น ! ความผิดทั้งหมดก็มาจากเธอยัยฆาตกร !”
“คุณมีนาต่างหากที่เป็นฆาตกร !” หญิงสาวโต้กลับและนั่นทำให้นนทพัทธ์หมดความอดทนลงในที่สุด
“เธอจะต้องได้รับบทเรียนชาริกา” นนทพัทธ์พูดเสียงลอดไรฟัน ก่อนจะก้มลงบดจูบปากเล็กอย่างรุนแรงเป็นการลงโทษ โดยไม่มีความอ่อนโยนแม้แต่น้อย
“อื้อ อ่อยอั๋นอ้ะ” (ปล่อยฉันนะ)
ชาริการ้องประท้วงด้วยความเจ็บ ทว่าคนตัวโตก็มิได้เห็นใจไม่ ทว่ายังคงบดจูบปากหวานต่อไปอย่างบ้าคลั่ง
หญิงสาวรับรู้ถึงกลิ่นเลือดคาวจากปากของตัวเองและอาการปวดศีรษะที่ทวีความเจ็บมากขึ้น แม้จะร้องประท้วงแค่ไหน แต่นนทพัทธ์ก็ไม่ได้สนใจ ยังคงประทุษร้ายริมฝีปากเล็กอย่างต่อเนื่อง
จูบแรกที่เคยใฝ่ฝันว่าจะได้รับจากคนที่รัก ทว่ากลับต้องสิ้นมลาย เมื่อคนที่มอบสัมผัสพิศวาสนี้ให้กลับเป็นคนที่เกลียดตนมากที่สุด
อาการป่วยที่เริ่มทุเลาลงก่อนหน้านี้ กลับทวีความเจ็บปวดมากขึ้น ทนแทบจะทำให้หญิงสาวหมดสติไปกลางอากาศ
ทว่าความเจ็บที่ชายหนุ่มมอบให้กลับทำให้สติยังคงอยู่ แม้จะยังเหลือน้อยมากก็ตามที ทว่าความเจ็บปวดครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายที่อ่อนแอนี้ที่ได้รับ แต่มันยังส่งตรงไปถึงหัวใจที่อ่อนแรงอีกต่างหาก
‘คุณเกลียดฉันขนาดนี้เลยเหรอคุณนนทพัทธ์ กาลเวลาเปลี่ยนทำให้คนเราเปลี่ยนไปมากถึงขนาดนี้เลยหรือ’
ชาริกาคิดในใจถึงความรู้สึกที่คนตัวโตมีให้ตน ก่อนที่น้ำตาแห่งความน้อยใจจะไหลรินลงมา ทว่ามันก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผิด ทว่ากลับสะใจเสียมากกว่า
“อย่ามาทำเป็นสำออยอย่างกับตัวเองไม่เคย” ชายหนุ่มพูดดูถูกอีกฝ่าย เมื่อเห็นคนใต้ร่างร้องไห้ระงม ก่อนจะพูดต่อและยังคงคำพูดที่ดูถูกไว้
“หึ ฉันล่ะอยากรู้จริงจรี๊ง เวลาไอ้นันท์มันมีอะไรกับเธอจะร้องห่มร้องไห้แบบนี้รึเปล่า หรือว่าส่งเสียงครางจนลั่นห้องกัน”
เขาไม่รู้ว่าชาริกาและน้องชายฝาแฝดของเขามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันจนถึงขั้นไหน แต่ที่แน่ๆ มันคงไกลพอสมควร ไม่เช่นนั้นคงไม่เข้านอกออกในกันบ่อยขนาดนี้ แถมยังสนิทสนมกันเกินงามอีกต่างหาก และคนเจ้าชู้อย่างนันทพัทธ์คงไม่ปล่อยให้คนสวยๆ รอดมือไปแน่
ใช่ ! เขายอมรับว่าชาริกานั้นสวยมาก แถมยังมีรูปร่างที่ชวนให้ผู้ชายอกสามศอกเช่นเขาหลงใหลเพียงแค่เห็น ทว่ารูปลักษณ์ภายนอกพวกนี้ไม่มีผลต่อเขาสักนิด เพราะผู้หญิงคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนรักของเขาต้องจากไป และไม่มีวันที่เขาจะอภัยให้เด็ดขาด
ชาริกากัดฟันกรอดข่มความโกรธที่โดนดูถูก ไม่ใช่เพียงเธอที่เขาดูถูก แต่เขายังพาทพิงไปถึงน้องชายแท้ๆ ของเขาอย่างนันทพัทธ์อีกด้วย
“แน่นอนว่าต้องส่งเสียงครางลั่นห้องอยู่แล้วล่ะค่ะ พี่นันท์ออกจะลีลาเด็ด ไม่เหมือนกับคุณที่มันห่วยแตกไปเสียทุกอย่าง”
เมื่อเขาดูถูกมา ชาริกาก็ไม่ทำให้ชายหนุ่มผิดหวัง เพราะหญิงสาวเลือกที่จะโต้ตอบกลับไป แม้จะไม่ใช่ความจริงเลยก็ตาม
“หึ ห่วยไม่ห่วยก็จะได้รู้กัน แม้จะต้องกินของเหลือเดนจากน้องชายตัวเองก็เถอะ”
เมื่อพูดจบคนถูกหยามก็กระชากเสื้อนอนตัวบางและเสื้อชั้นในของหญิงสาวออกอย่างรุนแรง จนมันขาดวิ่นไม่เหลือเค้าเดิม
“กรี๊ด ! คุณจะทำอะไร”
หญิงสาวถามออกไปอย่างหวาดๆ แม้จะรู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไร ทว่าเธอจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ ก่อนจะนึกโทษตัวเองที่ไม่น่าไปเล่นกับไฟเลย เพราะมันจะเผาผลาญจนไม่เหลือจุน
“ก็จะพิสูจน์ให้เธอรู้ไงว่าฉันห่วยจริงรึเปล่า”
นนทพัทธ์ไม่รอร่ำทำเพลงอีกแล้วก้มลงบดจูบปากหวานที่บวมเจ่อต่อทันที ทว่ามือสองข้างก็บีบขยำหน้าอกอวบด้วยความรุนแรงอย่างไม่ปราณี
“อื้อ อื้อ”
ชาริการ้องด้วยความเจ็บปวด เพราะแรงมือที่เขาบีบขยำหน้าอก แต่เมื่อยิ่งร้องนนทพัทธ์ยิ่งเพิ่มแรงขยำมากขึ้น
นนทพัทธ์ละจูบจากปากหวานเลาะเล็มตามใบหูและลำคอ พร้อมกับฝากรอยพิศวาสและรอยกัดไปทุกที่ เขาไม่ได้กระทำด้วยความอ่อนโยน ทว่าทำด้วยความป่าเถื่อน เพราะอยากให้คนใต้ร่างเจ็บปวดอย่างที่เขาเจ็บ แม้มันคนละวิธีกัน ทว่ามันก็ทำให้ชาริกาเจ็บปวดได้เหมือนกันที่ถูกดูถูกและถูกลดค่าในตัวลง
แม้การสัมผัสหญิงสาวจะทำให้เขามีอารมณ์ตอบสนองแบบผู้ชายจนน่าตกใจ ทว่ามันก็เป็นแค่ความใคร่และเขาไม่มีวันตกหลุมพรางนี้แน่นอน
“ปล่อยฉันนะคนบ้า”
ชาริกายกมือทั้งสองที่ถูกปล่อยเป็นอิสระผลักร่างหนาออก ทว่าชายหนุ่มกลับไม่สะเทือน และยังคงสัมผัสร่างกายเธออย่างกักขฬะ ก่อนจะกรีดร้องเมื่อเขากัดเข้าที่ยอดอกอย่างแรง
“กรี๊ด ฉันเจ็บ ปล่อยฉัน…”
นนทพัทธ์ไม่ได้สนใจเสียงร้องของคนใต้ร่าง ทว่ายังคงกัดชิมความหวานจากร่างบางอย่างต่อเนื่อง แม้มันจะทำให้เขารู้สึกดีมากก็ตาม โดยเฉพาะกลิ่นหอมจากกายสาว แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ปราณีร่างเล็กนี้แม้แต่น้อย
ทว่าก็ต้องแปลกใจเมื่อชาริกานอนแน่นิ่งไป ก่อนจะเงยหน้าออกจากอกอวบขึ้นมามองหน้าหวาน และก็ต้องตกใจเมื่อหญิงสาวหมดสติไปแล้ว
“ยัยกาฝาก…ชาริกา…”
ชายหนุ่มเขย่าตัวคนใต้ร่าง ทว่ากลับไม่ได้รับการตอบสนองกลับ ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อชาริกาตัวร้อนจี๋
“บ้าเอ้ย !”
นนทพัทธ์ขยับตัวออกจากร่างนุ่มนิ่มอย่างยากลำบาก เพราะมันทำให้เขาปวดแกนกางของร่างกายที่มันแข็งขืนขึ้นมาจนน่าหมั่นไส้ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำในห้องนอนของหญิงสาวไปอย่างช่วยไม่ได้
ใครเป็นแฟนคลับพี่นนท์ขอเสียงหน่อยจ้าาาา
มีคนบอกว่าพี่นนท์ร้าย แต่ไรท์ขอเถียงสุดใจว่า......
ไม่จรี๊งงงงงง (เสียงสูงมากนะ 555)
พี่นนท์ของเราออกจะน่ารักน่าทะนุทะถนอม
ผู้คนเงียบเหงามากเลย 5555 ใครยังติดตามพี่นนท์ขอเสียงหน่อยจ้าาาา
ความคิดเห็น